ผู้อ่านสามารถค้นคว้า "ศัพท์" ได้จาก website ต่อไปนี้นะครับ :-
http://bookshelf.msn.com/na/infoseek/search/
http://www.investorwords.com/
รายได้ประชาชาติ(จากคู่มือเตรียมสอบปริญญาโท
เศรษฐศาสตร์, กรุงเทพฯ : สกายบุ๊กส์, 2540)
ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศรวม (Gross Domestic Product : GDP)
หมายถึง
มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในท้องตลาด ที่ระบบเศรษฐกิจหนึ่ง หรือประเทศหนึ่งผลิตได้
ทั้งนี้
"ใครก็ได้ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในประเทศนั้นทำการผลิต"
ขึ้นมาก่อนหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการผลิต
สินค้าและบริการนั้น
ผลิตภัณฑ์ประชาชาติรวม (Gross National Product : GNP)
หมายถึง
มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในท้องตลาด ที่ระบบเศรษฐกิจหนึ่ง หรือประเทศหนึ่งผลิตได้ในระยะ
เวลาหนึ่ง
โดย "รวมรายได้ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรของคนชาตินั้นในต่างประเทศด้วย"
ก่อนหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน (เป็นตัวเลขที่เปิดเผยให้ทราบผ่านทางสื่อมวลชนทั่วไป
เป็นการสะท้อนให้เห็นสภาพโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ)
ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิ (Net National Product : NNP)
หมายถึง "มูลค่าสุทธิ" ของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในท้องตลาดที่ประชาชาติหนึ่ง
หรือประเทศหนึ่งผลิตขึ้นได้ใน
ระยะเวลาหนึ่ง
โดยหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินของทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการผลิตสินค้าและบริการเหล่านั้นแล้ว
รายได้ประชาชาติ (National Income : NI)
หมายถึง
มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย ที่ระบบเศรษฐกิจผลิตได้ในระยะเวลาหนึ่ง
โดยหักค่าเสื่อมราคา
และภาษีทางอ้อมแล้ว
รายได้เฉลี่ยต่อบุคคลต่อปีของประชากรทั้งประเทศ Per Capita Income
-ข้อมูลนี้ เป็นตัวชี้ "ความมั่นคงแห่งชาติทางเศรษฐกิจ" ตัวหนึ่ง
-ข้อมูลนี้ ยังไม่มีรายละเอียดของการ "กระจายรายได้"
มาตรฐานการครองชีพ Standard of Living
-
เป็นปัจจัยวัดความยากจน ซึ่งพิจารณาถึงสินค้าทุกชนิดที่บุคคลหนึ่งๆบริโภค
และกิจกรรมทุกอย่างที่บุคคลนั้นมีส่วนร่วม การวัดมาตรฐานการครองชีพ ปกติจะวัดจาก
"รายได้" หรือ "รายจ่าย" ของครัวเรือน
- การพิจารณาสภาพความยากจนในปัจจุบัน นิยมคำนวณจาก "ค่าใช้จ่ายพื้นฐานของครัวเรือน"
ดุล(จาก
"พจนานุกรมศัพท์เศรษฐกิจ, กรุงเทพฯ : มติชน, 2541)
ดุลการค้า Balance of Trade
คือ
ส่วนต่างระหว่าง "มูลค่าสินค้าออก"
กับ "มูลค่าสินค้าเข้า"
ของประเทศใดประเทศหนึ่ง
ดุลบัญชีเดินสะพัด
Current Account
คือ "รายการสินค้า และบริการ"
ที่ "สั่งเข้าและส่งออก"
ของประเทศในรอบระยะเวลาหนึ่ง
ดุลการชำระเงิน Balance of Payments
คือ
ส่วนต่างระหว่าง "ยอดชำระเงินให้ประเทศอื่น"
และ "ยอดรับเงินที่ประเทศนั้นได้รับจากประเทศอื่น"
ประกอบด้วย
"ดุลการค้า"
บวกด้วย "ดุลการค้าของสิ่งที่มองไม่เห็น"
(เช่น รายได้จากการประกันภัย และเดินเรือ) และการเคลื่อนย้ายทุน
องค์การทางเศรษฐกิจ
APEC
= ASIA PACIFIC ECONOMIC COPORATION
- ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 18 ประเทศ
AFTA
=
ASEAN FREE TRADE AREA
NAFTA
= NORTH AMERICAN FREE TRADE AGREEMENT
- ประกอบด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
EAEG
= East Asia Economic Group กลุ่มเศรษฐกิจเอเซียตะวันออก
การลงทุน
- Capitalist
= นายทุน
- Strategic Investment
การลงทุนในลักษณะนี้ นักลงทุนจะเข้าลงทุนและถือหุ้นในสัดส่วนที่มากพอสำหรับการเข้าไปคุมกิจการ
เพื่อ
สามารถที่จะดำเนินธุรกิจไปอย่างที่ต้องการเป็นสำคัญ
ตัวอย่างเช่น การลงทุนของต่างชาติในธุรกิจค้าปลีก
- Financial Investment
การลงทุนลักษณะนี้ นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนทั้งทางตรง และทางอ้อม จะให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่
ได้รับจากการลงทุนเป็นหลัก
เน้นการลงทุนเพื่อให้ได้ผลกำไรมากๆ เพียงอย่างเดียว โดยจะมองผลตอบแทน
อยู่ที่ระดับ
๓๐ % ต่อปีสำหรับภาวะปัจจุบัน
- Hedging คือ
การลดการเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะผันผวนของราคาสินค้า หรือเงินตราต่างประเทศในตลาด
โดย
การตกลงซื้อเพื่อส่งมอบในปัจจุบัน
และขายเพื่อส่งมอบในอนาคตในขณะเดียวกัน
Hedging:
Taking 2 positions whose gains and losses will offset each other if prices
change, in order to limit
financial
risk.
- เฮดจ์ฟันด์ (กองทุนบริหารความเสี่ยง)
คือ การลงทุน ในลักษณะ "การกู้ยืมเงินมาลงทุน"
Hedge
fund: A flexible investment fund
for a limited number of large investors (the minimum
investment is typically $1 million). Hedge
funds
use almost all investment techniques,
including
those forbidden to mutual funds, such as short-sellingandheavy
leveraging. (Microsoft Bookshelf 98)
การเงิน
เงินกองทุน
(Capital)
หมายถึง
ส่วนของเจ้าของ ได้แก่ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์
และกำไรสะสม รวมถึงเงินสำรองตามกฎหมาย
เงินกองทุนที่มีไว้เพื่อ
รองรับความเสียหายจากการดำเนินงานของสถาบันการเงิน
เช่น การกันสำรองเมื่อเกิดหนี้เสีย ธนาคารแห่งประเทศไทยได้
กำหนดให้
สถาบันการเงินต้องมีไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8.5 ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
เงินกองทุนชั้นที่
1 (Tier 1 Capital)
หมายถึง
ส่วนของทุนที่เป็นหุ้นจดทะเบียนและเรียกชำระค่าหุ้นแล้ว
โดยรวมกำไรและขาดทุนสะสมจากการดำเนินงานในแต่ละ
งวดบัญชีไว้ด้วย
เงินกองทุนชั้นที่
1 นี้จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้จากผลการประกอบการของสถาบันการเงิน
หรือเพิ่มขึ้นเนื่องจาก
นำหุ้นใหม่ออกขาย
เงินกองทุนชั้นที่
2 (Tier 2 Capital)
หมายถึง
ทุนส่วนที่เพิ่มขึ้นชั่วคราว
และอาจแปลงสภาพเป็นเงินกองทุนชั้นที่
1 ได้ในบางกรณี เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ
หรือ
หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ระยะยาว
เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงสำรองที่เกิดจากการตีราคาสินทรัพย์ถาวรด้วย
อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง
(Capital Adequacy Ratio - CAR)
เป็นอัตราส่วนที่ใช้วัดความเพียงพอของเงินกองทุนของสถาบันการเงิน
เพื่อแสดงถึงความมั่นคงและสามารถรองรับความเสียหาย
ที่จะเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจ ปัจจุบันรัฐบาลกำหนดอัตราส่วนดังกล่าวตามมาตรฐาน
BIS ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สากลยอมรับ
โดยทั่วไปอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงแสดงถึงการที่สถาบันการเงินนั้นมีความมั่นคงและสามารถรองรับผลขาดทุน
ที่จะเกิดจากการประกอบกิจการ
และสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าได้อีกมาก
การกันสำรอง
(Provisioning)
เป็นวิธีการที่กำหนดให้สถาบันการเงินต้องกันเงินส่วนทุนไว้จำนวนหนึ่ง
เพื่อรองรับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการ ให้สินเชื่อหรือลงทุน ซึ่งจะมีจำนวนมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับจำนวนความเสียหายที่คาดคะเนได้จากหนี้เสียที่เกิดขึ้นจากสินเชื่อ
ที่สถาบันการเงินได้ให้ไปแล้ว จำนวนเงินที่กันสำรองไว้ดังกล่าวถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จะมีผลกระทบต่อกำไรขาดทุนของสถาบัน
การเงิน
หากมีจำนวนมากจนทำให้สถาบันการเงินนั้นประสบภาวะขาดทุน ก็จะมีผลกระทบทำให้เงินกองทุนลดลงในที่สุด
ดังนั้นเพื่อให้สถาบันการเงินดำเนินธุรกิจต่อไปได้
จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนใหม่
บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินหรือ
บบส. (Asset Management Corporation - AMC)
เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารและฟื้นฟูสินทรัพย์ที่รับโอนมาจากสถาบันการเงินที่มีปัญหาให้มีคุณภาพดีขึ้น
จนสามารถขายให้ผู้สนใจได้ ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคเอกชนจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีปัญหาของแต่ละ
สถาบันการเงินขึ้นเองเพื่อให้แยกหนี้เสียออกจากสถาบันการเงินนั้นไปบริหารต่างหากได้
Purchase
and Assumption (P & A)
เป็นวิธีการที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งเข้ารับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์และหนี้สิน
ได้แก่ ลูกหนี้ เจ้าหนี้และผู้ฝากเงินจากสถาบันการเงิน แห่งหนึ่งแห่งใด หรือหลายแห่ง
การรับซื้อหรือรับโอนนี้จะรับทั้งหมดหรือรับเพียงบางส่วนก็ได้ตามแต่จะตกลงกัน
และจะไม่มี ผลกระทบต่อลูกหนี้ เจ้าหนี้ และผู้ฝากเงินที่ถูกซื้อหรือถูกโอนไป
วิธีการนี้จึงมีผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างภาระ ให้แก่รัฐบาลน้อยกว่าวิธีการปิดกิจการแล้วชำระบัญชี
รวมทั้งเป็นวิธีการที่ดำเนินการได้สะดวกและเร็วกว่าการควบกิจการด้วย
Swap
(จาก
"พจนานุกรมศัพท์เศรษฐกิจ, กรุงเทพฯ : มติชน, 2541)
คือ การตกลงทั้งซื้อและขายเงินตราระหว่างประเทศ
จำนวนเดียวกันพร้อมกันแต่ส่งมอบในเวลาต่างกัน
เช่น ขายทันทีและซื้อ
ล่วงหน้า
หรือซื้อส่งมอบวันนี้และขายล่วงหน้าทันที
(จาก "ประมวลศัพท์ธุรกิจที่ใช้ทั่วไปในภาษาอังกฤษ, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาฯ,
2540)
คือ วิธีการที่ผู้กู้สามารถแลกประเภทเงินซึ่งหากู้ได้ง่ายกับเงินกู้ที่ตนต้องการ
โดยใช้บริการของธนาคารซึ่งอาจเป็นการแลกข้าม
ประเทศ
และการแลกอีกชนิดหนึ่งคือ การแลกอัตราดอกเบี้ยระหว่างอัตราตายตัวกับอัตราที่ลอยตัว
Swap
Credit
ระบบการชำระหนี้ระหว่างประเทศโดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤตทางการเงิน
โดยที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ และธนาคาร
bank
for international settlements ได้ตกลงกันที่จะเป็นตัวกลางในการชำระหนี้ โดยใช้เงินสกุลของประเทศลูกหนี้ได้
ทั้งนี้
โดยไม่ต้องพึ่งการเคลื่อนย้ายของทองคำและเงินตราต่างประเทศ
ทั่วไป
-
TAKE OVER
คือ การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ เป็นการขยายความเจริญเติบโตให้กับบริษัทฯ
-
unproductive
= ความไม่มีผลิตภาพ
-
disequilibrium
= ความไร้ดุลยภาพ
-
Perfectly
Competitive Market =
ตลาดแข่งขันอย่างสมบูรณ์
-
Exchange
control
= การควบคุม "การปริวรรตเงินตรา"
-
Capital
control =
การควบคุม "ทุน"
-
Letter
of Credit (L/C) = หนังสือที่ออกโดยธนาคาร
ระบุให้้ผู้ถือสามารถถอนเงินจากธนาคารตามจำนวนที่ปรากฎ
มักใช้ในการค้าขายระหว่างประเทศ