เกี่ยวกับ
"สติ"
"เรามาศึกษาหาอรรถหาธรรม
ไม่ควรกล้าจนเกินตัว และกลัวจนเกินไป
เพราะความผิดพลาดอาจมีได้ด้วยกันทุกคน
ความเห็นโทษความผิดนั่นแลเป็นความดี
พระพุทธเจ้าท่านก็เคยผิดมาก่อนพวกเรา
ตรงไหนที่เห็นว่าผิดท่านก็เห็นโทษในจุดนั้น
และพยายามแก้ไขไปทุกระยะที่เห็นว่าผิด
เจตนานั้นดีอยู่
แต่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นอาจมีได้
ควรสำรวมระวังต่อไปในทุกกรณี
ความมีสติระวังตัวทุกโอกาสเป็นทางของนักปราชญ์"
สติ เป็นธรรมจำเป็นตลอดไปในอิริยาบทต่างๆ กาลใดที่ขาดสติ
กาลนั้นเรียกว่าขาดความเพียร
แม้กำลังเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิอยู่
ก็สักแต่ว่าเท่านั้น แต่มิได้เรียกว่าเป็นความเพียรชอบ
ดังนั้นท่านจึงสอนเน้นลงใน
"ความมีสติ" มากกว่าธรรมอื่นๆ
สติ เป็นรากฐานของความเพียรทุกประเภท และทุกประโยคที่ทำ จนกลายเป็น
"มหาสติ"
ขึ้นมา และผลิต "ปัญญา" ให้เป็นไป ตามๆกัน ภูมิต้น
เพื่อความสงบต้องใช้สติให้มาก
ภูมิต่อไป สติกับปัญญาควรเป็นธรรมควบคู่กันไปตลอดสาย
เกี่ยวกับ "ศีล"
การตำหนิติเตียนผู้อื่น แม้เขาจะเป็นผู้ผิดจริงยังจัดว่าเป็นการก่อกวนจิตใจตนให้ ขุ่นมัวไปด้วยอยู่นั่นเอง..."
"...เร่งทำความดีเสียแต่บัดนี้จะได้หายห่วงหายหวงกับอะไรๆที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา..."
เกี่ยวกับ "สมาธิ" และ "ปัญญา"
แม้แต่สมาธิที่เป็นไปในทางชอบ ก็จำต้องอาศัยสัมมาทิฎฐิองค์ปัญญาคอยตรวจตราสอดส่องอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นสมาธิหัวตอ ไปได้ จิตสงบจิตรวมต้องมีสติปัญญาคอยแฝงอยู่เสมอ จิตเกิดความรู้อะไรขึ้นมา จิตออกรู้อะไรบ้าง สิ่งที่รู้นั้นๆ จะควรปฏิบัติอย่างไร จึงจะถูกต้องตามหลักของผู้ต้องการความรู้จริงเห็นจริงในสิ่งที่มาเกี่ยวข้อง ถ้าไม่มีปัญญาแฝงอยู่ด้วยแล้ว ต้องทำให้เห็นผิดยึดผิด ไปจนได้ เพราะความรู้ต่างๆทั้งข้างในทั้งข้างนอกที่เกี่ยวกับสมาธิไม่มีประมาณ สุดแต่จะปรากฎขึ้นมาและผ่านเข้ามา.... ถ้าขาดปัญญา เพียงขั้นสมาธิก็ไปไม่ตลอด คือต้องยินดีกับสิ่งนั้น ยินร้ายกับสิ่งนี้ เพลิดเพลินกับสิ่งนั้นเศร้าโศกกับสิ่งนี้ ซึ่งล้วนเป็นอารมณ์เขย่าใจ ให้ลุ่มหลงไปตามทั้งสิ้น อารมณ์ที่มาปรากฎ ถ้าไม่กำจัดด้วยปัญญา จะตกไปได้ยาก..."
"จุดที่หมายอย่างน้อย
ก็หวังให้จิตอยู่ในคำบริกรรมภาวนาที่นำมาบังคับหรือกำกับให้เป็นอารมณ์ที่พึ่งพิง
เพื่อความสงบเย็นใจหนึ่ง เพื่อบังคับใจให้อยู่ในเหตุผลที่ปัญญาชี้แจง
หรืออบรมในกรณีนั้นๆหนึ่ง
เพื่อภูมิจิตภูมิธรรมขั้นละเอียดขึ้นไปโดยลำดับจนถึง จุดที่หมายหนึ่ง"
"ให้คิดถึง
พุทโธ ติดๆกันอย่าลดละ
พอบริกรรมพุทโธถี่ยิบติดๆกันเข้า
มันวิ่งกลังมาเอง คราวนี้แม้มันกลับมาก็อย่าปล่อยพุทโธ"
"ความที่เคยระวังสำรวมใจอยู่เป็นนิจ ย่อมกลายเป็นคนมีสติปัญญาขึ้นมา"
เกี่ยวกับการต่อสู้ "ทุกขเวทนา"
ถ้าใครกลัวตายเพราะความเด็ดเดี่ยวทางความเพียร ผู้นั้นจะต้องกลับมาตายอีกหลายภพหลายชาติไม่อาจนับได้ ส่วนผู้ใดไม่กลัวตาย ผู้นั้นจะตัดภพชาติให้น้อยลงถึงกับไม่มีภพชาติเหลืออยู่ และผู้นั้นแลจะเป็นผู้ไปไม่กลับหลังมาหาบทุกข์อีก "ตัวผมสลบไปถึง ๓ หน เพราะความเพียรกล้าเวทนาทับโถม ยังไม่เห็นตายและยังรอดมาเป็นอาจารย์สอนหมู่คณะอยู่ได้..."