บทที่2
เล่นที่บ้านหรือเล่นตู้ดี

|
คราวนี้ลองมาให้เครื่องเกมเล่นบ้านรวมตัวกันมาสู้โลกภายนอกดูคือถ้าตั้งหัวข้อสมมุติว่าผู้ปกครองคุณให้เลือกเล่น
แค่อันใดอันหนึ่งเนื่องจากต้องการประหยัดเงินที่บ้าน
คุณจะเลือกอะไรก่อนอื่นมาดูข้อดีข้อเสียของทั้ง2แบบก่อนแล้วค่อยคิด |
ข้อดี
เล่นบ้าน
แผ่นต่างๆราคาถูกมาก(แผ่นก็อปนะ)
จะนอนเล่น
ตีลังกาเล่นก็ได้ไม่มีใครว่า
มีเกมหลายแนวให้เลือกเล่นเยอะ
มีอุปกรณ์เสริมเครื่องมากมาย
้ยิ่งบ้านไหนมีโฮมเธียร์เตอร์ดีๆก็ยิ่งสุดยอด
ถ้าเกิดอยากเล่นเกมเก่าๆก็นำมาปัดฝุ่นกลับมาเล่นได้
สามารถเล่นกับเพื่อนหลายๆคนพร้อมกันได้(เช่น
บอมเบอร์แมน
และบอร์ดเกมอื่นๆ)
|
เล่นตู้
ภาพกราฟฟิคคมชัด
ไม่มีการโหลดด้วย
โชว์คนอื่นได้
ส่วนใหญ่เกมล้วนแต่สนุกๆมันๆทั้งนั้น
เล่นแบบรุนแรงได้
โยกๆ ทุบๆ(แค่บางคนนะ)
ไม่ต้องเจอผู้ปกครองมาบ่นๆๆๆ
ให้หมดอารมณ์เล่น
ถึงเงินจะหมด
ก็ไปยืนดูคนอื่นเล่นก็สุขใจแล้ว
เป็นการฝึกปรือฝีมือที่ดีที่สุด(คือ
ถ้าคุณอยากเก่งต้องใช้เงินน้อย
ที่สุดแต่เล่นให้ได้นานที่สุด)
|
ข้อเสีย
เล่นบ้าน
ต้องถนอมเครื่องตัวเองซักหน่อย
ค่าไฟอาจจะขึ้นบานแน่
ทำให้ปวดลูกตา(เช่น
เล่นFF30ชม.ต่อกัน)
อาจจะเบื่อง่ายเพราะขาดแรงจูงใจ(ตายเมื่อไหร่ก็คอนฯได้นี่)
จะทนงตัวว่าเก่งที่สุด
ก็น็อกได้ตั้ง10รอบนี่นา(พวกกบในกะลา)
|
เล่นตู้
เปลืองตังค์มากกว่า(ถ้าเล่นทุกวัน)
เล่นอยู่ดีๆก็มีใครไม่รู้มาท้าดันเล่นเก่งอีก(เพิ่งจะได้ฉากแรกแท้ๆ)
ทำให้คนอื่นอาจหมั่นไส้ได้(อย่างกรณีข้อ2เป็นต้น)
มีชนิดเกมจำกัด(ส่วนมากมีแต่ต่อสู้กับแข่งรถเท่านั้น)
มัวแต่หนีไปเล่นข้างนอก
ไม่ยอมกลับบ้าน
|
แต่นี่ยังไม่รวมพวกเครนเกมหรือพวกใช้ร่างกาย(เช่นชู้ตบาส
เตะบอล)นะครับ
นั่นอีกกรณีนึงแต่ส่วนมากก็จะเล่นควบๆกันทั้งคู่ไปทั้งนั้น
ก็แล้วแต่คนว่าชอบอันไหนมากกว่ากันอย่างตัวผมไม่ค่อยได้เล่นตู้เท่าไหร่(พวกรักบ้าน)
ดังนั้นถ้าข้อมูลข้อใดไม่ถูกนักก็ขออภัยด้วยครับที่ไม่รู้จริง
ก็อ่านกันเล่นๆละกัน(ก็แค่ทรรศนะส่วนตัว)
แต่โดยสรุปแล้วถ้าเราแบ่งเวลาให้ถูกไม่มั่วสุมกันเกินไปและดูแลเงินในกระเป๋าบ้างจะเล่นเครื่องไหน
ก็ทำให้มีความสุขได้ทั้งนั้นแหละ
