Final Fantasy VII: Un-Told Ending
Chapter 3: Tear of the planet and Heart
of the people
พอได้แล้วล่ะ
เสียงหนึ่งพูดกับทุกคน
อะไรกันล่ะนั่น!!
ซิดแทบจะทำบุหรี่ของเขาหล่นจากปากขณะที่เขาหันมามอง
แอริส?
คลาวด์มองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ร่างๆหนึ่งยืนอยู่ข้างไฮวินด์
ไม่สิ
ต้องเรียกว่าลอยอยู่มากกว่า
ร่างนั้นยังคงใส่ชุดสีชมพู
แจ๊คเก็ทสีแดง
และรอยยิ้มอันอบอุ่นของเธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
ถ้าฉันพูดว่าฉันจะทำอะไรซักอย่าง
นั่นคือฉันจะลงมือทำอะไรซักอย่าง
แอริสยิ้ม
ดังนั้นถ้าฉันพูดว่าฉันจะช่วยโลก
นั่นก็คือสิ่งที่ฉันจะทำ
ยังไงล่ะ
?
คลาวด์ก้าวเข้าไปใกล้หน้าต่าง
ยังไงซะ
แอริสว่าต่อ
ฉันจะกลับคืนสู่ดวงดาวได้ยังไงถ้าไม่มีดวงดาวจะกลับ
จริงไหม?
เธอหัวเราะคิกคักแล้วกุมมือทั้งสองของเธอไว้ด้วยกัน
เมื่อเธอเปิดมันออก
แสงสีขาวอมฟ้าก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ
โฮลี่
คลาวด์ถอนหายใจ
แต่มันไม่ได้ผลนี่
เขาพูดอย่างอ่อนใจ
ทำไมมันไม่ได้ผลล่ะ
โฮลี่เป็นสุดยอดเวทย์สายขาวก็จริง
แต่ไม่ใช่เวทย์ที่เร็วที่สุด
แอริสยังคงยิ้มเช่นเดิม
ต้องให้ดาวดวงนี้ช่วยเหลือมันหน่อย
เตาปฏิกรพลังงานที่รายล้อมมิดการ์เริ่มส่งประกายแสงออกมาแสงสีเขียวเรืองรองแห่งชีวิต
เคเบิลสายยักษ์ที่เคยป้อนพลังให้กับปืนซิสเตอร์
เรย์ถูกดึงออกในขณะที่แสงเหล่านั้นลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสู่
เมเทโอ!!
ดั่งสายน้ำที่ส่องประกายกลางความมืดมิดสายธารแห่งชีวิตเหล่านั้นเริ่มล้อมรอบเมเทโอ
แต่ละสายสานทอกันคล้ายดั่งไหมทอเป็นผ้าโอบล้อมจนมองไม่เห็นเมเทโออีกท้องฟ้าสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใสของไลฟ์สตรีม
เสียงดังปานฟ้าผ่าดังออกมาจากทรงกลมนั้นหลายต่อหลายครั้ง
ความสงสัยพามาร์ลีนมาอยู่ที่ขอบหน้าต่างเธอปีนขึ้นไปบนเก้าอี้เพื่อที่จะเห็นท้องฟ้าและลูกไฟยักษ์ให้ชัดขึ้น
ท้องสดใสไปด้วยเสียงสีเขียวอันอบอุ่นในภาพอันแสนอัศจรรย์นี้
มาร์ลีนได้ยินเสียงอันแผ่วเบาแว่วมา
เสียงที่เธอเคยได้ยิน
พี่สาวขายดอกไม้
?
เธอมองไปที่แสงสีเขียวกลางแล้วกระซิบตอบ
ท้องฟ้าพลันสว่างจ้าด้วยแสงจากพลังงานมาโกและเมเทโอก็เริ่มแตกออก
ชิ้นส่วนนับล้านชิ้นปลิ่วว่อนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า
ซึ่งบัดนี้ปราศจากแสงสีแดงแล้วเมเทโอได้พ่ายแพ้ต่อพลังของดวงดาวแล้ว
แสงสีเขียวค่อยๆจากหายไป
ในขณะที่หยดน้ำเริ่มร่วงหล่นจากฟากฟ้าน้ำตาแห่งความดีใจของดวงดาวกระมัง
เมเทโอหายไปแล้ว
คลาวด์หันกลับมามองที่แอริส
เธอทำได้แล้ว เขาพูดกับเธอ
หรือดวงวิญญาณของเธอกันแน่
คลาวด์ไม่แน่ใจ แต่อย่างน้อย
เธอก็อยู่ตรงนี้กับเขา
คลาวด์คิด
เพราะอย่างนี้ใช่ไหม
ที่เธอไม่พยายามที่จะหยุดเซฟิรอธ
ทิฟาพยายามที่กลั้นน้ำตาแห่งความโล่งใจที่ล้นออกมาจากตาคู่นั้นของเธอ
เพราะอย่างนี้
เธอถึงจากพวกเราไปใช่ไหม
ฉันอยู่กับเธอ แอริสยิ้ม
ตลอดเวลา
ฉันไปเคยทิ้งพวกเธอไปเลย
ขณะที่เธอพูด
ร่างของเธอค่อยๆจางหายไป
เธอจะกลับสู่ดวงดาวแล้วใช่ไหม?
คลาวด์เอื้อมมือออกไป
หวังจะกอดเธอไว้ดึงเธอไว้
แอริสหัวเราะเบาๆ แหงล่ะ
แต่ฉันจะไม่จากพวกเธอไป
ไม่มีทาง ร่างของเธอกำลังหายไป
หายไปในท้องฟ้าที่สว่างไสวด้วยดวงดาว
แล้วจำไว้นะ
อย่าห่วงฉันมากเกินไปจนลืมไปว่าทุกคนยังมีกันและกันอยู่ลาก่อนทุกคน
ร่างของเธอหายไปในที่สุด
แล้วเราจะได้เจอกันอีก
ชั่วขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน
คำพูดของเธอคนนั้นยังก้องอยู่ในใจของทุกคน
เธอยังอยู่ตรงนี้
จริงๆด้วย
เธอยังอยู่กับพวกเรา คลาวด์คิด
วู้วววววว
ซิดเป็นคนทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ก่อนใคร
แล้วไงต่อ?
ตกลงว่า
ในที่สุดเราก็รักษาโลกไว้ได้แล้ว?
บาร์เรทกอดอกยืดตัวตรง
ทั้งๆที่มีแขนเป็นปืนเขาก็ยังพยายามกอดอกจนได้
นี่คือสิ่งที่อวาแลนช์ตั้งใจจะทำ
อา อยากพาพวกนั้นไปคอสโม
แคนยอนก่อนที่
บาร์เรทก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารพเพื่อนร่วมศึกของเขา
คิดว่าเราน่าจะกลับไปที่นั่นเร็วๆนี้นะ
อวาแลนช์? เคท
ซิธมองไปที่บาร์เรท
นั่นคงจะไม่รวมผมอยู่ด้วยล่ะซิ?
บาร์เรทมองกลับด้วยหางตา
ทันทีที่ฉันได้มาร์ลีนคืน
อาจจะ
งั้นก็ไปคาล์มกันเลยยยย!
ซิดตะโกนพร้อมกับหันยานไปทางเหนือ
เฮ้! ขับเบาๆหน่อย ตาแก่
ยัฟฟี่กระทุ้งแล้วเดินไปนั่งที่
ทิฟาหันไปมองคลาวด์
รอยยิ้มปรากฏอยู่ในสีหน้าของเธอ
รู้สึกดีใช่ไหม
การที่รู้ว่าพวกเรามีกันและกันน่ะ
คลาวด์หันไปมองเรด XIII
และวินเซนท์เดินไปรวมกับบาร์เรทและเคท
ซิธ แล้วหันกลับมาที่ทิฟา
เขาวางแขนบนไหล่ของเธอแล้วโน้มเธอเขามาใกล้
งั้นมั้ง
เขาตอบห้วนๆตามแบบฉบับของเขา
คลาวด์โน้มตัวลงไปหาทิฟาและริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบกัน
พร้อมกับที่ไฮวินด์พุ่งผ่านท้องฟ้าอันสดใสไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ