Final Fantasy VII: Un-Told Ending
Epilogue: Wonderful World.
บางทีอาจจะเป็นร้อยปีผ่านมา หรือบางทีอาจจะนานกว่านั้นมากนัก
เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วหุบเขาที่ก่อกำเนิดจากหินทรายเหล่านั้น
ท้องฟ้าสีครามมีมีเมฆเบาบางเล็กน้อยคอยช่วยบังเสียงอาทิตย์
ให้ทั้งสามชีวิตที่กำลังวิ่งอยู่เบื้องล่าง
ร่างหนึ่งคือสิ่งมีชิวิตรูปร่างคล้ายเสือสีแดงตัวใหญ่ ปลายหางเป็นลูกไฟ
ประกายตาบ่งบอกถึงความมีอายุและประสบการณ์แต่ยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและพลังอันเต็มเปี่ยมในตัวของเขา
นานากิวิ่งนำอยู่ในขณะที่มีร่างเล็กๆลักษณะเดียวกันวิ่งตามอยู่ข้างๆสองร่าง
ปู่ค่ะ
ช้าลงหน่อยสิ หนูวิ่งตามไม่ไหวแล้ว
ร่างหนึ่งร้องบอกด้วยความเหนื่อยอ่อน
อะไรกัน แอริส อีกร่างหนึ่งพูด แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ
พี่เซโต้บ้า! หนูเป็นผู้หญิงนะ! แอริสตัวน้อยพูดด้วยความฉุน
ฮะๆๆ
พอได้แล้ว ทั้งคู่นั่นแหละ นานากิหัวเราะกับพฤติกรรมของหลานทั้งสอง
เอาล่ะ ปู่จะช้าลงอีกนิดก็ได้
เรากำลังจะไปไหนกันครับ? เซโต้ถาม
ถึงแล้วเจ้าก็จะรู้เอง
นานากิพูดเป็นนัย
บนยอดผาที่สูงชันแห่งหนึ่ง เมื่อมองลงมาเบื้องล่างจะมองเห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และที่กลางทุ่งกว้างนั้นมีสิ่งที่คล้ายซากปรักหักพังของเมือง
หรือเครื่องจักรอะไรซักอย่าง
ซึ่งบัดนี้มีพืชและต้นไม้ชนิดต่างๆขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไปหมด
ณ. บัดนี้ ทั้งสามยืนอยู่บนผาแห่งนี้แล้ว
นั่นอะไรครับปู่ เซโต้ทึ่งกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
นั่นคือมิดการ์ นานากิบอกหลานชาย
ตัวแทนของความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เมื่อกาลก่อน
นานากินึกถึงเมืองที่เต็มไปด้วยมลพิษและด้านมืดของมนุษย์ในความทรงจำของเขา
ในเวลานี้มนุษย์นั้นพัฒนาตัวเองไปอีกระดับแล้ว
นับจากเมื่อครั้งที่เขายังหนุ่มๆ
ในเวลานี้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติและดวงดาวโดยไม่มีปัญหาเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
รู้ไหม เมื่อก่อนนี้มนุษย์เคยเห็นแก่ตัวกันกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มากนัก
นานากิพูดขึ้นมา
มิดการ์เคยเป็นเมืองที่เลวร้ายและน่ากลัว จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นึงขึ้นมา
และมันก็ช่วยให้มนุษย์เข้าใจถึงบทบาทของตัวเองมากขึ้น
ฮ่ะๆ ปู่ของปู่คงอยากอยู่จนเห็นภาพนี้แน่ๆ
นานากินึกถึงชายแก่ท่าทางใจดีคนนั้น เพียงแต่มันนานเหลือเกินแล้ว
เขายังนึกถึงกลุ่มคนที่มีส่วนช่วยให้มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงจากสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวจนเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ได้
ชื่อของพวกเขาบางคนไม่ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์แต่อย่างใด
พวกเขายังคงอยู่แต่ความทรงจำของผู้ที่รู้จักพวกเขาเท่านั้น
พวกเจ้าอยากฟังไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง? นานากิถามหลานทั้งสองของเขา
อยากครับ/ค่ะ ทั้งคู่ตอบ
นานากิยิ้ม เขายินดีที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มคนเหล่านี้ออกไปให้ลูกหลานของเขาได้รับรู้ว่าอย่างน้อยๆ
ท่ามกลางความืดแห่งความสิ้นหวังของมิดการ์ก็ยังมีสวนดอกไม้ที่สวยงามอยู่ว่าอย่างน้อยๆท่ามกลางความสิ้นหวังถึงที่สุด ก็ยังมีความหวังอยู่
ว่าอย่างน้อยๆท่ามกลางความเห็นแก่ตัวและความเลวร้าย
ความรักและความเมตตาก็ยังอยู่
ภายในจิตใจของมนุษย์ทุกคน เขารู้ดีว่าเป็นเช่นนั้น
The End