My Life story
My life story : Step 1 ตอนที่ 1 ที่ทำไปเพราะเธอคือหัวใจ
เช้าวันหนึ่ง ผมตื่นขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตาที่ติดอยู่ตรงปลายตาและหมอนที่ผมใช้หนุนนอน เมื่อคืนผมไปทำอะไรมาเนี้ย อา ... ผมนึกออกแค่ว่าผมได้เสียคนที่ผมรักไปแล้ว จนในเช้ายี้ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้รึเปล่าถ้าผมขาดเธอ
"เบญลงมาทานข้าวได้แล้วลูก เดี๋ยวไป โรงเรียนสายนะ" เสียงของสาววัยกลางคนคนหนึ่ง อา ... ไม่ใช่ใครที่ไหน แม่ผมเอง ด้วยน้ำเสียงที่ตะโกนเรียกผมทุกเช้าเหมือนอย่างเคย ผมก็รีบลุกขึ้นจากเตียง และรีบไปล้างหน้าและแปรงฟันอย่างเคย เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปสู่โลกภายนอกเหมือนอย่างปกติ แต่วันนี้มันต่างออกไปตรงที่ ผม ไม่มีเธอเคียงข้างแล้ว ...
"อืม เบญเป็นอะไรรึเปล่า ตาลูกดูบวมๆนะ เมื่อคืนนอนดึกสินะ เฮ้อ ... ไม่ไหวเลยนะลูกคนนี้"
"ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแม่ พอดีว่าเมื่อคืนผมเจอหนังที่ชอบพอดี เลยดูเพลินไปหน่อยอ่ะครับ"
"ไม่ไหว ลูกคนนี้ วันหลังอย่านอนดึกนักนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก รู้ก็รู้ว่าบ้านเรามันอยู่ไกลจากโรงเรียนเลยต้องตื่นเช้าๆหน่อย ยังลืมตัวนอนดึกจนได้นะเรา"
แม่ผมไม่รู้อะไร หรือว่าท่านจะแกล้งไม่รู้ก็ไม่แน่ เพราะหน้าผมใครมาเห็นตอนนี้ก็รู้ทันทีว่าผมร้องไห้ ขอบคุณนะครับคุณแม่ ที่ไม่ซ้ำเติมผม
"แล้ววันนี้จะไปเองหรือให้แม่ไปส่ง?"
อา ... คำถามเหมือนทุกวัน ปกติผมจะขอไปเองนะเพื่อที่จะได้แวะไปเจอเธอทุกเช้า แต่มาถึงตอนนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรแล้วล่ะ
"อ่า ... วันนี้คุณแม่ไปส่งนะครับ" ผมตอบออกไปทันทีอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก
"เอ้อแปลกแฮะ ทุกทีจะอยากไปเองอ่ะนะ อืม โอเคจ๊ะ ทานเร๊วๆนะ เดี๋ยวแม่ไปสตาร์ทรถรอ"
รถเลื่อนผ่านออกไปตามทางสายที่คุ้นเคย สถานการณ์ในรถระหว่างผมกับแม่ค่อนข้างเงียบ เพลงก็มีให้ฟังแต่เพลงซึ้งๆ จนพาลทำให้ผมอดน้ำตาไหลไม่ได้ ขณะนั่งรถผ่านถนนสายเดิมๆที่ผมกับเธอเคยเดินผ่านมาด้วยกันทุกๆวันคืนที่ผ่านมา เอ ... ผมคบกับเธอมาได้กี่เดือนแล้วนะ อืม... 6 เดือน ไม่สิ เกือบ 8 เดือนได้แล้วที่ผมคบกับเธอมา อา ..รักนี้มันช่างยาวนานดีแท้ ผมไม่เคยที่จะคิดคบกับใครนานเท่านี้มาก่อนเลย ผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยคบมาด้วยนั้น
พูดตรงๆเลยนะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับพวกเธอเลยซักนิด คุณอาจจะคิดว่าผมเป็นคนไม่ดีสินะ หลอกได้แม้กระทั่งสาวน้อยน่ารักที่มารักผม ผมก็แค่อยากที่จะตอบสนองความรู้สึกของพวกเธอเท่านั้นเอง พอมาถึงวันนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าอาการของคนอกหักมันเป็นยังงัย แล้วทำไมเวลาสาวๆที่ผมเลิกไปนั้นถึงได้ทำใจไม่ค่อยจะได้เวลาที่เลิกกับผม อา ... แล้วผมจะทำหน้ายังงัยดีถ้าผมได้เห็นหน้าเธอในวันนี้ จะต้องทำตัวยังงัยให้คนอื่นดูว่าผมยังเหมือนเดิม อา .. กรรมมันตามสนองผมเข้าแล้วสินะ
ในระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น เสียงของแม่ผมก็ดังขึ้น ทำเอาผมตกใจไม่น้อย
"เอ้า ถึงแล้วจ๊ะลูก ตั้งใจเรียนนะ เวลากลับบ้านก็ระวังด้วยล่ะ แม่ไปล่ะนะ" พอคุณแม่พูดจบรถก็ได้เลื่อนจากไปและเพียงไม่นานมันก็หายไปจากสายตาเราแล้ว
ป๊าป! "โอ๊ยย!!! เจ็บ ใครอ่ะ" โอยยย ซวยจริงๆวันนี้ ใครเอากระเป๋ามาฟาดหลังผมเนี้ย
"หวัดดีเบญ เฮ้ย ทำไมวันนี้นายมาเช้าอ่ะ แล้วไหนอ่ะเบลล์ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอยะ เอ๊!! ดูตานายบวมๆด้วยนี้ หรือว่าเลิกกันแล้วยะ" โอยยย ยัยแนนนี้เอง เธอคนนี้เค้าเป็นเพื่อนกับเธอของผมอ่ะครับ เธอคนนี้ก็น่ารักใช่ย่อย มีจ่าวออกมาว่าเธอคนนี้เค้าจะชอบผมซะด้วย แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจหรอกนะ แต่ถึงจะชอบยังงัย
ผมก็คงจะไม่มีกะจิตกะใจไปสนเธอหรอกนะ แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ชื่อเบลล์คนเดียวผมยังจับเธอไว้ไม่ได้เลย แล้วดูที่เธอพูดเข้าซิ ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผมจริงๆ
"เอ้อ หวัดดียัยแนน วันนี้ทักซะเจ็บเลยนะเนี้ย อูย"
" เออ เฮ้ย นายนี้อย่าเลี่ยงดิ แล้วทำไมวันนี้ไม่มากะไอ้เบลล์อ่ะ?" อา คำถามนี้ ช่างเป็นคำถามที่ผมไม่ค่อยอยากจะตอบเลยแฮะ
"อืม บอกก็ได้ คือว่าเราเลิกกับเบลล์แล้วล่ะนะ"
"เอาจริงอ่ะ อู๊ยยย สาวๆในโรงเรียนดีใจตายแน่เลยแฮะ อา น่าเอาข่าวนี้ไปประกาศ เฮ้ย!!! น้องจ๋าม.1ห้อง1ตรงนั้นอ่ะ สุดที่รักของน้องเค้า เลิ ....... อุ๊บบ" ทันทีที่ยัยแนนยังพูดไม่จบประโยค ผมก็เกือบจะปิดปากเธอไม่ทันซะแล้ว
"สัญญานะแนนว่าจะไม่พูดต่อน่ะ โอเค๊?" ขณะที่สายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องมาที่ผมกับแนนอยู่นั้น ผมกระซิบถามข้างหูเธอเบาๆ เธอก็พยักหน้ากลับแทนคำพูด (เพราะพูดไม่ได้)
"โอ๊ยยย อะไรกันอ่ะเบญ แค่นี้ก็พูดไม่ได้ ไม่เห็นกับจะต้องเอามือมาปิดปากเลยนี้นา บอกกันดีๆก็ได้นะ ดูดิ๊ เค็มจะตาย แบล่ะ" เอาเข้าไป ในขณะที่กำลังเถียงกันได้ที่นั้น เธอคนนั้นของผมก็เดินเข้ามาในโรงเรียนพอดี
"เฮ้ย ... เบญ นั้นงัยเบลล์ ไม่เข้าไปทักหนอยเหรอ? ดูเบลล์เค้าท่าทางซึมๆนะ" ยัยแนนสะกิดผมให้ผมเข้าไปทักเบลล์
"ไม่เอาอ่ะ เราไม่กล้าหรอกนะ คนที่โดนหักอกอ่ะ ไม่ใช่เรา แต่เป็นเค้าตะหาก" อ่า ฟังแล้วคงงงสินะครับ แต่อีกไม่นานก็คงรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นยังงัยมายังงัยกันแน่
"อ่า ถ้านายไม่ไปทัก งั้นเดี๋ยวเราไปดูอาการมันก่อนนะ ท่าทางนี้พอๆกับนายเลย แบบว่าเราเป็นห่วงมันน่ะ ขอโทษด้วยนะ เดินเข้าโรงเรียนไปคนเดียวละกัน" ผมได้มองแนนเดินไปหาเบลล์อยู่ยังงั้น ดูท่าทางแล้วเบลล์จะโกรธเรื่องที่ผมทำลงไปกับเธอ ผมอยากเดินเข้าไปบอกเธอจริงๆไลยนะว่า ที่ผม
ทำไปทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพื่อตัวผม แต่เพราะเพื่อเธอ ผมจึงต้องทำ
ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าแนนคุยอะไรกับเบลล์ไปบ้าง แต่ดูท่าทางแล้วเบลล์เหมือนกันจะยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ ในช่วงพักกลางวันในโรงอาหาร ผมจึงต้องทำใจกล้าเดินเข้าไปในกลุ่มของเบลล์และแนน และขออนุญาติชวนแนนออกมาพูดด้วยหน่อย อา... แนนยอมมา และดูเหมือนว่าจะเต็มใจซะด้วย แต่เท่าที่ดูๆแล้วนั้น เหมือนกับเพื่อนๆของพวกเธอจะไม่พอใจผมเป็นอย่างมาก
การที่ได้ปะทะหน้ากับเบลล์เมื่อกี้นี้ ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออกพักใหญ่ ผมดูออกเลยว่าแววตาของเธอที่มีให้ผมยังคงเหมือนเดิม จนแนนต้องมาสะกิดถามผมซะก่อน
"นี้ๆ เรียกเค้ามาอ่ะนะ จะถามอะไรก็ถามมาสิ"
"เอ่อ ขอโทษด้วยนะที่เรียกแนนออกมาน่ะ คือว่าเรามีเรื่องจะถามแนนหน่อยอ่ะ ได้มั้ย?"
"ได้สิ ถามมาเลย เบญถามอ่ะแนนตอบให้ได้อยู่แล้ว พอดีเลยแฮะกำลังจะมีเรื่องไปคุยกับเบญด้วยพอดี"
"เอ้อ งั้นขอเราถามก่อนนะ วันนี้ตอนเช้าอ่ะ แนนไปพูดอะไรกับเบลล์รึเปล่า เราดูๆแล้วเบลล์หน้าตาไม่ค่อยสบายเลยนะพอแนนเข้าไปคุยด้วยน่ะ ไปบอกอะไรเค้ารึเปล่า?"
"นี้เบญยังเป็นห่วงเบลล์เหรอเนี้ย?" อ่า ดูจากหน้าตาและน้ำเสียงของแนนดูผิดหวังพิลึกแฮะ ทำเอาผมเริ่มมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย
TO BE NEXT STEP . . .