ROAR !!!
Chapter 1 - Howling in the blue moon
-
ดวงจันทร์สีน้ำเงินลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าท่ามกลางหมู่เมฆจ้องมองลงมาบนโลกมนุษย์อย่างเงียบสงบ
ซึ่งในขณะนั้นบนผืนแผ่นดินกำลังเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
เสียงร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความหวาดกลัวดังระคนไปกลับเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเหล่าโจรร้ายที่ยกพวกเข้า
ปล้นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง
เหล่าโจรนั่งอยู่บนมาควบไปทั่วทั้งหมู่บ้านสังหารชีวิตชาวหมู่บ้านทุกคนที่อยู่ในรัศมีคมดาบของมัน
พวกเด็กสาวแรกรุ่นจะถูกต้อนมารวมกันเป็นกลุ่มและจากนั้นก็จะถูกพาไปยังรังของเหล่าโจรเพื่อทำหน้าที่บำบัดความใคร่ของพวกมัน
บางทีก็จัดการปฏิบัติกิจเสียตรงนั้นเลย
" เฮ้ย
พวกแกที่อยู่ตรงนั้นน่ะคุมนังเด็กพวกนี้ให้ดีๆ
นะเว้ย
ถ้าหนีไปได้ซักคนละพวกแกได้เป็นของแกล้มเหล้าข้าแน่
" เจ้าคนหนึ่ง
ท่าทางจะเป็นหัวหน้าร้องสั่งสมุนโจรที่ยืนคุมเด็กสาวที่ถูกจับมาอยู่
" ส่วนพวกแก
ไปค้นให้ทั่วหมู่บ้าน
ดูว่ามีอะไรอีกมั้ยรึมีใครรอดหรือเปล่าถ้ามีคนรอดฆ่าให้เรียบยกเว้นผู้หญิงห้ามฆ่า
จับกลับมา "
มันหันไปสั่งลูกน้องอีกกลุ่ม
พวกนั้นรับคำแล้ววิ่งหายไป
" ชิ
หมู่บ้านนี้มีแค่เนี้ยเองเรอะ
" เจ้าโจรตัวหัวหน้าบ่นออกมา
" ช่างเหอะ หมู่บ้านเล็กๆ จนๆ
อย่างนี้จะไปหวังอะไรคราวหน้าไปหาหมู่บ้านใหญ่กว่านี้สิ
"
เจ้าโจรอีกคนท่าทางเป็นพี่เจ้าตัวหัวหน้าบอก
เจ้าตัวหัวหน้าชักจะรำคาญพี่มันขึ้นมานิดๆจึงพูดตัดบทเอาดื้อๆ
" เออน่ะ
เสร็จงานนี้ค่อยว่ากัน "
เด็กสาวแรกรุ่นคนหนึ่งหลบอยู่ในไหใบหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องใต้ดินแม้ว่าไหใบนี้จะไม่ใหญ่เท่าไรนักแต่ก็พอที่เด็กสาวตัวเล็กๆ
คนหนึ่ง
จะลงไปนั่งขดอยู่ได้สบาย
ร่างของเด็กสาวสั่นพั่บๆด้วยความกลัวและความสับสนในใจ
เธอกับคนในหมู่บ้านนี้ทำบาปกรรมอะไรไว้หรือ
ถึงต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายเช่นนี้
เด็กสาวคิดแต่ในเวลานั้น
เด็กสาวก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเป็นเสียงของคนเดินเข้ามากับเสียงคนคุยกันประมาณ
3 - 4คนได้
เด็กสาวพยายามเงี่ยหูฟังว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร
บางทีอาจเป็นกองทหารที่มาช่วยหมู่บ้านนี้ก็ได้
คิดได้ดังนี้
ในใจของเด็กสาวก็เกิดความรู้สึกดีใจเป็นที่สุด
แต่แล้วความดีใจนั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นความผิดหวังและความกลัวไปเพราะเสียงที่คนพวกนั้นคุยกันนั้นมันฟ้องว่าไม่ใช่พวกทหาร
" ไหนลองค้นให้ทั่วหน่อยซิ
มีใครรึเปล่า "
" บ้านนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ
แล้วก็ไม่มีใครแล้วด้วยรีบกลับไปหาหัวหน้าก่อนเหอะ
"
" เดี๋ยวก่อน
มีห้องใต้ดินตรงนี้ด้วยลองลงไปดูหน่อยซิ
"
เด็กสาวใจหายวูบ
อย่าให้พวกนั้นหาเธอจนเจอเลย
ดูๆแล้วรีบไปเสียเถอะ
เด็กสาวนึกในใจ
ไหใบนี้มีฝาปิดอยู่
ดูเผินๆจะคิดว่าเป็นแค่ไหธรรมดา
แต่ถ้าพวกนั้นเกิดสงสัยว่าข้างในอาจมีใครหรืออะไรซักอย่างอยู่ล่ะ
จะทำยังไง
มีเสียงเอี๊ยดๆ
ของประตูห้องใต้ดินที่เปิดออกกับเสียงคนเดินลงมา
เด็กสาวรู้ดีว่า
หากถูกพบตัวแล้วยากที่จะรอดไปได้จากการเป็น
นางบำเรอของพวกโจร
ซึ่งจะเป็นความอับอายไปตลอดชีวิตเธอค่อยๆ
หยิบเอามีดเล่มเล็กๆเล่มหนึ่งออกมาจากถุงใส่ของที่ผูกไว้กับกระโปรง
กำมันไว้แน่นพร้อมกับนึกอยู่ในใจ
ถ้าพวกมันเจอตัวละก็ขอสู้ตาย
พวกมันเดินวนอยู่ในห้องใต้ดินอยู่ครู่หนึ่งหนึ่งในพวกโจรก็พูดขึ้นมา
"
ห้องใต้ดินเหม็นอับอย่างนี้ไม่มีอะไรหรอก
รีบๆขึ้นไปหาหัวหน้าเถอะ
จะได้กลับรังไปกอดสาวๆ ซะที "
" เออๆ กลับก็กลับวะ ไป
กลับโว้ย "
เด็กสาวแอบถอนใจเบาๆ
อย่างโล่งอก
ในที่สุดก็ไปซะทีเธอได้ยินเสียงพวกมันเดินกลับขึ้นไปตามบันไดห้องใต้ดิน
คนแรกกลับขึ้นไปแล้ว
คนที่สองก็ขึ้นไปแล้ว
คนที่สามกำลังเดินขึ้นไปตามบันได
ดีแล้ว ไปเลยซี่ ไปให้ไกลๆ
แล้วอย่ามาอีก ในใจของเธอคิด
" แต่ก่อนอื่น
ลองค้นไหพวกนั้นดูก่อนซิ "
เด็กสาวแทบช็อค
พวกมันจะค้นไหแบบนี้ยังไงก็ต้องถูกพวกมันเจอแน่ๆ
ไม่มีทางหนีแล้วเธอคิดพร้อมกับกำมีดในมือไว้แน่น
ถ้ามันเปิดไหแล้วเจอเราละก็
เราจะใช้มันเล่นงานคนที่เปิดซะ
เพล้ง !!!
ไหข้างตัวเธอแตกไปแล้วใบหนึ่งมีเสียงสบถด้วยความผิดหวัง
โชคดีที่มันเปิดไหผิดแต่ถ้าหากมันเปิดไหของเธอเมื่อไร
เธอเสร็จแน่ !!!
เสียงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าไหที่เธอซ่อนตัวอยู่พวกมันมาแล้ว
เด็กสาวคิด
เข้ามาซี่เจ้าโจรชั่วชั้นไม่กลัวแกหรอก
วันนี้ขอสู้ตายกับแก
มีเสียงฝาไหเหนือหัวของเธอถูกเลื่อนออกแล้วโยนออกไปกระแทกผนัง
พริบตานั้นเด็กสาวรีบออกมาจากไหทันทีพร้อมกับแทงมีดเข้าใส่โจรคนที่เปิดไห
แต่พลาด เจ้าโจรหลบได้
เมื่อเห็นว่าพลาด
เด็กสาวก็พยายามวิ่งไปให้ถึงบันไดห้องใต้ดินแต่ก็ถูกโจรคนหนึ่งรวบตัวไว้ได้เด็กสาวพยายามดิ้นขัดขืนเต็มที่
แต่ก็แพ้แรงของมัน
ด้วยอารามตกใจเธอใช้มีดที่ถืออยู่ในมือแทงเข้าที่ขาขวาของมันจนมิดด้าม
มันร้องเสียงหลงปล่อยมือที่จับตัวเด็กสาวออกลงไปนอนกุมขาขวาของตัวเองเด็กสาวได้โอกาสพยายามวิ่งไปหาบันไดอีก
แต่ก็ไม่พ้นถูกพวกโจรคนอื่นจับตัวไว้ได้
พวกโจรลากตัวเด็กสาวขึ้นมาจากห้องใต้ดิน
เด็กสาวส่งเสียงร้องตะโกนพร้อมกับดิ้นขัดขืน
โจรคนหนึ่งชักรำคาญเลยชกเธอที่ท้องน้อยแต่เด็กสาวยังไม่ยอมหมดฤทธิ์ง่ายๆเจ้าโจรคนนั้นจึงชกไปที่ท้องน้อยเธออีกครั้ง
ได้ผล เด็กสาวสลบทันที
" เฮ้ย ไปช่วยมันหน่อยซิ "
โจรคนหนึ่งบอก
อีกสองคนลงไปในห้องใต้ดินช่วยประคองโจรคนที่ถูกแทงขึ้นมา
" อูย เจ็บชะมัดเลย
นังบ้านี่ !!!!! "
เจ้าคนโดนแทงคำรามพร้อมกับชักดาบออกมาจะฆ่าเด็กสาวแต่ถูกเพื่อนมันห้ามไว้
" เฮ้ย อย่านะ
ขืนหัวหน้ารู้เข้าละก็ได้กลายเป็นของแกล้มเหล้าของหัวหน้ากันหมดนี่แน่
"
ในระหว่างนั้นเจ้าโจรคนหนึ่งมองไปยังร่างที่สลบไสลของเด็กสาวที่นอนอยู่บนพื้นด้วยประกายตาแปลกๆพร้อมกับพูดว่า
" เฮ้ย ไหนๆ
ก็จะส่งนังนี่ไปให้หัวหน้าแล้วก่อนส่งให้
พวกเราจัดการซะก่อนเลยเป็นไง "
โจรอีก 3 คนมองหน้ากัน แล้วพูด
" โอเคซิกาแร็ต "
" เฮ้ย ขอข้าก่อน
นังนี่มันเล่นข้าซะเดี้ยงขอถอนทุนคืนหน่อยเหอะวะ
" เจ้าโจรขาเดี้ยงพูด
คนอื่นพยักหน้าเป็นเชิงรับ
มันจับร่างของเด็กสาวพลิกหงายขึ้นมาพร้อมกับใช้มือจับไปที่เสื้อของเด็กสาวหมายใจจะกระชากเสื้อของเธอให้ขาด
ใบหน้าน่ารักกับผิวขาวผ่องและรูปร่างอวบอัดของเด็กสาวยิ่งเพิ่มอารมณ์ใคร่ของมันให้รุนแรงขึ้น
มันกระชากเสื้อของเธอขาดทันที
แต่ก่อนที่มันจะล่วงเกินกับร่างของเธอมากไปกว่านี้มีมือของใครคนหนึ่งคว้าคอเสื้อมันจากด้านหลังแล้วกระชากอย่างรุนแรง
ร่างของมันลอยละลิ่วตามแรงกระชากอันมหาศาลนั้นกระเด็นออกทางประตูไปเสียบกับเศษรั้วบ้านที่หักเอียงลงมาทำมุม45
องศา ตายทันที
ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าตัวเองอย่างไม่คาดฝันเช่นนี้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกมันรู้เพียงผลที่เกิดขึ้น
คือ พรรคพวก
ของพวกมันคนหนึ่งถูกจัดการไปแล้วและเด็กสาวรอดพ้นจากการถูกคนชั่วถึง
4คนทำลายพรหมจรรย์เพราะ 'ใครก็ไม่รู้'
ทะลึ่งพรวดเข้ามาจากทางไหนไม่รู้อีกเหมือนกันเล่นเจ้าคนชั่วคนหนึ่งซะดับดิ้นในชั่วพริบตาเดียว
" ไอ้พวกโจรระยำเอ๊ย
หมู่บ้านอื่นมีไม่ปล้นมาปล้นหมู่บ้านที่ชั้นพักอยู่
" 'ใครก็ไม่รู้' คำรามลั่น
ฝ่ายพวกโจรเมื่อหายตะลึงแล้วจึงค่อยได้มีโอกาสพิจารณาร่างของผู้ที่เล่นงานพวกของมันคนหนึ่งไปแล้ว
เป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ดูจากหน้าตาคาดว่าอายุประมาณ 17
- 18ปี ผมยาวระบ่าสีน้ำตาลอ่อน
สวมเสื้อแจ็กเก็ตหนังกับกางเกงขายาวสีดำและหมวกแก็ปใบหน้าคมสันรูปร่างไม่ใหญ่และดูบอบบางจนไม่อยากเชื่อว่า
จะมีกำลังขนาดกระชากคนจนกระเด็นลอยไปไกลขนาดนั้น
แม้ในใจจะมีความหวั่นเกรงอยู่บ้างแต่พวกตนเป็นถึงกลุ่มโจรมหาเหี้ยมนอกจากนี้อีกฝ่ายยังมีคนเดียวแถมเป็นเพียงเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนอีกด้วย
หากยอมแพ้แล้ววิ่งหนีก็เสียศักดิ์ศรีกลุ่มโจรแถมยังจะถูกหัวหน้าฆ่าเอาอีก
พวกมัดคิดได้ดังนี้ก็ชักอาวุธออกมาและพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มพร้อมกัน
" ไอ้พวกไม่รู้จักสำนึก "
เด็กหนุ่มพูดแค่นั้น
แล้วหมุนตัวหลบดาบของโจรคนแรกที่ฟันมาถึงแล้วใช้กำปั้นซ้ายซัดเปรี้ยงเข้าที่ขมับขวาของมันร่างของมันกระเด็นไปกระแทกผนัง
กะโหลกแตกมันสมองกระจายเต็มผนัง
ตายทันทีอีกคนพุ่งเข้ามาพร้อมหอกยาวในมือเด็กหนุ่มหลบไปด้านข้างพร้อมกับคว้าด้ามหอก
ส่วนที่เป็นไม้ไว้ได้โจรอีกคนพุ่งเข้ามาทางด้านซ้ายพร้อมกับดาบที่เงื้อขึ้นเตรียมจะฟัน
แต่เด็กหนุ่มยกหอกที่จับไว้พลิกกลับมาป้องกันดาบที่ฟันลงมาไว้ได้
พร้อมกับใช้เท้าถีบร่างของมันกระเด็นไป
จากนั้นเด็กหนุ่มก็หันกลับมาใช้เท้าเตะใส่ด้ามหอกจนหักในทีเดียวแล้วกระโดดขึ้นกลางอากาศตวัดหอกส่วนที่ตัวเองหักติดมือมา
ให้ด้านคมฟันถูกที่กลางกบาลของมันจนแบะเป็นสองซีก
ฝ่ายเจ้าโจรที่ถูกถีบกระเด็นไปกองกับพื้นเมื่อเห็นพวกตัวเองโดนเล่นจนราบในพริบตาเดียวเท่านั้นก็เกิดกลัวจนขี้ขึ้นสมอง
คิดจะวิ่งหนี
แต่พอเหลือบตาไปเห็นร่างของเด็กสาวที่กำหลังฟื้นขึ้นมาเท่านั้นมันก็นึกแผนขึ้นมาได้ทันที
มันตรงเข้าคว้าร่างของเด็กสาวมาแล้วใช้ดาบจ่อที่คอเธอไว้แล้วตะโกน
" อย่าเข้ามานะ
ไม่งั้นนังเด็กนี่ตาย !!!!! "
มันพูดได้ถึงตรงนี้ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรซักอย่างยัดเข้ามาในปากของตัวเองเป็นปลายหอกที่เด็กหนุ่มหักมาถือไว้นั่นเองที่จ่อปากของมันไว้
" ยังใช้วิธีเชยๆ
แบบนั้นอีกเรอะ "
เด็กหนุ่มพูดขึ้น
" ก็ลองดูสิ
ดูซิว่าใครจะเร็วกว่ากัน "
เจ้านั่นตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวสุดขีดมือที่กำดาบไว้หลุดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แล้วพริบตานั้นปลายหอกก็หันด้านคมขึ้นบนแล้วตวัดขึ้นผ่ากะโหลกมันอีกคน
เด็กหนุ่มโยนหอกที่หักนั้นทิ้งไปพร้อมกับหันไปมองเด็กสาวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาทีท่าของเธอยังไม่หายตื่นตระหนกกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
" เฮ้ย เคนนี่
อยู่นั่นใช่มั้ย ทำอะไรอยู่วะ
"
เสียงเสียงหนึ่งดังมาจากนอกบ้านเด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกว่า
เคนนี่ละสายตาจากเด็กสาวหันกลับไปยังทางที่เสียงดังมาทันทีที่หน้าประตูบ้าน
ซึ่งพังยับนั้น
มีร่างของเด็กหนุ่มอีกคนยืนอยู่
อายุ รูปร่าง และส่วนสูงก็พอๆ
กับเคนนี่
หากแต่เด็กหนุ่มคนนี้มีผมเป็นสีเงินยวงและชี้เหมือนเม่นทั้งหัวและสวมเสื้อไหมพรมกับกางเกงสีขาว
ดวงตาคมเป็นสีดำสนิท
หน้าตาจัดว่าดีใช้ได้ทีเดียว
" แอรอนเรอะ "
เคนนี่เรียกพร้อมกับเดินออกไปนอกบ้าน
"แกหายไปไหนมาวะ
พอออกจากโรงแรมมาก็ไม่เห็นแกเลยไปเล่นซ่อนหาเรอะไง
"
" ไม่รู้ว่ะ
พอไอ้พวกโจรมันบุกมาชั้นก็ตกใจตื่นมาพร้อมกับแกนั่นแหละพอออกมานอกโรงแรมไอ้พวกโจรมันก็ควบม้าเข้ามาเล่นชั้น
ก็เลยแนะนำการออกกำลังกายให้พวกมันนิดหน่อย
พอหันมาอีกที แกก็หายไปแล้ว "
แอรอนอธิบาย
" ชั้นก็เหมือนกัน
พอออกมาจากโรงแรม
อยู่ดีๆก็โดนไอ้พวกนี้เล่นเอาเฉยเลยชั้นเลยหลบไปตั้งหลักตรงอื่น
แล้วส่งพวกมันไปกราบยมบาลซะเลย
"
" ไอ้ที่ว่า 'หลบไปตั้งหลัก' น่ะ
มันตรงไหนเหรอ " แอรอนถาม
" ก็....ไม่ไกลนักหรอก "
เคนนี่ตอบตะกุกตะกัก
"แค่แถวบ้านผู้ใหญ่บ้านน่ะ "
" จะบ้าเรอะ
บ้านผู้ใหญ่บ้านกับโรงแรมน่ะมันอยู่กันคนละฟากของหมู่บ้านเชียวนะ
นี่เรอะที่แกบอกว่าไม่ไกลน่ะ
ดีนะที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ
ถ้าเป็นเมืองใหญ่ๆละก็ชั้นไม่ต้องวิ่งพล่านหาแกจนถึงเช้าเรอะ
" แอรอนโวยวายยกใหญ่
ส่วนเคนนี่ยืนนิ่งไม่ตอบอะไรเพราะรู้ว่าหนนี้ตัวเองผิด
" เอ้อ.....ขอโทษค่ะ "
เคนนี่กับแอรอนหันขวับไปตามเสียงแทบจะพร้อมกันเป็นเสียงของเด็กสาวที่เคนนี่ช่วยไว้ตะกี้นั่นเอง
เธอมองทั้งคู่ด้วยทีท่ากล้าๆ
กลัวๆก่อนจะพูดว่า
" เพื่อนๆ
ของชั้นถูกพวกโจรจับตัวไปน่ะค่ะชั้นรู้ว่าบางทีชั้นอาจจะขอมากเกินไป
แต่ เอ่อ.....กรุณาไปช่วยเพื่อนๆ
ของชั้นกับชาวบ้านคนอื่นๆได้มั้ยคะ
"
เคนนี่กับแอรอนมองหน้ากัน
ก่อนที่แอรอนจะพูดขึ้นมา
" ไม่ใช่แค่ 'อาจจะมากเกินไป'
หรอก 'มากไป'เลยละ "
ได้ยินดังนี้เด็กสาวก็มีสีหน้าสลดลงทันทีแต่ก็กลับมาดีขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเคนนี่
" แต่......ก็ไม่เลวหรอกนะ "
ทั้งคู่มองหน้ากัน
ใบหน้าของทั้งคู่ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็วทันที
โดยทิ้งร่างของเด็กสาวไว้เบื้องหลัง
ในเวลานั้น
กลุ่มโจรทั้งหมดกำลังจัดการกับ
'เหยื่อ'ที่หามาได้ที่เป็นเด็กสาวแรกรุ่นบางคนก็จะถูกพวกมันรุมข่มขืนจนยับ
แล้วจากนั้นก็จะถูกฆ่าอย่างทารุณ
เด็กๆ อายุเพียง 4 - 5
ขวบถูกพวกมันจับมัดกับม้าแล้วพาวิ่งพล่านไปรอบเมือง
ไม่ทันครบรอบเด็กที่ถูกผูกติดอยู่กับม้าก็ตายเสียแล้ว
ชาวบ้านบางคนถูกจับมัดไว้กับเสา
แล้วตัดอวัยวะทีละส่วนๆ
จนกว่าคนถูกทรมานจะทนไม่ไหวตายไปเองบางคนถูกเอาหอกยาวสวนทวารจนไปทะลุปากตายอย่างน่าสยดสยอง
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและเสียงร่ำไห้ยิ่งกระตุ้นให้เหล่าโจรร้ายบ้าคลั่งและทรมานเหยื่อของพวกมันอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งขึ้น
" แย่จริงๆ
เลยแฮะหมู่บ้านนี้ได้ไม่ค่อยคุ้มกับที่มาเลย
"
เจ้าโจรตัวหัวหน้าซึ่งนั่งดูการทรมานอยู่บนแท่นบ่น
" แต่อย่างน้อยก็มีอะไรดีๆ
ให้ดูไม่ใช่เรอะไง "
พี่ชายของหัวหน้าโจรซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
บอก
" แต่แบบนี้มันน่าเบื่อว่ะ
ดูแต่ของซ้ำๆ
กันอย่างนี้ไม่มีอะไรที่มันแปลกใหม่กว่านี้บ้างรึไง
"
ในขณะที่หัวหน้าโจรกับพี่ของมันกำลังคุยกันอยู่นั้นการทรมานและการเล่นสนุกกับ
'เหยื่อ'ของกองโจรก็ยังคงดำเนินต่อไป
เด็กสาวคนหนึ่งเสื้อผ้าถูกฉีกจนลุ่ยเกือบหมดทั้งตัวพยายามจะวิ่งหนีออกจากกลุ่มของพวกโจรที่กำลังข่มขืนเด็กสาวอยู่
โดยมีโจรอีกโขลงใหญ่ไล่ตามเธอมาติดๆ
เด็กสาวพยายามวิ่งสุดชีวิต
แต่ยังช้ากว่าพวกโจรที่ไล่ตามมา
เจ้าโจรคนที่อยู่หน้าสุดกำลังจะคว้าได้ตัวของเด็กสาวอยู่แล้ว
แต่ในพริบตาก่อนที่มันจะคว้าตัวเธอก็มีก้อนอะไรซักอย่างพุ่งมาจากทิศ
ที่เด็กสาวมุ่งหน้าไปกระแทกเอากลางหน้าแงของมันเข้าอย่างจัง
ร่างของมันกระเด็นถอยหลังตามแรงที่พุ่งเข้ามาปะทะใบหน้าของมัน
ไปกองอยู่บนพื้นห่างจากจุดที่มันยืนอยู่ทีแรกถึง
3 เมตร
ทุกคนในที่นั้นต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโจรทุกคนหยุดการทรมานเหยื่อแล้วลุกออกมาตั้งท่าระวังภัยมี
2 - 3 คนวิ่งเข้าไปดูเจ้าคนที่ถูก
'อะไรก็ไม่รู้'
วิ่งมาชนเอาเต็มหน้าก็พบว่าไอ้หมอนั่นตายแล้วกะโหลกส่วนที่ถูกกระแทกนั้นแตกยุบลงไปเป็นรอยบุ๋มและมีรอยแตกเลือดปนสมองไหลเยิ้ม
ที่น่าตกใจคือของที่ใช้ซัดขว้างมาเล่นเจ้าหมอนี่ซะกะโหลกยุบนั้นไม่ใช่ก้อนหิน
แผ่นเหล็ก
หรืออะไรแข็งๆที่คิดว่าน่าจะใช้ขว้างมาได้เลย
หากแต่เป็นศีรษะมนุษย์ !!!
ใช่ !!
ศีรษะของมนุษย์ที่ถูกตัดจากร่างกายแล้วเอามาใช้ซัดขว้างแทนอาวุธระยะไกลนั่นแหละ
" เฮ้ย !!! อะไรวะ ใครซัดมาวะ
เปรี้ยงเดียวจอดเลย "
โจรคนหนึ่งที่วิ่งไปดูศพเพื่อนมันร้องออกมาด้วยทีท่าตกใจในขณะที่มองกลับไปกลับมาระหว่างหัวของเพื่อนมันกับหัวที่ถูกใครบางคนซัดมา
แต่ยังไม่ทันที่มันจะคิดหาข้อสรุปอะไรในหัวก้อนอะไรอีกก้อนก็พุ่งเข้ามากระแทกทะลุขมับขอมันล้มลงตายไปทันทีโดยไม่ทันรู้สึกด้วยซ้ำว่าโดยอะไรเข้าไป
คราวนี้เป็นก้อนหิน
แค่หินธรรมดาเท่านั้นเป็นหินก้อนเล็กๆ
ที่อย่างเก่งก็แค่ปาหัวคนแตกแต่นี่กลับสามารถพุ่งทะลุหัวคนได้
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำลังอันแข็งแกร่งของผู้ที่ขว้างมา
กลุ่มโจรทั้งหมดเริ่มระส่ำระสายทันทีจากการกระทำของมือมืดไร้ตัวตนที่ใช้เพียงหินก้อนเล็กๆกับหัวคนซึ่งดูยังไงก็ไม่น่าใช้ฆ่าคนได้ขว้างมา
จัดการกับพวกมันตายไป 2
คนแถมยังไม่เห็นตัวคนขว้างอีกด้วยว่าอยู่ที่ไหน
" เฮ้ย
อย่าแตกตื่นยิ่งแตกตื่นมันจะยิ่งได้ใจขว้างมาอีก
"
หัวหน้าโจรร้องตะโกนปลุกขวัญลูกน้องของมันเมื่อเห็นว่าลูกน้องเริ่มหายตื่นตระหนกแล้วจึงตะโกนออกไปทันที
" เฮ้ย
แน่จริงอย่าดีแต่ซัดหินซัดกรวดลอบกัดสิวะออกมาเจอกันตรงนี้เลย
"
สิ้นเสียงตะโกนไปครู่หนึ่ง
ก็มีร่าง
2ร่างปรากฎตัวออกมาจากเงามืด
ตรงมายังทิศที่พวกโจรอยู่ไม่ต้องสงสัยว่าใคร
เคนนี่กับแอรอนนั่นเอง
หัวหน้าโจรเมื่อทีแรกนั้นเห็นลูกน้องถูกเล่นงานตายไป
2คน
ก็รู้สึกเกรงๆอยู่ในใจบ้างว่าที่มาจะเป็นยอดฝีมือจากที่ไหน
มาซิ
ยิ่งเก่งยิ่งดี
ไม่ได้ออกแรงมานานแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างไม่ใหญ่และดูท่าทางบอบบางเพียง2
คนเท่านั้นก็เริ่มรู้สึกผิดหวังไปบ้าง
พวกโจรชั้นลูกจ๊อที่ตื่นตระหนกอยู่เมื่อครู่เมื่อได้เห็นว่าคนที่ซัดซะเพื่อนมันตายไป
2คนคือเด็กหนุ่มที่มีลักษณะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น
ก็รู้สึกโกรธแค้นที่โดนเด็กอายุเพียงสิบกว่าปีเช่นนี้หยามน้ำหน้าเอาได้มีโจรคนหนึ่งท่าทางซ่ากว่าเพื่อนถือดาบเล่มโตพุ่งเข้าใส่ทั้ง2
คน
อย่างรวดเร็วโดยตั้งใจจะฟันร่างของเด็กหนุ่มจนขาดเป็น
2 ท่อนพร้อมๆ กันทั้ง 2
คนในดาบเดียว
แต่ยังไม่ทันที่ดาบจะมาถึงตัวของทั้ง
2 คน
ร่างของมันก็ถูกตัดจนขาดเป็น 2
ท่อนกระเด็นไปข้างละท่อน
" ช้าไปว่ะ "
แอรอนกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาพร้อมกับจ้องด้วยสายตาที่น่ากลัวราวกับสัตว์ป่าพวกโจรคนอื่นเห็นเพื่อนของมันถูกฆ่าตายในพริบตาก็รู้สึกตระหนก
แต่เมื่อนึกได้ว่าตัวเองมีพวกมากกว่าก็พยายามข่มความกลัวต่างคนต่างจับอาวุธของตนพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มทั้ง
2 คนทันที
เคนนี่และแอรอนพุ่งแยกกันไปคนละฝั่งของพวกโจรที่กรูเข้ามาอย่างรวดเร็วเคนนี่รวบฝ่ามือทั้งสองข้างเป็นกำหมัด
พุ่งเข้าวาดทั้งเพลงหมัดและเพลงเตะที่รวดเร็วราวกับหมาป่าเข้าใส่โจรที่เข้ามาใกล้ตัว
ส่วนแอรอนนั้นกางฝ่ามือทั้งสองข้างเป็นรูปคล้ายกับกรงเล็บสัตว์ป่าแล้วตบออกไปอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายขวาเหมือนเสือตะปบเหยื่อเพียง
10นาทีเท่านั้นพวกโจรที่รุมเข้ามากว่าร้อยคนเหลืออยู่เพียงไม่ถึง50
คน
พวกโจรเห็นฝีมืออันร้ายกาจราวกับปีศาจของเด็กหนุ่มทั้ง
2คนแล้ว
จากความรู้สึกโกรธแค้นและเสียหน้าที่พวกเดียวกันโดนเล่นงานกลับเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวจนขี้ขึ้นสมองกองโจรเริ่มระส่ำระสาย
หลายคนทิ้งอาวุธในมือวิ่งหนีในขณะที่อีกหลายคนกลัวจนลนลานขาดสติ
แต่ยังคงพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง
หวังจะใช้พวกมากเข้าบดขยี้โดยนึกในใจว่ายังไงพวกนี้ก็เป็นคนมารำมวยอยู่ท่ามกลางคู่ต่อสู้จำนวนมากอย่างรุนแรงและรวดเร็วเช่นนี้
ไม่ช้าก็ต้องหมดแรงและเมื่อนั้นก็เป็นโอกาสของพวกตนที่จะพลิกกลับมาเอาชัยได้
ทว่าไร้ผล
เคนนี่และแอรอนไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลงแม้แต่น้อยตรงข้ามยิ่งพวกตนกรูเข้าไปมากเท่าไหร่
ทั้งคู่ก็จะโต้กลับมาอย่างรุนแรงและรวดเร็วเท่านั้น
เห็นเช่นนี้พวกโจรที่เหลืออยู่นั้นมีความกลัวอยู่ในใจแต่ทีแรกที่เข้าประจัญบานกับ
" ปีศาจ " ทั้ง
2ตนนี้อยู่แล้วก็ระงับความกลัวไว้ไม่อยู่
ทิ้งอาวุธเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์หมาวิ่งป่าราบกันเป็นแถบๆ
แต่แอรอนไม่ปล่อยให้พวกมันหนีพ้นเขาเงื้อมือขวาไปทางด้านหลังจนสุดแล้วหวดมาข้างหน้าเต็มแรงความรุนแรงจากการตวัดกรงเล็บนี้ได้แผ่รัศมี
ไปในอากาศเกิดเป็นใบมีดสุญญากาศขนาดยักษ์พุ่งเข้าใส่สมุนโจรนับสิบคนที่กำลังวิ่งหนีตัดร่างพวกมันออกเป็นท่อนๆ
พร้อมกันในพริบตา
พวกโจรที่รอดจากใบมีดสุญญากาศไปได้พยายามวิ่งหนีไปพร้อมกับนึกดีใจที่หนีพ้นมาได้
แต่แค่นึกเท่านั้น
ร่างของพวกมันก็ถูกฟันจนขาดเป็นท่อนๆ
ด้วยขวานด้ามยาวขนาดยักษ์อาวุธของหัวหน้าโจร
บัดนี้
ทั้งเคนนี่และแอรอนได้ยืนประจัญหน้าอยู่กับหัวหน้าโจรกับพี่ของหัวหน้าโจรหัวหน้าโจรนั้นรูปร่างใหญ่โตถือขวานด้ามยาวขนาดยักษ์
เป็นอาวุธ
ในขณะที่พี่ของมันนั้นรูปร่างค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับน้องชายถือลูกตุ้มด้ามยาวเป็นอาวุธทั้งพี่ทั้งน้องหน้าตาบูดบึ้งพอกัน
" เหลือแต่แกแล้วว่ะ
ไอ้หน้าหลักบูชายัญ "
เคนนี่พูดขึ้น
" พวกที่ล่นงานกองโจรของข้า
มีแค่พวกแกสองคนเรอะ "
หัวหน้าโจรถามขึ้น
" เออว่ะ " แอรอนตอบ
"
ก็แค่ไอ้เด็กเชี่ยตัวเท่าเล็นล่ะสิท่า
" พี่ชายหัวหน้าโจรเหน็บแนม
"
ก็แค่ไอ้หน้าเสาหลักตัวเท่าหมายังงั้นใช่เปล่า
"
เคนนี่ตอกกลับไปพร้อมกับยิ้มกวนตีนนิดๆ
พริบตานั้น
เจ้าหัวหน้าโจรและพี่ชายก็พุ่งพรวดเข้ามาพร้อมๆ
กันพวกมันหวดอาวุธเข้าโจมตีใส่ทั้งสองทันที
ทั้งคู่หมุนครึ่งวงกลมหลบออกไปคนละทางพร้อมกับจู่โจมกลับไปอย่างช่ำชอง
แต่เจ้าหัวหน้าโจรกับพี่ชายเองก็ไม่ใช่ขี้ๆพวกมันหลบการจู่โจมของเคนนี่และแอรอนได้อย่างรวดเร็วผิดกับรูปร่างแล้วหวดอาวุธหนักในมือ
เข้าใส่ตรงๆ
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเสียหลักจากการโดยมั่นใจว่าทั้งคู่ไม่มีทางหลบพ้นแน่ถ้าฝืนรับด้วยรูปร่างที่บอบบางของเด็กหนุ่ม
จะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเลยทีเดียว
แต่ผิดคาด
ทั้งเคนนี่และแอรอนต่างใช้มือรับอาวุธของพวกมันที่หวดเข้าใส่เต็มแรงได้ร่างของทั้งคู่สั่นไหวเล็กน้อยจากพลังอันรุนแรง
ที่แฝงมากับการจู่โจมแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าบาดเจ็บจากการรับการจู่โจมที่น่ากลัวเข้าตรงๆ
แม้แต่นิดเดียว
หัวหน้าโจรกับพี่ของมันถึงกับตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"
การลงมือครั้งแรกมักจะเป็นการลงมือที่เจ๋งสุดขีดเสมอ"
เคนนี่พูดพร้อมกับยิ้มหยันๆ
ตรงมุมปาก
"
แต่ความเจ๋งของพวกแกนี่โหลยโท่ยชิบหายเลยว่ะ
"
แอรอนต่อท้ายและทำกิริยาอย่างเดียวกัน
พวกมันได้ยินดังนั้นก็โกรธแทบคลั่งสะบัดอาวุธให้หลุดจากการเกาะกุมของเคนนี่และแอรอน
ทำให้ทั้งคู่ต้องกระโดดถอยไปตั้งหลัก
" พวกข้าจะโชว์ความเจ๋งให้ดู !!!
" หัวหน้าโจรคำราม
"พวกแกต้องเสียใจที่มาท้าพวกข้า
พี่ !!! กลายร่าง
!!!ให้พวกมันเห็นว่าเราเจ๋งแค่ไหน
!!! "
เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างของหัวหน้าโจรและพี่ชายกล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้นขาสองข้างเปลี่ยนจากรูปเท้าคนเป็นรูปเท้าสัตว์กีบ
ส่วนหัวเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากหัวคนก็ค่อยๆ
ยื่นออกมาเป็นลักษณะของหัวควายและเขาก็งอกออกมาพร้อมกับขนสีเทาขึ้นทั่วตัว
พวกมันคำรามก้องพร้อมกับหวดอาวุธออกมาพร้อมกันเคนนี่กับแอรอนกระโดดหลบทั้งปลายขวานและลูกตุ้มเหล็กจึงฟาดไปถูกดินระเบิด
ออกมาเป็นหลุมขนาดใหญ่
" ฮ่า ๆ ๆ เป็นไง
ซีดไปเลยล่ะสินี่ละโว้ยความเจ๋งของมนุษย์สมิงอย่างพวกข้าละ
"หัวหน้าโจรตะโกนก้อง
พร้อมกับควงอาวุธไปในอากาศ "
ด้วยร่างที่พระเจ้าประทานมาให้นี้จะทุบพวกมนุษย์อ่อนแออย่างพวกแกให้แหลกเละจมดินได้ในพริบตา"
เคนนี่กับแอรอนไม่มีทีท่าตระหนกแม้สักนิดทั้งคู่มองหน้ากันและหัวเราะออกมาดังลั่น
"
พวกข้าก็มีอะไรจะให้แกดูเหมือนกัน
"ทั้งคู่ประกาศก้อง
สิ้นเสียงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของทั้งคู่อย่างที่เกิดกับหัวหน้าโจรกับพี่มันร่างของเคนนี่เปลี่ยนไปโดยเริ่มจากกล้ามเนื้อขยายใหญ่
ขนสีน้ำเงินขึ้นทั่วตัว มือทั้ง
2ข้างเปลี่ยนไปเป็นลักษณะของกรงเล็บสัตว์เท้าทั้งสองข้างก็เปลี่ยนรูปไปเป็นลักษณะของเท้าสัตว์ป่ากินเนื้อ
หางยาวเป็นพวงและส่วนหัวก็ยื่นออกมาเป็นรูปหัวหมาป่า
!!!!
การเปลี่ยนแปลงของแอรอนนั้นไม่ต่างอะไรกับเคนนี่เท่าไหร่ต่างกันที่ขนที่งอกทั่วร่างเป็นสีดำปลอดหางยาวเป็นเส้นตรงแบบหางเสือ
และส่วนหัวที่เปลี่ยนไปเป็นรูปหัวเสือดำ
!!!!
หัวหน้าโจรกับพี่ของมันถึงกับตะลึงงันด้วยไม่คาดคิดว่าเด็กหนุ่มรูปร่างเล็กที่แท้จะเป็นมนุษย์สมิงในขณะที่พวกมันยืนตะลึงมองอยู่นั้นเสียงพูด
อย่างเย้ยหยันของเคนนี่ดังมา
" ตกใจอะไรกัน
นี่แค่กลายร่างเฉยๆยังไม่ได้เริ่มสู้เลยนะ
"
พวกมันได้ยินดังนั้นก็โกรธพุ่งเข้าหาทั้งคู่อย่างรวดเร็วด้วยกระบวนท่าเดียวกับที่ใช้ตอนประมือกันทีแรก
ทว่ารวดเร็วกว่า
รุนแรงกว่าทีแรกนับสิบเท่า
เคนนี่กับแอรอนไม่หลบ
ทั้งคู่ตวัดกรงเล็บมือเข้าไปปะทะกับอาวุธของโจรสองพี่น้องที่ฟาดมา
ทันใดนั้น
ก็เกิดเสียงดังราวกับฟ้าผ่าขึ้นเกิดจากอาวุธที่โจรสองพี่น้องปะทะกับกรงเล็บของเคนนี่กับแอรอนแล้วหักสะบั้นนั่นเองเศษของปลายอาวุธ
ที่หักกระเด็นไปปักจมลงไปในพื้นดินแทบจะทั้งดุ้น
" ว่าไง "
เคนนี่ถามออกไปพร้อมกับยิ้มกวนๆ
" เพิ่งเคยตาแหกเรอะพวก "
แอรอนต่อท้าย
โจรสองพี่น้องโกรธจนหน้าสีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีแดง
"อย่าดูถูกกันมากนัก !!!! ไอ้หนู !!!!
"
พวกมันคำรามก้องพร้อมกับพุ่งเข้ามาพร้อมกับหันเขาโค้งคมขาววับบนหัวพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มทั้งสอง
คราวนี้ทั้งคู่ไม่เข้าปะทะตรงๆเพียงหลบไปหลบมาให้พ้นจากคมเขาของโจรสองพี่น้องเท่านั้นส่วนโจรสองพี่น้องเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เข้าปะทะพลัง
กับพวกมันตรงๆเอาแต่หลบไปมาดังนั้นก็เกิดฮึกเหิมพุ่งเข้าขวิดทั้งคู่อย่างบ้าคลั่งมากขึ้นมีครั้งหนึ่งที่เจ้าคนพี่พุ่งเข้าขวิดถูกบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง
บ้านทั้งหลังถึงกับถล่มลงมาทันทีในการขวิดครั้งเดียว
" เป็นไง !!!
ไม่กล้าเข้าปะทะพลังอย่างตะกี้อีกรึวะ
"
เจ้าหัวหน้าโจรเย้ยหยันเข้าให้บ้าง
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ตอบโต้อะไร
โจรสองพี่น้องต้อนเคนนี่กับแอรอนเข้ามาจนเข้าไปถึงทางตันแห่งหนึ่งเป็นทางกว้างขนาดให้พวกโจรสองพี่น้องเข้าไปยืนได้พอดี
พวกมันเห็นอีกฝั่งที่ทั้งคู่ยืนอยู่เป็นทางตันก็นึกกระหยิ่มอยู่ในใจ
เสร็จกูละมึงหนีมาทางไหนไม่หนี
หนีมาเจอทางตัน
วันนี้เป็นวันตายของพวกมึงแน่ละ
คิดได้ดังนั้น
พวกโจรสองพี่น้องก็ยืนในท่าพร้อมวิ่งตั้งเขาคมขาววับไปข้างหน้าแล้วพุ่งเข้าหาเคนนี่กับแอรอนอย่างรวดเร็วทันที
แต่ทั้งคู่ยังคงยืนนิ่งอยู่
ไม่ขยับแม้แต่น้อยจนกระทั่งพวกมันเข้ามาในระยะเกือบจะถึงตัวอยู่แล้ว
พริบตานั้น
ทั้งเคนนี่และแอรอนก็กระโดดหมุนตัวขึ้นพร้อมๆ
กันข้ามหัวของโจรสองพี่น้องที่พุ่งเข้ามาไปได้โจรทั้งสองตกตะลึง
พยายามจะหยุดวิ่ง
แต่ไม่สามารถหยุดได้ในทันทีร่างของพวกมันเซถลาไปชนกับทางตันข้างหน้าอย่างรุนแรงจนกำแพงพังลงมา
ส่วนเคนนี่กับแอรอนหลังจากที่กระโดดหมุนตัวข้ามหัวไปแล้วเท้าของทั้งคู่แตะกับพื้นดินแล้วจู่ๆทั้งคู่ก็บิดตัวกลับมาแล้ว
กระโจนเข้าหาโจรสองพี่น้องอย่างรวดเร็วแบบเดียวกับเสือหรือหมาป่ากระโจนเข้าขย้ำเหยื่อเกาะบนหลังของพวกมัน
โดยเคนนี่เกาะคนน้อง
แอรอนเกาะคนพี่
โจรสองพี่น้องพยายามยื่นมือมาข้างหลังเพื่อจับทั้งคู่ออก
แต่กรงเล็บมือของทั้งคู่นั้นจิกลงบนจุดชาบนไหล่ที่ส่งผลเข้าไปถึงการทำงานของกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างทำให้พวกมันขยับแขนไม่ได้
ทั้งเคนนี่และแอรอนแสยะปากสีแดงสดออกเผยให้เห็นฟันคมขาววับซึ่งแต่ละซี่โตเท่านิ้วมือคน
แล้วขย้ำลงบนคอของโจรทั้งสองทันที
ทั้งโจรคนพี่และคนน้องร้องไม่มีเสียงเพราะหลอดลมถูกกัดจนขาด
เลือดสดๆทะลักออกจากลำคอที่ถูกกัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ
เคนนี่กับแอรอนกระโดดลงจากหลังของพวกมัน
ลงมายืนอยู่ข้างหน้าพวกมันทันที
โจรสองพี่น้องพยายามส่งเสียงร้องขอความเมตตา
แต่ทำไม่ได้ด้วยหลอดลมถูกกัดจนขาด
" หือ แกอยากจะพูดอะไรเรอะ "
แอรอนกล่างขึ้นอย่างเย็นชาพร้อมกับจ้องพวกมันด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
" ไม่ได้ยินว่ะ พูดให้มันชัดๆ
หน่อยสิวะ "
ร่างของโจรสองพี่น้องค่อยๆทรุดลงกับพื้นล้มลงไปหายใจรวยรินอยู่ครุ่หนึ่งก็กระตุกเฮือกแล้วสิ้นใจ
" ให้ตายสิวะ
แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับไอ้พวกชาติควายนี่จริงๆ
นะ จริงๆ
แล้วชั้นกะจะฉีกพวกมันเล่นทั้งเป็นๆจนกว่าจะตายซะหน่อย
"
แอรอนบ่นออกมา
" เอาเหอะ
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำยังงี้แล้วนะ
ดูสิ
พวกชาวบ้านที่รอดตายมากันโน่นแล้ว
"
เคนนี่พูดพร้อมกับชี้มือไปยังทิศที่ชาวบ้านเดินมา
"ทางที่ดีเราควรจะเผ่นออกจากหมู่บ้านนี้โดยเร็วที่สุด
"
" ชั้นก็ว่างั้น "
ทั้งคู่กระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านใกล้ๆกระโจนไปตามหลังคาบ้านต่างๆอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหายไปในพริบตา
ทั้งคู่วิ่งมาจนถึงลำธารเล็กแห่งหนึ่งห่างจากหมู่บ้านตะกี้พอสมควรทั้งคู่จัดการล้างเลือดของโจรสองพี่น้องที่เปื้อนติดปากเล็บและตามลำตัวจนหมด
แล้วคืนกลับมาเป็นร่างมนุษย์ตามเดิม
"
กลายร่างแต่ละทีเสียดายเสื้อกับกางเกงชะมัดเลยแฮะ
"
เคนนี่บ่นออกมาเบาๆ
"ถึงจะใช้พลังออร่าสร้างเป็นรูปเสื้อผ้าปิดส่วนที่ขาดไว้ได้ก็เหอะ
ยังไงก็ต้องเสียเงินตัดเสื้อใหม่อยู่ดี
"
" หึ
ไม่เป็นไรน่ายังไงกลับไปก็มีคนออกตังค์ค่าตัดเสื้อให้ไม่ใช่เรอะไง
" แอรอนพูดล้อเล่น "
ท่านกราเซียน่ะ "
"
แต่ก็ไม่อยากรบกวนเงินของท่านเท่าไหร่เลยว่ะ
จริงสิกำหนดประชุมผู้นำแคว้นต่างๆ
ของรัฐอวาเลียน่ะมันวันไหนเรอะ
"
" ประมาณวันที่ 14 - 15
ที่จะถึงนี่แหละ "
" เอ๊ะ เดี๋ยว มันอีกแค่ 2
วันเองไม่ใช่เรอะเนี่ยทำไมมันเร็วนักวะ
"
"ก็พวกเรามัวแต่ไปเล่นกับพวกโจรพวกคนชั่วระหว่างทางอยู่ซะหลายวันนี่นามันก็ต้องช้าน่ะสิ
"
" ตายล่ะ
ท่านกราเซียสั่งให้มาให้ตรงกำหนดซะด้วย
แล้วทำไมแกถึงไม่ ..... "
ยังไม่ทันที่เคนนี่จะพูดจบ
แอรอนก็แทรกขึ้นมา
" ไม่ต้องพูดเลย
คนต้นคิดไปลุยกับพวกนั้นน่ะแกไม่ใช่เรอะ
"
"
แล้วแกล่ะสมัยที่เป็นนักฆ่าแกก็ลุยอย่างนี้มาตลอดไม่ใช่เรอะหรือแกจะปฏิเสธว่า
ไม่ชอบ ล่ะ หา "
" ปฏิเสธ "
แอรอนเว้นระยะนิดหนึ่งก่อนจะพูด
"ได้ยังไงเล่า "
ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างร่าเริงแล้วเคนนี่ก็พูดขึ้นมา
" นอนพักซัก 2 - 3 ชม.
เถอะเดี๋ยวต้องรีบเดินทางต่อ
เมืองมิวส์ยังอยู่อีกไกลนะ "
ทั้งเคนนี่และแอรอนเอนตัวลงนอนพิงกับต้นไม้ล้อมรอบกองไฟที่จุดขึ้นเพื่อไล่ยุงและสัตว์ป่าเป็นเวรของเคนนี่ที่จะต้องคอยเฝ้าไว้ไม่ให้กองไฟมอด
เคนนี่ทอดสายตามองไปรอบๆ
ตัวที่มืดมิด
แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ซึ่งขณะนั้นดวงจันทร์เพ็ญสีน้ำเงินดวงโตลอยเด่น
อยู่ค่อนมาทางซีกขวาของท้องฟ้าบ้างแล้ว
เขามองจันทร์สีน้ำเงินด้วยแววตาสงบราวกับปล่อยจิตใจให้ลอยไปยังที่ใดที่หนึ่งแล้วเอื้อนเอ่ยบทเพลงขึ้นมา
ฝ่าอวลไอหนาวในยามค่ำได้
ด้วยแรงใจลุกโชนถวิลหา
พร้อมประมือถือมีดคมเป็นศาสตรา
ดั่งหมาป่าเดียวดายในราตรี
ด้วยสายตาจองหองจ้องมองโลก
ไร้ทุกข์โศกในใจไร้ความเหงา
นามที่มีก็เป็นดังเช่นเงา
ทาบทอ..... ทบเทา .... บนจันทรา
กระจกร้าวส่องเงาประกายล้าน
เสียงสะท้อนจากวันวานค่อยเลือนหาย
แต่ว่าเราก็ยังหาคำตอบได้
แล้วสุดท้าย.... เราจะไป.... สุดโลกา.....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
แนะนำตัวละคร
เคนนี่ เบลซ ลอร์ดแมน (Kenny Blaze Lordman )
สูง : 171 ซม. หนัก : 60 กก.
Beast Form : หมาป่า (Wolf)
อาชีพ : คนพเนจร (Vagabond)
แอรอน บลิทซ์ ควิกซิลเวอร์ (Aaron Blitz
Quicksilver)
สูง : 173 ซม. หนัก : 55 กก.
Beast Form : เสือดำ (Black Panther)
อาชีพ : นักฆ่า (Assassin)