การบวชของ
หลวงปู่ดูลย์ นั้น
ความจริงท่านมิได้มีเจตนาที่จะรุ่งโรจน์ทางด้านปริยัติธรรม
หรือด้านการปกครอง ถึงแม้ สมเด็จพระมหาวีรวงค์
ติสสมหาเถระ ตั้งความหวังว่าจะให้หลวงปู่เป็นผู้นำในการเผยแพร่
และปกครองเสมือนเป็นหูเป็นตาแทนท่านในเขตเมืองสุรินทร์ก็ตาม
แต่เนื้อแท้และความปรารถนาอย่างแท้จริงของหลวงปู่
คือ การออกปฏิบัติ ปรารภความเพียรในความวิเวกต่างหาก
เป็นความต้องการที่เคยมาดหมายไว้
เมื่อแรกบวชที่จังหวัดสุรินทร์
และที่อุตส่าห์รอนแรมมาจังหวัดอุบลราชธานี
ก็เพื่อการนี้
ด้วยความตั้งใจของท่าน
และเมื่อ หลวงปู่สิงห์ ออกปากชวนให้ออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาแห่งภาคอิสาน
จึงสอดรับกับความต้องการของหลวงปู่อย่างดียิ่ง
ครั้นออกพรรษาแล้ว
เมื่อปลายปี พ.ศ.
๒๔๖๑
นั้นเอง หลวงปู่มั่นพระอาจารย์ใหญ่
ก็ออกธุดงค์อีก
หลวงปู่ทั้งสองสหาย คือ
หลวงปู่สิงห์
และหลวงปู่ดูลย์
ก็ตัดสินใจเด็ดขาด
สละละทิ้งการเรียนการสอน
ออกจาริกธุดงค์
ติดตามพระปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
ไปทุกหนทุกแห่ง
จนตลอดฤดูกาลนอกพรรษานั้น
ตามธรรมเนียมธุดงค์กัมมัฏฐานของ
พระอาจารย์ใหญ่มั่น นั้นมีอยู่ว่า
เมื่อถึงกาลเข้าพรรษา
ไม่ให้จำพรรษารวมกันมากเกินไป
ให้แยกย้ายกันไปจำพรรษาตามสถานที่อันวิเวก
ไม่ว่าจะเป็นวัด เป็นป่า
เป็นเขา โคนไม้ ลอมฟาง
เรือนว่าง
หรืออะไรตามอัธยาศัยของแต่ละบุคคล
แต่ละคณะ
ขณะเดียวกัน
เมื่อออกพรรษาแล้ว
ก็จะถึงวาระแห่งการประชุมกัน
หากทราบข่าวว่า พระอาจารย์ใหญ่มั่น
อยู่ ณ ที่ใด
ก็จะพากันไปจากทุกทิศทาง
มุ่งตรงไปยัง ณ ที่นั้น
ความประสงค์ก็เพื่อเรียนพระกัมมัฏฐาน
และเล่าแจ้งถึงผลของการประพฤติปฏิบัติที่ผ่านมา
เมื่อมีอันใดผิด
พระอาจารย์ใหญ่
ก็จะช่วยแนะนำแก้ไข
อันใดถูกต้องดีแล้ว
ท่านจะได้แนะนำข้อกัมมัฏฐานให้ยิ่งๆ
ขึ้นไป
ในพรรษาแรกที่ร่วมออกธุดงค์ติดตาม
พระอาจารย์ใหญ่มั่น นี้
หลวงปู่บอกว่ายังไม่มีอะไรมาก
เพียงแต่เป็นการฝึกการใช้ชีวิตแบบพระป่า
และใช้หลักความรู้ในการฝึกปฏิบัติเบื้องต้น
เป็นการสร้างฐานความรู้ให้มั่นคง
สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจจริงอย่างหลวงปู่แล้ว
ท่านไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์
ท่านได้เร่งการฝึกปฏิบัติความเพียรอย่างเคร่งครัด
โดยมี ฉันทะ คือ
ความเชื่อมั่นและศรัทธาในความสำเร็จที่หวังว่าจะต้องเกิดขึ้นในตัวท่านอย่างแน่นอน
จากการได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติกับท่านพระอาจารย์ใหญ่
ตลอดการออกธุดงค์ในช่วงนี้
ทำให้หลวงปู่เกิดความเลื่อมใสในแนวทางธุดงค์กัมมัฏฐานเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อใกล้ฤดูกาลเข้าพรรษาในปีนั้น
(พ.ศ. ๒๔๖๓) คณะของหลวงปู่
ซึ่งนำโดยหลวงปู่สิงห์
ก็แยกย้ายจากพระอาจารย์ใหญ่
พาหมู่คณะแสวงหาที่สงบวิเวก
เพื่อบำเพ็ญเพียรในช่วงเข้าพรรษาต่อไป