ในการบริหารการพระศาสนาที่วัดบูรพารามนั้น
หลวงปู่ท่านอยู่ในฐานะประธานสงฆ์
ได้แบ่งงานด้านการศึกษาและการปกครองให้แก่
พระมหาพลอย อุปสโม
เป็นผู้ดำเนินการ
ด้านการเผยแพร่เทศนาอบรมประชาชน
ได้มอบให้ พระมหาเปลี่ยน
โอภาโส เป็นผู้ดำเนินการ
จากวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๗๗
เมื่อหลวงปู่มาพำนักที่วัดบูรพารามครั้งแรก
จนกระทั่งละสังขารเมื่อเวลา
๐๔.๑๓ น. ของวันที่ ๓๐ ตุลาคม
๒๕๒๖ รวมเป็นเวลา ๕๐ ปีเศษ
ที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
พำนักอยู่ ณ วัดแห่งนี้
ปี พ.ศ. ๒๔๗๘
หลวงปู่ได้รับแต่งตั้งเป็น
เจ้าคณะแขวงรัตนบุรี
ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดต่อกับ
อำเภออุทุมพรพิสัย
จังหวัดศรีสะเกษ
และอำเภอสุวรรณภูมิ
จังหวัดร้อยเอ็ด
จนกระทั่งถึงวันที่ ๑
มีนาคม ๒๔๗๙
จึงได้รับแต่งตั้งเป็น พระครูสัญญาบัตร
เจ้าคณะแขวงรัตนบุรี
วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๘๐
ได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์วิสามัญ
ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย
กระทั่งวันที่ ๑ พฤษภาคม
๒๕๐๑
จึงได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์
ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย อีก ๓
ปีต่อมา
ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ
(เจ้าคุณ) ที่ พระรัตนากรวิสุทธิ์
วินยานุยุตธรรมิกคณิสสร
หรือ "พระรัตนากรวิสุทธิ์"
วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๒๒
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช
ที่ พระราชวุฒาจารย์
ศาสนาภารธุรกิจยติคณิสสร
บวรสังฆาราม คามวาสี หรือ
"พระราชวุฒาจารย์" อันเป็นสมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่
ตั้งแต่กลับจากจังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗
หลวงปู่มาพำนักประจำที่วัดบูรพารามแห่งเดียวติดต่อกันมา
ท่านได้ปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ
จนกระทั่งกรมการศาสนาได้ยกขึ้นเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
ในปี พ.ศ. ๒๕๑๑
วัดบูรพารามได้รับการพัฒนาต่อเนื่องกันมา
และเป็นที่น่าปลาบปลื้มแก่ปวงชนชาวสุรินทร์เป็นอย่างยิ่ง
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ
ให้ยกวัดบูรพาราม
ขึ้นเป็นพระอารามหลวง
เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๒๐
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดบูรพาราม
จังหวัดสุรินทร์
ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักแก่สาธุชนผู้สนใจในธรรมทั่วไป
และเป็นแบบอย่างแก่วัดทั่วไปในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง
ประชาชนทั่วไปได้เริ่มหลั่งไหลเข้ามาศึกษาธรรมะ
เข้ามาคารวะกราบขอพรจากหลวงปู่
ตามกิตติศัพท์ที่เล่าลือกันไปอย่างไม่ขาดสาย
แม้กระทั่งทุกวันนี้
แม้หลวงปู่ได้ละทิ้งสังขารไปแล้วตั้งแต่
พ.ศ. ๒๕๒๖
และไม่มีองค์หลวงปู่อยู่ที่วัดแล้ว
ก็ยังมีผู้เลื่อมใสศรัทธาดำเนินตามแนวทางคำสอนของท่าน
ได้ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาไว้ซึ่งแนวทางนั้นโดยทุกประการ
ผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ก็ยังแวะเวียนไปกราบรูปเหมือนของหลวงปู่
และมีความรู้สึกว่าหลวงปู่ยังคงเป็นที่พึ่งทางธรรมให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาอยู่ตลอดไป