เมื่อหลวงตาพวงได้พักอยู่ปฏิบัติสมาธิภาวนากับหลวงปู่เป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว
ก็เดินทางกลับไปบำเพ็ญเพียร
และปฏิบัติศาสนกิจต่อไป
ที่เขาพนมรุ้ง
จังหวัดบุรีรัมย์
หลวงตาพวงเจริญอยู่ในพระศาสนาสืบต่อมาจนวาระสุดท้าย
และถึงแก่มรณภาพเมื่อ พ.ศ.
๒๕๒๖ เมื่ออายุได้ ๘๘ ปี
และจนบัดนี้สรีระของท่านก็ยังคงตั้งอยู่ที่
วัดปราสาทเขาพนมรุ้ง
ยังมิได้รับการกระทำพิธีฌาปนกิจแต่ประการใด
หลวงปู่เล่าให้ฟังต่อมาภายหลังว่า
มีหลายท่านที่ประสบเหตุทางธรรมปฏิบัติเช่นเดียวกันกับหลวงตาพวง
สำหรับที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่เองก็ยังมีอีกองค์หนึ่ง
ที่สำคัญตนผิดอย่างถึงขนาด
ก็คือ ท่านพระอาจารย์เสร็จ
ซึ่งบัดนี้มรณภาพไปแล้ว
ท่านพระอาจารย์เสร็จ
เป็นผู้เริ่มก่อตั้ง วัดกระดึงทอง
จังหวัดบุรีรัมย์
ท่านเป็นพี่ชายของท่านเจ้าคุณ
พระราชปัญญาวิสารัตน์ (เหลือง
ฉฺนทาคโม)
เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ฝ่ายธรรมยุตในปัจจุบัน
ในกรณีของพระอาจารย์เสร็จนี้
หลวงปู่เล่าว่า
กำลังเตรียมตัวเดินทาง
เพื่อจะไปแสดงธรรมเทศนาโปรด
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมพระวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.
ชื่น นพวงศ์)
แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร
หลวงปู่ว่า
พระอาจารย์เสร็จสำคัญตนผิด
จนมีความทะเยอทะยานมากถึงขนาดนั้น
ด้วยเข้าใจว่าคนอื่นๆ
ไม่รู้ธรรมะธรรมโมอะไรเลย
หลวงปู่ก็ได้ช่วยแก้ไข
และชี้แนวทางให้อย่างทันต่อเหตุการณ์
สำหรับพระอาจารย์เสร็จนี้
หลวงปู่ว่าแก้ไขได้ง่ายกว่าหลวงตาพวง
เพราะไม่ถึงขั้นต้องยั่วให้โกรธเสียก่อน
ใน ๒ กรณีที่ยกมา
เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า
หลวงปู่เป็นหลักที่สำคัญเพียงไร
สำหรับนักปฏิบัติแถวจังหวัดสุรินทร์
และบุรีรัมย์ เมื่อศิษยานุศิษย์หรือผู้ใดมีข้อสงสัยไม่เข้าใจ
หรือประสบกับอุปสรรคสำคัญในทางปฏิบัติ
และช่วยตนเองไม่ได้
ไม่ว่าในลำดับของการปฏิบัติขั้นใด
หลวงปู่ก็สามารถชี้แนะได้ตลอดสาย
ทำให้ผู้เป็นศิษย์เข้าถึงผลการปฏิบัติได้
แม้ในลำดับที่สูงยิ่งๆ
ขึ้นไป