หลวงปู่เล่าว่า
ครั้งหนึ่ง
มีพวกสาธุชนปัญญาชนกลุ่มหนึ่งมาสนทนาธรรมด้วย
และถามท่านว่า
"วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ
หลวงปู่จึงได้สร้าง
หรืออนุญาตให้สร้างเหรียญขึ้น?"
หลวงปู่จึงวิสัชชนาว่า
"พวกท่านทั้งหลายแสดงความสนใจในการบำเพ็ญภาวนา
ก็พากันบำเพ็ญภาวนาไป
ไม่ต้องไปห่วงไปสนใจกับวัตถุมงคลอันเป็นของภายนอกนี้
แต่สำหรับผู้มีจิตใจเพลิดเพลินอยู่
ยังยินดีในการเกิดตายในวัฏฏสงสาร
ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้
ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอกเช่นวัตถุมงคลเช่นนี้เป็นที่พึ่งไปก่อน
อย่าไปตำหนิติเตียนอะไรเลย
ครั้นเขาเหล่านั้นประสบเหตุเภทภัยมีอันตรายแก่ตน
และเกิดแคล้วคลาดด้วยคุณแห่งพระรัตนตรัยก็ดี
โดยบังเอิญก็ดี
ก็จะเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ในภายหลัง
ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้เจริญงอกงามในทางที่ถูกต้องได้เอง
สำหรับผู้ที่มีศรัทธามากแล้วชอบการบำเพ็ญภาวนาจิตใจในธรรมปฏิบัติอันยิ่งๆ
ขึ้นไป
ในเรื่องวัตถุมงคลนี้
หลวงปู่จะบอกตามสัจจธรรมว่า
"ไม่มีอะไร
เป็นเพียงช่วยด้านกำลังใจเท่านั้น"
หลวงปู่มักกล่าวว่า "เอาไปทำไม
ของที่เป็นภาระต้องเอาใจใส่ดูแลของที่ต้องทิ้งเสียในภายหลัง"
แล้วท่านก็สอนเป็นปริศนาธรรมว่า
"จงเอาสิ่งที่เอาได้
จงอย่าเอาสิ่งที่เอาไม่ได้"
ถ้ามองในแง่ของปุถุชนสามัญธรรมดาแล้ว
ความศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระรัตนตรัยย่อมมีปรากฏเป็นอัศจรรย์ได้
ดังเช่นพระพุทธานุภาพแห่งพระบรมศาสดาที่ได้ทรงแสดงแก่เหล่าเดียรถีย์นอกศาสนา
ดังนั้น
ความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัยจะบังเกิดคุณประโยชน์อย่างไร
ขอท่านทั้งหลายพิจารณาถือเอาตามสมควรแก่ตนเทอญ