ผลที่ได้รับจากการอยู่รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่มานานปี
มีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งบอกไม่ถูกว่าเป็นผลดีหรือไม่ดี
คือเป็นคนที่ไม่ฉลาดและไม่พิถีพิถันในการเอาอกเอาใจผู้อื่น
ทั้งนี้ก็เพราะเหตุที่ หลวงปู่ท่านเป็นคนที่สุดแสนจะปรนนิบัติง่าย
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ไม่ยินดีให้ผู้อื่นต้องเสียเวลามาปรนนิบัติท่านจนเกินจำเป็น
ท่านจะยินยอมให้พอสมควรแก่การที่ศิษย์ได้นับว่าบำเพ็ญอุปัชฌายวัตร
อาจาริยวัตรเรียบร้อยตามพระวินัยเท่านั้น
เสร็จแล้วท่านก็รีบไล่ให้ไปดูตำรับตำรา
หรือไปทำสมาธิภาวนากันต่อไป
กิจที่ยังมีเหลือให้ทำอยู่อีกท่านก็จะช่วยตัวเอง
บางครั้งแม้จะมีพระเณรคอยรับใช้อยู่ท่านก็ยังทำเอง
เช่น เดินไปหยิบของ
เดินไปเปิดปิดไฟ
หรือรินน้ำใส่แก้ว
เป็นต้น
และท่านทำด้วยความคล่องแคล่วรวดเร็วมาก
จนผู้คอยปฏิบัติอาจาริยวัตรขยับตัวไม่ทันเลยทีเดียว
แม้การนุ่งห่มสบงจีวร
แต่งเครื่องบริขารท่านก็มักจะทำเองโดยไม่ยอมให้ใครช่วย
เมื่อลองมาพิจารณาดูแล้ว
ก็พอจะสรุปเหตุผลได้ดังนี้
ประการแรก
หลวงปู่ท่านเป็นคนไม่มีมายา
ไม่มีการวางมาดนั่งอย่างนั้น
ยืนอย่างนี้ พูดอย่างนี้
เดินอย่างนี้
อะไรทำนองที่ทึกทักด้วยตนเองว่าทำให้เกิดความภูมิฐาน
น่าเลื่อมใสน่านับถือ
น่ายำเกรง หรือมีบุญญาธิการ
เวลาจะพูด ก็ไม่มีการทำสุ้มเสียงให้ห้าวกระหึ่มผิดปรกติ
ให้น่าเกรงขามทำตนให้เป็นคนที่ใครๆ
เอาใจยากๆ หน่อย
ไม่เช่นนั้นจะดูเป็นคนปกติธรรมดาสามัญไป
หลวงปู่จะทำอะไรทำโดยกิริยา
พูดโดยกิริยา
ไม่ทำให้ใครลำบากโดยใช่เหตุ
ไม่พูดให้ใครอึดอัดใจ
เพียงเพื่อจะสนองตัณหาหรือปมด้อยหรืออัสมิมานะ
(การถือเขาถือเรา)
อะไรบางอย่าง
ประการที่สอง
หลวงปู่ท่านเป็นคนเข้มแข็ง
คนที่เข้มแข็งย่อมไม่นิยมการพึ่งพาผู้อื่นเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะในกิจที่เล็กๆ
น้อยๆ คนอ่อนแอเท่านั้น
ที่คอยแต่จะอาศัยคนอื่นโดยไม่จำเป็น
เด็กที่อ่อนแอย่อมคอยแต่จะอ้อนมารดา
โยกเยกโยเยด้วยอาการต่างๆ
เป็นอาจิณ
ผู้ใหญ่ที่อ่อนแอก็เช่นกัน
อยู่ก็ยาก กินก็ลำบาก
งอแงหงุดหงิด เจ้าโทสะ
ต้องมีคนคอยเอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลาเหมือนเด็กอ่อนขี้โรค
หลวงปู่ท่านเป็นคนหาความอ่อนแอไม่พบ
เป็นผู้ที่มีความสง่าผ่าเผยโดยไม่ต้องวางมาด
ทุกอิริยาบถของท่าน
อวัยวะทุกส่วน
เคลื่อนไหวตัวเองตามหน้าที่อย่างอิสระ
ปราศจากการควบคุมบรรจงจัด
ให้น่าประทับใจแต่อย่างใด
ไม่เคยนั่งตัวงอหรือเอนกายในที่สาธารณสถาน
ไม่เอนกายเอกเขนก
หรือนอนรับคารวะจากสหธรรมิกแม้สามเณรที่เพิ่งบวชในวันนั้น
เมื่อท่านจะลุกขึ้นยืน
ท่านจะลุกโดยไม่ต้องค้ำยัน
หรืออาศัยสิ่งพักพิงสิ่งใดและลุกขึ้นนั่งตัวตรง
หรือยืนตัวตรงทันที
ยกเว้นเมื่ออาพาธเท่านั้น
บางครั้งเราจะเห็นภาพที่ผู้มองอดขำเสียไม่ได้
คือ
เมื่อท่านมีอายุมากกว่า
๙๐ ปีแล้ว
ญาติโยมก็มีจิตศรัทธาซื้อหาไม้เท้ามาถวายให้ท่านได้ใช้เป็นเครื่องพยุงกาย
ท่านก็ฉลองศรัทธาญาติโยม
ด้วยการนำไม้เท้านั้นติดตัวไปไหนมาไหนด้วย
แต่กลับไม่ได้ใช้ไม้เท้านั้นค้ำยันกายเลย
จึงเกิดภาพที่น่าขันที่เห็นท่านนำไม้เท้าไปในลักษณะที่ถือไปทุกครั้ง
ทำให้ดูกลับกลายเป็นว่า หลวงปู่ไม่ได้พึ่งอาศัยไม้เท้านั้น
แต่ไม้เท้านั้นกลับต้องพึ่งพาให้หลวงปู่เอาไปไหนมาไหนด้วย