ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๘๖. หลวงปู่สามถูกทำร้าย

เรื่องที่สาม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ ๑๓ กิโลเมตร

เรื่องนี้มีอยู่ว่า มีพระจากจังหวัดร้อยเอ็ดมาบวช และพำนักอยู่ที่วัดหลวงปู่สาม พระองค์นี้เป็นลูกคนที่มีฐานะดี เลื่อมใสในพระศาสนา จึงมาบวชในระหว่างเข้าพรรษา

พอมาถึงช่วงกลางพรรษา โรคเก่าก็กำเริบ คือพระองค์นี้เคยเป็นบ้าหรือโรคประสาทมาก่อนที่จะบวชเป็นพระ พระองค์นั้นมีการกระทำคล้ายคนบ้าอาละวาด กระโดดเข้าไปกอดปล้ำหลวงปู่สามอย่างแน่นเหนียว ปล้ำกอดหลวงปู่อยู่เป็นเวลานานร่วม ๑ ชั่วโมง ไม่มีใครสามารถแกะออกได้ หลวงปู่สามอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ตื่นตระหนกตกใจกันไปทั้งวัด

โดยปกติ ในตอนเช้ามืด หลวงปู่ท่านจะอยู่แต่ภายในกุฏิ ไม่เคยคิดที่จะออกไปเยี่ยมคนนั้นคนนี้ หรือเดินไปดูอะไรนอกกุฏิ เป็นปฏิปทาอย่างหนึ่งที่ท่านไม่เคยคิดออกนอกเท่าไร ก็ไม่เคยคิดว่าจะไปเยี่ยมใคร

เช้าวันนั้น ไม่รู้เป็นอย่างไร ท่านให้เด็กไปเรียก ผู้ใหญ่สรศักดิ์ กองสุข ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆ วัด ให้เอารถไปส่งหลวงปู่ที่วัดของหลวงปู่สาม พอท่านไปถึง เห็นพระองค์นั้นกำลังกอดปล้ำหลวงปู่สามอยู่ ใครไปช่วยก็ไม่ยอมปล่อย หลวงปู่เข้าไปถึงวัดพอดี มีคนร้องว่า หลวงปู่ดูลย์มาแล้ว ! หลวงปู่ดูลย์มาแล้ว !

พระองค์นั้นตกใจปล่อยหลวงปู่สาม แล้ววิ่งไปหลบซ่อนตัวสั่นอยู่ข้างๆ กุฏิ หลวงปู่สามก็สะบักสะบอมพอสมควร แต่ไม่ถึงกับอาพาธ ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนอยู่ในอาการตกใจ

หลวงปู่เรียกพระองค์นั้นมาถามว่า ทำไม? เป็นอย่างไร? ท่านไม่ได้ดุด่าว่า ทำไมจึงต้องไปทำอย่างนั้น ถามเพียงว่า ทำไม และเป็นอย่างไร?

พระองค์นั้นก็กราบเรียนหลวงปู่ว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติสมาธิภาวนาอยู่นั้น ก็เกิดนิมิตเห็นเป็นสวรรค์วิมานต่างๆ จึงตั้งใจจะพาหลวงปู่สามเหาะขึ้นไปดูของสวยงามเหล่านั้น ไม่ได้มีความประสงค์จะทำร้ายท่านแต่ประการใด ทุกคนก็เข้าใจและหลวงปู่ก็ช่วยแก้ไขเหตุการณ์นั้น โดยไม่ได้ตำหนิพระองค์นั้นแต่อย่างใด

ที่อาตมาเห็นว่าอัศจรรย์ ก็เหตุว่าหลวงปู่ไม่เคยไปไหนในตอนเช้ามืด ทำไมท่านจึงรู้ว่ามีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับหลวงปู่สาม ได้ถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่รู้หรือว่าหลวงปู่สามจะเป็นอะไร จึงได้เดินทางไป

หลวงปู่ก็ไม่ได้ตอบรับ ท่านบอกเพียงว่า "คิดๆ ไปก็อยากไป เยี่ยมเยียนดูบ้าง"

ท่านก็พูดแค่นี้ พวกเราก็ไม่กล้าซักถามอะไรท่านมากนัก

หน้าต่อไป