เมื่อหลวงปู่ออกจากโรงพยาบาลในครั้งนั้นแล้ว
ท่านก็กลับมาพักฟื้นที่กุฏิของท่านดังเดิม
ค่ำวันหนึ่ง
หลวงปู่พักผ่อนเอนกายอยู่บนเก้าอี้
ศิษย์ผู้เฝ้าพยาบาลกำลังเช็ดตัวท่านด้วยน้ำอุ่น
แล้วถวายการบีบนวดปรนนิบัติท่านตามปกติ
ญาติโยมที่มาภาวนาปฏิบัติธรรมที่ศาลาโรงธรรม
ก็ขึ้นมากราบเยี่ยมนำน้ำปานะมาถวาย
หลังจากถามไถ่อาการป่วยไข้ของหลวงปู่และสนทนาเรื่องราวต่างๆ
พอสมควร
อุบาสกท่านหนึ่งก็นมัสการถามท่านถึงวิธีการเริ่มต้นในการบำเพ็ญภาวนา
อุบาสก: "พวกกระผมถกเถียงกันไม่ตกลง
บางคนบอกว่าก่อนที่จะนั่งสมาธิภาวนา
ต้องกล่าวคำแสดงตนถึงพระรัตนตรัยก่อน
แล้วก็รับศีล
จึงจะทำสมาธิให้บังเกิดผลได้
บางคนบอกว่าไม่ต้อง
สะดวกสบายตอนไหนก็นั่งกำหนดจิตได้เสมอ
ขอฟังคำแนะนำจากหลวงปู่ครับ"
หลวงปู่: "เราเคยบอกแล้วว่า
ตราบใดที่มีลมหายใจก็ทำได้
และควรจะทำทุกอิริยาบถ
ยืน เดิน นั่ง นอน
ต้องให้จิตอยู่ในจิต
มีสติกำกับอยู่เสมอ
ในการนั่งสมาธินั้น
จะเริ่มต้นยังไงก็ตามแต่จะพอใจ
ใครจะแสดงตนถึงพระรัตนตรัย
สมาทานศีลก่อนก็ทำไป
เพราะถึงอย่างไรมันก็ เป็นเพียงแว่นดำที่คนตาบอดสวมใส่
ไม่ได้ช่วยให้มองเห็นอะไร
เพียงแต่ช่วยให้คนอื่นดูดีขึ้นบ้างเท่านั้น
ทั้งๆ
ที่ตัวเองก็ไม่รู้ไม่เห็นว่าจะดูดีขึ้นได้อย่างไร"