วัดธรรมิกราช, พระนครศรีอยุธยา
(Wat Thammikarat)

วิหารหลวง เป็นวิหารใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า "วิหารเก้าห้อง"
วัดธรรมิกราช ตั้งอยู่ด้านหน้าพระราชวังหลวง ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระยาธรรมิกราชโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง จึงสันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมุขราช ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อตามผู้สร้างเป็นวัดธรรมิกราช ปัจจุบันมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ วิหารหลวง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดศิลปะอู่ทอง ปัจจุบันพระพุทธรูปนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ทรงระฆังค่ำ วิหารพระพุทธไสยาสน์เป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยา ราวพุทธศตวรรษที่ 20-23 และพระอุโบสถสมัยรัตนโกสินทร์


พระเจดีย์สิงห์ล้อมวัดธรรมิกราช

ความโดดเด่นเมื่อแรกเห็นวัดนี้ คือ เจดีย์ทรงกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือมีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมรอบไว้อย่างงามสง่าและหาชมได้ยากในเมืองไทย ในอยุธยามีประติมากรรมสิงห์ปูนปั้นอีกแห่งหนึ่งที่วัดแม่นางปลื้มตั้งอยู่ริมคลองเมือง (แม่น้ำลพบุรีเดิม) ตรงข้ามกับตลาดหัวรอ ในตำบลหัวรอ เพราะโดยทั่วไปอย่างสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร ก็มีแต่วัดช้างล้อมในกรุงศรีอยุธยาก็มีเจดีย์ช้างล้อม ที่วัดมเหยงค์ และวัดแม่นางปลื้ม (ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศิลปะล้านนาที่ได้รับอิทธิพลจากพม่า ก็มีหลายวัดที่มีรูปสิงห์เฝ้าเจดีย์ทว่าส่วนใหญ่ปั้นไว้ 4 ตัว สำหรับ 4 ทิศ) แต่วัดธรรมิกราชมีสิงห์ล้อมรอบนับได้ 20 ตัว ซึ่งแม้จะหักพังไปตามกาลเวลาอันเนิ่นนานมาถึง 900 ปี แต่ก็ยังหลงเหลือที่สมบูรณ์อีกหลายตัว


สิงห์ศิลปะขอมผสมจีน รายล้อมพระเจดีย์วัดธรรมิกราช นับเป็น "พระเจดีย์สิงห์ล้อม" เพียงแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยา สะท้อนบุญญาบารมีของพระมหากษัตริย์ที่ทรงสร้าง ไม่ด้อยไปกว่าวิหารช้างล้อม

นักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่า กรุงศรีอยุธยาได้รับอิทธพลทางศิลปะการปั้นตัวสิงห์มาจากจีนและขอม ซึ่งกำลังเกรียงไกรอยู่ในเวลานั้น (ราว พ.ศ. 1600) ตามคติความเชื่อของจีนและขอมนั้น สิงห์หรือสิงโตเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ และในตำนานของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู (ซึ่งขอมนับถืออยู่ในขณะนั้น) เล่าว่าพระนารายณ์หรือวิษณุหนึ่งในเทพชั้นสูงของฮินดู เคยอวตารเป็นสิงห์ ขณะเดียวกันตามลัทธิเทวราชาซึ่งไทยรับมาจากขอม ก็เชื่อว่าพระมหากษัตริย์คือเทพวิษณุลงมาจุติบนโลกมนุษย์ จึงปรากฏว่าไทยเราใช้ตราครุฑเป็นสัญลักษณ์ของ"ข้าราชการ" (ผู้รับใช้พระราชา) มาจวบจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะครุฑเป็นสัตว์พาหนะของพระวิษณุหรือพระนารายณ์


เศียรพระพุทธรูปสำริดเอกลักษณ์ของศิลปะอู่ทอง
ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา, อยุธยา

วัดธรรมิกราชมีวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นวิหารหลวง โดยโครงสร้างของวิหารไม่ได้มีโครงเหล็กเป็นรากฐาน แต่มีความมั่นคงแข็งแรงมาก เพราะใช้ปูนเปลือกหอยและประสานด้วยน้ำตาลอ้อย เคยเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ แต่ถูกพม่าเผาทำลายเหลือเพียงพระเศียร ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา พระพุทธรูปสำริดองค์นี้ยังถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะอู่ทอง หรือศิลปะยุคก่อนกรุงศรีอยุธยา คือพระพักตร์เป็นสี่เหลี่ยม แลดูเคร่งเครียด พระพักตร์ถมึงทึง จนชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า "หลวงพ่อแก่"


พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ประดิษฐานในลักษณะนอนขวางเกือบเต็มวิหาร

วัดธรรมิกราชมีวิหารหลังเล็ก ๆ ที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ในลักษณะนอนขวางเกือบเต็มวิหาร พระนอนองค์นี้สร้างโดยพระอัครมเหสีในสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เนื่องจากพระนางทรงบนบานไว้ว่า ถ้าพระราชโอรสของพระนางหายจากอาการประชวรหนัก ก็จะทรงสร้างพระพุทธไสยาสน์ถวายเป็นพุทธบูชา


หนึ่งในสิงห์ที่สมบูรณ์ที่สุด ที่รายล้อมพระเจดีย์วัดธรรมิกราช

แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Information
Information
: Hotel & Resorts in Phra Nakhon Si Ayutthaya
: Hotel & Resorts in Thailand
: พระอารามหลวงและวัดในประเทศไทย
: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : ศรีรามเทพนคร, อนุสาร อสท., ตุลาคม 2539, หน้า 67-71