LOCATION:
[MY COUNTRY]
[FUTURE]
[MY OFFICE]
[MY KING]
[MEMORIAL]
โครงการแก้มลิง
โครงการแก้มลิง เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเกิดจากน้ำท่วม
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำ และเก็บกักน้ำในช่วงที่ฝนตก เครื่องสูบน้ำที่ กทม. มีอยู่ไม่สามารถสูบน้ำได้ทันก็จะดึงน้ำไปฝากไว้ในแก้มลิงก่อน
เมื่อปริมาณน้ำลดลงจึงค่อย ๆ ระบายน้ำออก ปัจจุบันแก้มลิงตามธรรมชาติลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเมืองด้านที่อยู่อาศัย เอกชนได้นำพื้นที่
ว่างที่มีอยู่มาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย เมื่อพื้นที่ว่างลดลงแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมในเขตกรุงเทพ ฯ จึงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตามแนวพระราชดำริ "โครงการล่าแก้มลิง" เป็นการเสาะหาที่ว่างทั้งของหน่วยราชการ และของเอกชนเพื่อขอให้ช่วยคงสภาพบึงรับน้ำไว้ ซึ่งขณะนี้ก็มี
หลายแห่ง เช่นที่ สนามเป้า บึงพิบูลยฺวัฒนา โดยแก้มลิงที่ใหญ่ที่สุดคือที่เขตประเวศ ซึ่งโครงการแก้มลิงฝั่งตะวันออกที่สำคัญคือ
โครงการบึงหนองบอน เป็นโครงการพระราชดำริ ซึ่งมีเนื้อที่ 500 ไร่เศษ สามารถรองน้ำได้ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในปี 2538 บริเวณนี้มีน้ำท่วมมาก
บึงหนองบอนได้ช่วยรับน้ำไว้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ขณะนี้บึงหนองบอนได้ถูกปรับปรุง โดยมีการติดตั้งสถานีสูบน้ำเพื่อบังคับ
น้ำเข้า และออกบึงได้อย่างสะดวก นอกจากนี้เขตประเวศยังได้รับความร่วมมือจากเอกชน 3 ราย ให้ยืมบ่อดินเป็นการชั่วคราว โดยบ่อแรกเป็นบึงหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2
มีเนื้อที่ 98 ไร่ บ่อลึกประมาณ 20 เมตร รับน้ำได้ประมาณ 1,290,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 และบ้านเรือนโดยรอบประมาณ 1,000 ครอบครัว
บึงรับน้ำหลังหมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง มีเนื้อที่ 60 ไร่ บ่อลึก 12 เมตร รับน้ำได้ประมาณ 1,160,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 และบ้านเรือนโดยรอบประมาณ 1,000 ครอบครัว
บึงรับน้ำบริเวณหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี มีเนื้อที่ 56 ไร่ บ่อลึก 20 เมตร รับน้ำได้ 1,112,780 ลูกบาศก์เมตร โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณหมู่บ้านนักกีฬาประมาณ 3,000 ครอบครัว
รวมทั้งรองรับน้ำจากพื้นที่ บางกะปิ และบึงกุ่มได้อีกด้วย
โดยทั้ง 3 แห่ง กทม. จะปรับปรุงให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชาชน และจะเป็นการเพิ่มปอดให้กับกรุงเทพ ฯ อีกด้วย
จากการเปิดเผยของ กทม. พบว่า หากฝนตกติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง จะมีปริมาณน้ำอยู่ในกรุงเทพฯ ถึง 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ กทม. มีเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและทะเล
5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง แก้มลิงที่มีอยู่ทั้งหมดจะรับน้ำได้ประมาณ 6-8 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือได้ว่า โครงการแก้มลิงช่วยได้มาก อย่างไรก็ตามมีน้ำที่ระบายไม่หมดอยู่ในกรุงเทพฯ อีก 4-5 ล้านลูกบาศก์เมตร
ดังนั้น กทม. จึงต้องหาแก้มลิงมาเพิ่ม ผสมกับการผันน้ำออกไปทางตะวันออก และตะวันตกสู่ทะเลโดยตรงให้มากที่สุดจึงจะแก้ปัญหาได้