อ้ายชาติคน

เมื่อมนุษย์ทั้งหลายเบื่อที่จะเข้าวัด แม่หมาตัวหนึ่งก็ชวนลูกหมาไปนั่งฟังเทศน์ ทางที่ไปนั้นต้องผ่านป่าช้าที่ทิ้งศพมนุษย์
ด้วยความเคารพในธรรม แม่หมาจึงเร่งลูกเพราะกลัวจะไปสาย ส่วนลูกหมานั้น  ก็หิวเป็นกำลัง จึงอ้อนวอนขอกินศพก่อน.......
แม่หมา: เจ้าจะกินตรงไหนไวบอกแม่
ลูกหมา: รสเลิศแท้ ตา ผี ไม่มีสอง
แม่หมา: อย่าเลยลูก, ตามัน แส่แต่มอง ทั้งโขนหนั่งนั่งจ้อง กระจกเงา จะหาแล แต่สิ่งที่สวยงามอย่านะ! ........เจ้าจะทรามขืนกินเข้า
ลูกหมา: ถ้าอย่างนั้น ฉันกิน หู มัน ได้ไหมเล่า?
แม่หมา: หูมันเฝ้า แต่จะฟัง เสียงสอพลอ
ลูกหมา: (รำพึง) แม่จ๋า หูมันคงไม่ฟังพระสั่งสอน ลูกขอวอนกินจมูกได้ไหมหนอ....
แม่หมา: อย่าเลย,ถ้าเจ้าหยิ่งในเหล่ากอ มันชอบพอแต่จะดมกลิ่นๆดีๆๆ
ลูกหมา: ถ้าอย่างนั้นลูกขอกิน ลิ้นมันนะ
แม่หมา: ตายละ!..สับปลับ ปล้อนปลิ้น ลิ้นคนนี่, ปากว่าชอบนิพพานอย่างโน้นนี้ แท้แท้ซิ สังสารวัฎฎ์ เต็มอัตรา
ลูกหมา: ถ้าอย่างนั้น..ฉันกินมือ ได้หรือแม่?
แม่หมา: อัปรีย์แท้ เทียวลูก มือคนหนา, หน้าไหว้ หลังหลอก ต่อครูบา ทั้งเข่นฆ่าเฆี่ยนตี พ่อแม่ตัว
ลูกหมา: อย่างนั้นลูกจะขอ กัดกิน ตีน ของมัน
แม่หมา: ลูกเอ๋ย นั่นมันร้าย อยู่ใช่ชั่ว ไม่ย่างเท้างเข้าฟังประจำตัว เดินไปทั่ว แต่ทาง แห่งอบาย
ลูกหมา: แม่จ๋าลูกขอกิน หัวใจผี (นะแม่นะ)
แม่หมา:
(ขู่คำราม ขนตั้งชัน) หยุดนะ อย่านะ นั่นกาลี น่าใจหาย ตัวกูของกูอยู่นั่นนะลูกชาย ใจคนร้าย โสมม เสียสิ้นดี
                                                   นั่นแหละลูกหมาที่น่าสงสาร จึงได้รู้จักสัตว์ที่ตนเองเรียกว่า "มนุษย์" ซึ่งแปลว่า มีใจสูง ดีขึ้น 
                             จึงจ้องมองดูศพด้วยดวงตาอันเหยียบหยาม ถ่มเขฬะรด "ถุย"..แล้วว่า......

"อ้ายชาติชั่ว เรียกตัว ว่ามนุษย์ ผลที่สุด ไม่มีดีอะไรนี่

อนิจจา หมาไม่กิน ขำสิ้นดี เสียงแรงที่แสนฉลาด อ้ายชาติคน"