ประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาด
กรมชลประทาน
เรื่อง ขายทอดตลาดซากพัสดุชำรุด
ด้วยกรมชลประทานมีซากพัสดุชำรุด ประเภทซากครุภัณฑ์รถยนต์และเครื่อปรับอากาศ จำนวน 2 รายการ ประสงค์จะขายทอดตลาด
ฉะนั้น ผู้ใดสนใจขอให้ไปติดต่อขอดูรายละเอียดและดูของได้ที่ โครงการชลประทานยะลา ถนนสิโรรส ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ในวันเวลาราชการได้ทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2549 และกำหนดวันขายทอดตลาดในวันที่ 23 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2549
ณ ที่ทำการโครงการชลประทานยะลา เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2549
นายวุฒิชัย นรสิงห์
(นายวุฒิชัย นรสิงห์)
ประธานกรรมการขายทอดตลาด
เงื่อนไขการขายทอดตลาด
ข้อ 1. กรมชลประทานจะขายทอดตลาดซากครุภัณฑ์ในคราวเดียวกันพร้อมกันทุกรายการ ตามบัญชีรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้
ข้อ 2. ผู้ที่ประสงค์จะเข้าสู้ราคาจะต้องนำหลักฐานการจดทะเบียนประกอบการค้า (กรณีเป็นนิติบุคคล) หรือบัตรประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) มามอบให้ไว้กับคณะกรรมการขายทอดตลาดก่อนเริ่มทำการขายทอดตลาดก่อนเริ่มทำการขายทอดตลาด
ข้อ 3. ในการสู้ราคา ถ้าคระกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่า ราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดเสนอให้นั้นยังไม่เป็นที่พอใจ คณะกรรมการขายทอดตลาดสงวนสิทธิ์ ที่จะถอนการขายทอดตลาดครั้งนี้เสียได้
ข้อ 4. ถ้าคณกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่า ราคาสูงสุดที่ผู้สู้ราคาเสนอให้นั้น เป็นราคาที่สมควรรับได้ ผู้สู้ราคาจะต้องวางเงินมัดจำทันที 50% ของ ราคารวมที่เสนอโดยนำไปชำระที่กองการเงินและบัญชีแล้วนำใบเสร็จรับเงินมาแจ้งแก่คณะกรรมการขายทอดตลาด และเมื่ออธิบดีกรมชลประทานหรือผู้ได้รับ มอบอำนาจพิจารณาอนุมัติรับราคาสูงสุดนั้นแล้ว ผู้สู้ราคาจะต้องชำระเงินอีก 50% ให้ครบถ้วนภายในกำหนด 7 วันทำการ นับถัดจากวันได้รับหนังสือสนองรรับราคาจากกรมชลประทานเป็นต้นไป
ถ้าปรากฎว่าอธิบดีกรมชลประทานหรือผู้ได้รับมอบอำนาจไม่อนุมัติรับราคาสูงสุดหรือสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดครั้งนี้ กรมชลประทานจะคืนเงินมัดจำ 50% ให้แก่ผู้สู้ราคาต่อไป
ข้อ 5. เมื่อผู้สู้ราคาสูงสุดชำระเงินครบเรียบร้อยแล้วตามราคาที่เสนอซื้อแล้ว ต้องนำใบเสร็จรับเงินของกองการเงินและบัญชี กรมชลประทาน ไปแสดง ต่อคณะกรรมการส่งมอบพัสดุ เพื่อรับมอบสิ่งของและดำเนินการขนย้ายออกไปจากที่เก็บต่อไปโดยไม่ชักช้า
ข้อ 6. เมื่อครบกำหนด 7 วันทำการ ตามข้อ 4. แล้ว ผู้สู้ราคาสูงสุดยังมิได้นำเงินอีก 50% ไปชำระกรมชลประทานจะริดเงินมัดจำที่วางไว้นั้น เสียทั้งหมด และหากนำสิ่งของที่ขายทอดตลาดนั้นออกขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีใดใหม่อีกก็ตาม ถ้าได้จำนวนเงินที่ขายในครั้งหลังต่ำกว่าการขายทอดลาด ในครั้งแรกเท่าใด ผู้สู้ราคาสูงสุดต้องรับผิดชอบชดใช้เงินส่วนที่ขาดไปนั้นให้แก่กรมชลประทานจนครบถ้วนอีกโสดหนึ่งด้วย
ข้อ 7. ผู้สู้ราคาสูงสุดและได้รับอนุมัติให้ซื้อได้ ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนและค่าธรรมเนียมหรือค่าอากรอื่นใด (ถ้ามี) เองทั้งสิ้น
ข้อ 8. ผู้สู้ราคาสูงสุดต้องขนย้ายสิ่งของที่ขายทอดตลาดออกไปจากที่เก็บได้ภายในกำหนด 5 วันทำการ นับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการส่งมอบพัสดุให้เข้าขนย้ายได้
ข้อ 9. เมื่อครบกำหนดตามข้อ 8. แล้ว ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่สามารถขนย้ายสิ่งของที่ซื้อขายนั้นออกไปจากที่เก็บได้หมดตามกำหนดเวลา ผู้สู้ราคาสูงสุด ต้องยินยอมให้กรมชลประทานคิดค่าใช้สถานที่เก็บสิ่งของเป็นรายวัน นับถัดจากวันครบกำหนดจนถึงวันขนย้ายสิ่งของออกไปจากที่เก็บเสร็จเรียบร้อย ตามอัตราดังนี้ อีกด้วย
จำนวนเงินที่ขาย X จำนวนวันที่เกินกำหนด X (0.20/100)
ข้อ 10. ในการขายทอดตลาดครั้งนี้ ห้ามบุคคที่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของกรมชลประทานและกรรมการ เข้าสู้ราคาหรือใช้ให้บุคคลใดเข้าสู้ราคา
โดยประกาศฉบับนี้ กรมชลประทานถือว่า ผู้สู้ราคาทุกราย ได้ทราบเงื่อนไขการขายทอดตลาดครั้งนี้แล้ว และคระกรรมการขายทอดตลาดจะได้อ่านให้ ฟังก่อนเริ่มต้นการสู้ราคาในการขายทอดตลาดอีกด้วย