บทนำ
แผนงานป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากแบบบูรณาการ
จังหวัดยะลา

                   จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดใต้สุดของประเทศไทย มีพื้นที่ 4,521 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2.8 ล้านไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาตั้งแต่ตอนกลางของจังหวัดถึงใต้สุด มีพื้นที่ราบบริเวณอำเภอเมือง  และอำเภอรามัน อยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปัตตานี ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร     ประเภทสวนยางพาราและสวนผลไม้      มีแม่น้ำสายหลักที่สำคัญคือ แม่น้ำปัตตานี   ไหลจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลาไปลงอ่าวไทยที่อำเภอเมือง   จังหวัดปัตตานี   รวมความยาว 210 กิโลเมตร    และแม่น้ำสายบุรี ไหลผ่านอำเภอ รามัน จังหวัดยะลา สภาพการเกิดอุทกภัยของจังหวัดยะลาแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ อุทกภัยที่เกิดบริเวณลุ่มน้ำตอนบนและลำน้ำสาขาต่าง ๆ ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ได้แก่  อำเภอธารโต  อำเภอเบตง  อำเภอยะหา และอำเภอบันนังสตา มีลักษณะการเกิดอุทกภัยเกิดจากการที่มีฝนตกหนัก    น้ำป่าไหลหลาก คลองธรรมชาติระบายน้ำไม่ทัน   น้ำจะท่วมเร็วและแห้งเร็วในเวลา 1 - 2 วันเท่านั้น   และอุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ราบลุ่มบริเวณอำเภอเมืองและอำเภอรามัน ลักษณะเป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำปัตตานี และริมแม่น้ำสายบุรี  ลักษณะการท่วมเป็นน้ำท่วมขังบ่าเต็มพื้นที่ เนื่องจากคลองสายหลักตื้นเขินมีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ    ปัญหาการระบายน้ำของโครงการเขื่อนปัตตานีที่ยังก่อสร้างไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้ อีกประการหนึ่งคือ   ปริมาณการไหลของน้ำจะมาเร็วขึ้น เนื่องจากป่าต้นน้ำถูกทำลาย ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง    เป็นเวลา 3 - 5 วัน ซึ่งแบ่งพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากออกเป็นพื้นที่ใหญ่ ๆ ได้ 5 กลุ่ม ดังนี้
              1. พื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนและลำน้ำสาขาต่าง ๆ ได้แก่ อำเภอธารโต อำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่สูงต้นน้ำ ลักษณะการท่วมเป็นน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากป่าต้นน้ำถูกทำลาย
             2. พื้นที่เทศบาลนครยะลาและรอบนอก ได้แก่ ตำบลยุโป ตำบลท่าสาป ตำบลสะเตงนอก เป็นลักษณะน้ำท่วมขัง เนื่องจากแม่น้ำปัตตานีและคลองสาขาระบายน้ำไม่ทัน และไหลบ่าท่วมเต็มพื้นที่
             3. พื้นที่อำเภอรามัน ลักษณะการท่วมเป็นน้ำท่วมขัง บริเวณริมแม่น้ำสายบุรี ตำบลท่าธง ตำบล วังพญา ตำบลจะกั๊วะ และตำบลตะโละหะลอ   เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำ   และน้ำไหลล้นตลิ่งแม่น้ำสายบุรี    จึงไม่สามารถระบายน้ำจากพรุน้ำดำ    ซึ่งเป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ลงสู่แม่น้ำสายบุรีได้  จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี
            4. พื้นที่เทศบาลตำบลเบตง เป็นลักษณะน้ำป่าไหลหลากเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจตามคลองเบตงและระบายได้ช้า เพราะมีบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ และสิ่งก่อสร้างอื่นกีดขวางทางน้ำอยู่ตลอดแนว
            5. พื้นที่บ้านปูยุด ตำบลธารโต อำเภอธารโต เนื่องจากน้ำจากลุ่มน้ำจากลุ่มน้ำย่อยคลองปูยุด พื้นที่รับน้ำประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร ไหลลอดถ้ำปูยุด ความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ระบายน้ำไม่สะดวกโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี
                                                                                                                  Home