การกรวดน้ำ ครั้งแรกนั้น ตามพุทธประวัติกล่าวว่า

เมื่อพระเจ้าพิมพิสาร ( ราชาแห่งราชคฤห์ ) ได้ฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ สวนตาลหนุ่มแล้วรุ่งขึ้นพระองค์ได้ทรงถวายภัตาหารแค่พระสมณโคดมและพระสาวก
และได้ถวายอุทยานสวนไม้ไผ่ ( เวฬุวัน ) ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับด้วยอาการดุษฎี
พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงหลังน้ำจากพระเต้าลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้า
เพื่อถวายเวฬุวนารามให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาแห่งแรกของโลก
แต่ก็ไม่ได้ทำการอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับ
ตกกลางคืนจึงมีเสียงเปรตร้องและในเขตพระราชนิเวศน์และปรากฎกายให้เห็นก็มี
รุ่งขึ้นพระองค์ได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าและทูลถามความทราบแล้ว
จึงทรงบำเพ็ญถวายอาหารและจีวรแก่พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ในวันรุ่งขึ้นต่อมา
จากนั้นทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกและกล่าวว่า " อิทํ โน ญาตินํ โหตุ "
แปลว่า " ขอผลบุญกุศลครั้งนี้ จงไปถึงญาติพี่น้องของข้าพเจ้าด้วยเถิด "
และได้กลายเป็นบทกรวดน้ำที่คนไทยนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน

หมายเหตุ : คำศัพท์เกี่ยวกับการกรวดน้ำในครั้งนั้น
"อุททิโสทก" แปลว่ากรวดน้ำมอบถวาย ใช้กรณีเมื่อถวายของใหญ่โต ไม่สามารถยกประเคนใส่มือได้
เช่น ที่ดินและวัด (พระเจ้าพิมพิสารหลั่งน้ำจากน้ำพระเต้าลงพระหัตถ์ของพระพุทธองค์)
"ทักษิโณทก" กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลแก่คนตาย
|