เคล็ดลับในการสร้างพลังความจำ
ความสามารถในการจำของมนุษย์มีความพิเศษเหนือสัตว์อื่นๆ
ความจำ
เป็นสิ่งวิเศษที่เราสามารถเรียกคืน
ประสบการณ์เก่าๆ กลับมาอีกครั้ง
หากไม่มีความจำ
เราคงลืมเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต
และเราต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่เหมือนเด็กอ่อนที่เพิ่งเกิดทุกวัน
คล้าย ๆ
กับคนแก่ที่ความจำเลอะเลือนกลับกลายเป็นเหมือนเด็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้
เพราะความจดจำได้
เราจึงเรียนรู้ได้
โดยเอาสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตมาวิเคราะห์และปรับปรุง
เราสามารถเรียกคืนความจำเก่าๆจากจิตใต้สำนึกเมื่อเราต้องการ
และจากความรู้อันนี้ทำให้เรา
สามารถทำงานบางอย่างที่เราได้เรียนมาอย่างช่ำชอง
หรือหลีกเลี่ยงการกระทำบางอย่างที่ไม่ดีได้
จิตใต้สำนึกของเราบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเราตลอดเวลา
ทั้งกลางวันและกลางคืน
เพราะทุกวันที่เราตื่นนอน
เราจำได้ว่าเมื่อคืนเรานอนหลับดีหรือไม่
ความจำเป็นสิ่งไม่ตาย
แต่สถิตถาวรภายใต้จิตสำนึก
หากเรามีการฝึกฝนที่ดี
เราสามารถเรียกความจำเก่าๆ
ในชีวิตปัจจุบัน
และแม้แต่ในอดีตชาติก่อนๆ
กลับมาได้
ความจำของเราถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน
คือความจำชั่วคราว
และความจำถาวร
ความจำชั่วคราวของเรา
จำได้ไกลเพียงแค่ในชีวิตปัจจุบัน
ส่วนความจำถาวรบันทึกทุกสิ่งที่เกิดกับจิตวิญญานของเราในทุกภพทุกชาติ
บางคนสามารถจำได้แค่เหตุการณ์ในชีวิตนี้
แต่บางคนจำได้ทั้งไกลถึงอดีตชาติ
แต่บางคนจำไม่ได้แม้เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไปเมื่อไม่กี่วัน
คุณภาพของการจำ แตกต่างกันไป
แล้วแต่คุณภาพของสมองแต่ละคน
การศึกษา การฝึกสมาธิ
และการฝึกฝนความจำในแบบต่างๆ
สามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการจำได้
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ต้องเป็นคนที่มีความจำที่ดี
การบริหารร่างกายเพิ่มความจำ
ท่าการบริหารร่างกายที่เหมาะสม
เช่นการฝึกโยคะ การรำมวยจีน
การเดินจงกรม
สามารถพัฒนาความจำได้
ในปัจจุบันเครื่องจักรเข้าทดแทนทุกส่วนของการใช้แรงงานในชีวิตประจำวัน
ทำให้คนเราเกิดความเกียจคร้านในการการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
จึงทำให้บางคนคิดค้นหาอุปกรณ์ออกกำลังภายในบ้านขึ้น
เพื่อการบริหารร่างกาย
แต่เราควรให้มีสติกำกับการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นๆ
จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
ไม่ใช่เพียงแค่ก้มงอตัวไปมา
เพราะการที่มีสติและสมาธิในการเคลื่อนไหวในทุกอริยาบท
ทำให้เราสามารถควบคุมและส่งพลังงานไปยังส่วนต่างๆของอวัยวะในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
เช่นเดียวกับการฝึกกังฟูของจีน
อาหารที่เพิ่มพลังความจำ
อาหารบางชนิดบำรุงสมอง
บางชนิดบำรุงกล้ามเนื้อ
บางชนิดบำรุงประสาท
และแต่ละชนิดบำรุงแต่ละส่วนของอวัยวะ
หากเราต้องการเพิ่มพลังสมอง
เราก็ต้องทานอาหารที่บำรุงสมอง
โดยเฉพาะโปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการบำรุงสมอง
เมล็ดอัลมอลด์นำมาบดผสมกับน้ำมะนาว
หรือ น้ำส้ม
และดื่มก่อนนอนทุกคืนจะช่วยให้ความจำดีขึ้น
การดื่มนม และกินเนยแข็ง (Cheese)
จึงเพิ่มพลังสมอง
เมื่อใดคุณมีความกังวล อ่อนล้า
ลองดื่มน้ำมะนาวสัก 1-2 แก้ว
เอาน้ำเย็นลูบหัว
แล้วนำมาแตะกระหม่อม คิ้ว จมูก
และหู จะทำให้เส้นประสาทสงบลง
และทำให้ความจำดีขึ้นทันที
หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง
เพราะมันจะไปตกตะกอนเป็นคอเลสเตอร์รอล
ตามผนังเส้นเลือดแดง
ผู้ถือศีลสมาธิบางท่านที่เคร่งครัดมักจะกินแต่อาหารมังสวิรัติ
เพราะเชื่อว่าเนื้อสัตว์
เช่นเนื้อหมูและเนื้อวัว
ทำลายสุขภาพ เพราะมีกรดยูริคสูง
ทั้งหมูและวัวมีความจำที่ต่ำ
เมื่อเรากินเนื้อของสัตว์เหล่านี้มันจะนำไปสร้างร่างกายและจิตของเราตามลักษณะของสัตว์เหล่านี้ด้วย
การฝึกบริหารความจำ
ความจำที่ดีเกิดขึ้นได้จากการฝึกฝน
คนที่มีร่างกายที่ไม่แข็งแรงก็สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
ชีวิตเราไม่ว่าด้านใดๆก็สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ถ้าเรามีความพยายาม
แม้ความผิดปรกติของร่างกายทางกรรมพันธุ์ก็มีการพิสูจน์กันแล้วว่าสามารถแก้ได้ด้วยการฝึกสมาธิ
คนส่วนมากไม่รู้จักการฝึกสมาธิ
ทำให้ความสามารถของสมองที่แฝงเร้นอยู่
ไม่ถูกนำมาใช้
และหากเราขาดการพัฒนาทางจิตหรือฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ
นานเข้าก็นำไปสู่ความเสียหายทางสมองและจิตได้
เพราะสมองเหมือนเช่นส่วนอื่นของร่างกาย
ต้องการออกกำลัง บริหารอยู่เสมอ
เพื่อคงให้อยู่ในสภาพที่ดี
การพัฒนาความจำไม่เพียงแต่เราต้องกินอาหารที่บำรุงสุขภาพแล้ว
เรายังต้องฝึกจิต
พยายามใช้ความจำ ฝึกการจำ
เช่นมองภาพใดภาพหนึ่ง
อาจเป็นภาพพุทธรูป
หรือแม้แต่จะเป็นภาพวิวธรรมดาก็ได้
แล้วลองหลับตานึกภาพนั้นในใจ
พยายามนึกถึงเพลงหรือบทสวดมนต์
แล้วร้องในใจ
หรือสวดในใจเพื่อพัฒนาความจำ
สิ่งที่ทำด้วยอารมณ์
ก็สามารถพัฒนาจิตใจ
เพราะทุกคนจำเหตุการณ์ในชีวิตตอนที่ดีใจที่สุด
และเสียใจที่สุดได้เสมอ
เนื่องจากความรู้สึกตั้งอยู่ในส่วนลึกของความจำ
ฉะนั้น การแต่งโคลงกลอน
หรือแม้แต่การฝึกบวกเลข
ลบเลขในใจ
ก็เป็นวิธีที่ดีสำหรับพัฒนาความจำ
และส่งเสริมสมาธิ
การฝึกสมาธิเสริมสร้างความจำ
การเพิ่มพลังความจำ
เราต้องทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจมั่น
คนส่วนมากทำทุกอย่างแบบไร้สติ
การกระทำและความคิดจึงมีช่องว่างที่ไม่เชื่อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เป็นเหตุให้คนส่วนมากจำอะไรได้ไม่ได้ดี
เราควรทำกิจการงานทุกอย่างด้วยความตั้งใจ
ทำงานก็ทำด้วยความตั้งใจ
เรียนก็ฟังครูสอนด้วยความตั้งใจ
จะเล่นกีฬาก็เล่นด้วยความตั้งใจ
เมื่อฝึกสมาธิก็ไม่ทิ้งคำบริกรรม
สมาธิคือการตั้งใจมั่น
มั่นในการกิน เดิน นอน นั่ง คด คู้
เหยียด ทุกอริยาบท
ความจำได้หมายรู้มีไว้ให้เราระลึกถึงความดีที่เราเคยก่อ
ที่เราเคยสร้าง
การฟื้นความจำที่เราเคยเกลียดใคร
โกรธใคร อาฆาตใคร
เป็นการใช้ความจำในทางที่ไม่ถูกต้อง
และยัง ก่อให้เกิดโทษ
ตรงกันข้ามเราควรฟื้นความจำ
ในแต่สิ่งที่ดี
แต่บางครั้งการจำเหตุการณ์ที่ทำให้เราเกิดทุกข์
ที่เราเคยทำผิดพลาดไป
แล้วนำประสบการณ์นั้นมาปรับปรุงแก้ไข
ย่อมเป็นการใช้ความจำในทางที่ถูกต้อง
แต่อย่าจมปรักอยู่ความความผิดหวังในในอดีตซึ่งทำให้เราไม่ก้าวหน้า
ไม่ควรฟื้นความจำที่ไม่ดีเหล่านั้นจะดีทีสุด
หากนึกขึ้นได้เราเพียงแต่หยุดคิดถึงมัน
จงฝึกคิดแต่สิ่งที่ดี
และคุณความดีที่เราทำ
เพราะความจำสุดท้ายก่อนสิ้นใจ
เป็นพลังงานสุดท้ายที่ขับเคลื่อนเราไปสู่ภพใหม่
และการระลึกได้ในความดีที่เราทำในขณะนั้นเท่านั้น
จึงจะนำเราไปสู่สุขคติภูมิ