"ขึ้นทะเบียนทหาร" จะทำอย่างไร

                ท่านเกิดเป็นลูกผู้ชาย มีหน้าที่อย่างหนึ่งคือ เป็นทหารรับใช้ชาติ โดยจะต้องไปขึ้นทะเบียนทหาร แล้วก็เกณฑ์ทหาร ส่วนจะได้เป็น ทหาร
หรือไม่ได้เป็น แล้วแต่จะจับสลากได้ใบแดง หรือใบดำ  ตามภาษาชาวบ้าน เรียก " ขึ้นทะเบียนทหาร " แต่ภาษาทางราชการ เรียก "ลงบัญชีทหารกอง
เกิน"
1. ชายที่มีสัญชาติไทย เมื่อมีอายุครบ 17 ปี ต้องไปขึ้นทะเบียนทหาร
2. โดยเอา 17 บวก พ.ศ.เกิด ผลลัพท์ที่ได้จะเป็น พ.ศ. ที่จะต้องไปขึ้นทะเบียนทหาร  เช่น คนเกิด พ.ศ.2530 บวก 17 จะได้ 2547 หมายความว่า ผู้ที่
 
เกิด พ.ศ.2530 จะต้องไปขึ้นทะเบียนทหารตั้งแต่ มกราคม 2547 ถึง ธันวาคม 2547 ภายในกำหนดนี้ไม่ต้องเสียค่าปรับถ้าเลยกำหนดนี้ คือ เดือน
มกราคม 2548 ต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 300 บาท(ส่วนมากจะปรับ 100 บาท)
 
3. ตรวจสอบดูว่า ทะเบียนบ้านของพ่อ อยู่อำเภอ หรือเขตใด ให้ไปขึ้นทะเบียนทหาร ตามอำเภอที่พ่อ มีทะเบียนบ้านอยู่ ถ้าพ่อตาย, หย่ากับแม่ หรือ
หายสาปสูญ แล้วลูกอยู่ในความดูแลของแม่ ให้ไปขึ้นทะเบียนที่อำเภอ ที่แม่มีทะเบียนบ้านอยู่ ถ้าพ่อแม่ตาย ให้ไปขึ้นที่อำเภอของผู้ปกครอง เช่น
 
ลุง,ป้า,น้า,อา
 
4. หลักฐานและเอกสารจะต้องนำมาด้วย
 
               4.1 สำเนาทะเบียนบ้านของตนเอง
 
               4.2 สำเนาทะเบียนบ้านของพ่อ, แม่ หรือ ผู้ปกครอง
 

               4.3 บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง (สำเนาทะเบียนบ้านกับบัตรประชาชน ต้องนำมาด้วย ขาดไม่ได้)

 
               4.4. ใบสูติบัตร หรือ ใบเกิด ของตนเอง (ถ้าไม่มีไม่ต้องนำมาก็ได้)
 
               4.5 ใบมรณบัตรของพ่อหรือแม่ (ถ้าพ่อหรือแม่เสียชีวิตก็เอาไป ถ้ายังมีชีวิตก็ไม่ต้องเอาไป)
 
5. ท่านลองทบทวนดูซิว่า ตั้งแต่ข้อ 1 ถึง ข้อ 4.5 ท่านพร้อมหรือยัง เมื่อพร้อมแล้ว นำหลักฐานเอกสาร ไปที่ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขต ตรง
 
ไปหา " เจ้าหน้าที่สัสดี " ซึ่งจะแต่งเครื่องแบบทหารบก (สีเขียวขี้ม้า) เป็นทหาร " แต่ทำงานอยู่บนที่ว่าการอำเภอ "
 
               ถ้าอยากรู้ว่า ยศอะไร ให้ดูที่บ่า หรือ อินทรธนู ถ้ามีดาวสองดวง และมีมงกุฎครอบ แสดงว่ายศ พันโท คนนี้แหละเป็น " หัวหน้า " หรือ
 
เรียกตามภาษาราชการ ว่า สัสดีอำเภอ หรือ อำสัสดีเขต ตามเภอใหญ่ๆ หรือ 50 เขตของกทม. มีสัสดีอำเภอ หรือ สัสดีเขต มียศพันโท ส่วนอำเภอ
 
 เล็กๆสัสดีอำเภอ มียศพันตรี มีดาวเดียวมงกุฏครอบ บางทีเขาเรียกกันเล่นๆ ว่า "ผู้พัน" ส่วนที่มี สามดาว ยศร้อยเอก เรียก "ผู้กอง" มีสองดาว ยศ
 
ร้อยโท มีดาวเดียว ยศร้อยตรี เรียก "ผู้หมวด" นอกจากนี้ยังมีจ่า และหมู่อีก
               เมื่อไปพบ "สัสดี" แล้ว ก็บอกเขาว่า "ผมมาขึ้นทะเบียนทหารครับ" อย่าไปบอกเขาผิดนะครับ ว่า มารับหมายเกณฑ์ หรือ อะไรอย่างนี้ จะ
 
ทำให้ สัสดีงง หรือเข้าใจผิดไป พร้อมทั้งยื่นหลักฐานเอกสาร  ที่เรานำมาให้   เขาก็จะตรวจสอบเอกสารว่า  อายุถูกตองไหม  บิดาอยู่อำเภอหรือเขตนี้
 
หรือเปล่าอายุเกินกำหนดขึ้นทะเบียนทหารหรือเปล่า   ถ้าเกินเขาก็ส่งตัวไปจ่ายค่าปรับเมื่อตรวจสอบแล้ว   ถ้ามีปัญหาอะไร   เขาก็จะชี้แจงให้ฟัง  
 
   ท่านก็ปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นแต่ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ เจ้าหน้าที่ ก็จะให้ท่าน เขียนคำร้อง หรือ ใบแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน(แบบสด.44)
 
 ท่านต้องกรอก ชื่อ นามสกุล เกิด พ.ศ.  ชื่อบิดา  ชื่อมารดา อยู่บ้านเลขที่ ถนน ตรอก ซอย หมู่ที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด ลงไป และ เลขที่สูติบัตร
(ถ้ามี) เลขที่บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านสงสัยตรงไหน ก็ถามเจ้าหน้าที่ได้เมื่อกรอกเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่เขาจะดำเนินการ ขึ้นทะเบียนทหารให้
 ท่านและ ท่านก็จะได้ หลักฐานสำคัญ เรียกว่า "ใบสำคัญ" หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า "สด.9 " ใบนี้แหละสำคัญนัก ท่านก็ต้องเก็บไว้ให้ดี อย่าให้
 
หายเป็นอันขาด ถ้าหายต้องขอใบแทนภายใน 30 วัน
              เมื่อท่านได้รับ ใบสด.9 มาแล้ว ลองตรวจดูสักนิด ว่า ชื่อ นามสกุล ชื่อพ่อ ชื่อแม่ บ้านเลขที่ เขียนถูกไหม ถ้าไม่ถูกต้อง ก็บอกให้เจ้าหน้าที่
เขาแก้ไขให้ทันที จะแก้ไขได้ง่าย ถ้าปล่อยนานไปจึงมาขอแก้  จะแก้ไข ลำบาก และให้อดทนอ่าน "คำเตือน" ด้านหลังสักนิด จะมีประโยชน์ต่อท่าน
มาก โดยเฉพาะข้อ1. ที่ว่า "ให้ไปขอรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ใน พ.ศ........." นี้แหละสำคัญซึ่งจะกล่าวต่อไป
 
             เมื่อท่านได้ ใบสด.9 มาแล้ว แสดงว่า ท่านมี "ภูมิลำเนาทหาร" อยู่ในอำเภอนี้แล้ว คำว่า "ภูมิลำเนาทหาร" (คือ ที่อยู่ของทหารกองเกิน) มี
 
ได้เพียงแห่งเดียว ท่านจะไปขึ้นทะเบียน ทหารที่อำเภออื่น ไม่ได้อีกแล้ว สำหรับท่านที่มีอายุ 18 ปี ถึงอายุ 45 ปี ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนทหาร
 
ให้ทำเช่นเดียวกัน แต่ต้องเสียค่าปรับ ไม่เกิน 300 บาท
 
 

ถ้าท่านต้องการทราบรายละเอียด อื่นๆเพิ่มเติม โปรด คลิ๊ก

การเกณฑ์ทหาร

 

การรับหมายเรียก

การกำหนดคนจำพวกต่างๆ

 

สิทธิต่างๆที่จะได้รับ