การใช้ตัวยาอันตราย


   
   

    

        พระอาจารย์ กล่าวไว้ว่า " วัตถุนานาชนิด ในโลกล้วนแต่เป็นยาทั้งสิ้น " คำกล่าวนี้ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นจริง หากใช้วัตถุนั้นได้อย่างถูก ต้อง   ตัวยาบางอย่าง ที่มีฤทธิ์ แรงและอันตราย การใช้ก็จะต้องมีความระมัดระวัง เป็นพิเศษ   ตัวยาหลายอย่างมีฤทธิ์แรง  การใช้เกินขนาด หรือใช้ ไม่ถูกวิธี ก็อาจทำอันตราย ถึงแก่ชีวิตได้

   
   
ยาที่มีฤทธิ์แรง

   
    ๑.      เมล็ดสลอด   มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  กินมากจะถ่ายมาก เป็นอันตราย  อ่อนเพลีย เสียน้ำ ในร่างกาย อาจถึงตายได้
                        สรรพคุณ  ถ่ายเสมหะ และโลหิต ถ่ายน้ำเหลืองเสียและถ่ายพยาธิ

   
    ๒.     ยางตาตุ่ม     มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  รับประทานมากถ่ายมาก ทำให้หมดกำลังอาจถึงตายได้
                        สรรพคุณ  ถ่ายพยาธิ ถ่ายโลหิต และเสมหะ ถ่ายอุจจาระธาตุ

   
    ๓.     ยางสลัดได    มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  กินมากถ่ายมาก  ทำให้หมดกำัลังอ่อนเพลีย  อาจตายได้ 
                        สรรพคุณ  ถ่ายพยาธิน้ำเหลืองเสีย  ถ่ายอุจจาระธาตุ  ถ่ายพิษตานซาง

   
    ๔.     ลูกแสลงใจ    มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อ  รับประทาน ชักระตุก ถึงตายได้
                        สรรพคุณ  บำรุงหัวใจ  บำรุงประสาท  แก้พยาธิผิวหนัง  แก้ลมอันกระเพื่อมในอุทร 

   
    ๕.     ยางฝิ่น        มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อ  ระงับประสาท  รับประทานมาก  ระงับประสาท  ทำให้หมดสติ  อาจตายได้ 
                        สรรพคุณ   แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย   แก้โรคบิด( เป็นยาเสพติด)

   
   

๖.      กีญชา        มีฤทธิ์แรงในทางเมา  ทำให้ประสามหลอน  รับประทานมาก ทำให้เสียจริตเป็นบ้า
                       สรรพคุณ   แก้ประสาทพิการ  และเจริญอาหาร

   
    ๗.     พระขรรค์ไชยศรี( หนาวเดือนห้า)  มีฤทธิ์แรงในทางขับเหงื่อ ทำให้ร่างกายเย็นมาก  รับประทานมาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
                       สรรพคุณ   แก้ไข้  ดับพิษร้อน  ลดความร้อนในร่างกาย  ขับเหงื่อ  

   
    ๘.     ยางรักดำ     มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อและทางถ่าย  รับประทานมาก  ทำให้ถ่ายมาก หมดกำลัง  อาจถึงตายได้  
                       สรรพคุณ   ถ่้ายน้ำเหลืองเสีย  ถ่ายอุจจาระธาตุ  ถ่ายพยาธิและถ่ายเสมหะ  

   
    ๙.     ปรอท        มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อ  รับประทานมาก  ทำให้เปื่อยพุพองและเบื่อยา  อาจตายได้  
                       สรรพคุณ   แก้มะเร็ง  คุดทะราด  โรคเรื้อน  รักษาโรคผิวหนังและรักษาน้ำเหลืองเสีย

   
    ๑๐.   สารหนู       มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อ  รับประทานมาก  ชักกระตุกทำให้ตายได้  
                       สรรพคุณ   แก้มะเร็ง  คุดทะราด  โรคเรื้อน  แก้ประดง  รักษาน้ำเหลืองเสีย  แก้โรคผิวหนัง  และบำรุงโลหิต

   
    ๑๑.   จุนสี          มีฤทธิ์แรงทางกัดทำลาย  รับประทานมาก  กัดทำลายกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ฟันโยกหลุด
                       สรรพคุณทางยา   กัดหัวฝี  หัวหูด  รักษาคุดทะราด  รักษาฟัน

   
    ๑๒.    เมล็ดสบู่แดง  มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  รับประทานมาก ทำให้ปวดท้องอย่างแรง  คลื่นไส้ อาเจียน  ท้องร่วงอย่างแรง กดหัวใจ            กดการหายใจ  ถึงตายได้
                       สรรพคุณทางยา   เผาให้สุกรับประทาน ถ่ายอุจจาระธาตุ  ทำให้อาเจียน  ตำพอกบาดแผล  แก้โรคผิวหนัง

   
    ๑๓.    ยางหัวเข้าค่า  มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  รับประทานมาก  ท้องร่วงอย่างแรง  อ่อนเพลีย  หมดน้ำ ถึงตายได้  
                       สรรพคุณทางยา   ฆ่าพยาธิภายนอก  แก้ฟกบวม  แก้คุดทะราด

   
    ๑๔.    เมล็ดลำโพง  มีฤทธิ์แรงในทางเมาเบื่อ  หลอนประสาท  รับประทานมาก  ทำให้เสียสติ ตาแข็ง  หายใจขัด  
                        สรรพคุณทางยา   บำรุงประสาท  แก้กระสับกระส่าย  นอนไม่หลับ

   
    ๑๕.    ยางเทพทาโร  มีฤทธิ์แรงในทางถ่าย  รับประทานมากถ่ายแรง  หมดน้ำ  อ่อนเพลีย ถึงตายได้
                        สรรพคุณทางยา   ถ่ายพยาธิ   ถ่ายน้ำเหลืองเสีย


   
         
         
   
การสะตุ   คือการทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลง  หรือทำให้พิษของตัวยาน้อยลง  หรือทำให้ตัวยานั้นสะอาดขึ้น

   
    ๑.     การสะตุเหล็ก   เอาเหล็กมาครางด้วยตะไบ   แ้ล้วนำผงเหล็กที่ได้มาใส่ในฝาละมี หรือหม้อดิน  บีบน้ำมะนาว ลงไปให้ท่วมผงเหล็ก เอาขึ้นตั้งไฟให้แห้ง  ทำให้ได้ ๗-๘ ครั้ง  จนผงเหล็กรอบดี   จึงนำไปใช้ปรุงยา
     
   
   
๒.     การสะตุสารส้ม   เอาสารส้ม มาบดให้ละเอียดนำมาใส่หม้อดิน  เอาตั้งไฟจนสารส้มละลายฟู  ขาวดีแล้ว  ยกลงจากไฟ จึงนำไปใช้ ปรุงยาได้

   
   
๓.    การสะตุรงทอง  เอารงทองมาบดให้ละเอียด  แล้วห่อด้วยใบบัวหรือใบข่า ๗ ชั้น  นำปิ้งไฟจนสุกกรอบดี   จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

   
   

๔.     การสะตุมหาหิงคุ์     นำมหาหิงคุ์  มาใส่ภาชนะ ไว้ใช้ใบกะเพราแดง  ใส่น้ำต้มจนเดือด  เทน้ำกะเพราะแดง ต้มลง ละลาย มหาหิงคุ์  แล้วนำมากรองให้สะอาด จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

   
   
๕.     การสะตุดินสอพอง    นำดินสอพองใส่หม้อดิน ปิดฝายกขึ้นตั้งไฟ ให้นานพอสมควร จนเห็นว่าดินสอพองสุกดีแล้ว จึงนำไปใช้ปรุง ยาได้

   
   

๖.    การสะตุน้ำประสานทอง    เอาน้ำประสานทองใ่ส่หม้อดิน ตั้งไฟจนละลายฟูขาว ทั่วกันดีแล้ว จึงนำไปใช้ปรุงยาได้ 

   
   

๗.    การสะตุยาดำ    นำเอายาดำใส่หม้อลงดิน เติมน้ำเล็กน้อย ยกขึ้นตั้งไฟ กรอบดีแล้ว จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

   
         
   

การประสะ  คือการทำให้พิษของตัวยาอ่อนลงเช่นการประสะยางสลัดได   หรือ หมายถึง ในยาขนานนั้นมีตัวยาหนึ่ง ขนาดเท่าตัวยาอื่น หนักรวมกัน เช่น ยาประสะไพล    มีไพล จำนวนเท่าตัวยาอื่นทั้งหมด หนักรวมกัน

       การประสะยางสลัดได  ยางตาตุ่ม  ยางหัวเข้าค่า   มีวิธีการเหมือนกันทั้ง ๓ อย่างคือ

      นำตัวยาที่จะประสะใส่ลงในถ้วย  ใช้น้ำต้มเดือดๆ เทลงไปในถ้วยยานั้น  กวนให้ทีั่ว จนน้ำเย็น  รินน้ำทิ้งไป แล้วเทน้ำเดือดลงในยา   กวนให้ทั่วอีก  ทำอย่างนี้ประมาณ ๗ ครั้ง  จนตัวยาสุกดี แล้ว จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

 

   
         
   

การฆ่าฤทธิ์ของตัวยา     

     
คือการทำให้พิษของยาอ่อนลง  เป็นการทำกับตัวยาที่มีพิษมาก  เพื่อให้พิษหมดไป หรืออ่อนลง  จนไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ยา  เช่นการ ฆ่าสารหนู  จะทำให้สารหนูที่มีพิษมาก  มีพิษอ่อนลง สามารถนำมาใช้ทำยาได้

   
   
๑.      การฆ่าสารหนู    เอาสารหนูมาบดให้ละเอียดใส่ในฝาละมี หรือหม้อดิน   บีบน้ำมะนาว หรือน้ำมะกรูดใส่ไปให้ท่วมตัวยา   ตั้งไฟจนแห้ง  ทำให้ได้ ๗-๘ ครั้ง จนกว่าสารหนูกรอบดีแล้ว จึงนำไปใช้ปรุงยาได้
     
   
    ๒.      การฆ่าปรอท    นำเอาทองแดง ทองเหลือง หรือเงินใส่ไว้ในปรอท   ให้ปรอทกินจนอิ่ม จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

   
   

๓.     การฆ่าลูกสลอด   มีหลายวิธีเช่น

   
   
        วิธีที่ ๑ เอาลูกสลอดห่อรวมกับข้าวเปลือก   ใส่เกลือพอควร  นำไปใส่หม้อดิน ใส่น้ำลงตั้งไฟ   ต้มจนข้าวเลือกบานทั่วกัน  จึงเอา ลุกสลอด   มาล้างให้สะอาด  ตากให้แห้ง  จึงนำไปใช้ปรุงยาได้

        วิธีที่ ๒ เอาลูกสลอดต้มกับใบมะขาม ๑ กำมือ ใบส้มป่อย ๑ กำมือ เมื่อสุกดีแล้ว จึงเอาเนื้อในลูกสลอด นำไปใช้ปรุงยาได้

   
   

๔.    การฆ่าชะมดเช็ด   โดยหั่นหัวหอม หรือผิวมะกรูด  ให้เป็นฝอยละเอียด  ผสมกับชะมดเช็ด  ใส่ลงในใบพลู หรือช้อนเงิน  นำไปลน ไฟเทียน  จนชะมดเช้ดละลาย  จนหอมดีแล้ว จึงกรองเอาน้ำชะมดเช้ด นำไปใช้ปรุงยาได้

 

   
   
( จากหนังสือ คู่มือเภสัชกรรมแผนไทย งานแพทย์แผนไทย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ กรกฎาคม ๒๕๔๑ หน้า ๑๙๐-๑๙๓)
   
   
   
         
   
HOME