thai1.gif (514 bytes)
การเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับมือใหม่ และผู้เริ่มต้นจะซื้อมาใช้งานคอมพิวเตอร์

 Last Update Tuesday, December 3, 2002 12:44 AM

ตอนนี้เพนเทียม4กำลังขายดีมากแม้ว่าperformanceเมื่อเทียบMHzกับAMDแล้วจะเท่าๆกัน แต่ผลการตลาดและคนซื้อจะเลือกMHzเป็นหลัก อินเทลยังขายดีกว่าครับ ตอนนี้ก็มีเซลเลอลอน northwood 2.0GHzออกมาขายแล้วด้วย แล้วตอนนี้เริ่มจะมีมาตรฐานฮาร์ดแวร์ใหม่ๆเกิดขึ้นมาในปีนี้เช่น มี AGP8x USB2.0 serial ATA Hypertheading Hypertransport DDR Pc3200(DDR400) สนับสนุนทั้งของค่ายอินเทลและAMDแล้วXP3200+สถาปัตยกรรม thourthbired กำลังมา จึงมีตัวเลือกสำหรับคนที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ๆแล้วครับ แรมSDRamกำลังหมดไปจากตลาดและDDRเป็นแรมที่เลือกใช้มากที่สุดในเวลานี้ ความเร็วซีพียูทะยานไปแตะที่ 3.06 GHz กันแล้วด้วย


การอัพเกรด
หากคุณต้องการประกอบเครื่องเอง
ซีพียู(CPU)
ระบบระบายความร้อน(Heatsink)
แรม(Ram)
ฮาร์ดดิสก์(Harddisk)
เมนบอร์ด(Mainboard)
การ์ดจอ(Video Card)
การ์ดเสียง(Sound Card)
โมเด็ม(Modem)
ซีดีรอม(CD-Rom)
มอนิเตอร์(Monitors)
อุปกรณ์ต่อพ่วง(Device)

การอัพเกรด
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่จะถือหลักว่าเลือก เครื่องที่มีความเร็วสูงที่สุดเท่าที่งบประมาณเรามี แล้วค่อยตามด้วยอุปกรณ์ดีไวซ์ที่เหมาะสมจะได้ประสิทธิภาพโดยรวมของคอมพิวเตอร์เราสูงที่สุด

สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ถ้าต้องการเน้นราคาถูกและประสิทธิภาพสูงในงานประเภทธุรกิจสำนักงาน เป็นซีพียูของค่ายAMD Duron1.3GHz เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ เป็นซีพียูสถาปัตยกรรมเดียวกับAthlon Palomino Morgan core ผลิตสำหรับผู้ใช้ตลาดล่าง ราคาถือว่าถูกที่สุดในตลาดซีพียู ราคา 1500บาท ถือว่าถูกมาก ใช้งานกับเมนบอร์ดsocketA
จุดด้อยซีพียูAMD ไม่มีมากไปกว่าการใช้งานร่วมกับระบบระบายความร้อนดีๆหน่อย
ซีพียูของIntel ก็ไม่พ้นceleron1.7-2.0GHz ใช้งานกับเมนบอร์ดP4 FSB400MHz สำหรับผู้ใช้เริ่มต้น
ตอนนี้เซลเลอลอนน่าเล่นกว่าครับ เพราะความเร็วสูงกว่าดูรอนแล้วเวลานี้

ลองถามตัวเองเสียก่อนว่าซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้งานอะไร ถ้าไม่ได้ใช้อะไรมาก เช่นพิมพ์เอกสารเวิร์ด งานบัญชี เปิดปิดโปรแกรมเพื่อการศึกษา กับเล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังวีดีโอซีดี ดีวีดี ฟังเพลงในยามว่าง หรือให้ลูกๆใช้เล่นเกมส์ หรือมัลติมีเดียสำหรับเด็ก ควรเลือกคอมพิวเตอร์ความเร็วอย่างน้อยระดับ 1.8GHz สำหรับงานรวมๆก็ถือว่าเกินพอแล้วครับ หรือเลือกซีพียูค่ายAMDก็ได้แต่ต้องเล่นAthlonXP 1800+ขึ้นไปจะคุ้มค่ากว่าราคาถูกกว่ารวมๆ ตามงบประมาณและความชอบครับ

Gammer ริซึ่ม

อันนี้เน้นสำหรับซื้อคอมพิวเตอร์มาเล่นเกมส์โดยเฉพาะ พวกเกมส์3Dภาพสวยๆ ไหลลื่นไม่กระตุก เลือกซื้อไม่จำกัดงบตามใจครับ เอาความเร็วสูงสุดในตลาดไปเลยก็ได้ มีอยู่2ตัวคือAthlonXPกับPentium4 ก็แล้วแต่ว่าจะเลือกของค่ายไหน ถ้าต้องการความแรงในราคาเบาๆก็AthlonXPล่ะ

ส่วนเพนเทียม4 รุ่นใหม่จะใช้Socket478 ความเร็วเริ่มต้นที่ 1.6a-3.0aGHz และมีตัวเลือกให้ใช้เมนบอร์ดแบบSdram+DDR ตระกูลชิพเช็ตi845 ,i850 i845PE,VIAP4x266-400, SiS 645dx SiS650 ที่ตอนนี้สามารถสนับสนุนFSB533 และDDR333-400 ได้แล้ว แทนแรมบัสราคาแพงลิ่วกันแล้วครับ ทำให้ราคาลดลงมาเยอะเลย ถึงประสิทธิภาพของSdramและDDR ในด้านmemoryBandwidthกำลังจะแซงrambusไปทุกที ถ้าเล่นเกมส์ใช้งานทั่วๆไปไม่แตกต่างกันครับ แต่เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ต้องการP4ในราคาถูก ใครจะเลือกP4 ก็ต้องเปลี่ยนบอร์ดซีพียูและเพิ่มค่าpowersupplyลงไปด้วยครับ

จริงๆแล้วประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเกมส์ อยู่ที่กราฟฟิกการ์ดแสดงผล3D เพราะเกมส์จะเร็วและให้ภาพสวยงามอยู่ที่ตัวการ์ดครับ แล้วก็ภาพจะสวยสดก็อยู่ที่การ์ดอีกล่ะ อย่างการ์ดตระกูลGForceสีออกจะจืดๆเมื่อปรับFSSAสูงกว่า2xสียิ่งจืดลงไปอีก แต่ความเร็วกลับโดดเด่นที่สุดถ้าใช้ความเร็ว300MHz+Gforce แล้วเทียบได้กับ ความเร็ว600MHz+tnt2ultra เลย ตอนนี้การ์ดตระกูลGF4-Mx กับSis Xabre มีดีไปคนละอย่าง แต่พอมาดูของATI Readon ก็มีดีคนละอย่าง Gforce4 Ti4600 กับReadon9500 ตัวReadonเร็วกว่าที่สุดครับในหลายๆการทดสอบที่32-bit FSSA4x

ถึงเรามีซีพียูเร็วแค่ไหนแต่เล่นเกมส์การ์ด3D อย่างsis630 เพื่อเล่นเกมส์3D คงอาจไม่เหมาะเท่าไหร่นะครับ จริงๆแล้วความเร็วซีพียู เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเอง การ์ด3Dตะหากครับตัวสำคัญ
เร็วสำหรับเกมส์ทุกเกมส์ที่ความละเอียดไม่เกิน 1024x768 ได้ภาพสวยงามและไม่กระตุก การ์ด3Dเป็นตัวสำคัญครับ แต่หากละเอียดกว่านี้เช่น1600x1200ก็ยิ่งดี ได้ภาพสวยงามและรอยหยักแทบจะไม่เห็น แต่ตัวอักษรฟอนต์ของวินโดว์จะเล็กตามด้วย คงมองลำบากนิดนึงและมีไม่กี่คนที่จะเล่นเกมส์ความละเอียดสูงขนาดนั้น... ที่จริงแล้วความเร็วขนาด60เฟรมต่อวินาทีถือว่าเร็วไหลลื่นที่สุดในสายตามนุษย์แล้วครับ เร็วกว่านี้คงดูเหมือนกับกำลังดูเทปเดินหน้าเร็วๆนั่นล่ะ การ์ด3dที่เน้นการเล่นเกมส์ในปัจจุบันถือว่าเร็วเกินพอแล้วครับ แต่จะมีเอฟเฟคอะไรเพิ่มมานั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง แต่งบมันเพิ่มขึ้นด้วย

การ์ดตระกูลSiS อันนี้มีเฉพาะรุ่น sisXabre 400 รุ่นนี้ใช้แรมddrแล้วประสิทธิภาพสูงมากดีกว่าGF4MX-460เสียอีก ราคาถูกกว่าด้วย สนับสนุนdx8.1 Pixel Shader ทั้ง Vertex Shader สนับสนุนครบหมดครับ

การ์ดตระกูล Martox G400 G450 G550 จุดขายอยู่ที่ความสวยงามกราฟฟิค มักจะเอาไปใช้งาน2Dและงานพวกตกแต่งกราฟฟิค การ์ดตระกูลนี้ถือว่าเล่นเกมส์ได้ดีมาก หลังๆG450จะออกแบบมาสำหรับงานกราฟฟิคทั่วๆไปมากกว่าที่จะเล่นเกมส์ ประสิทธิภาพค่อนข้างเหลือเฟือกับงาน 2D /3D แต่เลือกเอาระหว่าsingle Head duralHead สำหรับใช้งานสองจอภาพ และให้พลังสูงมากในการเล่นเกมส์ที่สี 32บิตเมื่อเทียบกับตระกูลTNT2 Ultra และVoodoo 3 เพราะเป็นการ์ดสถาปัตยกรรม256บิต และมีenviroment Bumpmappingที่สนับสนุนแสงสะท้อนเงาแบบฮาร์ดแวร์ที่การ์ดอื่นไม่มียกเว้นreadonกับGforce3 -Gforce4

การ์ดตระกูล NVidia เป็นรุ่นที่มีขายทั่วไปในตลาดเมืองไทยมากที่สุดเวลานี้ ถือว่ารองรับการเล่นเกมส์ได้สบาย หากต้องการความเร็วสูงสุดประสิทธิภาพสุดๆ
Gforce4Ti4600 ถือว่าสุดยอดที่สุดครับ รองลงมาก็GF4 Ti4200
ตอนนี้ GF4MX-460 ,MX440 ทุกตัวใช้DDRกำลังมาแทนที่GF2แล้ว
ตัวไดร์เวอร์ detonator อัพเดทบ่อยที่สุดในบรรดาการ์ด3D เล่นเกมส์ได้เร็วภาพสวยงามขึ้นกว่าไดร์เวอร์เก่าๆ

แต่ใช้งานทั่วไปGForce2MX400 คุ้มค่าที่สุดเวลานี้ หากต้องการราคาถูกใช้งานทั่วไป เล่นเกมส์ได้มีการมวลผลLighting Tranfromด้วยHearwareก็เล่นMX-200ได้ครับ เหมือนกับm64รุ่นอัพเกรด มีทั้งธรรมดาและ tvout
ให้ประสิทธิภาพดีมากในการเล่นเกมส์ แต่ถ้าเล่นเกมส์นิดหน่อย และเล่นความละเอียดไม่เกิน 1024x768ก็มีสำหรับเกมส์เมอร์คือและGF2MX ในราคาประหยัด

ตอนนี้Nvidiaออกชิพประมวลผลกราฟฟิกตัวใหม่เรียกว่า n-Force2 ที่รวมGF4MXลงไปด้วย จะมาพร้อมกับเมนบอร์ดใช้แรมDDRทำงานเป็นdual 128บิต มาพร้อมระบบเสียง dolby5.1 AGP8x SerialaTA USB2.0 มาพร้อมกับบัสhypertransportด้วย ครบครับสำหรับคนรักAMDจริงๆ...

Work Performance 

ผู้ใช้กลุ่มประเภทนี้ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เค้นเอาพลังสูงสุด มีระดับความเร็วสูงที่สุดทรัพยากรรอบข้างสูงสุดเท่าที่จะมีให้ได้ เลือกได้ 2บริษัทครับ คือAMD AthlonMP และPentium4 XEON 2-4cpu สำหรับเครื่องworkstation เห็นว่ามีขายแล้วครับ หรือจะเลือกแบบdesktopธรรมดาตอนนี้เร็วที่สุดในตลาดจะเห็นเป็น AthlonXP2.4GHz+ Pentium4 2.8GHz และจะเริ่มมี 3.0 GHzแล้ว

การเลือกซื้อ
ดูความจำเป็นที่จะซื้อไหม หลักมีอยู่คือ ต้องการเอามาทำอะไร รีบใช้มันไหม? ถ้าเมื่อไหร่คอมพิวเตอร์ตัวเดิมของเราทำงานกับโปรแกรมใหม่ๆในปัจจุบันช้ามาก และอนาคตไม่ไหว หรือมันเสีย ก็ซื้อมาเปลี่ยน การเลือกซื้อหรืออัพเกรดจึงควรจะทำได้ ทนใช้ได้ก็ขอให้ทนใช้มันจนถึงที่สุดของเรา แนะนำปรับเปลี่ยนเพิ่มแรมให้มากกว่าเดิม ฮาร์ดดิสก์ตัวใหญ่จะช่วยเพิ่มperformanceมากกว่าการเปลี่ยนความเร็วซีพียู ได้ชัดเจนกว่า ถ้าจะรอให้ราคามันตกเสียก่อนแล้วค่อยซื้อ หากยังตัดสินใจไม่ได้เอายังงี้ครับ "ให้ดูจังหวะ"...

ติดตามการเคลื่อนไหวราคาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บ่อยๆจะทราบได้ว่าจะมีบางจังหวะ บางช่วงที่ราคาจะลงๆขึ้นๆและเหมาะสม รอช่วงน้ำขึ้นค่อยซื้อค่อยตักเอาดีกว่าครับ ควรซื้อตอนราคาอยู่ตัว ถ้าถือว่าแลกซื้อกับเทคโนโลยีที่เราได้รับและใช้งานมันจนแล้วคุ้มค่าก็คุ้มแล้วครับ

เกิดคุณไม่จำเป็นรีบซื้อมาใช้งาน รอใจเย็นๆไปก่อนได้ครับให้ราคาอยู่ตัวเสียก่อน ไม่เสียหายครับ เงินที่เหลือจากการซื้อยังสามารถเอาไปใช้ซื้ออุปกรณ์อย่างอื่นได้อีก  ประหยัดทั้งเงิน แล้วเราพอใจด้วย คอมพิวเตอร์มันมีรุ่นใหม่มาตลอด ตัวเดิมตกรุ่นแต่ความเร็วและประสิทธิภาพยังใช้งานสูงกับงานทั่วไปเกินพอครับ

ยิ่งราคาแรมเริ่มถูกลงด้วย น่าจะเพิ่มแรมให้มากที่สุดตามงบประมาณที่มีอยู่ งานทุกอย่างจะเสร็จเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแรมครับ อัพเกรดแรมคอมพิวเตอร์จะเร็วขึ้นจนรู้สึกได้ชัดกว่าเปลี่ยนซีพียู ต่ำสุดสำหรับwindows98 อยู่ที่ 128MB ตอนนี้มาตรฐานจะขยับไปที่ windowsXP 256Mb

ถ้าต้องการอัพเกรดโดยซื้อใหม่ภายหลังแนะนำให้ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเลย
และ มีชื่อเสียงหน่อยครับ ต้องรู้ด้วยว่าเขาใส่อะไรลงไปในเครื่องและตรงใจเราด้วย ไม่นั้นเสปกอย่างหนึ่งแต่ข้างในเป็นอีกอย่าง

หรือข้อเสียอะไรที่ผมว่ามาคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างอุ่นใจ ตัดปัญหาจุกจิกต่างๆไปได้ง่าย เพราะอุปกรณ์ต่างๆมีความเข้ากันได้ (เฉพาะเครื่องของบริษัท) และสามารถปรับปรุงหรืออัพเดทได้ง่ายเช่นไดรฟ์เวอร ์หรือโปรแกรม Path ต่างๆ หาได้จากไซต์ผู้ผลิตในอินเตอร์เน็ตแต่ก็มีปัญหาเรื่องการประกันจากบริษัทตัวแทนอยู่บ้าง คือการประกันบริษัทเหล่านี้จะไม่ยอมให้end user ถอดชิ้นส่วนที่เกิดปัญหาไปเคลม ต้องยกทั้งเครื่องไป และเงื่อนไขอาจไม่เหมือนตามที่ระบุ เช่นเสียค่าซ่อมอะไหล่เกิน บางทีคุณอาจให้บริษัทแบรนด์ทั้งหลายเขามาmaintenance อาจเจอลูกเล่นเข้าคือเอาสติกเกอร์มาแปะรอยต่อระหว่างเคสไว้ พอเอามือถู ๆ นิดเดียวขาดง่ายๆทำให้การประกันอาจหมดไป คงสนุกนะครับโดนแบบนั้น

แต่ก่อนจะเลือกซื้อจากร้านตัวแทนที่เป็นทางการควรเช็คอุปกรณ์ว่าเป็นไปตามที่เราต้องการหรือเปล่า อัพเกรดง่ายไหม บริการดีไหม และเสียค่าบำรุงรักษาน้อย
มีบริการหลังการขายที่ค่อนข้างอุ่นใจได้จนหมดระยะเวลาประกันครับ

หากคุณต้องการซื้อคอมพิวเตอร์แบบประกอบเอง
คุณควรมีความรู้เรื่องอุปกรณ์บ้างถ้าเคยประกอบเครื่องมาก่อนจะได้เปรียบครับ หรือหาเพื่อนไปช่วยสัก 2-3คน (ถ้าเค้าอยากสละเวลาครับ) วิธีเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสมกับกระเป๋าเงินและงานของเรา เพื่อให้ได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด คุ้มที่สุด ยี่ห้อน่าเชื่อถือได้ และการรับประกันอะไหล่ทุกชิ้น

มี เงื่อนไขชัดเจนแน่นอนโดยร้านตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่ของที่นำมาเองหรือหิ้วเข้ามาเอง บางร้านประกันน้อยกว่าประกันทั่วไปยังมีเลย เช่นประกัน 2ปีแทนที่จะเป็น 3ปีเต็ม ควรพิจารณาให้ละเอียดมากๆ ถ้ายี่ห้อคุณภาพดีก็พอน่าเชื่อถือหน่อย ไม่แนะนำของจีนแดงนะครับ
อย่าลืมว่าร้านที่หิ้วมาขายเอง สินค้าในสต็อคจะมีปัญหาก็จะมีทั้งล็อต เราอาจรู้หรือไม่ก็ได้ครับ
เพราะหลังจากที่ซื้อไปแล้ว ควรทำการทดสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เสียไหมอย่างไร โดยทำการเบิร์นให้นานที่สุด ถ้าของที่ซื้อมามีประกัน 1 ปี เสียภายใน 1 เดือนเปลี่ยนฟรี ให้รีบลองทดสอบ ทำเลย อย่าทิ้งเครื่องไว้โดยเราไม่ได้เบิร์น

อุตสาห์เสียเงินซื้อมาด้วยเพื่อความไม่ประมาทครับ  การเบิร์นทำได้โดยเปิดเครื่องทิ้งไว้สัก 2อาทิตย์ ทั้งวันทั้งคืน คอยสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เสียงแปลกๆ อุณหภูมิ และทดสอบโปรแกรมอะไรก็ได้ที่ต้องการใช้พลังประมวลผลทุกด้าน เช่น โปรแกรมเบิร์นมาร์กต่างๆ 3Dmark2001se โปรแกรมวัดเสถียรภาพต่างๆเช่น โปรแกรม CPU Stability TEST วัดความร้อน เปิดดูวีดีโอซีดี โดยตั้งให้ความละเอียดสูง ตั้งเสียงแบบเสตอริโอโดยใช้ชอฟแวร์เล่น เพราะจะใช้ทรัพยากรมาก เหมาะในการเบิร์น หรือเล่นเกมส์และให้ปิดยูทิลิตี้ต่างๆที่ควบคุมพลังงานคอมพิวเตอร์ก่อนทำการเบิร์น หรือหาโปรแกรมเบิร์นคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เทสเครื่องทิ้งไว้ยังงั้นเลย พยายามเช็คทุกอย่างก่อนระยะประกันของคืนฟรี1เดือนจะหมด ถ้าเกิดปัญหาหลังประกันฟรี จะต้องเสียเงินเสียเวลาเพิ่มอีก
 

ซีพียู(CPU)
ซีพียูเร็วก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบจะสูง เพราะจะมีผลต่อการเลือกอุปกรณ์อื่นที่ต้องใช้ร่วมกับซีพียู การเลือกความเร็วซีพียู มีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์โดยรวม ในตลาดปัจจุบัน มีซีพียูอยู่ค่ายใหญ่ๆที่นิยมกัน 2 ค่าย คือ ซีพียูของอินเทล เอเอ็มดี แน่นอนว่าของแต่ละค่ายมีดีทั้งคู่ ราคาก็ต่างกันเยอะมาก มีอยู่ 2 ค่ายใหญ่โดย

Intel อินเทล ยังเป็นผลิตซีพียูขายในตลาดมากที่สุดอยู่นิยมใช้กัน โปรแกรมแอพพลิเคชั่นทุกตัวรองรับซีพียูค่ายนี้ สามารถรองรับงานทุกประเภททั้งงานธรรมดาจนถึงงานระบบเครือข่าย เน้นความเชื่อถือ เสถียรภาพ แต่ราคาค่อนข้างแพงครับ อัพเกรดไม่ค่อยยืดหนุ่น เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนรุ่นตระกูลความเร็วใหม่ๆจะไม่ค่อยเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์เก่าๆมักจะเปลี่ยนเมนบอร์ดกับแรมตามเสมอ แปลว่าต้องใช้งานของใครของมันล่ะครับ
ตอนนี้ Pentium4 Northwood ขายดีที่สุดในเวลานี้ ต้องใช้เมนบอร์ดซ็อกเก็ตแบบใหม่คือ 478 รูปร่างเล็กเพรียวลงความเร็วเริ่มต้นที่1.5GHz-3.0GHz และcpu รุ่นใหม่จะสนับสนุน hypertherading ซึ่งซีพียูเดียวแต่ทำงานเสมือนเป็น 2 ตัว เพิ่มperformanceได้อีก20-30% แต่ต้องเป็นรุ่น 3.06GHzขึ้นไป

ตัว Pentium 4 สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดที่สนับสนุนหน่วยความจำทั้งแรมบัส Sdram และDDRและ RDRam ได้ทั้ง 3แบบ แต่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด+เพาเวอร์ซัพพลายสำหรับP4ใหม่ตามอีก ใครจะเริ่มต้นกับซีพียูอินเทลถือว่าตัดสินใจดีครับ แต่ต้องดูงบด้วยนะ แพงน่ะ...

ถึงอย่างไร ซีพียูของอินเทลยังคงเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้อยู่ เพราะชื่อเสียงที่ผลิตมานานและคุณภาพ ความเสถียร และอิทธิพลของโฆษณาความเชื่อถือในตัวบริษัท ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักอินเทลมากกว่า ถ้าถามคนใช้ทั่วไปซีพียูของอีกค่ายก็คงทำหน้างงกันเพราะไม่เคยได้ยิน นี่ล่ะครับอิทธิพลโฆษณา ด้วยดั่งคำพูดที่ว่า "intel Inside"

AMD เอเอ็มดี
สำหรับผู้ต้องการเร็วแต่ราคาถูกคุณภาพดี จุดขายอยู่ที่ราคาถูกกว่าอินเทล และประสิทธิภาพดีกว่า มีความเร็วเหนือกว่าหรือใกล้เคียงกันและดีกว่า แต่การตลาดเขาเงียบกว่าอินเทลจริงๆ ถ้าไม่ใช่นักเล่นคอมคงไม่รู้จักแน่ เพราะซีพียูค่ายนี้แรงมาก เพราะถ้าเทียบMHzต่อMHzกันจริงๆ AMDเร็วกว่าครับ ใครต้องการถูก คุ้มค่า น่าลองเล่นนะครับ

อีกไม่นานซีพียูรหัสHammer ชื่อทางการว่า Athlon64 กำลังมา แน่นอนว่าประมวลผลที่64บิต มีเมมโมรีคอลโทรลเลอร์ในตัวซีพียูเลย ประสิทธิภาพแรมก็เร็วกระฉูด เพราะทำงานความเร็วเดียวกับซีพียู
ซ็อกเก็ตแบบใหม่แน่นอนว่าต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดด้วย แต่จะได้AGP8x USB2.0 IEEE1394 SerialATA DualDDR ปฏิวัติวงการเมนบอร์ดไปเลย ของเดิมปกติจะควบคุมที่ชิพ north bridge และเพิ่มแบนวิทข้อมูลด้วยHypertransport ระหว่างชิพเช็ต ปัญหาคอขวดข้อมูลจะหมดไปด้วย ระบบบัสHypertransport ตัวนี้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าHyperthreadingของอินเทล อีกไม่นานครับ ทันปลายธันวาคมปี 45
ความเร็วล่ะก็ ที่1.6GHz จะเร็วกว่าP4 3.06GHz แน่ๆ(มั้ง)

ซีพียูมีทั้งระดับล่างอย่างDuronความเร็วสูงสุด1.3GHz ราคาไม่ถึง1600บาท FSB200 และระดับบนตระกูลAthlon XPหรือpalomino 1.5GHz+จนถึง 3000GHz+ ใช้ระบบบัส 266-333MHz เพิ่มชุดคำสั่ง SSEแถมหลายๆโปรแกรมที่ทดสอบเร็วรดต้นคอPentium4 และเร็วสุดๆ เมื่อใช้งาน3dMAX ทั้งๆที่ใช้ MHzต่ำกว่า แต่ต้องใช้ddr pc3200 (ddr400) ถึงจะเร็วเท่าแรมบัส pc800
ตอนนี้ตัวAthlonXP จะใช้Performance Rating แสดงประสิทธิภาพแทนความเร็วMHzจริง คือที่ความเร็วจริง1.33GHz จะทำงานได้เร็วเทียบเท่า1.5GHz+


จุดสำคัญของซีพียูค่ายนี้คือต้องเลือกฮีทซิงค์ระบายความร้อนที่ใหญ่ดีกว่าเดิม และต้องติดตั้งให้ถูกต้องแนบสนิทกับcoreซีพียูจริงๆ เพราะcoreซีพียูอาจร้อนระบายไม่ทันจนไหม้ได้ครับ ถึงซีพียูตัวคอร์มันจะเล็กลง แต่ความเร็วสูงขึ้นการระบายความร้อนยังต้องพึ่งฮีทซิงค์ใหญ่ๆทั้งอินเทลและเอเอ็มดี แต่P4-ฮีทซิงค์ใหญ่กว่า ระบายความร้อนมากกว่า แสดงว่าความร้อนคงสูงกว่าAMD เพราะเห็นว่าPentium4ซิงค์ตัวเบ่อเร่อแต่ความร้อนตีไป45-50องศาน่ะ

ถ้าฮีทซิงค์ใหญ่และระบายความร้อนดีมาก ก็ยืดอายุซีพียูได้นานขึ้น ทำให้มีผู้ผลิตฮีทซิงค์หลายๆแบบและเริ่มนำทองแดงมาช่วยในการระบายความร้อนจากซีพียูด้วย

ฮีทซิงค์(Heatsink)

เป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีคู่กับซีพียูครับ หากระบบระบายความร้อนถูก ซีพียูก็ไหม้ ยิ่งเป็นตระกูลamd Duron T-Birdความเร็วสูงๆเกิน 900MHz- 3.5 GHz ความร้อนก็เยอะตามครับ ฮีทซิงค์ส่วนใหญ่ไม่มีให้เลือกมากเสียด้วย

หลักการเลือกฮีทซิงค์

ให้เลือกแบบหล่อทั้งตัว มีครีบระบายจำนวนมากหรือครีบแบนบาง ยิ่งครีบบางและจำนวนครีบเยอะๆ ยิ่งดีมาก จะได้กระจายอากาศได้ดี รูปร่างฮีทซิงค์ออกแบบให้สัมผัสอากาศมากที่สุด สามารถติดตั้งบนเมนบอร์ดได้ง่ายไม่ชนโดนอุปกรณ์อื่น สามารถอัพเกรดเปลี่ยนพัดลมตัวใหญ่ขึ้นได้ ใช้พัดลมแรงๆ แต่เสียงลมรบกวนดังมาก หากไม่ชอบเสียงรบกวนก็เลือกพัดลมตัวใหญ่และหาหัวบังคับทางลม 80mm-60mm มาใช้ด้วยครับ แรงลมดีกว่าเสียงจะเบากว่า

ฮีทซิงค์มีสองแบบคือ อลูมิเนียม กับ ทองแดง ฮีทซิงค์ทองแดงมีประสิทธิภาพดีกว่าแต่ราคาแพงกว่าซึ่งจะนำความร้อนได้ดีกว่า
แต่ข้อเสียคือ ทองแดงจะหนักกว่าอลูมิเนียม ขนาดเท่ากันหนักกว่ากัน 2 เท่า อาจมีปัญหาตัวcore ซีพียูบิ่นแตก ต้องใช้ครีบแบนบางมากหรือติดตั้งบนเมนบอร์ดแทนขาซ็อกเก็ตจึงจะช่วยแก้ปัญหาน้ำหนักได้
และการติดตั้งฮีทซิงค์ลงในซีพียูความเร็วสูงรุ่นใหม่ๆทุกตัวต้องใช้ซิลิโคนหรือthermal compoundเชื่อมประสานช่วยถ่ายเทความร้อนจากซีพียูไปฮีทซิงค์ด้วย

ฮีทซิงค์ทองแดง ครีบแบนบางมาก กระจายความร้อนได้ดีกว่า

แรม(Ram)

ปัจจุบันDDRramเป็นมาตรฐาน แทนSdram ความเร็วแบนวิธสูงกว่า มีทั้งpc2100 pc2600 pc3200 และราคาแรมบัสถูกลงกว่าเดิมเยอะมาก 128Mbราคาไม่ถึง 2พันบาทแล้ว ชนิดของแรมมีผลต่อแบนวิธของข้อมูล เพราะสามารถลดปัญหาคอขวดของการส่งข้อมูลและรับข้อมูลจากแรมไปซีพียูและจากฮาร์ดดิสก์ไปแรม จากแรมไปอุปกรณ์แสดงผล และทำงานเร็วขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้น ยี่ห้อควรเลือกดังๆ เช่น Micron Infinion Hundai Apacer Cosiar Kingston KingMax Mushkin IBM ที่เป็น 1st party เพราะคุณภาพสูงมาก สามารถทำงานที่ CAS2ได้ ความเสถียรการใช้งานมีสูง
คนที่จะoverclockควรมองแรมดีๆไปก่อน

การรับประกันแรมก็มีตลอดการใช้งาน แต่ราคาสูงกว่า ทั่วไปส่วนใหญ่ก็มีแต่ 3rd party ขายมากกว่าและราคาถูกกว่า นอกนั้นเป็นยี่ห้ออื่นเช่นHITACHI SAMSUNG ,SIEMENS, Toshiba ,Viking, Winbond ,Mitsubishi ,NEC, NPN, SIEMENS,  SEC, LGs เห็นยี่ห้อเท่านี้ล่ะครับ

DDRราคาจะลดลงมาถูกกว่าsdramแล้วและมีเมนบอร์ดสนับสนุนเกือบทุกยี่ห้อ ทำให้น่าสนใจกว่าเดิมแต่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดหรือมีชิพเช็ตใหม่ที่สนับสนุนแรมddrด้วย และไม่สามารถใช้งานร่วมกับsdramเดิมที่มีอยู่ เพราะร่องสลอตของแรมขาไม่ตรงกัน และถ้าเมนบอร์ดมีช่องใส่แรมมา 2ชนิดก็ต้องเลือกใช้แรมชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น

ddrมีทั้ง pc-1600 สำหรับFSB100to 200 และpc-2100FSB133to 266 pc2700สำหรับDDR333 และpc3200สำหรับDDR400 และเมนบอร์ดรุ่นใหม่จะมีDualDDR ออกมาประสิทธิภาพสูงกว่าRD Ram แน่นอน และใส่2ตัวทำงานคู่กัน



ฮาร์ดดิสก์(Harddisk)
ตอนนี้ความจุฮาร์ดดิสก์เริ่มขยับมาตรฐานขึ้นไปเกินกว่า 40GB-80GBแล้วครับเป็นอย่างต่ำและมาตรฐานการโอนถ่ายข้อมูลจากATA-66 ไปที่ ATA-100 และATA133มาตรฐานใหม่เพิ่มความเร็วจานหมุนเป็น7500รอบ ให้ความเร็วการโอนถ่ายสูงขึ้นและต้องใช้สายแพขนาด80เส้นแทน เพื่อเพิ่มการโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วตามและขยับมาตรฐานความจุใหม่ไปที่40GBเป็นอย่างต่ำ กันแล้วครับ ตอนนี้Serial ATA มีขายแล้วด้วย


จะว่าไปงานที่เราทำอยู่และทุกโปรแกรมต่างต้องการเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ทั้งนั้น แต่ถามว่าความจุเท่าไหร่ดี ถามคุณก่อนครับว่าจะเก็บข้อมูลอะไรบ้างครับ เกิดคุณใช้งานตกแต่งภาพ เล่นอินเตอร์เน็ตดาวน์โหลดสารพัดโปรแกรม เพลงMP3 หรืองานตัดต่อวีดีโอ ไม่พอเก็บเอ้า...(ผมใช้4.3Gbยังเหลือเยอะ ) ควรเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุสูงๆเสียหน่อยครับ ควรเลือกความจุมากกว่า 40GB ถือว่าเป็นราคาต่อความจุเหมาะสมที่สุดในเวลานี้ครับ ส่วนความจุสูงกว่านั้นอาจไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไปครับหากความจุต่ำกว่า

แต่ต้องมีเมนบอร์ดสนันสนุนฮาร์ดดิสก์มาตรฐานATA-100-133นี้ด้วย หากทำงานออกแบบ ตกแต่ง แก้ไขกราฟฟิกแบบ2มิติและ3มิติทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวแบบมืออาชีพ รวมถึงงานตัดต่อแก้ไขวีดีโอระดับมืออาชีพ และต้องการความเร็วการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุด และไม่จำกัดงบประมาณ อาจเลือกฮาร์ดดิสก์แบบSCSI ต่อใช้งานraid 0 ก็ได้ครับ เพราะเป็นฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูงที่สุด สนับสนุนการเชื่อมต่อผ่านสายใยแก้วหรือสายไฟเบอร์ออฟติก และลดปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นได้และสนับสนุนการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้งหรือสามารถทำงานหลายงานพร้อมกันได้ดีกว่าฮาร์ดิสก์แบบE-IDEมากถ้าเลือกฮาร์ดิสก์แบบSCSIแล้วต้องใช้งานร่วมกับการ์ดคอนโทรลแบบSCSIด้วย อีกทั้งต้องเลือกใช้การ์ดหน่วยความจำไบออสเพื่อจะได้บูตระบบผ่านอุปกรณ์แบบSCSI ไม่นั้นฮาร์ดดิสก์จะไม่ทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

และตอนนี้มีสายนำข้อมูลฮาร์ดดิส์แบบใหม่ชนิด serial-ATA ขนาดเส้นเล็กลงและทำให้เนื้อที่ภายในเคสโล่งขึ้นไม่มีสายแพแบนๆเกะกะอีก
อย่างไรก็ตามคุณควรจะดูตรงนี้บ้างครับ ต้องมีประกันด้วย อย่างน้อย 3ปีเป็นอย่างต่ำจากตัวแทนนำเข้าโดยตรง เช่น Complex ,MAXWELL ,D-Com ,PHL,Ingram เคลมได้ตลอดระยะเวลาการใช้งาน เพราะว่าฮาร์ดิสก์เป็นอุปกรณ์ที่เสียง่ายที่สุดและหมดอายุเร็วที่สุดครับ
ก่อนจะซื้อให้ทดสอบก่อนด้วยว่าฮาร์ดดิสก์มีความจุตามที่ต้องการหรือเปล่า มีปัญหาการใช้งานหรือไม่ ทำการแสกนผิวฮาร์ดดิสก์ดูด้วยว่ามี Bad Sectorหรือเปล่า แล้วค่อยจ่ายเงินครับ อย่าลืมใบรับประกันและควรมีเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ของตัวแทนจำหน่ายไว้ เผื่อร้านที่ซื้อมาไม่รับซ่อมเวลาเสียครับ เพื่อเป็นการตัดปัญหาไปเลย เลือกซื้อฮาร์ดดิสก์จากตัวแทนที่เป็นทางการไปดีกว่า


เมนบอร์ด(Mainbord)
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุด เมนบอร์ดหรือคือหัวใจของคอมพิวเตอร์ การเลือกซื้อต้องพิถึพิถันที่สุด คิดไว้ก่อนว่า ต้องทน เสียยาก เสถียรสูงไม่แฮงค์ง่าย เปิดเครื่องได้เป็นอาทิตย์โดยไม่เกิดอาการพัง สามารถอัพเกรดได้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ได้ง่าย การรับประกันสินค้าดี

ตอนนี้ชิพเช็ตออกมาใหม่สามารถสนุบสนุนมาตรฐานฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่นchipset AC 97 audio codecมาให้ มี AGP8x Serial-ATA133 Usb2.0 ให้พร้อมสนับสนุน DDR pc2700-3200ที่ทำงานในความเร็วบัส 266MHz-400MHzด้วย มีLan IEEE1394มาในตัว และมีRaidมาด้วย นอกจากนี้บัสHyperTransportของAMD HyperTheadingของอินเทล ก็มีมาให้สนับสนุนแล้วครับ ซีพียูและชิพเช็ตต้องสนับสนุนตามด้วย

และเมนบอร์ดรุ่นหลังสามารถปรับดิพสวิสต์ตัวคูณเพื่อโอเวอร์คล็อกได้ หรือปรับตัวคูณได้ในไบออส ทำให้ยืดหนุ่นกับลูกเล่นต่างๆด้วย
ผู้ผลิตเมนบอร์ดของรายใหญ่ในเวลานี้ได้แก่ ASUS MSI Gigabyte Aopen ChianTech ECS ABIT DFI FIC Tekram Tyan Soltek Shuttle ACROP Iwill supermicro เป็นต้น นอกนั้นเป็นยี่ห้อทั่วไป ใช้ชิพเช็ตของอินเทลและVIAมาผลิตเมนบอร์ด ลูกเล่นอาจน้อยลงและฟังก์ชั่นถูกตัดตอนออกไป

เมนบอร์ดที่มีชื่อเสียงจะมีโปรแกรมและไดร์เวอร์สนับสนุนไว้และเพื่อสะดวกในการอัพเกรดไบออสภายหลัง แต่ยี่ห้อดังๆมักจะขายแพง บางยี่ห้อแพงเกินความจำเป็นเลยยังมี แต่จะมีออฟชั่นครบหรือมีฟีเจอร์สนับสนุนมาให้ครบครัน

การเลือกซื้อ
ลักษณะของเมนบอร์ดที่ดีนั้นลายวงจรเมนบอร์ดจะดูเนียบ พิถึพิถันและใช้อุปกรณ์เกรดA มีตัวเรกูเรเตอร์หรือภาคจ่ายไฟสะอาดคุณภาพสูง สังเกตจากขดลวดสองขวดและทรานซีสเตอร์มีอย่างน้อย 4ตัว บางบอร์ดจะให้มาถึง8ตัวเลยก็มีและตัวเก็บประจุขนาดใหญ่มากแสดงถึงความเสถียรภาพสูงในการใช้งาน
ควรเลือกยี่ห้อที่ติดตลาดที่สุด เช่นยี่ห้อASUS Gigabyte ECS ABIT Iwill DFI Epox MSI Aopen Soltek ซึ่งประกัน 3ปีสำหรับเมนบอร์ดตลอดอายุการใช้งาน แต่ละยี่ห้อราคา ลูกเล่นจะแตกต่างกันไปครับ
เมนบอร์ดยี่ห้อดังมักจะเสียค่อนข้างยากความเสถียรสูง  และMade in Taiwan ส่วนใหญ่ถือว่าคุณภาพดี ไม่ได้ผลิตจากจีนแดง อย่างน้อยอุ่นใจมาก

การ์ดจอ(VideoCard)
การ์ดVGAรุ่นใหม่ๆ จะมีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคโดยเฉพาะคือ GPU ซึ่งจะช่วยคำนวณแสง-เงา(Tranfrom-Lighting) ที่เดิมซีพียูประมวลผลคราวนี้ตัวการ์ดทำหน้าที่แทน ช่วยลดภาระการทำงานของซีพียูลง ทำให้ซีพียูสามารถประมวลด้านอื่นได้ไวขึ้น ผลประสิทธิภาพในการแสดงผลเกมส์สูงขึ้นเห็นได้ชัด เล่นเกมส์ในความละเอียดเกินกว่า 1024x1078 ให้ไหลลื่นเกินกว่า 30เฟรมต่อวินาทีได้ ความละเอียดเกินกว่านี้ประสิทธิภาพของเกมส์จะลดลงจนกระตุกมาก เล่นได้ไม่สนุก
ภาพสวยงามขึ้น แต่ต้องมีเกมส์สนับสนุน และAPI Directx 8.1 ขึ้นไปด้วย สนับสนุนDVD Hardware ต่อออก 2Monitorได้ หรือใช้งานด้านvideoด้วย จึงเป็นยุคของVGA- GPUในเวลานี้

ที่เห็นๆกันคือตระกูลGForce ของnvidia และReadonของ ATI และSiSXabre และการ์ดVGA ถูกผลิตในแนวทางเดียวกันคือ แบนวิธสูงขึ้น สนับสนุนAPIรุ่นใหม่ๆ เพิ่มความเร็วการเรนเดอร์ภาพให้สูงขึ้น มีหน่วยGPUที่ช่วยคำนวณแสง-เงาแทนซีพียู สนับสนุนโอนถ่ายข้อมูล 4x-8x มีหน่วยเกลี่ยภาพให้เรียบเนียนขึ้น มีหน่วยแสงสะท้อนจากวัตถุได้ด้วยฮาร์ดแวร์ มีหน่วยลดรอยหยักที่เกิดจากภาพสามเหลี่ยมโพลิกอนให้มากที่สุด ชนิดมีความโค้งมนได้100%ให้ภาพที่สมจริงที่สุด สนับสนุน3Dเต็มรูปแบบ จริงๆแล้วหากเล่นที่ความละเอียดสูงๆ ภาพโพลิกอนจะหายไปหมดเพราะถูกเกลี่ยให้เรียบจนดูเนียนได้เอง แต่การ์ดรุ่นก่อนส่วนใหญ่ทำงานได้ยากเพราะต้องใช้พลังงานการประมวลผลสูงมาก ์ ตอนนี้มีหลายค่ายที่ผลิตการ์ดGPUออกมาอย่างATI Readon Savage2000 แต่ที่โดดเด่นสุดคือการ์ดจอของค่ายNvidia ตระกูลG-forceครับล่าสุดและเร็วที่สุดคือGForce4 Ti 4600 ATi Readon 9500 เร็วที่สุดแล้ว

การ์ดจอในตลาดปัจจุบันเป็นAGP  ทั้งหมดและมาตรฐานการ์ดอยู่ที่4xจะเปลี่ยนไปใช้8xแล้วด้วย และสนับสนุนAPI DirectX 8.0ขึ้นไปในเวลานี้ มีหน่วยความจำวีดีโอที่32Mb-128Mb และถูกออกเบบให้ใช้งานได้ทั้ง 2มิติ และ3มิติ สามารถถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วกว่าการ์ดรุ่นเดิมๆทั้งหมด โดยเฉพาะการแสดงผลที่ความละเอียดสูงๆเหมาะกับผู้ใช้งานออกแบบกราฟฟิคและเล่นเกม ซึ่งตัวซิพเซตจะมีฮีทซิงค์ระบายความร้อนหรือไม่ก็เป็นพัดลมติดมาด้วย การ์ดAGP ทุกตัวควรมีไว้ เพราะว่าความร้อนมันสูงมากจนอาจจะเกิดการแฮงค์ได้ครับ อากาศบ้านเราเป็นเมืองร้อนและส่วนใหญ่เครื่องที่บ้านไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ เราควรเลือกการ์ดจอให้เหมาะสมกับงานที่ทำและงบที่มีให้คุ้มค่าในการใช้งาน ถ้าเราเป็นผู้ใช้ประเภทงานธุรกิจในสำนักงาน งานบัญชี ภาษี งานพิมพ์ นักเรียนนักศึกษาที่ใช้ทำรายงาน ไม่ได้ต้องการความเร็วในการแสดงผลมาก ดูหนังวีดีโอซีดี ฟังเพลง งานบันเทิงภายในบ้านก็เลือก การ์ดราคาถูกใช้งานทั่วไปได้หมดเช่นsis tnt2m64 GF2MX-200


และการ์ดระดับกลางถึงระดับบน ถ้าคุณต้องการใช้งานตกแต่งภาพกราฟฟิค เล่นเกมส์ ตัดต่อภาพวีดีโอ DVD ก็มีการ์ดอย่าง Gforce4MX ATI Readon9000de Martox G400และ G-450ที่ยังเหมาะสมกับคุณเวลานี้ หากเป็นเครื่องแมคฯก็มีATIที่พอใช้งานได้เหมือนกัน

สำหรับระดับไฮโซและคอเกมส์ แน่นอนว่าต้องเป็นGF4Ti4600 ,ATI Readon 9500 ครับ การ์ดอย่างตระกูลGPUเช่นG-force นั้น มีทั้ง256 bit ธรรมดาและ 128-bit 500MHzddr ram500,GF2ddr GF3ddr Tiตอนนี้เร็วสุดยอดของการเล่นเกมส์แล้วและยังทำGPUรุ่นประหยัดลงมาอย่างGF4MX ตัวชิพเป็นชิพGF4แต่ลดคุณสมบัติบางตัวและแรมลงมาราคาจึงถูกกว่า

แต่ทุกรุ่นอย่างน้อยใช้แรม 32เม็กกันหมด แต่ก็มีรุ่นไฮ-เอนด์ที่ใช้แรม64เม็กขึ้นไป และอีกไม่นานคงมีรุ่น64เม็กสำหรับผู้ใช้ทั่วไปด้วย และราคาของGF2MX400 น่าสนใจพอสมควร และการ์ดระดับATL Readon ก็น่าสนใจครับ มีให้เลือกddr sdramด้วย สำหรับการ์ดระดับออกแบบกราฟฟิต 3DMax Animation ก็มีG-Force Quaradio Oxigen ราคามหาโหด ใช้งานเฉพาะด้านCAD CAMเท่านั้นครับ

วิธีดูควรดูจากความนิยมและยี่ห้อเป็นหลักและดูว่าเป็นการ์ดแบบPCIหรือAGPถ้าเป็นแบบหลังจะเหมาะกับเมนบอร์ดเครื่องรุ่นใหม่ แบบแรกจะเหมาะกับการอัพเกรดเครื่องรุ่นเดิม การ์ด2D/3Dในปัจจุบันมีมาตรฐานการเร่งความเร็วทั้งแบบ 2มิติและ3มิติในตัวเดียวกัน ราคาตามออพชั่นของการ์ด ยี่ห้อและชิพเซตผู้ผลิตการ์ด อินเตอร์เฟตแบบAGP มีแบบ2x-4x มีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลที่ประมาณ 500Mb /วินาที สูงกว่า แบบPCI 133 MB/วินาทีทำให้ความเร็วการแสดงผลสูงขึ้น AGPแสดงผลได้เร็วกว่าPCIในโหมดความละเอียดสูงๆ แต่จะเห็นผลก็เมื่อใช้กับความละเอียด 1024x1068ขึ้นไป และเล่นเกมส์ความละเอียดสูง หรืองานตกแต่งภาพ ออกแบบกราฟฟิคต่างๆครับ
ไม่ควรเลือกยี่ห้อราคาถูกเกินไปหรือยี่ห้อโนเนม จีนแดงทำขาย ถึงราคาถูกแต่อุปกรณ์คุณภาพแย่ และความทนทานต่ำ การ์ดจอเคยไหม้มาแล้วครับ
ส่วนการ์ดจอแบบที่มีช่องเสียบTV OUT นั้นจะได้ประโยชน์ตรงที่เวลาต่อเข้าโทรทัศน์เพื่อแสดงงาน บนจอภาพหรือโปรเจกเตอร์ หรือดูหนังDVDหรือเล่นเกมบนจอโทรทัศน์ ราคาจะสูงกว่าการ์ดไม่มีTV OUT ยังต้องดูยี่ห้อและความเร็วแรมที่เอามาผลิตเป็นการ์ดด้วยเพราะมีหลายคนซื้อมาแล้วเอาไปโอเวอร์คล็อก แต่ผมจะเน้นชิพแรมที่ความเร็วสูงกว่าการแสดงผลก็จะเร็วกว่า หากโอเวอร์คล็อกตัวการ์ดแล้วความเร็วในการเล่นเกมส์จะเพิ่มขึ้น แต่ความร้อนจะสูงขึ้นตามด้วย และยี่ห้อการ์ดที่พอเชื่อถือได้จากผู้ผลิตการ์ดในแบรนด์ตัวเองและขายตามพันทิพย์ มี ASUS, Elsa ,Hercules,Gigabyte, Martox ,Cardexpert WinFast, MSI ,diamond ,PixelView ,Cretavie,3dfx,3Dlabs Oxygen นอกนั้นเป็นการ์ด ผลิตในเมืองจีน คุณภาพปานกลางหน่อยอย่างยี่ห้อ AXLE ,Colormax, Daytona ,Guilamot,Innovition ,Jaton ,Powercolor,Tornado, VDO Excel ,Vero ,Vigor
บางยี่ห้อมีประกันเพียงปีเดียวบางตัวประกันยาวนานถึง 3ปีและปีเลย เช่นมี ASUS 3ปี, Elsa 3ปี-6ปี,Hercules 3ปี MSI 3ปี

การ์ดเสียง (SoundCard)
การ์ดเสียงธรรมดา สามารถใช้งานได้ทั่วไปเช่น ฟังเพลงจากซีดีหรือใช้ในการเล่นเกมส์ทั่วๆไปมีทั้งใช้ในอินเตอร์เฟตแบบISA และPCI สนับสนุนมาตรฐาน SoundBlaster สนับสนุนระบบเสียง 3 มิติ ถ้าต้องการความสามารถในการเล่นไฟล์เสียงชนิด MIDI เช่นเล่นเพลงคาราโอเกะโดยมีความไพเราะหรือสามารถให้เสียงดนตรีที่สมจริง คุณก็ซื้อ Daughter Board ที่เป็นWavetableคุณภาพดีๆมาต่อเองก็ได้ เพราะเสียงมิดี้จะดีกว่าที่มีชิพWavetableอยู่บนตัวการ์ด เช่น Creative SBLive Value การ์ดเสียงแบบPCIจะดีกว่าแบบISA ตรงที่ประสิทธิภาพในการส่งถ่ายข้อมูลของระบบบัส ทำให้ประมวลผลเสียงรวดเร็วกว่า ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการสร้างเสียงต่างๆของการ์ดเสียงสูงขึ้น และใช้พลังประมวลผลซีพียูน้อยลง ตอนนี้มาตรฐานเสียง 3มิติ และสนับสนุนระบบdolby 5.1กำลังเป็นที่นิยมกับงานบันเทิงเช่นเกมส์และซอฟต์แวร์มัลติมีเดียส่วนใหญ่ทำให้สามารถสร้างเสียงแบบ3มิติที่มีความซับซ้อน สมจริงขึ้นไปอีก
แต่เมนบอร์ดเก่าบางรุ่นอาจมีปัญหากับการ์ดPCIรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้มาตรฐานใหม่ PCI 2.1 การ์ดของCreative น่าเล่นกว่าเพราะได้เปรียบกว่าในเรื่องเจ้าของมาตรฐานsound braster wavetable และมีEAX เพิ่มแอฟเฟคสมจริงในการเล่นเกมส์ และมีการสนับสนุนโฮมเธียเตอร์ต่อลำโพงได้มากถึง 5ตัวหรือdolby5.1 มี font ,rear, lift, rightและลำโพง subสำหรับการ์ดรุ่นtop นอกจากนี้เมนบอร์ดหลังๆใหม่ๆจะมีการรวมชิพซาวด์การ์ดออนบอร์ดลงไปมาตรฐานAC-97ลงไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องซื้อซาวด์มาเพิ่มเติมถ้าใช้งานฟังเพลงดูหนังทั่วๆไปได้ดีครับ

โมเด็ม(Modem)
มาตรฐานโมเด็มกำหนดโดย ITUล่าสุด คือมาตรฐานV.90-V.92 ที่ความเร็ว 56Kbps และโมเด็มรุ่นใหม่ๆสนับสนุนมาตรฐานนี้กันหมดแล้ว บ้านเรายังมีปัญหาเรื่องความเร็วไม่ถึง 56Kอย่างแท้จริง ถือว่าเป็นเรืองปกติ ขึ้นอยู่กับISPที่เราใช้บริการด้วย แล้วก็คุณภาพชุมสายโทรศัพท์ เพราะความเร็วในการเชื่อมต่อกับISPจะใช้โมเด็มมาตรฐานV.90 แม้ทางISPสนับสนุน V.90 แต่โมเด็มมาตรฐานV.34(36.6Kbps) ไม่สามารถเชื่อมต่อความเร็วเกินมาตรฐาน V.90หรือ 56Kได้ ดังนั้นโมเด็มที่ราคาถูกน่าเลือกซื้อที่สุดคือ โมเด็มความเร็ว 56Kbps V.90ครับ

ในตลาดแบ่งโมเด็มออกเป็น 2 แบบ คือExternal และแบบInternalทั้ง ISA PCI และ USB มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แบบต่อภายนอกหรือExternalข้อดีอยู่ที่ถอดใส่สะดวก สามารถถอดโมเด็มไปใช้งานเครื่องอื่นง่าย ติดตั้งง่าย ความเร็วสูง ข้อเสียจะแพงกว่าโมเด็มแบบต่อภายใน ต้องมีอะแดปเตอร์จ่ายไฟเลี้ยงโมเด็ม

โมเด็มรุ่นใหม่จะมีพอร์ตแบบUSBออกมาให้ ทำให้ความเร็วการส่งข้อมูลสูงขึ้นกว่าใช้สายparallelเดิม และสามารถอดออกได้โดยไม่ต้องปิดเครื่องและใช้กับi-macหรือเครื่องอื่นที่ใช้พอร์ตUSBได้ ใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่กินแรงซีพียูทำให้ประสิทธิภาพลดลงเล็กน้อย

ส่วนแบบInternal ข้อดีคือราคาถูกกว่าโมเด็มแบบแรกในความเร็วการเชื่อมต่อเดียวกัน การส่งถ่ายข้อมูลเร็วกว่า ข้อเสียคือต้องใส่อยู่กับเครื่องเลย ถอดติดตั้งกับเครื่องอื่นไม่สะดวก และอาจมีปัญหาการจองพื้นที่หน่วยความจำ หรือค่าIRQใช้ค่าตัวเดียวกัน ต้องกำหนดพอร์ตสำหรับโมเด็มโดยเฉพาะ ค่อนข้างยุ่งยากกว่าโมเด็มแบบExternal และหากเสียขึ้นมาแล้วเมนบอร์ดอาจเสียตามด้วย ควรระวังไว้สักนิดครับ โดยเฉพาะกรณีใช้งานขณะฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่า หรือที่ไฟตกไฟกระชาก
ปัญหาจุกจิกของชิพของโมเด็มกับการใช้งานใช้งานเช่น ชิพของRockwell ใช้พลังการประมวลผลสูงจะไม่สามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีคำสั่ง MMXได้ หากใช้งานกับเพนเทียม100ที่ไม่มีชุดคำสั่ง MMXการติดตั้งโมเด็มภายในจะไม่สมบูรณ์ ชิพตัวอื่นใช้งานได้ตามปกติกับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ส่วนชิพโมโตโลล่าก็มีปัญหาเรื่องการติดต่อเข้าระบบอินเตอร์เน็ต สายหลุดบ่อย และความเร็วไม่เกิน 40kต้องอัพเกรดไดร์เวอร์ใหม่เพื่อแก้ปัญหาทำให้โมเด็มทำงานเสถียรขึ้น และความเร็วเกิน 50kbpsได้

ในอนาคตโมเด็มความเร็วสูงอย่างTSDN ASDL cable modemน่าสนใจมากกว่าเดิม ความต้องการใช้เน็ตความเร็วสูงกำลังมีมากขึ้น ทางเลือกน่าสนใจครับจ่ายเหมาแล้วเล่นเท่าไหร่ก็ได้แถมเร็วกว่า64-128K แต่ราคากับการใช้งานเหมาะกับร้านเน็ตขนาดใหญ่มากกว่า  

ซีดีรอม(CD-Rom)
การซื้อไดร์ฟซีดีรอม คุณเลือกซื้อความเร็วสูงๆไว้จะดีที่สุด และมียี่ห้อกับการรับประกันไว้ด้วย ไดร์ฟซีดีรอมมีทั้งแบบถาดวางลงและแบบเสียบเข้า (slot in ) ข้อดีของถาดคือ สามารถอ่านแผ่นซีดีแบบ มินิซีดีได้ แต่ข้อเสียคือเป็นรอยง่าย เพราะถาดไม่มีกำมะหยี่รองรับ แต่แบบเสียบเข้า(slot in) มีข้อดีตรงที่ว่า แผ่นไม่เป็นรอยเลย สามารถวางแผ่นอ่านแบบแนวตั้งได้ เริ่มนิยมมากขึ้นในตลาด ข้อเสียเห็นจะเป็นไม่สามารถอ่านมินิซีดีไม่ได้เอง
ปัจจุบันซีดีรอมความเร็วสูงสุดในตลาดอยู่ที่ 54เท่า(1เท่า = 150 Kb/s) หรือเร็วกว่า คุณจะเลือกใช้ DVDก็ได้ เพราะใช้ได้ทั้งแผ่น DVD Rom และ CD Rom ถ้าราคาไม่สำคัญตอนนี้ราคาDVDรุ่นไม่ล็อกโซนก็ถูกลงมากในระดับไม่เกิน 3000บาทสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น และมีความเร็วถึง 16x ใช้ซอพต์แวร์DVDเล่นหนังได้ตามปกติ
หากต้องการภาพคมชัดก็ต้องมีการ์ดแปลงfile MPEG2 หรือใช้ชอฟต์แวร์เล่นเอา หากจะเลือกไดร์พซีดีรอมแบบ SCSI ราคาค่อนข้างสูง แต่ความเร็วในการทำงานจะสูงกว่าไดรฟ์ซีดีรอมแบบ EIDE ทั่วๆไปครับเหมาะกับการเข้าถึงฐานข้อมูลซีดีรอมจากผู้ใช้หลายๆคนมากกว่า
การเลือกซื้อ หลักคือ ถ้ายังไม่พังไม่ต้องซื้อใหม่อายุการใช้งานอย่างน้อย 1ปี สำหรับไดร์ซีดีรอมตัวนั้น แล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งานด้วย



แต่ปัญหาจุกจิกจากเครื่องอ่านซีดีมีอยู่คือ เวลาอ่าน เสียงมอเตอร์ค่อนข้างดัง บางครั้งแผ่นซีดีร้อนขณะอ่าน แผ่นเป็นรอยขณะหมุนอ่าน ซึ่งอนาคตจะมีการปรับปรุงให้เงียบลงและอ่านได้เร็วขึ้น แผ่นซีดีเสียหายน้อยลง เริ่มมีการนำเอาDVD Driveมาแทนเป็นมาตรฐาน แต่ว่ากว่าจะนิยมคงอีกประมาณ 2-3ปีก่อนเพราะราคาแผ่นDVDยังสูงอยู่ ยี่ห้อที่ควรเลือกซื้อ มียี่ห้อ PIONEER ASUS SONY Panasonic Aopen NEC Creative Panasinic ยี่ห้อดังๆที่ติดตลาดครับ  

แล้วก็หากเลือกเครื่องเล่นDVDเอาไปใช้งานอ่านแผ่นCDธรรมดา ก็สามารถอ่านได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องมอเตอร์เสีย เพราะ cd1x ส่งข้อมูลที่ 150kb ส่วนdvd1xส่งข้อมูลที่ 1350kb เร็วกว่า 9เท่า ถ้าเอาซีดีไปอ่านแผ่นบนหัวDVD มันจะเรียกข้อมูลไวขึ้น แต่ต้องแลกกับความเร็วมอเตอร์อ่านซีดีเร็วเกินกว่าเดิม 9 เท่า คิดว่าหัวอ่านDVD ไม่ก็มอเตอร์จะเจออะไรในระยะยาวครับ ผมให้เวลาไม่เกิน 1เดือนเอ้า....

CD-Writer

ตอนนี้สื่อบันทึกข้อมูลที่คุ้มค่าที่สุดคือcd-r cdr-w ราคาต่อความจุถูกมากครับ และสามารถบันทึกข้อมูลได้ปริมาณมากๆเท่าที่ต้องการ แล้วCD-RW สามารถเขียนทับลงไปลบแล้วเขียนใหม่ได้หลายๆครั้งเช่นเดียวกับฟลอฟปี้ดิสก์เครื่องบันทึกมีทั้งแบบbuffer 2mb แบบburn proof ,StreamLink,JustLink จะชื่ออะไรก็ว่าไปมันก็เทคโนโลยีเดียวกันล่ะครับ ที่หากข้อมูลถูกส่งมาไม่ทันสามารถอยุดรอเขียนได้ ลดปัญหาแผ่นเสียได้มากขึ้น ปัจจุบันมีความเร็วการเขียนสูงถึง 16x32x10x และจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มจะมีDVD-RWออกมาแล้ว สามารถเขียนได้ทั้งแผ่นDVD-r DVD-rw CD-r และCD-Rw ด้วย

มอนิเตอร์(Monitors)
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจอมอนิเตอร์ขนาด 15 นิ้ว เพียงพอแล้วสำหรับงานทั่วไปราคาไม่สูงมากครับ ส่วน 14 นิ้วก็ดีพอสมควร ส่วนขนาดอื่นที่ใหญ่กว่านี้ไม่ค่อยคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป ถ้าใช้งานออกแบบตกแต่งกราฟฟิกหรืองานDesktop Publishing ควรเลือกมอนิเตอร์ขนาดไม่ต่ำกว่า 17 นิ้ว จอแบนFlattronเพื่อจะได้เห็นรายละเอียดของภาพและสบายตาในการทำงานมากกว่า ถ้าใช้งานกราฟฟิกแบบมืออาชีพ ควรเลือกขนาด 20 นิ้วก็เพียงพอ เงินเยอะหน่อยก็ควรเลือกนะครับ ควรเลือกจอSONY Trinitron จะดีกว่า เพราะจอนี้ดูสบายตา ไม่ปวด ภาพคมชัด และตอนนี้มีจอมอนิเตอร์รุ่นFlatแบนบางออกมาขายกันแล้ว ราคาเหยียบสามสี่หมื่นบาท แต่ทำให้พื้นที่โต๊ะทำงานโล่งขึ้นเยอะดูเหมือนคอมพิวเตอร์สำนักงานรุ่นใหม่เลยครับ พยายามเลือกจอที่สนับสนุนการปรับrefreshสูงๆ 85Hz -100Hzยิ่งดี จะได้มองสบายตาขึ้น
 

อุปกรณ์ต่อพ่วง(Device)
อันนี้มักเป็นพวกไดรฟ์หน่วยความจำสำรองชนิดถอดเปลี่ยนได้เป็นส่วนใหญ่ เช่น ZIP Drive JAZZ Drive LS-120 หรือฮาร์ดดิสก์แบบถอดเปลี่ยนได้ MO-Drive แล้วแต่ความจำเป็นต้องการใช้และราคานะครับ ถ้าคุณทำงานนอกบ้านและนำงานกลับมาทำต่อด้วย ZIP Driveเป็นทางเลือกที่ดี แต่ความจุน้อยครับ เพียงแค่100Mbเองปัจจุบันมีไดรฟ์รุ่น250Mbมาให้แทนความจุเดิม และสามารถใช้ร่วมกับ100Mbได้ปัจจุบันเริ่มมีขนาด250Mbให้ใช้งานได้แล้วครับ   เหตุที่ผมแนะนำZIP Driveเพราะว่า สะดวกในการใช้งาน และนิยมกันในหมู่ผู้ใช้งานตกแต่งภาพขนาดใหญ่ๆต้องนำงานกลับไปทำที่เครื่องอื่น และผู้ต้องการโอนข้อมูลมากกว่า50Mbขึ้นไปที่แผ่น1.44Mbทำไม่ได้ หรือไว้สำรองข้อมูล ส่วนราคาค่อนข้างถูกมาก ส่วน JAZZDrive MO Drive ก็แพงระยับเกือบ 2-3หมื่นบาทเลย และงานของเครื่อง Macก็นิยมใช้ไดร์ฟ ZIPกันมาก ครับ มีทั้งแบบ Parawell แบบSCSII และ EIDEหรือแบบติดตั้งแทนไดรฟ์A:/ และหน่วยความจำแบบพกพาอื่นๆเช่น USB Memory stickขนาด32-64-128และความจุสูงกว่านี้ในอนาคต ความสะดวกตรงที่พกพาไปได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีHarddiskUSBขายด้วย ของเล่นแปลกๆอื่นๆ พวกFlashกล้องดิจิตอล สายพ่วงต่อเครื่องปาล์ม จอยสติ๊ก เมาส์ คีย์บอร์ด ลำโพงที่ต่อพ่วงUSB แล้วในอนาคตจะมีตัวเชื่อมต่อแบบIEE1394(FireWall) USB2.0ความเร็วสูงกว่าเดิมมาด้วย

กลับไปหน้าบน Back to Top

 
surprise.gif (3432 bytes)กลับไปเมนูหลัก new start

กลับไปหัวข้อComputer Turbo

 

 
ICQ
16489378


email to

muhn@hotmail.com

กลับไปเมนูหลัก new start

© Copyright 2000-2001. MUHN-Computer. All Rights Reserved.

WebMaster:muhn@hotmail.com