วงจรรวมตั้งเวลาเบอร์ 555
วงจรรวมตั้งเวลาเบอร์ 555 การทำงานของวงจรภายในแสดงดังรูปที่ 2.8 ตัวต้านทานทั้ง 3 ตัวจะทำหน้าที่แบ่งแรงดันจากแหล่งจ่าย ซึ่งจะมีแรงดัน 1/3 ของแหล่งจ่ายตกคร่อมที่ตัวต้านทานแต่ละตัว โดยที่แรงดันที่จุด +(1/3)Vcc และ +(2/3)Vcc จะเป็นแรงดันอ้างอิงให้กับวงจรเปรียบเทียบแรงดันที่ใช้ออป-แอมป์สองตัว วงจรเปรียบเทียบแรงดันทั้งสองที่ใช้ออป-แอมป์นั้น จะเปลี่ยนสภาวะเอาต์พุตก็ต่อเมื่อแรงดันที่อินพุตเกินแรงดันอ้างอิง วงจรเปรียบเทียบแรงดันหมายเลข 2 มีแรงดันอ้างอิงที่ +(1/3)Vcc ถ้าแรงดันทริกเกอร์(TRIGGER)ที่ขา 2 ที่ป้อนให้อินพุตลบของวงจรเปรียบเทียบแรงดันหมายเลข 2 ต่ำกว่า +(1/3)Vcc มันจะทำให้เอาต์พุตของวงจรเปรียบเทียบแรงดันหมายเลข 2 เปลี่ยนสภาวะ วงจรเปรียบเทียบแรงดันหมายเลข 1 แรงดันอ้างอิงอยู่ที่ +(2/3)Vcc ดังนั้น ถ้าแรงดันเทรสโฮล(THRESHOLD) ที่ขา 6 มีค่ามากกว่าแรงดันอ้างอิงจะทำให้เอาต์พุตของวงจรเปรียบเทียบแรงดันหมายเลข 1 มีการเปลี่ยนสภาวะ จะสังเกตเห็นว่าเอาต์พุตของวงจรเปรียบเทียบแรงดันทั้งสองต่อเป็นอินพุตให้กับฟลิป-ฟลอป ซึ่งก็หมายถึงว่าการเปลี่ยนสภาวะของฟลิป-ฟลอปถูกควบคุม โดยค่าแรงดันเอาต์พุตของวงจรเปรียบเทียบแรงดันทั้งสองวงจร ดังนั้นการเปลี่ยนสภาวะเอาต์พุตของฟลิป-ฟลอปจะเกดขึ้นเมื่อแรงดันทริกเกอร์อินพุตขา 2 ต่ำกว่า +(1/3)Vcc หรือเมื่อแรงดันอินพุตสูงเกิน +(2/3)Vcc

รูปที่ 2.8 แสดงบล็อกไดอะแกรมของไอ.ซี. เบอร์ 555
สังเกตว่าเอาต์พุตของฟลิป-ฟลอป จะใช้ขับทรานซิสเตอร์ที่ใช้คายประจุ และภาคเอาต์พุต(OUTPUT STAGE) เมื่อเอาต์พุตของฟลิป-ฟลอปเป็นสภาวะสูง จะทำให้ภาคเอาต์พุตมีสภาวะต่ำเป็นลอจิก 0 หรือกราวด์ และทรานซิสเตอร์ที่ใช้คายประจุทำงาน (นำกระแส) ถ้าเอาต์พุตของ ฟลิป-ฟลอปเป็นสภาวะต่ำ จะทำให้ทรานซิสเตอร์ที่ใช้คายประจุหยุดทำงาน และจะทำให้ภาคเอาต์พุตมีสภาวะสูงเป็นลอจิก 1 หรือประมาณ Vcc สภาวะของภาคเอาต์พุตและสภาวะการทำงานของทรานซิสเตอร์ที่ใช้คายประจุขึ้นอยู่กับค่าแรงดันที่ขาเทรสโฮล(THRESHOLD)ขา 6 หรือขาทริกเกอร์(TRIGGER)ขา 2 รูปที่ 2.9 แสดงการต่อไอซี 555 เป็นวงจรอะสเตเบิลมัลติไวเบรเตอร์(ASTABLE MULTIVIBRATOR)ซึ่งเป็นวงจรฐานเวลา โดยขา 8 และขา 4 ต่ออยู่กับแหล่งจ่ายไฟตรงค่าระหว่าง 5 ถึง 15 โวลท์ เมื่อต่อขา 2 กับ ขา 6 เข้าด้วยกัน ไอซี 555 จะมีการกระตุ้นตัวมันเอง ซึ่งจะให้ไอซี 555 ทำงานเป็นวงจรฟรี-รันนิ่ง มัลไวเบรเตอร์(FREE-RUNNING MULTIVIBRATOR) ตัวเก็บประจุภายนอก( C1) จะสะสมประจุจากกระแสที่ไหลผ่านตัวต้านทาน RA และ RB และคายประจุให้กระแสไหลผ่านตัวต้านทาน RB และอุปกรณ์ภายในของไอซี

รูปที่ 2.9 (ก.) แสดงวงจรโมโนสเตเบิลมัลติไวเบรเตอร์โดยใช้ไอ.ซี. เบอร์ 555

รูปที่ 2.9 (ข.) แสดงรูปคลื่นแรงดันที่ขา 3ของวงจรอะสเตเบิลมัลติไวเบรเตอร์โดยใช้ไอซี 555
และรูปคลื่นของแรงดันที่ผ่านตัวเก็บประจุ C2
ตัวเก็บประจุจะสะสมประจุจาก +(1/3)Vcc ถึง +(2/3)Vcc แล้วคายประจุผ่าน RB และตัวไอซีจนเหลือ+(1/3)Vcc ดังรูปที่2.9 ซึ่งจะเห็นว่าในขณะที่ C1 เริ่มสะสมประจุ เอาต์พุตของวงจรจะเป็นสภาวะสูง ซึ่งมันจะคงสภาวะนี้ตลอดช่วงเวลา t1 ซึ่งหาได้จากสูตร t1 = 0.693(RA +RB)C1 และค่าวัฏจักรหน้าที่(DUTY CYCLE)หาได้จาก t1/ T [4] เมื่อ C1 เริ่มคายประจุผ่าน RB แรงดันตกคร่อมตัวมันจะลดลงเหลือ +(1/3)Vcc และที่ช่วงเวลานี้(t2)เอาต์พุตจะเป็นสภาวะต่ำ ซึ่งหาได้จาก t2 = 0.693RBC1 [4] สำหรับความถี่เอาต์พุตหาได้จากสูตร f= 1/T โดยที่ T คือคาบเวลาของการสะสมและการคายประจุซึ่งมีค่าเท่ากับ t1+t2 ดังนั้นเราจะได้ f = 1/T = 1/(t1+t2) = 1.44/[(RA +2RB)]C1






หากใครสนใจจะแลกลิ้งค์เมล์มาได้เลยครับ.