ประวัติวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน

        วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เดิมมีชื่อว่า“มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ศูนย์การศึกษา วัดพระธาตุหริภุญชัย” มีพระราชธีราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำพูน พระราชมหาเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย พระปิฎกคุณาภรณ์ หัวหน้าศูนย์ครูพระปริยัตินิเทศก์ และพระครูไพศาลธรรมานุสิฐ เลขานุการศูนย์ครูพระปริยัตินิเทศก์ลำพูน เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งในนามคณะสงฆ์ จังหวัดลำพูน โดยการประสานงานของวิทยาเขตเชียงใหม่ ได้รับความเห็นชอบจากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิตระดับปริญญาตรี ในคณะครุศาสตร์ วิชาเอกสังคมศึกษา จุดประสงค์เพื่อขยายการศึกษาให้พระภิกษุสามเณรในจังหวัดลำพูนและส่วนภูมิภาคได้ศึกษาระดับปริญญาตรี มีโอกาสศึกษาวิชาการชั้นสูงทางพระพุทธศาสนาควบคู่กับวิชาการทางโลก มีความรู้คู่คุณธรรม เสียสละอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาสังคมและ ประเทศชาติ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐

         ปีการศึกษา ๒๕๔๐ มีพระปิฎกคุณาภรณ์ เป็นผู้ช่วยอธิการบดี,พระครูไพศาลธรรมานุสิฐ เป็นผู้ช่วยคณบดีคณะครุศาสตร์ มีคณาจารย์ประจำอีก ๔ ท่าน คือ พระมหาจำเริญ ธีรปญฺโญ พระมหาสมาน จนฺทรํสี, พระปลัดจารุตม์ อรุโณ, นายปรีชา ศรีสอนใจ, และนายจักรพงษ์ เพ็ญเวียง และอาจารย์พิเศษจำนวน ๑๒ ท่าน เปิดสอน ๑ ห้องเรียน มีนิสิตชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๔๐ รูป

        ปีการศึกษา ๒๕๔๑ มีนิสิตชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๔๓ รูป ชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๓๖ รูป รวม ๗๙ รูปมีผู้บริหารคณาจารย์ประจำ เจ้าหน้าที่และอาจารย์พิเศษ รวม ๓๓ รูป/คน

       ปีการศึกษา ๒๕๔๒ มีนิสิตชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๔๖ รูป ชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๓๘ รูป ชั้นปีที่ ๓ จำนวน ๓๔ รูป นิสิตกศ.พส.ปี ๑ จำนวน ๒๓ รูป รวม ๑๔๑ รูป มีผู้บริหารคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และอาจารย์พิเศษรวม ๓๙ รูป/คน

       ปีการศึกษา ๒๕๔๓ ได้เปิดการศึกษาเพิ่มในคณะพุทธศาสตร์ เอกพระพุทธศาสนาสำหรับพระสังฆาธิการเจ้าอาวาสมีพระโสภณกิตติธาดา ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอธิการบดี พระครูไพศาลธรรมานุสิฐ เป็นรักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยลำพูน มีคณาจารย์ประจำรวม ๕ ท่าน เจ้าหน้าที่ประจำ ๓ คน อาจารย์พิเศษจำนวน ๓๖ รูป/คน นิสิตชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๔๕ รูป ชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๓๘ รูป ชั้นปีที่ ๓ จำนวน ๓๘ รูป ชั้นปีที่ ๔ จำนวน ๓๔ รูป นิสิตกศ.พส. ชั้นปีที่๑ จำนวน ๒๑ รูป ชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๑๗ รูป รวม ๑๙๓ รูป

      ปัจจุบันปีการศึกษา ๒๕๔๔ เปิดรับสมัครพระนิสิตชั้นปี ๑ จำนวน ๔๐ รูป พระนิสิตภาคพิเศษสำหรับพระสังฆาธิการ (กศ.พส.) จำนวน ๓๕ รูป คาดว่าจะมีนิสิตทุกชั้นปีจำนวน ๒๖๘ รูป

ตารางแสดงสถิติพระนิสิตภาคปกติ

 

พ.ศ. ๒๕๔๐

พ.ศ.๒๕๔๑

พ.ศ. ๒๕๔๒

พ.ศ. ๒๕๔๓

พ.ศ. ๒๕๔๔

นิสิตปี ๑

๔๐

๔๓

๔๖

๔๕

 

นิสิติปี ๒

 

๓๖

๓๘

๓๘

 

นิสิตปี ๓

   

๓๔

๓๘

 

นิสิตปี ๔

     

๓๔

 

นิสิตปี ๕

         

รวม

๔๐

๗๙

๑๑๘

๑๕๕

 

ตารางแสดงสถิติพระนิสิตการศึกษาพิเศษเพื่อพระสังฆาธิการ (กศ.พส.)

 

พ.ศ. ๒๕๔๐

พ.ศ.๒๕๔๑

พ.ศ. ๒๕๔๒

พ.ศ. ๒๕๔๓

พ.ศ. ๒๕๔๔

นิสิตปี ๑

   

๒๓

๒๑

 

นิสิติปี ๒

     

๑๗

 

นิสิตปี ๓

         

นิสิตปี ๔

         

นิสิตปี ๕

         

รวม

   

๒๓

๓๘

 

ตารางแสดงสถิติพระนิสิตภาคปกติและกศ.พส

 

พ.ศ. ๒๕๔๐

พ.ศ.๒๕๔๑

พ.ศ. ๒๕๔๒

พ.ศ. ๒๕๔๓

พ.ศ. ๒๕๔๔

นิสิตปี ๑

๔๐

๔๓

๖๙

๖๖

 

นิสิติปี ๒

 

๓๖

๓๘

๕๖

 

นิสิตปี ๓

   

๓๔

๓๘

 

นิสิตปี ๔

     

๓๓

 

นิสิตปี ๕

         

รวม

๔๐

๗๙

๑๔๑

๑๙๓

 

 

        ทางวัดพระธาตุหริภุญชัยได้อนุญาตให้ใช้อาคาร “ราชธีรามหาเจดีย์ ศรัทธากาวีย์อุปถัมภ์” เป็นอาคารเรียน ๑ หลัง เป็นรูปตัว L ขนาด ๙ x ๑๘ เมตร ๓ ชั้น ๑๑ ห้อง มีความพร้อมด้านเครื่องโสตทัศนู ปกรณ์ติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)ห้องปฏิบัติการทางภาษา ตลอดถึงอุปกรณ์การศึกษาอื่น ๆ พอควร ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และคณะสงฆ์จังหวัดลำพูนและศรัทธาประชาชนทั่วไปร่วมกันบริจาค

ลำดับเหตุการณ์ก่อตั้งวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน

๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๙  พระครูปริยัติธำรงและคณะเข้าพบพระธรรมสิทธาจารย์รองอธิการบดีพระครูธรรมเสนานุวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสวนดอก, พระดร. วิโรจน์ วุฑฺฒิจารี ผู้อำนวยการวิทยาเขตเพื่อขอคำปรึกษาและวิธีดำเนินการจัดตั้งศูนย์การศึกษาที่วัดพระธาตุหริภุญชัย

๕ สิงหาคม ๒๕๓๙ พระราชธีราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำพูน นำเรื่องการจัดตั้งศูนย์การศึกษาเข้าสู่ที่ประชุมพระสังฆาธิการจังหวัดลำพูน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาวัดพระธาตุหริภุญชัย และยินดี ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณเต็มที่

๒๕ กันยายน ๒๕๓๙ คณะกรรมการบริหารวิทยาเขตเชียงใหม่มีมติเห็นชอบรับหลักการ แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเบื้องต้นในการจัดตั้งศูนย์ ฯ โดยมีพระ ดร.วิโรจน์ วุฑฺฒิจารี เป็นประธานกรรมการ, พระปลัดปั่น อะทะเทพ, และกรรมการอีก ๔ ท่าน มีหน้าที่สำรวจความพร้อมและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์ฯ

๒๘ ตุลาคม ๒๕๓๙ คณะกรรมการวิทยาเขต ได้พิจารณาข้อมูล ซักถามรายละเอียดคณะกรรมการประสานงานเบื้องต้นที่ได้ไปตรวจดูความพร้อมของศูนย์ฯ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ จะเสนอโครงการต่อมหาวิทยาลัยต่อไป

๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๙ วิทยาเขตเชียงใหม่ มีหนังสือถึงอธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติเปิดศูนย์ ฯ สาขาของวิทยาเขตเชียงใหม่

๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ คณะผู้บริหารคณาจารย์ส่วนกลางนำโดย พระครูปลัดสุวัฒนพรหมคุณ, พระมหาโกวิทย์ สิริวณฺโณ พร้อมคณะ, ผู้บริหารวิทยาเขตเชียงใหม่  นำโดยพระธรรมสิทธาจารย์ , ผู้บริหารศูนย์ ฯ โดยพระราชธีราภรณ์ พระปิฎกคุณาภรณ์ พระครูไพศาลธรรมานุสิฐ รวมจำนวน ๑๖ รูป/คนเข้าร่วมประชุมณห้องประชุมอาคารราชธีรามหาเจดีย์ฯและตรวจดูความพร้อมด้านอาคารสถานที่วัสดุอุปกรณ์ สาธารณูปโภค งบประมาณ เพื่อรายงานต่อมหาวิทยาลัยต่อไป   ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๐ ปฐมนิเทศพระนิสิต มจร.ศูนย์การศึกษาวัดพระธาตุหริภุญชัย จำนวน ๔๐ รูป ณ วิทยาเขตเชียงใหม่    ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๐ งานพิธีเปิดป้ายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ศูนย์การศึกษาวัดพระธาตุหริภุญชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือเป็นประธาน

     วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ได้ดำเนินการด้านศาสนศึกษา การวิจัย การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และงานส่งเสริมวิชาแก่สังคมมาโดยตลอด งานวิจัยถือเป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัย จึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยภาค ก่อตั้งสถาบันวิจัยหริภุญชัย สำหรับเป็นศูนย์ รวมนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ เป็นการฝึกฝนคณาจารย์พระนิสิตและนักวิจัยท้องถิ่นให้มีทักษะงานวิจัย และเป็นแหล่งข้อมูลศึกษาค้นคว้าวิจัยเพื่อท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน

     ด้านส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ได้มีส่วนร่วมงานประเพณีสรงน้ำและงานประเพณีทำบุญ สลากภัตรวัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นประจำทุกปี      ด้านงานบริการวิชาการแก่สังคม ได้ออกอากาศเผยแผ่ธรรมทางวิทยุรายการ “แสงส่องใจ” ทุกวันเสาร์ เวลา ๒๐.๓๐ น. ทาง สวท.ลำพูนระบบ FM ความถี่ ๙๕ MH จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน โครงการสอนศีลธรรมในโรงเรียน โครงการอบรมจริยธรรมสัญจรต่อต้านยาเสพติด โครงการสัมนาทางวิชาการ โครงการโทรทัศน์ “เสียงล้านนา” และโครงการสอนภาษา วรรณกรรมล้านนา เป็นต้น

       วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มีผู้อำนวยการวิทยาลัย เป็นผู้ดูแลและมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอน โดยทำหน้าที่แทนคณะวิชาในส่วนกลาง ในวิชาเอกที่ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนให้เป็นไปตามนโยบาย หลักสูตร แผน ระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลัย แบ่งเป็นฝ่ายงาน ดังนี้

 

แผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน

นโยบายและมาตรการ แผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ลำพูนระยะที่ ๘ (พ.ศ.๒๕๔๐–๒๕๔๔)

  1. งานบริหารทั่วไป

นโยบาย

    1. วางแผนการบริหารเพื่อพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ได้ กำหนดไว้
    2. พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างการบริหารวิทยาลัยสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดความคล่องตัวก่อเกิดประโยชน์สูงสุด
    3. พัฒนาระบบงานต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนเหมาะสมต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
    4. พัฒนาทรัพยากรและการประสานงานทุกด้าน เพื่อให้วิทยาลัยสงฆ์สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง
    5. พัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ กฎหมาย กฎข้อบังคับ ระเบียบ ของมหาวิทยาลัย
    6. จัดหา พัฒนาอาคารสถานที่ รวมทั้งครุภัณฑ์และเทคโนโลยีให้เหมาะสม เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน
    7. ระดมทุนจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์

มาตรการ

    1. กำหนดให้มีแผนปฏิบัติการ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานเป็นรายปี
    2. ให้มีข้อบังคับวิทยาลัยสงฆ์เกี่ยวกับการกลั่นกรองงาน และโครงการที่กำหนดไว้ในแผนเพื่อเสนอขออนุมัติมหาวิทยาลัย
    3. เร่งรัดให้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์
    4. กำหนดขอบข่ายหน้าที่ของหน่วยงานของวิทยาลัยสงฆ์ให้ชัดเจน
    5. ส่งเสริมสนับสนุนบุคลากรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัย
    6. ให้มีการกระจายอำนาจการตัดสินใจในการบริหารแก่ผู้บริหารทุกระดับ
    7. ดำเนินการปรับปรุงอาคารสถานที่ของวิทยาลัยสงฆ์เพื่อการใช้สอยให้ได้ประโยชน์สูงสุด
    8. เร่งรัดดำเนินการจัดหาสถานที่ และสร้างอาคารเพิ่มขึ้นให้เพียงพอและเหมาะสมกับภารกิจของวิทยาลัยสงฆ์
    9. จัดทรัพย์สินของวิทยาลัยสงฆ์ให้เป็นระบบและเกิดประโยชน์สูงสุด
    10. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรของวิทยาลัยสงฆ์ ด้วยการฝึกอบรม ดูงานให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่รับผิดชอบ สามารถนำเอากฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งและประกาศของมหาวิทยาลัยมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    11. ส่งเสริมให้มีการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมแก่บุคลากร
    12. เร่งรัดจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่รวมทั้งจัดระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อการวางแผนพัฒนา
    13. กำหนดสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์
    14. ส่งเสริมให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างมหาวิทยาลัยกับคณะสงฆ์ และองค์กรภายนอกที่เกี่ยวข้อง
    15. ประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดให้มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
    16. เร่งรัดให้กำหนดวิธีการและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อระดมทุนจากแหล่งต่าง ๆ
งานจัดการศาสนศึกษา

นโยบาย

  1. ผลิตบัณฑิตทุกระดับให้มีคุณภาพที่พึงประสงค์ คือ มีความรู้ความเข้าใจในพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งและสามารถประยุกต์เข้ากับศาสตร์ต่าง ๆ ได้ มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส ใฝ่รู้ ใฝ่คิด เป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญา มีความสามารถในการแก้ปัญหารู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม มีโลกทัศน์และจิตสำนึกกว้างไกล มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม มีศักยภาพในการบริหารการจัดการเรียนและสื่อพระสัทธรรม
  2. พัฒนาบุคลากรการใช้เทคโนโลยีการศึกษาและประกันคุณภาพทางวิชาการ
  3. พัฒนาและจัดสรรบุคลากรอุปกรณ์การศึกษาและแหล่งความรู้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพที่เอื้อต่อการผลิตบัณฑิต และเพิ่มศักยภาพความเป็นผู้นำทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนา
  4. พัฒนาศักยภาพนิสิตให้มีวินัย ความรอบรู้ คุณธรรม จริยธรรม และความเป็นผู้นำมีจิตสำนึกผูกพันกับสถาบัน รู้จักรับผิดชอบต่อตนเองพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ
  5. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรให้สัมพันธ์กับการเรียนการสอน
  6. พัฒนาระบบปฏิบัติศาสนกิจให้มีประสิทธิภาพสัมพันธ์กับการเรียนการสอนและการ
  7. ศึกษาต่อ

  8. ส่งเสริมระบบสวัสดิการแก่นิสิตอย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรการ

  1. พัฒนากระบวนการเรียนการสอนเพื่อสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยเน้นด้านพระพุทธศาสนา
  2. จัดการเรียนการสอนให้เรียนรู้ด้วยตนเอง จัดกิจกรรมเสริมสร้างโลกทัศน์โดยการปฏิบัติภาคสนาม
  3. จัดการเรียนการสอนให้นิสิตมีความรู้ภาษาไทย บาลี และภาษาต่างประเทศ
  4. จัดการเรียนการสอนแก่นิสิตด้านคอมพิวเตอร์ให้สามารถพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
  5. ปรับปรุงระบบการฝึกสอนและประสบการณ์ชีวิตของนิสิตให้มีประสิทธิภาพ
  6. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรและกิจกรรมอาสาสมัครทางสังคม เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกในพระพุทธศาสนา เป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญารวมทั้งวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการและสื่อพระสัทธรรม
  7. พัฒนาครูต้นแบบที่เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้
  8. พัฒนาบุคลากรให้สามารถใช้โสตทัศนูปกรณ์เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อประกอบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  9. ส่งเสริมการศึกษาต่อ และเพิ่มพูนประสบการณ์การวิจัยท้องถิ่น
  10. พัฒนาวิชาการด้านศาสนา ปรัชญา และภาษาให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
  11. ส่งเสริมนิสิตให้ปฏิบัติตามระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
  12. พัฒนาองค์กรนิสิตและจัดสรรทรัพยากรที่เกี่ยวกับงานกิจการนิสิต ให้มีความพร้อมและ เหมาะสมกับปริมาณงาน
  13. จัดประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน และประสบการณ์การวิจัยแก่นิสิต
  14. ส่งเสริมให้นิสิตมีความรู้และทักษะในการเผยแผ่ศีลธรรมตามสถาบันการศึกษาและหน่วยงานของรัฐและเอกชน
  15. สนับสนุนองค์กรนิสิตจัดและเข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันอุดมศึกษาและองค์กรภายนอกเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
  16. จัดให้มีกิจกรรมแนะแนวการศึกษา
  17. ให้แต่ละคณะรับผิดชอบกิจกรรมการปฏิบัติธรรม โดยร่วมมือกับฝ่ายกิจการนิสิตและสถาบันวิปัสสนาธุระ
  18. ส่งเสริมให้นิสิตจัดกิจกรรมและสร้างเครือข่ายการอบรมศีลธรรมแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป
  19. วางแผนและประเมินผลการปฏิบัติศาสนกิจให้ครบวงจร
  20. จัดสวัสดิการเกี่ยวกับทุนการศึกษา ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และสุขภาพอนามัยของนิสิต

งานวิจัย

นโยบาย

  1. ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานวิจัยให้เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยเพิ่มมากขึ้น
  2. สนับสนุนบุคลากรมหาวิทยาลัยให้ทำการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และการเรียนการสอน
  3. ส่งเสริมการวิจัยและการจัดกิจกรรมทางการศึกษาให้เอื้อและเสริมสร้างซึ่งกันและกัน
  4. สร้างเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการวิจัยกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น

มาตรการ

  1. จัดตั้งสถาบันวิจัยหริภุญชัย บริหารงานวิจัยให้สัมพันธ์ร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ
  2. จัดให้มีการระดมทุนและจัดตั้งกองทุนการวิจัยแก่หน่วยงานและผู้ทำวิจัย
  3. จัดให้มีระเบียบวิจัยและระเบียบกองทุนการวิจัยเพื่อสนับสนุนการวิจัยและกระบวนการทางการวิจัยให้มีประสิทธิภาพ
  4. จัดให้มีกรรมการด้านการวิจัย เพื่อพัฒนากระบวนการวิจัยคุณภาพการวิจัยและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้วิจัย
  5. จัดสรรงบประมาณเพื่อการวิจัยการพัฒนานักวิจัย และการเผยแผ่ผลงานการวิจัยในสัดส่วนที่เหมาะสม
  6. ส่งเสริมให้มีโครงการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยระยะสั้น สำหรับอาจารย์ของวิทยาลัยสงฆ์ โดยวิธีการผสมผสานระหว่างการฝึกอบรม ดูงาน ควบคู่ไปกับการวิจัยภาคสนาม
  7. ส่งเสริมบุคลากรของวิทยาลัยสงฆ์ให้ทำการวิจัยมากขึ้น โดยการให้โอกาสไปศึกษาอบรมและทำวิจัยแทนการเรียนการสอนหรือทำหน้าที่อื่น
  8. จัดให้มีการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนาโดยเน้นพระไตรปิฎก เพื่อแก้ปัญหาทางด้านศีลธรรม จริยธรรม ระบบความเชื่อที่เบี่ยงเบนจากเกณฑ์มาตรฐานวิชาการทางพระพุทธศาสนา และการวิจัยเพื่อการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบโดยเน้นการแก้ปัญหาสถาบันสงฆ์ ยาเสพติด โรคเอดส์ ความขัดแย้ง ความรุนแรง คุณภาพชีวิต การช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตและสิ่งแวดล้อม
  9. จัดกิจกรรมเสริมการเรียนการสอนและการวิจัยให้สัมพันธ์ในระดับปริญญาตรี
  10. จัดประชุมสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนทางศาสนา และปัญหาสังคมที่อาจส่งผลกระทบต่อหลักพระศาสนา สถาบันสงฆ์ และความผาสุขของสังคม
  11. สร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้มีผลงานการวิจัยและพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการ
  12. จัดโครงการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศการวิจัยทางศาสนาในระบบคอมพิวเตอร์ อีเลคทรอนิค ซีดีรอม ร่วมกับสถาบันภายนอกและภาคเอกชน
งานบริการวิชาการแก่ชุมชน

นโยบาย

  1. พัฒนาศักยภาพของวิทยาลัยสงฆ์ให้เป็นศูนย์บริการวิชาการแก่คณะสงฆ์และสังคมท้องถิ่น รวมทั้งพัฒนาชุมชนพัฒนาจิตใจของประชาชนตามหลักพระพุทธศาสนา
  2. พัฒนาหน่วยงานของวิทยาลัยสงฆ์ในส่วนของการบริการวิชาการแก่สังคม ให้สามารถเผยแพร่วิชาการตามบทบาทและหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน

มาตรการ

  1. พัฒนาองค์กรให้มีความกระทัดรัด คล่องตัว และจัดสรรทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับงานบริการวิชาการแก่สังคมให้มีความพร้อมและเหมาะสม
  2. จัดให้มีการบรรยายธรรม สนทนาธรรม และปฏิบัติธรรมแก่ประชาชนทั่วไป
  3. จัดทำโครงการระยะสั้นเพื่อบริการวิชาการแก่พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป
  4. จัดให้มีการอบรมสัมมนาทางวิชาการแก่คณะสงฆ์และประชาชนทั่วไป โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรภายนอก
  5. จัดอบรมบุคลากรให้มีความรู้และสามารถบริการวิชาการแก่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  6. นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อทางไกลมาใช้ในการเผยแผ่ธรรมและกิจกรรมของวิทยาลัยสงฆ์
  7. จัดอบรมคุณธรรมและจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชนในรูปแบบต่าง ๆ
  8. จัดอบรมคุณธรรม จริยธรรมแก่บุคลากรในหน่วยงานของรัฐและเอกชน
  9. จัดอบรมบุคลากรด้านพัฒนาชุมชน ตามหลักพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืน
  10. ส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานของวิทยาลัยสงฆ์ สามารถสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยในการให้บริการวิชาการแก่สังคม
  11. จัดกิจกรรมการบริการวิชาการแก่สังคม ให้สัมพันธ์กับการเรียนการสอนทั้งในและนอกหลักสูตร

 

  1. งานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

นโยบาย

    1. พัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัยในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมให้มีประสิทธิภาพ
    2. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
    3. สนับสนุนการพัฒนาทางจิตใจควบคู่กับการพัฒนาทางวัตถุ บนพื้นฐานแห่งหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและความเจริญของบ้านเมือง
    4. สนับสนุนการศึกษาค้นคว้าพระพุทธศาสนา

มาตรการ

    1. จัดฝึกอบรมบุคลากรของวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อพัฒนาทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมตามหลักวิชาการ
    2. จัดสัมมนาและอบรมพระสังฆาธิการและบุคลากรทางพระพุทธศาสนา ในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง
    3. ให้การสนับสนุนนิสิตจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมทั้งในและนอกสถานที่
    4. ให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อศีลธรรม ศาสนา และศิลปวัฒธรรมและสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ
    5. ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัย การเผยแผ่พระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนภูมิปัญญาไทยที่มีความหลากหลายในทุกภูมิภาคของประเทศ
    6. จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
    7. จัดตั้งศูนย์หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
    8. จัดตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาประเทศเพื่อนบ้าน

นโยบายและมาตรการ แผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ลำพูนระยะที่ 9 (พ.ศ.2545-2549)

ด้านการบริหารทั่วไป

นโยบาย

    1. ส่งเสริมให้เกิดการจัดทำแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ โดยการกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และสอดคล้องกับปณิธานของการจัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์
    2. พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างการบริหารวิทยาลัยสงฆ์ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดความคล่องตัว ทั้งในด้านการบริหารการเงิน บุคลากร และการบริหารวิชาการ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการบริหาร
    3. พัฒนาระบบการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของวิทยาลัยสงฆ์ ให้มีความชัดเจน มีความเป็นสากลและมีพลวัตตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
    4. พัฒนาทรัพยากร ด้านอาคารสถานที่ ครุภัณฑ์ และเทคโนโลยี ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และบุคลากร รวมทั้งนิสิต อันจะทำให้วิทยาลัยสงฆ์ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลตามเป้าหมายของแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์
    5. นำข้อกำหนด ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของมหาวิทยาลัย เพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานภายในวิทยาลัยสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด
    6. สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยการระดมทุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

มาตรการ

    1. จัดทำแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ให้สะท้อนการแก้ปัญหา เรื่องก่อสร้างอาคาร ระบบสาธารณูปโภค
    2. เร่งรัดจัดหางบประมาณค่าก่อสร้างอาคารสถานที่ และการจัดซื้อครุภัณฑ์ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์
    3. จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นเครื่องมือในการบริหารงานของผู้บริหารและเป็นคู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
    4. เร่งรัดให้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนามหาวิทยาลัย โดยการกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบและภารกิจของแต่ละส่วนงานของวิทยาลัยสงฆ์ให้ชัดเจน
    5. เร่งรัดจัดระบบการกระจายอำนาจการตัดสินใจในการบริหารแก่ผู้บริหารระดับต่างๆ ตามความจำเป็นโดยต้องคำนึงถึงขีดความสามารถของผู้บริหารที่จะรับมอบอำนาจด้วย
    6. เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานที่ทำการถาวร ให้มีความเพียงพอและเหมาะสมกับภารกิจของวิทยาลัยสงฆ์
    7. ดำเนินการปรับปรุงอาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ เพื่อใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด
    8. จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรของวิทยาลัยสงฆ์ เกี่ยวกับการศึกษาต่อ การฝึกอบรมระยะสั้น และการศึกษาดูงานที่สอดคล้องกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ
    9. เร่งรัดปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์ โดยเฉพาะการกำหนดอัตราค่าจ้าง ค่าตอบแทน และสวัสดิการที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ และภารกิจความรับผิดชอบของบุคลากร โดยให้เทียบเคียงกับมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการอื่นได้ด้วย
    10. เร่งรัดจัดทำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของวิทยาลัยสงฆ์ ให้สามารถเชื่อมโยงกับสถาบันอุดมศึกษาอื่นทั้งภายในและต่างประเทศ จนสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานในลักษณะระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งใช้ติดต่อสื่อสารและสืบค้นข้อมูลทางวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
    11. เร่งรัดวางระบบการตั้งและการบริหารงบประมาณของวิทยาลัยสงฆ์ ให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพแบบครบวงจร
    12. เร่งรัดวางระบบการบริหารงานภายในวิทยาลัยสงฆ์ ให้เกิดการประสานงานและการปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    13. เร่งรัดวางระบบการติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างวิทยาลัยสงฆ์กับคณะสงฆ์จังหวัด ศิษย์เก่า และองค์กรภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์มากขึ้น
    14. เร่งรัดให้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ประเภทต่าง ๆ โดยการระดมทุนจากภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในเขตจังหวัดและต่างจังหวัด

ด้านการจัดการศึกษา

นโยบาย

    1. พัฒนากระบวนการผลิตบัณฑิตทุกระดับให้มีคุณภาพที่พึงประสงค์ คือ มีความรอบรู้วิชาการ มีความเข้าใจในพุทธธรรมอย่างลึกซึ้ง สามารถประยุกต์เข้ากับศาสตร์ต่าง ๆ ได้ มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส ใฝ่รู้ ใฝ่คิด เป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญา มีความสามารถในการแก้ปัญหา รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม มีจิตสำนึกและมีโลกทัศน์กว้างไกล มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา มีบุคลิกภาพที่ดี รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม มีศักยภาพในการบริหาร การจัดการเรียนและสื่อพระสัทธรรม
    2. พัฒนาประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาโดยมุ่งพัฒนาอาจารย์ผู้สอน ระบบการจัดการเรียนการสอน และวิธีการสอนให้มีประสิทธิภาพ
    3. พัฒนาวิทยาลัยสงฆ์ ให้เป็นศูนย์กลางของแหล่งความรู้ทั้งในปริมาณและคุณภาพที่เอื้อต่อการผลิตบัณฑิต ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานและเพิ่มศักยภาพความเป็นผู้นำทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนา
    4. ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้เกิดพัฒนาศักยภาพนิสิตให้เป็นบัณฑิตที่มีวินัย ความรอบรู้ จริยธรรมและความเป็นผู้นำ มีจิตสำนึกผูกพันกับสถาบัน รู้จักรับผิดชอบต่อตนเอง พระพุทธศาสนา และประเทศชาติ
    5. ส่งเสริมการจัดกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรให้สามารถตอบสนองสัมฤทธิผลต่อทิศทางการผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์ของมหาวิทยาลัย
    6. ส่งเสริมให้มีการประกันคุณภาพทางการศึกษา โดยให้จัดทำคู่มือการประกันคุณภาพทางการศึกษาสำหรับการดำเนินงานของวิทยาลัยสงฆ์
    7. ขยายโอกาสทางการศึกษาสนองความต้องการศึกษาต่อของพระภิกษุสามเณร และคฤหัสถ์ในท้องถิ่น
    8. พัฒนาคุณภาพของพระสังฆาธิการ เพื่อให้เป็นผู้นำและมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา
    9. ปรับปรุงรูปแบบการให้การศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สนองสภาพปัญหาของท้องถิ่น ผสมผสานมิติของผู้รู้ลึก ผู้รู้รอบ และผู้มีจิตสำนึก โดยการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาพื้นฐาน กิจกรรมนิสิต และกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างนิสิตกับสังคม
    10. ปรับปรุงระบบและวิธีการสอนในรูปแบบเดิม และพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ
    11. ส่งเสริมคุณลักษณะของบัณฑิตเพื่อเสริมบทบาทของประเทศในประชาคมโลก เช่น ทักษะด้านภาษา การจัดการ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
    12. ปรับปรุงระบบการสอบคัดเลือกและขยายกลุ่มเป้าหมายของผู้เข้าศึกษาโดยเปิดโอกาสให้ฆราวาส ผู้ด้อยโอกาสได้เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษามากขึ้น

มาตรการ

    1. เร่งพัฒนากระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้นำไปสู่การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน และมุ่งสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ให้เป็นรูปธรรม
    2. จัดระบบการเรียนการสอนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง จัดกิจกรรมเสริมสร้างโลกทัศน์ และประสบการณ์โดยการเรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับการปฏิบัติภาคสนาม
    3. เร่งรัดจัดระบบการเรียนการสอนให้นิสิตมีความรู้ และทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาบาลี และภาษาต่างประเทศ
    4. ปรับปรุงหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน โดยเน้นให้นิสิตได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    5. เร่งรัดศึกษากลุ่มเป้าหมายและศักยภาพความพร้อมด้านอาคารสถานที่ เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
    6. ปรับปรุงหลักสูตรหมวดศึกษาทั่วไปให้มีการศึกษาวิทยาศาสตร์ทั่วไป เน้นความสามารถในการคิดและใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนปรับปรุงสาระทางด้านสังคมศาสตร์ ให้มีลักษณะสหวิชา และมีความผสมกลมกลืนระหว่างวิชาทางวิทยาศาสตร์กับสังคมศาสตร์มากยิ่งขึ้น โดยเน้นทักษะพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
    7. พัฒนาสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของนิสิต ตลอดจนกิจกรรมนิสิตในมหาวิทยาลัยให้มีลักษณะผสมกลมกลืนกับกิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมงานบริการวิชาการแก่ชุมชนและกิจกรรมงานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บัณฑิตมีโลกทัศน์กว้างขวาง และมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม
    8. พัฒนาหลักสูตรที่เน้นตระหนักในสภาพปัญหาชุมชน และบทบาทของพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำชุมชนท้องถิ่น
    9. ดำเนินการจัดการศึกษาเพิ่มเติมในสาขาวิชาต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
    10. พัฒนาบุคลากรให้สามารถใช้โสตทัศนูปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ประกอบการสอน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อประกอบการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    11. จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา โดยการกำหนดกลไกการดำเนินงาน และสร้างคู่มือการประกันคุณภาพขึ้นใช้ในวิทยาลัยสงฆ์
    12. ปรับปรุงระบบการลงทะเบียนและประเมินผลการศึกษา โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งานให้มากขึ้น
    13. พัฒนาห้องสมุดโดยจัดหาหนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ CD-ROM และโสตทัศนูปกรณ์ให้มีปริมาณเพียงพอ รวมทั้งสนับสนุนให้อาจารย์นำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้ประกอบการสอนในรายวิชาที่สอนทุกคน
    14. สนับสนุนส่งเสริมให้อาจารย์ทุกคนผลิตตำรา หรือเอกสารประกอบการสอนที่มีคุณภาพในรายวิชาที่สอนทุกคน และสนับสนุนให้นำไปเป็นผลงานขอตำแหน่งทางวิชาการได้
    15. จัดสรรทุนให้อาจารย์ได้เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ ทั้งศึกษาต่อ การฝึกอบรม ดูงาน ประชุม สัมมนาทางวิชาการ และเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านการวิจัย
    16. จัดให้มีโครงการแลกเปลี่ยนนิสิตระหว่างวิทยาลัยสงฆ์ วิทยาเขต และมหาวิทยาลัย
    17. มุ่งเน้นพัฒนาและเสริมสร้างกิจกรรมทางวิชาการด้านศาสนา และปรัชญาให้มีความก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับในระดับชาติ
    18. จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและควบคุมมาตรฐานภาษาต่างประเทศ
    19. จัดตั้งหน่วยงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อให้บริการการเรียนการสอน และการวิจัยทั้งอาจารย์และนิสิต
    20. พัฒนาองค์กรนิสิตและจัดสรรทรัพยากรที่เกี่ยวกับงานกิจการนิสิต ให้มีความสอดคล้องกับกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์
    21. จัดกิจกรรมการประชุม สัมมนาทางวิชาการ การศึกษา อบรม ศึกษาดูงาน และประสบการณ์การวิจัยแก่นิสิต
    22. ส่งเสริมให้นิสิตมีความรู้และทักษะในการเผยแพร่ศีลธรรมตามสถาบันการศึกษาและหน่วยงานของรัฐและเอกชน
    23. สนับสนุนองค์กรนิสิตจัดและเข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันอุดมศึกษา และองค์กรภายนอกเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้นิสิต
    24. จัดให้มีองค์กรหรือผู้ทำหน้าที่ในการแนะแนวการศึกษาให้นิสิต เช่น อาจารย์ที่ปรึกษา หน่วยแนะแนว เป็นต้น
    25. กำหนดรูปแบบและกลไกการติดตามประเมินผลการจัดกิจกรรมการปฏิบัติธรรม โดยให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วม
    26. กระตุ้นให้นิสิตจัดกิจกรรมและสร้างเครือข่ายการอบรมศีลธรรมแก่เยาวชนประชาชนทั่วไป
    27. จัดทำแผนการปฏิบัติศาสนกิจและกลไกในการติดตามประเมินผลให้สามารถเข้าไปสู่การปฏิบัติที่มีคุณภาพ

ด้านการวิจัย

นโยบาย

    1. ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานวิจัยให้เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพและความพร้อมเกี่ยวกับการวิจัยเพิ่มของวิทยาลัยสงฆ์ให้มากขึ้น
    2. สนับสนุนบุคลากรคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ให้ทำการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้และพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นรูปธรรม
    3. ส่งเสริมการวิจัยและการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกื้อหนุนและสนับสนุนซึ่งกันและกัน อีกทั้งมุ่งสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการวิจัยกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น
    4. สร้างความสมดุลระหว่างการวิจัยพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์ เพื่อวางรากฐานการพึ่งพาตนเองด้านองค์ความรู้ในระยะยาว
    5. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในบางสาขา เพื่อกระตุ้นการพัฒนาด้านพระพุทธศาสนา คุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งการวิจัยเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม อันที่จะนำไปสู่การพัฒนาสถาบันทางศาสนา ชุมชน และสังคมท้องถิ่น
    6. กำหนดทิศทางและแผนงานการวิจัยในสาขาวิชาทางด้านพระพุทธศาสนา เพื่อการสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนา

มาตรการ

    1. จัดสรรทรัพยากรและบุคลากรเพื่อสนับสนุนและจูงใจให้เกิดความสนใจที่จะทำวิจัยมากยิ่งขึ้น
    2. พัฒนาสถาบันวิจัยหริภุญชัย ระบบและเครือข่ายการดำเนินงานวิจัย เพื่อชี้นำรูปแบบการพัฒนาชนบทที่สอดคล้องกับสภาพท้อง
    3. พัฒนาสถาบันวิจัยหริภุญชัย เพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิจัย อบรม เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคมท้องถิ่น
    4. พัฒนาสถาบันวิจัยให้มีประสิทธิภาพ มีระบบการบริหารงานวิจัยที่คล่องตัว ทั้งในด้านการเงิน พัสดุและบุคลากร รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างของศูนย์วิจัยให้มีความผสมผสาน และเอื้อ
    5. ประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น

    6. พัฒนาระบบเครือข่ายสารสนเทศ ให้สามารถติดต่อสื่อสารและสามารถสืบค้นข้อมูลที่ทันสมัยสำหรับการวิจัย ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ
    7. ตั้งกองทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา โดยระดมความช่วยเหลือทั้งจากรัฐและแหล่งอื่น ๆ
    8. ขยายขอบเขตความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการวิจัยกับสถาบัน ทั้งสถาบันในประเทศและสถาบันต่างประเทศ
    9. พัฒนาผู้บริหารทุกระดับให้มีความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของการวิจัย เพื่อให้เกิดจิตสำนึกที่จะส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยวิทยาลัยสงฆ์อย่างเป็นระบบแบบแผน
    10. จัดให้มีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการวิจัย เพื่อให้มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน สามารถสร้างแรงจูงใจ สร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้วิจัย
    11. จัดให้มีการฝึกอบรมด้านการวิจัย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ และกระบวนการวิจัย เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรให้เป็นนักวิจัยมากขึ้น โดยวิธีการผสมผสานระหว่างการฝึกอบรม ควบคู่ไปกับการวิจัยภาคสนาม
    12. จัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งงบประมาณสำหรับการเผยแพร่ผลงานการวิจัยให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
    13. จัดทำระเบียบว่าด้วยการส่งเสริมบุคลากรของมหาวิทยาลัยให้ทำการวิจัย โดยการให้โอกาสไปศึกษา อบรมและทำวิจัยแทนการปฏิบัติงานด้านการสอน หรือทำหน้าที่อื่นเป็นระยะเวลา 1 ปี
    14. จัดให้มีการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนาโดยเน้นพระไตรปิฎก เพื่อแก้ปัญหาทางด้านศีลธรรมและจริยธรรม ระบบความเชื่อที่เบี่ยงเบนจากเกณฑ์มาตรฐานวิชาการทางพระพุทธศาสนาและการวิจัยเพื่อการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบโดยเน้นการแก้ปัญหาสถาบันสงฆ์ ยาเสพติด โรคเอดส์ ความขัดแย้ง ความรุนแรง คุณภาพชีวิต การช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตและสิ่งแวดล้อม
    15. จัดกิจกรรมเสริมการเรียนการสอนและการวิจัยให้สัมพันธ์ทั้งในระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี
    16. จัดประชุมสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนทางศาสนา และปัญหาสังคมที่อาจส่งผลกระทบต่อหลักพระพุทธศาสนา สถาบันสงฆ์ และความผาสุกของสังคม เพื่อกำหนดนโยบายและหัวข้อการวิจัยที่เหมาะสม
    17. สร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้มีผลงานการวิจัยสามารถขอตำแหน่งทางวิชาการ และปรับอัตราค่าจ้าง ค่าตอบแทนให้สูงขึ้นตามผลงานด้วย
    18. จัดโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศเพื่อการวิจัยทางด้านพระพุทธศาสนาร่วมกับสถาบันภายนอกทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
    19. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารด้านการวิจัย และทำการวิจัยร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับสถาบันการศึกษาภายนอกทั้งในและต่างประเทศ

ด้านบริการวิชาการแก่ชุมชน

นโยบาย

    1. พัฒนาศักยภาพและความพร้อมของวิทยาสงฆ์ ให้เป็นศูนย์กลางในการให้บริการวิชาการแก่คณะสงฆ์ รวมทั้งองค์กรท้องถิ่น และประชาชนทั่วไปให้สามารถนำไปใช้สำหรับการพัฒนาชุมชน พัฒนาจิตใจของประชาชนตามหลักพระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวาง โดยการจัดสร้างสังคมสารสนเทศที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข่าวสารข้อมูลได้โดยง่าย
    2. พัฒนาองค์กรบริการวิชาการในวิทยาลัยสงฆ์ให้มีความพร้อม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านทรัพยากร บุคลากร และวิธีการดำเนินงาน
    3. พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการให้บริการวิชาการ ระหว่างวิทยาลัยสงฆ์กับหน่วยงานภายนอก
    4. พัฒนาหน่วยงานของวิทยาลัยสงฆ์ให้มีบทบาทในฐานะสื่อมวลชนของมหาวิทยาลัย เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้และค่านิยมทางสังคมไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวาง
    5. กำหนดนโยบายและจัดทำแผนงานการบริการวิชาการที่ชัดเจน ทั้งระยะสั้งและระยะยาว
    6. ทำการผลิตหนังสืออ่านและสื่อความรู้ด้านพระพุทธศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเผยแพร่ความรู้สู่กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น
    7. จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการให้บริการวิชาการแก่ชุมชนให้เป็นรูปธรรม
    8. จัดทำโครงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างวิทยาลัยสงฆ์ กับสถาบันระดับอุดมศึกษาอื่นรวมถึงการแลกเปลี่ยนอาจารย์ นักวิชาการ และนักศึกษา

มาตรการ

    1. พัฒนาองค์กรที่ทำหน้าที่ให้บริการทางวิชาการแก่สังคมให้มีความกระทัดรัด จัดสรรบุคลากรและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับงานบริการวิชาการแก่สังคมตามความพร้อมและความเหมาะสม
    2. จัดให้มีโครงการหรือกิจกรรม การบรรยายธรรม สนทนาธรรม และปฏิบัติธรรมแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
    3. จัดทำโครงการฝึกอบรมระยะสั้น การประชุมสัมมนาทางวิชาการ เพื่อบริการวิชาการแก่พระภิกษุสามเณร และประชาชนทั่วไป โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรภายนอก
    4. จัดอบรมบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการให้บริการวิชาการแก่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    5. นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ธรรมและกิจกรรมการบริการวิชาการของวิทยาลัยสงฆ์
    6. จัดอบรมคุณธรรมและจริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน และบุคลากรในหน่วยงานของรัฐและเอกชนในรูปแบบต่าง ๆ
    7. สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาชุมชน จัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากรให้นำความรู้ ความสามารถไปใช้ในการพัฒนาชุมชน ตามหลักพุทธศาสนาเพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบยั่งยืน
    8. จัดให้มีกิจกรรมการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคมตามหลักพระธรรมวินัย
    9. จัดกิจกรรมการบริการวิชาการแก่สังคม ให้สัมพันธ์และเสริมสร้างกับการเรียนการสอนทั้งในและนอกหลักสูตร
    10. ขยายขอบเขตและปริมาณโครงการการศึกษาต่อเนื่องที่ไม่มุ่งปริญญา ไปยังพระสังฆาธิการอย่างทั่วถึง
    11. สร้างเครือข่ายการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยร่วมกับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมหาวิทยาลัยให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาครู พัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมให้นักเรียน

ด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

นโยบาย

    1. ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรของมหาวิทยาลัยให้มีศักยภาพและความพร้อมในด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
    2. ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยการสนับสนุนทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณอย่างเหมาะสม
    3. สนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาทางจิตใจและควบคู่กับการพัฒนาทางวัตถุ บนพื้นฐานแห่งหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและความเจริญของบ้านเมือง
    4. สร้างความตระหนักให้แก่นักศึกษา และบุคลากรของวิทยาลัยสงฆ์ถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทย และให้มีโลกทัศน์สากลเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างชาติ ต่างภาษา เพื่อการมีความสัมพันธ์ที่
    5. เหมาะสมกับนานาประเทศ

    6. ผสมผสานกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมเข้ากับภารกิจด้านอื่น ๆ รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมในวิทยาลัยสงฆ์เพื่อเอื้อต่อการสร้างเสริมบุคลิกภาพและคุณลักษณะทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่พึงประสงค์ให้แก่นิสิตและเป็นแบบฉบับที่ดีให้แก่สังคมภายนอก

มาตรการ

    1. จัดตั้งศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเพื่อปฏิบัติภารกิจด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมให้กว้างขวางออกไป โดยมีการสนับสนุนด้านทรัพยากร กำลังคน งบประมาณ และระบบบริหารที่คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ
    2. จัดทำแผนพัฒนาสำหรับการดำเนินภารกิจด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมที่ชัดเจนในระยะสั้นและระยะยาว
    3. รณรงค์ในการระดมเงินทุนและความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการริเริ่มโครงการทางศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง
    4. พัฒนาสภาพแวดล้อมในวิทยาลัยสงฆ์ ให้เสริมสร้างบรรยากาศทางวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและเพื่อสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้แก่นักศึกษา
    5. ส่งเสริมให้มีการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างนักศึกษาต่างชั้น ต่างระดับอายุ และส่งเสริมกิจกรรมสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษากับอาจารย์
    6. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตรโดยจัดกิจกรรมนักศึกษาเป็นกิจกรรมหลักส่วนหนึ่งของหลักสูตรด้วย
    7. จัดฝึกอบรมบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
    8. จัดสัมมนาและอบรมพระสังฆาธิการและบุคลากรทางพระพุทธศาสนาในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง
    9. สนับสนุนให้นิสิตจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเกี่ยวกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมทั้งในและนอกสถานที่
    10. ให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอย่างสม่ำเสมอ
    11. สนับสนุนการศึกษาวิจัยและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนภูมิปัญญาไทยที่มีความหลากหลายในทุกภูมิภาคของประเทศ
    12. จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
    13. จัดตั้งศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเพื่อทำหน้าที่ในการอนุรักษ์และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมด้วย

ด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนา

นโยบาย

    1. พัฒนาให้องค์กรและทรัพยากรเพื่อปฏิบัติภารกิจด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาขึ้นในวิทยาลัยสงฆ์
    2. ส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษา ฝึกอบรมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับด้านพระพุทธศาสนา
    3. พัฒนาให้มีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร ระหว่างวิทยาลัยสงฆ์กับองค์กรทางด้านพระพุทธศาสนา ทั้งในและต่างประเทศ

มาตรการ

    1. ส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาศึกษาในวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อประโยชน์แก่การเผยแพร่พระพุทธศาสนา
    2. จัดทำแผนพัฒนาสำหรับการดำเนินภารกิจด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่ชัดเจนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
    3. สร้างความร่วมมือกับภายนอก ในการรณรงค์การส่งเสริมพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
    4. พัฒนาสภาพแวดล้อมภายวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศทางด้านพระพุทธศาสนาให้นำไปสู่การพัฒนาบุคลิกภาพที่ดี ให้แก่นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นต้นแบบของสังคมภายนอก
    5. เร่งรัดวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงให้สามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารด้านพระพุทธศาสนาระหว่างวิทยาลัยสงฆ์กับองค์กรด้านพระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ
    6. จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการปฏิบัติภารกิจด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยระดมความช่วยเหลือจากภาครัฐและแหล่งอื่น ๆ
    7. จัดการศึกษา ฝึกอบรมระยะสั้นให้พระสังฆาธิการ และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างเครือข่ายในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา
    8. จัดให้มีโครงการจูงใจและสนับสนุนการจัดตั้งชมรมหรือองค์กรทางด้านพระพุทธศาสนาขึ้นในวิทยาลัยสงฆ์