+ บันทึกการเดินทางชมรมเงินสกาว

บันทึกรวบรวมเรื่องเล่าจากประสบการณ์การท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ของสมาชิกชมรมเงินสกาว ต้องขอขอบคุณนักเขียนทุกๆท่านที่อุตส่าห์แบ่งปันเวลา ความรู้ ความคิดเห็นถ่ายทอดลงเป็นตัวอักษร ให้นักเดินทางท่านอื่นได้ร่วมสัมผัสกับบรรยากาศการเดินทางในครั้งนั้นๆด้วยครับ

Mr.1

+ ไปเที่ยวปราสาทเมืองเขมร โดย หนูบี

วันแรกพวกเราก็ไปตอลเลสาบ หนึ่ง...เราบอกให้ก็ได้ ที่ๆพวกเราไปถ่ายรูปวิวของตอลเลสาบ เรียกว่า บารายทะเลหลวง ช่วงบ่ายก็แวะปราสาทโลเลย อยู่ในเมืองหริหราลัย ก่อนที่จะย้ายพระนครไปพนมบาแค็ง ปราสาทพระโค จะมีโคอยู่หน้าปราสาททั้ง 3 หลัง ซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะ และจบวันด้วยการไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่พนมบาแค็ง แต่น่าเสียดายเมฆเยอะ มองไม่เห็นพระอาทิตย์เลย ทั้ง 3 ปราสาททรุดโทรมมาก โดยเฉพาะพนมบาแค็ง ตัวปราสาทหลังเล็กๆ ซึ่งมีถึง 60 ปราสาท ก็เกือบพังหมด แต่บรรยากาศความเก่าแก่ยังอยู่ครบ ได้เห็นเมืองนครวัด นครธม ทางด้านบนด้วย สวยมาก มองไปทางทิศตะวันตกก็จะเห็นตอลเลสาบ ถ้าได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน คิดว่าคงจะสวยมาก ใกล้มืดพวกเราก็ต้องรีบลง เพราะไม่มีไฟตามข้างทางเลย มองก็ไม่ค่อยเห็นทางยิ่งชันอยู่ด้วย บันไดที่ขึ้นปราสาททุกที่จะแคบและชันมาก ที่ปราสาทสร้างสูงๆๆ นะ เป็นความเชื่อว่าเป็นเขาพระสุเมรุ ซึ่งตามความเชื่อของพระเจ้าแผ่นดิน ว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า ขากลับต้องผ่านนครวัด ซึ่งวันต่อไปพวกเราจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่นี่ โอ๊ย!....เห็นแล้วน้ำลายไหล

วันที่ 2 เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัดกันตั้งแต่ตี 5 แต่กว่าจะออกเดินทางก็เกือบตี 5 ครึ่ง เพราะรถบัสมารับสาย พอฟ้าเริ่มสว่าง เงยหน้าขึ้นมอง ว้า!....เมฆเยอะจัง สงกะสัยฝนจะตก พูดไม่ทันขาดคำ มันก็มา ทำให้อดเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลย เฮ้ย!...มันน่านัก
แต่ออกมาเช้าๆๆ ก็ดีนะ คนไม่ค่อยเยอะ ทำให้เก็บภาพได้มาก โดยเฉพาะตากล้องทั้งหลาย อืม...ลืมบอก ความรู้สึกตอนเดินเข้ามา เพื่อนๆ คงจะเห็นแล้วว่ามีสระน้ำรอบๆ กำแพง ค่อยๆ เดินเข้าในเขตปราสาท เงยหน้าขึ้นมอง ฮู้หู้!.....สวยจัง เห็นจากหนังสือยังไม่เท่าเห็นของจริงเลย.....ทุกคนจะยังไม่เดินเข้าเลยทีเดียว ทุกคนที่เข้าก็ตั้งใจจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้น เพราะปราสาทนครวัดจะหันไปทางทิศตะวันตก เพื่อนๆ ลองนึกภาพตามนะ และพระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันออก ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นนะ มันก็จะด้านหลังปราสาท ลองคิดดูซิว่า....จะสวยงามแค่ไหน แต่....อดค่ะ ฝนตก เมฆเยอะ .....ฮือๆๆๆ แห้ว
ต่อด้วยปราสาทบันทายสรี ประทับใจมาก ยังสมบูรณ์ที่สุด แค่ด้านหน้า ทุกคนก็อยากจะเก็บภาพแล้ว ส่วนที่อยู่เหนือประตูเป็นรูปสามเหลี่ยม เค้าจะเรียกกันว่า "หน้าบัน" ลงมาก็ "ทับหลัง" ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าบัน กับ ช่องประตู สวยมาก ลวดลายอ่อนช้อย ลึกด้วย ไม่รู้เค้าใช้อะไรแกะสลักนะ เก่งจัง ส่วนมากจะเป็นเรื่องอวตารของพระนารายณ์ เช่น กุรมารอวตาร "เป็นเต่า" รองรับภูเขาซึ่งใช้ในการกวนเกษียรสมุทรนะ นรสิงห์อวตาร "เป็นสิงห์" กำลังปราบอสูรอยู่ อวตารเป็น กฤษณะ ปราบพญากง ฯลฯ ถ้าเพื่อนเคยอ่านการอวตารของพระนารายณ์นะ เดินเข้าไปเรื่อยก็จะเจอปราสาทซึ่งมี 5 ปราสาทด้วยกัน นัย...หนึ่งถ่ายรูปไว้ด้วย อันนี้ประทับใจมาก
แล้วพวกเราก็เดินทางไปต่อนครธม แวะปราสาทบายน ซึ่งเป็นพระนครของนครธม อืม...ใช่นะ ที่มีหน้าของพระอวโลกิเตศวร รูป 11-13 นะ สวยมาก แวะดูภาพจำหลักก่อนขึ้นไปบนปราสาท ถือว่ายังสมบูรณ์อยู่มาก นางอัปสราของที่นี้ก็สวย ยังมีด้านที่สมบูรณ์อยู่ ถ่ายรูปกันไม่หวาด ไม่ไหว พี่ๆๆ บางคน หมดกันไปหลายม้วน ก็เพลินกันตั้งแต่เช้า

 

หลังกินข้าวกลางวันเรียบร้อย ก็เดินทางกันไปที่ปราสาทตาพรม ถ้าเพื่อนๆ นึกภาพไม่ออก มีหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง "ทูมไรเดอร์" นะ ดูกันหรือเปล่า จะมีตอนหนึ่งนางเอกไปที่นครวัด จะมีฉากปราสาทตาพรมด้วย ที่มีต้นไทรขึ้นตามกำแพงนะ ต้นไทรใหญ่มาก...ขอบอก เก็บภาพอีกแล้ว....อิ อิ อิ ไกด์บอกว่าปราสาทนี้ถูกทำลายโดยธรรมชาติ ก็คือต้นไทรพวกนี้ไง แต่เราว่ามันก็ดูสวยดีนะ โดยเฉพาะรูปสาวน้อยถ่ายคู่กับนางอัปสราทั้ง 3 สวยมาก....อิ อิ อิ
เอ....ต่อด้วยอะไรน้า อ้อ...นึกออกแล้ว อันนี้ก็สวยที่มีนาคพันรอบๆ ตัวปราสาทนะ "ปราสาทนาคพัน" ว้าว!...เพื่อนๆ คงเคยฟังเพลงพี่เบริ์ดนะ อโศโรคยา อืม...สะกดถูกเปล่านะ แกรกๆๆๆ.....เข้าใจนะเพื่อนๆๆ อันนี้หละใช่เลย เป็นโรงพยาบาล มีน้ารอบประสาท แล้วไหลเข้าสระเล็กๆๆ ด้านนอก ผ่านศิวะลึงค์ไหลผ่านโยนี มีสระ 4 ด้าน แต่ละด้านถ้าดื่มกินก็จะรักษาต่างกันไป เฮ้อ....จำไม่ได้ เพื่อนๆ ช่วยหน่อย.......
จบวันด้วย นครวัด เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั่นอีก คราวนี้ไกด์พาพวกเรา เด็กๆๆ กันทั้งนั้น เดินดูภาพจำหลักรอบกำแพงปราสาท เอ...เค้าเรียกว่าอะไรนะ เฮ้อ...จำไม่ได้อีกแล้ว ไกด์พาเริ่มวนทวนเข็มนาฬิกานะ งงเปล่า...คือเดินตรงไปทางขวาก่อนนะ ภาพยังสมบูรณ์อยู่มาก ส่วนมากพวกเราตั้งใจจะดูภาพตอน กวนเกษียณสมุทร เป็นตอนที่พระกฤษณะ อวตารเป็นเต่ามารองรับภูเขา...จำไม่ได้ ที่พญานาคพันไว้ แล้วให้เทวดาด้านหนึ่ง กับอสูรอีกด้านหนึ่ง ชักไปมาเพื่อให้ได้น้ำ...อืม...อะไรหวา...อมฤทธิ์มั้ง ใช่ๆๆ แล้ว แต่น่าเสียดายวันนี้ฝนตก เมฆเยอะมาก แสงไม่พอ เลย...อดถ่ายรูปเลย...ว้า!....แย่จัง ดูภาพจำหลักแค่ครึ่งรอบก็ต้องรีบไปที่ด้านในซึ่งมีปราสาท 5 หลังด้วยกัน แต่ก่อนขึ้นต้องดูนางอัปสราก่อน ตามหนังสือเค้าบอกว่าที่นครวัด นางอัปสรามีเป็น 1,000 องค์เลย สวยมาก...แฮะๆๆๆ เก็บภาพอีกแล้ว.....แล้วก็ลุยปราสาทเลย แต่ก็ต้องอึ้ง.....ฮู้หู้!.....ทำไมมันสูงจัง แกรกๆๆๆ....จะขึ้นยังไงหละเนี่ย เฮ้ย...โชคช่วย ด้านหนึ่งมีราวบันไดให้เกาะ เพื่อนๆๆ ลองคิดดูซิ บันไดแคบมากเลย ทั้งชัน ทั้งสูง สมัยก่อนเค้าเดินกันได้ยังไงนะ แต่เค้าเปรียบว่าเป็นเขาพระสุเมรุนะเพื่อน คือเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า พระเจ้าแผ่นดินเค้ามีความเชื่อว่าถ้าตายไปจะได้มาอยู่ที่ปราสาทนี้ ก็ถือว่าเป็นเทพเจ้าด้วย ข้างบน...ขอบอกสวยมาก ลมเย็น ตัวเพื่อนก็เย็น ก็...มันยังกลัวอยู่เลย คุ้มนะ....วิวสวย ยืนมองไป ขาสั่นไป คิดถึงเพื่อนที่กรุงเทพฯจัง อยากให้เพื่อนๆๆ ทุกคนมาด้วยจังเลย.....แต่นัย...หนึ่งเก็บภาพแล้วนี่ ........เหนื่อยจัง สุขใจจัง ฝันดีแล้วเรา.......คร่อก ฟี้......

 

วันนี้อารมณ์ดีแล้ว....มาเล่าวันสุดท้ายดีกว่า ก่อนเดินทางกลับ....

ว้า!.....แย่จัง เช้านี้ฝนตก.....จะได้ไปไหมเนี่ย วันนี้พวกเราจะน้ำตกกบาลสเปียล หนึ่งเค้าลงรูปไว้ 20,21 นะเพื่อนๆๆ ที่มีภาพแกะสลักตามหินไว้นะ ภาพ 21 เป็นรูปศิวลึงค์นะ....เยอะมากเลย เป็นความเชื่อนะ ที่ว่าน้ำไหลจากศิวลึงค์ผ่านโยนี แล้วก็ไหลตกลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อให้ประชาชนได้ดื่มกิน เหมือนเป็นยารักษาโรคนะ ตอนแรกไกด์บอกว่าเดินประมาณ 4 กม.แนะ พวกเราคิดว่า....เอ...จะไหวไหมนะ แต่พอเดินเข้าจริงไม่ไกลเลย ตอนแรกก็เห็นรูปที่ 20 ก่อน พอเดินลงเท่านั้น เห็นเกือบตลอดทางเลย เพื่อนๆๆ ฮือ ฮา กันใหญ่ เร็วๆๆๆ พี่ๆๆๆ รีบมาถ่ายรูปตรงนี้กัน ตรงนี้ก็มี ตรงนั้นก็มี เยอะจัง....

ตอนบ่ายๆๆ พวกเราก็ไปที่ปราสาทพระขรรค์ ซึ่งเป็นยุคเดียวกันนครวัด แต่ทรงสร้างให้กับบรรพบุรษก็พระบิดาของพระองค์นะ แค่ทางเดินเข้าปราสาทก็อลังการแล้ว ตามทางเดินก็จะมียักษ์ถือหายพญานาคเป็นเหมือนรั้วทางเดินเลย หน้าปราสาทก็จะมีครุฑด้วย ตัวใหญ่มากๆๆ เลย แล้วพวกเราก็เข้ามาชั้นในปราสาท ก็เดินกันเข้าไป ก่อนถึงตัวปราสาท ด้านขวามือก็จะเป็นห้องสมุดก่อน พวกฝรั่งเค้าบูรณะกันไปเยอะแล้ว สภาพก็เลยยังดูดีอยู่มาก แล้วพวกเราก็ถลาเข้ามาในตัวปราสาทกัน โอ้โห.....ทำไมสร้างได้ใหญ่จัง รู้สึกว่าจะมีทางเดินเข้าตัวปราสาทถึง 3 ทางนะ ดูจากสภาพ พังไปเยอะเหมือนกัน ตัวกำแพงเหมือนกับที่นครวัดเลย บีเห็นเสาโรมันด้วยหล่ะ เหมือนเป็นอาคารซักหลังได้ สวยมาก เฮ้ย....เกือบลืม ทางเดินเข้าปราสาทก็จะมีรั้วพญานาคไปตลอดทางเดินเลย อ้ายเราก็เดินเรื่อยเปื่อย ดูนางอัปสรา ดูหน้าบัน ทับหลัง เอ...บรรยายเรื่องอะไรบ้างนะ เดินเข้าไปเรื่อยๆๆ ทำไมสร้างได้ลึกจัง แล้วเราก็จุดกลางปราสาทพอดี ก็ดูศิวลึงค์ดีนั่นแหละ ซึ่งวางบนฐานโยนีอีกแย้ว มาที่นี่เพื่อนจะดูศิวลึงค์กันจนเบื่อเลย แต่หนึ่งเร็วมาก ไวยังกะลิง ไม่เป็นไร เพื่อนได้ภาพสวยๆๆ มาแล้วนี่ ตัวปราสาทข้างในมืดมาก มีค้างคาวด้วยหละ ที่นี่ต้นไม้ใหญ่ก็มีนะ เหมือนกับที่ปราสาทตาพรมเลย ก็ต้นไทรขึ้นตามกำแพง ตัวปราสาท อืม...มันก็สวยอีกแบบนะ บางจุดก็พังไปเยอะ แฮะๆๆ แต่นางอัปสรายังสวยอยู่นะ ดูได้จากความมันเฉพาะจุด..... เดินไปเรื่อยๆ แล้ว เริ่มเมื่อยนะ พอออกมาก็เห็นเพื่อนๆๆ บางคนนั่งรอแล้ว สงกะสัยจะไปเก็บนครวัด แง่มๆๆ
มีงานแล้ว จบก่อนนะ

โดย บี เมื่อ 1 พ.ย. 44

 

+ ขอบคุณพี่ต้า trekkingthai ที่เอื้อเฟื้อให้ยืมพื้นที่เว็บบอร์ด
+ แนะนำติชมเว็บชมรมเงินสกาว starsilverclub@yahoo.com

Copyright © Star Silver Club 2004 All Rights Reserved