+
ลุยดงทาก.....แค้มปิ้งที่ต้นน้ำเพชรบุรี แก่งกระจาน โดย
พี่ขนุน
5-8 พ.ค. 44 ไปเที่ยวแก่งกระจานมาค่ะ คุณแม่ขอแจมไปกับน้องๆ
กลุ่ม Trekking thai รวม 16 คน แบ่งไปแบบโบกรถ 10 คน อีก
6 คน ไปกับรถปิคอัพไว้สำหรับบรรทุกเป้ เสบียง คุณแม่กับน้องเซ็ทก็ร่วมขบวนรถโบกด้วยค่ะ
เริ่มจากขนส่งสายใต้ นั่งรถไปลงที่แยกวัดเขาตะเครา ตรงนั้นเขาเรียกหนองหญ้าปล้อง
เป็นทางเข้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยพวกเราไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองหรือจุดที่มีรถรับจ้าง
เพราะตั้งใจจะโบกรถกัน โบกปิคอัพคันแรกไปแค่ ต. บ้านลาด
แล้วก็โบกต่อไปอีก 2 คัน ก็ถึงตรงอ่างเก็บน้ำ ที่ทำการอุทยานฯ
รถที่จอดรับก็เป็นรถชาวบ้าน และคันสุดท้ายก็เป็นรถของนักท่องเที่ยว
วันแรกพวกเรากางเต็นท์นอนกันที่พะเนินทุ่ง
บริเวณแถวที่กางเต็นท์มีวิวที่สวยมากค่ะเป็นหุบเขา
นกก็เยอะมากค่ะ เส้นทางที่รถวิ่งเข้ามาที่นี่ข้างทางก็เต็มไปด้วยนกนานาชนิด
เห็นชาวต่างชาติทั้งฝรั่งและญี่ปุ่น มาตั้งกล้องส่องนกกัน
รถที่มาที่นี่ต้องข้ามห้วยอยู่ 3 ที่ ที่สุดท้ายจะสูงมากค่ะ
ถ้าไม่ใช่ 4WD คงลำบาก มีคนมากางเต็นท์กันเยอะ ที่นี่มีห้องน้ำ
10 ห้อง ซึ่งจนท. บอกว่าจะสร้างเพิ่มอีก 10 ห้อง น้ำกับไฟจะเปิดเป็นเวลา
ไฟจะปั่นตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึง 3-4 ทุ่ม ทางที่ดีคุณสาวๆ
ก็เตรียมผ้าถุงไปอาบที่แท็งค์น้ำหลังบ้านพักของ จนท.
ได้ค่ะ หลังบ้านพักก็เป็นที่ล้างภาชนะ จนท.อุทยานทุกท่านก็อัธยาศรัยดี
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ยืมอุปกรณ์ทำครัว หรือเข้าไปขออาศัยทำกับข้าวได้เลยค่ะ
กลางคืนพวกเราก็นั่งคุยกันหน้าเต็นท์ ฝนไม่ตกค่ะ มีจนท.
มาคุยด้วย โปรแกรมพวกเราตอนแรกก็กะว่าจะเดินแค่น้ำตกทอทิพย์
แล้วก็กลับมานอนที่พะเนินทุ่ง ซึ่งคุณแม่ก็คิดว่าจะอยู่เฝ้าเต็นท์
คงไปเดินด้วยไม่ไหว แต่ จนท.พูดถึงการเดินป่าไปกางเต็นท์นอน
ที่ต้นแม่น้ำเพชรบุรี หรือคงจะเป็นที่ KU.Camp นั่นล่ะ
น้องๆ ทุกคนก็สนใจจะไป เล่นเอาคุณแม่ใจไม่ดีเลย เราจะเดินไปกับเขาไหวไม๊นี่
จะอยู่ที่พะเนินทุ่งคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะลูกก็อยากไป
ก็เลยต้องเตรียมตัวเดินป่ากันพรุ่งนี้ ของที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องขนไป
ฝากไว้ที่บ้านพัก จนท. ซื้อถุงกันทากจาก จนท ถุงละ
60 บาท คนละคู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกันอะไรได้แค่ไหน
แต่คุณแม่ก็เตรียมถุงน่องมา 2 คู่ ไว้ใส่กันทาก ที่เราจะไปนี่ต้องมี
จนท.เป็นคนพาไปค่ะ ถ้าไม่มี จนท.นำทางไปเขาไม่อนุญาต
ซึ่งเมื่อก่อนที่ KU.Camp เขาให้ไปพักกางเต็นท์ได้เอง
แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว |
|
 |
ตีห้าครึ่งพวกเราก็เดินไปดูทะเลหมอกกัน
ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตร อากาศเย็น หมอกหนาทึบสีขาว
สวยจริงๆ ค่ะ พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ตอนนี้เราก็ดูนกแทนค่ะ
ได้เห็นนกเงือก ซึ่งเป็นดาราดาราของทีแก่งกระจาน ตัวใหญ่มากค่ะ
เขาจะเกาะกิ่งไม้อยู่เป็นคู่ มีอยู่หลายคู่ ข้างๆ
คุณแม่เขาส่องกล้องดูนก ก็ได้ถามเขาว่าเป็นนกอะไรบ้าง
เขาก็บอกชื่อได้หมด คุณแม่ขอไม่เขียนนะคะ มากมายหลายชนิดค่ะ
ดูนกเสร็จ ก็โบกรถกลับเต็นท์ที่พัก ซึ่งเขาได้พาไปดูพระตำหนักของพระเทพ
ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดชมทะเลหมอก แล้วเราก็กลับไปเก็บเต็นท์เก็บของ
ทานข้าวเสร็จแล้วก็เตรียมเดินทาง |
จากพะเนินทุ่ง
นั่งรถมา 5 ก.ม. โดยมี จนท. ขับรถมาส่ง และจนท.ผู้นำทางชื่อ
คุณสสงัด แจ่มแจ้ง ถึงลานจอดรถก็เริ่มเดินลงเขา เดินไป 4.5
ก.ม. เส้นเดียวกับทางไปน้ำตกทอทิพย์ บางช่วงก็เดินขึ้น ระยะแรกๆ
คุณแม่ก็ยังแบกเป้ดีหรอกค่ะ พอเดินไปเรื่อยๆ ชักจะแย่ เดินตัวเปล่าก็แทบจะไม่ไหวแล้ว
น้องๆ ที่มาด้วยก็ช่วยแบกทั้งเป้ ทั้งเต็นท์ เลยต้องเป็นภาระคนอื่นอีก
ช่วงที่เดินไปยังไม่เจอทาก มองเห็นน้ำตกทอทิพย์อยู่ที่เขาอีกลูกนึงไกลมาก
ซึ่งขากลับเราจะต้องเดินไปที่เขาลูกนั้น สายน้ำตกไหลเป็นทางสวยงามมาก
เดินสักเกือบ 2 ช.ม. ก็ถึง ต้นแม่น้ำเพชร ตอนนั้นประมาณ
4 โมงเย็นได้ บริเวณที่จะกางเต็นท์อยู่ริมแม่น้ำ แต่อยู่ขึ้นไปบนเขา
เป็นดงไผ่ต้นใหญ่ๆ ทึบไปหมด และก็มีแต่ขี้ช้างเต็มบริเวณนั้น
พวกเรารีบกางเต็นท์ เต็นท์คุณแม่ก็อยู่ไกลจากเพื่อนๆ หน่อย
ขี้ช้างก็อยู่ที่หัวนอน ก็ไม่เป็นไร เขาคงไม่กลับมาอึที่เก่าอีกน่ะ
สาวๆ ก็รีบลงไปอาบน้ำที่แม่น้ำซึ่งเป็นต้นน้ำเพชรบุรี พื้นน้ำเป็นกรวด
เป็นหิน เล่นน้ำกันสนุกค่ะ แต่ยังไม่เท่าไหร่เลย ฝน เริ่มลงเม็ด
และก็หนักขึ้น ทีนี้ละค่ะ เพื่อนใหม่คุณแม่ไม่รู้มาจากไหน
เต็มไปหมด เกาะน่องคุณแม่ ร้องเพลงนายมอสเต้นไปด้วยทั้งสบัด
ทั้งสลัดๆ ไม่ยอมหลุด น้องเซ็ทน่ารักจริงๆ ตอนนี้ ช่วยคุณแม่แกะแต่ก็ไม่ออก
มือเขาเปียกลื่น คนอื่นก็ช่วยแกะให้ ยังไม่ทันได้ดูดเลือด
กลัวมากเลยค่ะ หยะแหยงจริงๆ รีบมุดเข้าเต็นท์เลย ที่ไหนได้ไปเจอในเต็นท์อีก
3 ตัว โชคดีที่น้องเซ็ทเขาไม่กลัวกล้าจับ แล้วก็มาไม่ชอบใจเต็นท์ตัวเองก็ตอนนี้
เพราะเป็นลายพราง มันเกาะอยู่ที่เต็นท์ด้านนอกเต็มไปหมด
นั่งอยู่ในเต็นท์ไม่ได้ออกไปช่วยเด็กๆ เขาทำที่บังฝนหรอก
นั่งๆ ไปเดี๋ยวเขาจะว่าคุณแม่ใจดำไม่ช่วยกันเลย เลยต้องเอาถุงน่องใส่
2 ตัว ทายาหม่อง ออกไปข้างนอกเต็นท์ ยุบยับเลยค่ะ แต่ดีค่ะคราวนี้ไม่เกาะคุณแม่แล้ว
ไปเกาะเด็กๆ พวกนั้น ถูกดูดกันเลือดโชกเลย น่ากลัวจัง
|