สร้างเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม 

 

การทำตัวให้เป็นคนมีเสน่ห์ บางคนก็ทำได้ง่าย เพราะตัวเองมีเสน่ห์อยู่แล้ว แต่ทว่ามันน้อยมาก ส่วนใหญ่ล้วนทำได้ยาก การทำตัวให้มีเสน่ห์ หรือจะเรียกว่าเป็นคนเจ้าชู้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือชายมันสามารถสร้างขึ้นมาได้ การจะเป็นคนมีเสน่ห์สำหรับเพศตรงข้ามนั้นต้องมีศิลปะ หรือต้องมีกฎเกณท์ที่จะเป็นคนมีเสน่ห์พอสมควร

ใครๆก็อยากมีเสน่ห์ เป็นที่พอใจของเพศตรงข้ามทั้งนั้น ยกเว้น ชาว "แอล.บี" เลสเบี้ยน หรือเจ้าหนุ่ม "โฮโม" ทั้งหลาย แต่ถ้าอยากจะมีเสน่ห์เพศเดียวกัน ก็เห็นจะต้องเพิ่มศิลปะเข้าไปอีกตามอัธยาศัยเถอะฮ่ะ

ที่นำเสนอเรื่องเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามในยามนี้ ก็เพราะมองเห็นว่า เป็นยามข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกสะเก็ต ไอ้ที่จะหาเงิน โกงเงินชาวบ้านมาทุ่มซื้ออีหนูเอาตามใจชอบนั้น ตอนนี้น้อยคนนักจะทำได้ ยกเว้นแต่นักการเมืองบางกลุ่มที่ใส่เสื้อตัวละเป็นหมื่นกินเหล้าขวดเป็นแสน ก็ยังพอจะเชิดหน้าชูตาประเทศชาติให้ได้อาย ให้เขารู้ว่าฟุ่มเฟือยไม่เข้าท่า น่าอายมากกว่า น่าชื่นชม.....คนทั่วๆไปจึงต้องสร้างเสน่ห์ขึ้นมาเอง จะจีบผู้หญิงก็ต้องหาทางเอาเอง เพราะต่างก็กระเป๋าแห้งด้วยกันทั้งนั้น

เคล็ดลับของการสร้างเสน่ห์แก่เพศตรงกันข้าม ท่านว่ามีด้วยกัน 7 ประการดังต่อไปนี้.....

ผู้มีเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่นั้นจะต้องเป็นคนกล้า และมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถ้าเป็นผู้หญิงก็น้องๆผู้หญิงก๋ากั่นนั่นละ สรุปเอาว่า ต้องเป็นคนกล้าและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และไม่เป็นคนเก็บตัวไม่กล้าแสดงออก อย่างเช่นในงานสมาคมหรือสโมสรสักแห่ง คุณอย่าได้เข้าไปอย่าง แอบๆ แล้วเข้าไปซุกตัวอยู่มุมไดมุมหนึ่งเงียบๆเป็นอันขาด ตรงกันข้าม คุณต้องเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย ตรงเข้าไปกลางห้อง กลางเวทีนั่นเลย เพื่อให้คนทั้งหลายได้เห็น

คนที่จะมีเสน่ห์ ต้องใช้ภาษาสรีระ หรือเอาตัวพูดแทนปาก แล้วเอาสายตามองกวาดไปทางใหนให้ราบพนาสูรไปเลยยิ่งดี จะทำเจ้าชู้กับใคร ก็จงสำแดงสัดส่วนเข้าไปให้ไกล้ชิดเขาและทำตัวให้สบายๆตามสายตาของเขา

คนที่จะมีเสน่ห์อันทรงพลังนั้น จะต้องวางแผนอันเร้นลับและการโปรยปรายเสน่ห์เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม......ด้วยการเรียนรู้การเป็นนักฟังที่ดี ขณะเดียวกันก็เปิดเผยเรื่องของตัวเองแต่น้อย ให้คนอื่นเขาเห็นว่า เราเป็นคนมีมารยาทน่ารัก ตรงข้าม ถ้าทำตัวเป็นคนพูดมาก อวดรู้มันไปเสียทุกอย่างความมีเสน่ห์ก็คงจะละลายหายไปทันที เมื่อคนอื่นพูด เราก็ฟังอย่างตั้งใจ และก้มศรีษะให้เขาเป็นครั้งคราว บางครั้งที่ถึงเวลาต้องพึมพำขึ้นมาบ้างก็พึมพำออกมาอย่างนุ่มนวล อย่างเช่นว่า "เหรอคะ" อะไรทำนองนั้น จะเป็นการให้ความสนใจเขา มากกว่าจะฟังเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน

นักรักที่พราวเสน่ห์ มักใช้อาหารเป็นสื่อในการสร้างสัมพันธ์ ในโต๊ะอาหาร เลือกสิ่งที่เหมาะๆสักอย่างส่งไปให้เขาชิม...อาจจะเป็นผลไม้สักลูกหรือชิ้นเปนการแสดงน้ำใจไมตรี

แล้วก็เสริมด้วยคำพูดที่เปิดทางเบาๆ หรือจะส่งสายตาให้คิดตามไป เพื่อจะให้เขาสะกิดอกสะกิดใจเข้าไว้

 

คนเจ้าเสน่ห์ มักจะใช้เสียงอันเซ็กซี่มีเสน่ห์ พูดเสียงแผ่วละมุน และเมื่อได้ฟังเรื่องตลกโจ๊ก ก็ขยับตาเล็กน้อยและยิ้มงามๆเท่านั้น อย่าได้ปล่อยหัวเราะออกมาก๊ากใหญ่ จนเนื้อ

ไก่กระเด็นออกมาจากปาก.....อย่างนั้นละก็จอดไม่ต้องแจวเลยละ

 

คนที่มีเสน่ห์นั้น จะต้องรู้วิธีที่จะประจบยกยอปอปั้นใคร การชื่นชมใครเกี่ยวกับเรื่องลักษณะท่าทางของเขาตามที่ใช้กันทั่วไปนั้น อย่างเช่นว่าคนนั้นคนนี้ท่าทางดีนะ จะให้ความประทับใจน้อยกว่าการยกย่องชื่นชม คุณภาพชีวิตของเขา มากกว่าท่าทางภายนอก เช่นว่าเขาเป็นคนมีความรู้ ฉลาด มีอารมณ์ขัน หรือมีสไตล์มีระดับเป็นต้น

 

คนเจ้าเสน่ห์ จะต้องรู้จักใช้กาลเวลาให้ดี เช่น จะสร้างเสน่ห์เชิญชวน อาจจะเลียริมฝีปากให้เห็น และเมื่ออยากจะทำให้เห็นว่าเป็นคนที่อ่อนเยาว์กว่า อาจจะทำตัวเหมือนเด็กๆ เช่น เอานิ้วจิ้มน้ำในแก้วของเราเอง แล้วจิ้มนิ้วใส่ปาก ก็จะดูน่ารักแบบเด็กๆ เพื่อที่จะมัดใจคนที่คุณอยู่ด้วย คุณอาจจะหลบสายตาเขาลงไปอย่างไม่กล้าสู้สายตาอันแข็งกร้าวของเขาอีกต่อไป....เป็นการยอมแพ้เขาอย่างราบคาบ....ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างเช่นกัน

 

ที่ว่ามานี้ บางอย่างก็เปนแบบฝรั่งมังค่าอยู่ ถ้าจะเอาไปใช้ก็พยายามดูขนบประเพณีของไทยเอาไว้ ก็คงจะไม่เสียหลาย ทั้งๆที่เวลานี้ เรื่องพรรค์อย่างว่านี้ เราตามอย่างฝรั่งจนเลยขึ้นหน้าไปไกลแล้ว.....หลายรายโปรยเสน่ห์มากเกินไป ถึงขึ้นโรงขึ้นศาลก็มี...ฮ่าๆ....

 

 

 


FastCounter by bCentral