แพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา แพทย์ที่ปรึกษา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ได้รวบรวมการค้นคว้าด้านคลินิก และวัฒนธรรมทางสังคมของผู้ตั้งใจฆ่าตัวตายอย่างจริงจัง ในวัฒนธรรมตะวันตก
แสดงว่าผู้มีประวัติ และลักษณะต่อไปนี้ หลายประการร่วมกัน มีอันตรายสูงที่จะฆ่าตัวตายมากกว่าพวกที่มีลักษณะตรงข้าม
แพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ได้สรุปกลไกของจิตใจ และความสัมพันธ์ของความคิดฆ่าตัวตายไว้ว่า
ความคิดอยาก ฆ่าตัวตาย ชั่วขณะหรือชั่วอารมณ์วูบหนึ่ง อาจเกิดขึ้นได้ในคนปกติ แต่ถ้าคิดซ้ำซากก็เป็นพยาธิสภาพ หลายคนเชื่อว่าผู้ฆ่าตัวตายทุกคน ในขณะฆ่าตัวตายจะต้องมีความผิดปกติ ทางจิตเวช แต่สเตงเกลเองเห็นว่า คนฆ่าตัวตายไม่จำเป็นต้องมีจิตใจ ผิดปกติเสมอไป การฆ่าตัวตายเป็นพฤติกรรมผิดปกติ เพราะคนส่วนมาก จะไม่ฆ่าตัวตาย แม้จะตกอยู่ในภาวะเช่นเดียวกันนั้น
ทั้งการพยายามฆ่าตัวตาย และการฆ่าตัวตาย อย่างจริงจังไม่ ผูกพันกับพยาธิสภาพอย่างใดอย่างดียว แต่มักพบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการซึมเศร้า ผู้คิดฆ่าตัวตายทุกคนมีความรู้สึกตรงกันข้ามทั้งสองฝ่ายปนกันอยู่ คือ ทั้งอยากตาย และอยากมีชีวิตอยู่ในขณะเดียวกัน เพียงแต่มีความรู้สึก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าเท่านั้น
การฆ่าตัวตายอาจเป็นการลงโทษตนเอง, เป็นการแก้แค้นผู้อื่น, หรือเนื่องมาจากความเชื่อเรื่องเกิดใหม่ในชาติหน้าร่วมกับคนที่ตนรักก็ได้ ทุกคนที่คิดฆ่าตัวตายจะมีความรู้สึกอย่างหนึ่งคล้ายกัน คือ รู้สึกว่าตน "ขาดความรัก" การฆ่าตัวตายจึงอาจเป็นการยังความสำนึกผิด ให้บังเกิดแก่บุคคลสำคัญในชีวิตของเขา ซึงได้ละเลยหรือทอดทิ้งเขา ถือเป็นการแก้แค้นวิธีหนึ่ง
แม่ชาวสวีเดนเลี้ยงลูกอย่างปล่อยให้พึงตนเองโดยเร็ว แม่จะแสดงให้ลูกรู้ว่าแม่พอใจและภูมิใจมากถ้าลูกมีความสามารถ ทั้งยังอบรมลูกให้เก็บความรู้สึกและไม่ก้าวร้าวเมื่อโกรธ ชาวสวีเดน ผู้ไม่มีทางระบายความโกรธ, ซ้ำยังได้รับการปลูกฝังว่าความสำเร็จ และความสามารถเป็นความสำคัญของชีวิต, จึงเกลียดชังตัวเองมาก ถ้าชีวิตในด้านการงานล้มเหลว, วิธีลงโทษตนเองคือ การฆ่าตัวตาย อัตราการฆ่าตัวตายในสวีเดนจึงสูงมาก
ความรู้จากแพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้ประชาชนในยุคปัจจุบันที่ถูกกระทบ จากความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งภายในประเทศและจากนอกประเทศ ในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การเมือง ทำให้สถาบันครอบครัวไม่มั่นคง หรือทำให้สถาบันครอบครัวล่มสลาย เพิ่มมากขึ้น ปัญหาการฆ่าตัวตาย จึงตามหลังมาอย่างกระชันชิด และจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การมีความรู้ที่เพียงพอ การปรับตัวที่เหมาะสม และความสามารถในการเกื้อกูลช่วยเหลือ เมตตากรุณา และอภัยให้กันเท่านั้นที่จะช่วยลดภาวะฆ่าตัวตายลงได้บ้าง
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์