ข่าวคราวความเครียด
หมอไทยเตือนอย่าหลงเชื่อสมุนไพรแดนมังกร ชี้ไม่มีทางรักษาโรคสะเก็ดเงินหายขาด
น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนังและภูมิแพ้ผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าหมอแมะจีนสามารถรักษาโรคสะเก็ดเงินให้หายขาดได้โดยยาสมุนไพรจีนนี้น ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่รักษาให้ดีขึ้นได้ แต่หากมีปัจจัยกระตุ้นเช่นความเครียด โรคก็จะกลับมาได้อีก
"โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้บ่อยคืออาจพบถึงร้อยละ ๑-๖ ของประชากรทั่วไป เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่เป็นโรคนี้และผู้คนที่อยู่รอบข้าง ทั้งนี้ เพราะลักษณะของโรคเป็นปื้นนูนแดงขนาดใหญ่ และมีสะเก็ดสีขาวเงินปกคลุม ทำให้แลเห็นได้ชัดเจน มักพบตามข้อศอก หัวเข่า หนังศีรษะโดยเฉพาะตามแนวไรผมและก้นกบ แต่ก็อาจพบผื่นได้ทั่วร่างกาย อาจเป็นที่เล็บทำให้เล็บมีหลุมเล็ก ๆ เล็บเหลือง เล็บร่อนและมีขุยหนาใต้เล็บ บางรายอาจพบอาการข้ออักเสบ โดยเฉพาะข้อนิ้วมือสุดปลายนิ้วและข้อต่อบริเวณก้นกบ"
น.พ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า เนื่องจากโรคนี้จัดเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจึงไม่ควรเปลี่ยนที่รักษาบ่อย ๆ เพราะทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง ควรเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง ไม่จำเป็นต้องมารักษาในกรุงเทพฯ เพราะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น และยังทำให้เหน็ดเหนื่อย อาการของโรคอาจจกำเริบขึ้น ผู้ป่วยที่อ้วนมาก
หากลดน้ำหนักตัวลงอาการของโรคอาจดีขึ้น พบว่าความเครียดมีผลต่อโรคนี้โดยตรง ผู้ป่วยต้องยอมรับความจริงว่าโรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง อาจรักษาให้ดีขึ้นได้ แต่ไม่หายขาดอาจเป็นซ้ำได้ จึงไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณาใด ๆ ที่ว่ามีวิธีรักษาให้โรคนี้หายขาดได้ เพราะอาจถูกหลอกลวงเช่นได้รับยาสมุนไพรจีนที่เจือปนสารสเตียรอยด์ทำให้อาการของโรคดีขึ้นชั่วคราว แต่ยามีผลเสียต่าง ๆ ต่อร่างกาย
สำหรับยาสมุนไพรจีนทั้งในรูปยาทาและยารับประทาน นั้น เคยมีงานวิจัยของอังกฤษพบว่ามีการแอบเจือปนสารสเตียรอยด์อยู่ด้วย จึงขอเตือนว่ายาที่ได้รับจากหมอจีนแผนโบราณมักมีราคาสูง และไม่อาจประเมินผลการรักษาได้ชัดเจน และมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ จึงอาจทำให้เกิดข้อแทรกซ้อนคือกระเพาะอาหารทะลุ กระดูผุ หน้าบวมฉุ เป็นสิว และเกิดผิวแตกลายได้ การแอบเจือปนสารสเตียรอยด์ลงในครีมและยารับประทานแผนโบราณนั้นทำให้ออกฤทธิ์เหมือนยาครอบจักรวาล ทำให้รู้สึกว่าอาการของโรคดีขึ้นชั่วคราว แต่ไม่ได้รักษาต้นเหตุของโรคอย่างแท้จริง โรคจึงกำเริบมากในภายหลัง เคยพบว่าบางคนเสียเวลาตระเวณรักษาโรคนี้จนทั่วประเทศ จนหมดเนื้อหมดตัวและยังอาจได้รับผลเสียของยาที่ได้จากหมอเถื่อนอีกด้วย