ในสมัยก่อนเราอวยพรซึ่งกันและกันด้วยคำว่า "ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีอายุมั่นขวัญยืน" แต่ในปัจจุบันเราพูดกันติดปากแล้วว่า "ขอให้ท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์" หรือบางท่านก็จะอวยพรว่า "ขอให้มีความสุขทั้งกายและใจ" เป็นต้น แสดงว่า เรื่องของสุขภาพจิต หรือสุขภาพของจิตใจเริ่มเข้ามามีบทบาท และเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนรู้จัก "ความเครียด" และทราบดีว่าความเครียดนั้น สามารถก่อให้เกิดความไม่สบายได้ ทั้งทางด้านจิตใจ และมีผลสะท้อนสู่ความไม่สบายของร่างกายได้ด้วย
สุขภาพจิตมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดต่อความเครียด ถ้าจะพูดง่าย ๆ สุขภาพจิตที่ดี ย่อมมีความเครียดน้อยมากหรือมีความเครียด แต่เพียงพอดี ๆ และสามารถแก้ปัญหาขจัดความเครียด ให้บรรเทาเบาบางไปได้ นำมาซึ่งความสุขและความสบายของจิตใจ หากความเครียดเกิดขึ้นจาก เรื่องราวที่ใหญ่โตมากมาย เช่น อยู่ในฐานะเป็นหนี้เป็นสินใกล้ล้มละลาย ยังต้องเสียของรัก หรือเสียคนอันเป็นที่รัก ยังถูกผู้ใกล้ชิดดูถูกเหยียดหยาม ขาดคนเข้าใจ ขาดคนเห็นใจ ความเครียดเหล่านี้ย่อมนำมาให้เกิดสุขภาพจิตแปรปรวน กลายเป็นความทุกข์ทางใจ
สุขภาพจิตที่ดี เกิดขึ้นจากความสมหวัง ความสำเร็จ และการตอบสนองที่ดี เหมาะสม ถูกใจ ถูกอารมณ์ หรือประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละคน แต่ละวัย
- ใน วัยทารก
จะต้องการทั้งอาหารกายและอาหารใจ อาหารกายที่ดีที่สุดคือ นมแม่
อาหารใจคือ ความรักความ
เอาใจใส่ การสัมผัสโอบอุ้มและสัมผัสใกล้ชิด ด้วยความทะนุถนอมอย่างต่อเนื่อง
จากพ่อแม่ รู้จักป้อนเมื่อทารกหิว หมั่นทำความสะอาดร่างกายให้กับทารก
เมื่อเนื้อตัวสกปรก หรือเมื่อเปียกเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ โดยปฏิบัติทุกอย่างให้ทารกด้วยความละมุนละไม
- วัยเด็ก
- มักกลัวการถูกทอดทิ้ง ต้องการความรักใคร่และใกล้ชิดจากผู้ใหญ่
โดยเฉพาะพ่อแม่ ต้องการการเรียนรู้ การสอน
และบอกกล่าวไปตามความเหมาะสมแก่วัยของเด็ก
เด็กที่กลัวถูกทอดทิ้ง หรือถูกทิ้งห่างมาบ้างแล้วจากที่บ้าน
มักมีปัญหาไม่อยากไปโรงเรียน พ่อแม่ควรไปส่งและไปรับกลับให้ตรงตามเวลา
วัยเด็ก ยังเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ พ่อแม่ควรอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด
และคำสั่งสอนต่าง ๆ นั้นจะประสบความสำเร็จได
้ ก็ต่อเมื่อพ่อแม่จะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี
เพื่อวางรากฐานให้ลูกได้เติบโตเป็นพลเมืองดี มีความรู้ และปฏิบัติงานสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
ครอบครัว และชาติบ้านเมือง
- วัยรุ่น
- เป็นวัยอยากรู้ อยากลอง ติดเพื่อน และชอบขัดแย้งกับผู้ใหญ่
พ่อแม่ต้องทำตัวเป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนสนิท เพื่อช่วยกล่อมเกลา
ให้ลูกเดินถูกทิศทาง การที่พ่อแม่จะแสดงความขัดแย้งอย่างรุนแรง
หรือลงโทษเด็กวัยนี้อย่างรุนแรง อาจได้ผลในทางตรงกันข้ามคือ ลูกในวัยรุ่นอาจจะไม่ยอมเชื่อฟังผู้ใหญ่อีกต่อไป
- วัยผู้ใหญ่
- ผู้ใหญ่เป็นวัยที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งรับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว และสังคม
ทำให้เครียดง่าย แต่ก็ยังมีพลังที่จะทำงานได้เต็มที่
เมื่อมีปัญหาในชีวิตควรคิดแก้ไข ไม่ท้อถอย ถ้าแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ ควรปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากผู้ใกล้ชิด ยึดหลักศาสนา
เพื่อทำให้จิตใจสงบ ไม่รุ่มร้อนด้วยอารมณ์ร้าย ๆ เช่น โกรธแค้น อาฆาต อิจฉาริษยา
เศร้าใจ น้อยใจ หาเวลาพักผ่อน เที่ยวเตร่ เล่นกีฬา
หรือทำงานอดิเรกที่ชอบเพื่อช่วยลดความเครียด
- ผู้สูงอายุ
- ผู้สูงอายุจะมีเวลาว่างมาก ควรใช้ให้เป็นประโยชน์
เช่น ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง
ทำบุญ ทำกุศล ฯลฯ ผู้สูงอายุมีประสบการณ์มาก ควรถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
เช่น เขียนหนังสือ เล่าให้ลูกหลานฟัง เป็นที่ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ และลูกหลานควรรับฟังด้วยความเคารพ ผู้สูงอายุมักมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่ควรทำงานแบบหักโหม และควรออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ
เพราะจิตใจจะแจ่มใส ถ้าร่างกายปกติสุขด้วย ศึกษาธรรมะเพื่อให้ใจสงบสุข
ละวางต่อความทุกข์ ความไม่สบายใจที่เกิดจากสังคมและจากบุคคลใกล้ชิด
|
ทั้งหมดที่กล่าวแล้วนั้น เป็นสาระน่ารู้เบื้องต้น ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตในวัยต่าง ๆ ซึ่งถ้าได้ดำเนินไปด้วยดีตั้งแต่เด็ก ผู้นั้นก็จะมีพื้นฐานของสุขภาพจิตที่เข้มแข็งอยู่แล้วพอสมควร สามารถทนทานต่อความเครียด และสามารถเผชิญความเครียดได้ดีพอสมควร นอกจากนั้นสุขภาพจิตในครอบครัว ซึ่งก็คือข้อปฏิบัติเบื้องต้น ระหว่างสามีภรรยาก็มีความสำคัญในการที่จะรักษาความสุขทางใจ ให้เกิดกับทุก ๆ สมาชิกในครอบครัว ทิ้งห่างจากความเครียดทั้งหลาย
- มีเวลาที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน สนุกสนานด้วยกัน คุย
กัน ปรึกษาหารือและปรับทุกข์กัน
- ร่วมกันรับผิดชอบชีวิตครอบครัว ช่วยกันทำงานทั้งงานนอก
บ้านและงานในบ้าน
- ควบคุมอารมณ์ เมื่อฝ่ายหนึ่งร้อน อีกฝ่ายต้องเย็น พยายาม
ประนีประนอมดีกว่าเอาชนะกันถึงขั้นแตกหัก
- ยกย่อง ให้เกียรติกัน ชมเชยเมื่ออีกฝ่ายทำความดี รักษา
มารยาท ไม่ลบหลู่ ดูถูก หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายทำร้ายจิตใจกัน
|
มิเพียงสามีภรรยาเท่านั้นที่จะปฏิบัติต่อกันแต่ข้อปฏิบัติระหว่างพ่อแม่กับลูกก็มีความสำคัญอย่างเช่น
- มีเวลาพูดคุย เป็นที่ปรึกษา อบรมสั่งสอน ไต่ถามทุกข์สุข เล่น
กับลูก ๆ
- ปฏิบัติต่อลูก ๆ อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ลำเอียง เพื่อพี่น้องจะได้
ไม่อิจฉากัน
- แบ่งงานบ้านให้ลูก ๆ ช่วยทำเพื่อฝึกหัดให้มีความรับผิดชอบ
และฝึกที่จะช่วยตัวเองเป็นเมื่อโตขึ้น
- ไม่เข้มงวด ดุด่า หรือปล่อยปละละเลย หรือโอ๋ลูกมากเกินไป
เมื่อลูกทำผิดก็ต้องลงโทษตามสมควร เมื่อลูกทำดีก็ต้องชมเชย ไม่เพิกเฉย
ส่วนข้อแนะนำอันเป็นกลยุทธ์ที่จะสร้างความสุขเบื้องต้นในครอบครัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ
เมื่อคิดจะมีลูก ควรมีแค่ 2 คน
เพื่อจะเลี้ยงดูได้เต็มที่ เมื่อภรรยาตั้งครรภ์ สามีต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เมื่อมีความทุกข์ต้องปลุกปลอบใจกัน ไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อมีปัญหาขัดแย้ง
ต้องชี้แจงกันด้วยเหตุผล ระงับการใช้อารมณ์และกำลัง เมื่อมีภาระหนัก
ต้องช่วยกันแบ่งเบา ไม่เอาเปรียบกัน เมื่อแต่งงานกันแล้ว ต้องช่วยกันทำมาหากิน
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ครอบครัวเป็นสุข เมื่อทุกคนรักใคร่ปองดองกัน |
เมื่อความเครียดที่เกิดจากภัยเศรษฐกิจก็ตาม ภัยทางสังคม ด้านการเมือง ด้านภัยแล้ง เข้ามาเบียดเบียนทำให้เสียสุขภาพจิต หรือเกิดความเครียดอย่างรุนแรง ทำให้ป่วยทางใจ จะมีอาการต่าง ๆ ได้ดังนี้ คือ อาการวิตกกังวลมากกว่าปกติ หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานหรือการเรียน มีเหงื่อออกตามมือตามเท้า เศร้าเสียใจเกินกว่าเหตุ ชอบโทษตัวเองว่าไม่ดี บางทีก็คิดฆ่าตัวตาย ชอบคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร หวาดกลัวอย่างไม่สมเหตุสมผล เช่น กลัวความสกปรก กลัวเชื้อโรค กลัวสัตว์บางชนิด กลัวที่แคบ กลัวที่สูง ย้ำคิดย้ำทำ ทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ โดยไม่จำเป็น เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่เปื้อน ตรวจตรากลอนประตู หน้าต่างก่อนนอนคืนละหลาย ๆ เที่ยว
อาการต่าง ๆ เหล่านี้เป็นอาการจริง ๆ เกิดขึ้นจริง ๆ มิได้แกล้งทำให้เกิด หรือจงใจให้เกิดอาการแต่ประการใด เพียงแต่ว่าอาการจริงๆ ที่เกิดเหล่านี้เป็นอาการของโรคที่เกิดจากความเครียด โรคที่เป็นความแปรปรวนของสุขภาพจิต ทำให้เกิดความไม่สมดุล ของระบบประสาทอัตโนมัติต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือและรักษา แพทย์ที่มีความรู้ทางด้านสุขภาพจิตโดยทั่วไป และจิตแพทย์จะช่วยท่านได้ โดยเฉพาะตามคลินิกคลายเครียด ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ทั่วราชอาณาจักร ทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน