ประวัติสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเถร)

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ นามเดิมว่า เจริญ สกุล สุขบท เกิดในรัชการที่ 5 ชาตะ อังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2415ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก จุลศักราช 1234 เป็นบุตร อุบาสกทองสุข อุบาสิกาย่าง ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ สะพานแม่ย่าง ตำบลตลาดกลาง อำเภอบางปลาสร้อย จังหวัดชลบุรี เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ได้บรรพชาแล้วศึกษาเล่าเรียนที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี อายุ 15 ปี เข้าศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ในสำนักท่านพระครูวินัยธรฉาย ฐานานุกรมของพระวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าอรุณนิภาคุณากร วัดราชบพิธ ในพระนคร ระหว่างศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ในสำนัก ท่านพระครูวินัยธรฉาย อาจารย์เป็นโรคเหน็บชาดวงกลมเท่าปลายนิ้วชี้ที่ริมน่องซ้าย ซึ่งเป็นมา ในขณะอายุ 9 ขวบ แต่ไม่ได้รักษา เพราะไม่มีพิการอะไร ต่อมาราวอายุ 16 ปี ก็ไม่รู้สึกว่าเท้าพิการ ท่านพระครูวินัยธรฉายเห็นว่า เวลาเดินบอกว่า เท้าพิการจึงได้รู้สึกตัว คือทำให้สันหน้าแข้งแฟบ เดินปลายเท้าตก ต่อมาได้เล่าเรียนในสำนักท่านพระยาธรรมปรีชา (บุญ) จนอายุครบ 20 ปี อุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2435 ที่วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี มีนิยมนาม ตามภาษามคธว่า ญาณวรโร ท้านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุนีเป็นอุปัชฌายะ ท่านพระครูวินัยธรฉาย เป็นพระอุปสัมปทาจารย์ อุปสมบทแล้วกลับไปอยู่วัดกันมาตยาราม พระนคร ศึกษาพระปริยัติธรรม ต่อกับพระยาธรรมปรีชา (บุญ) และศาสนาโสภณ
(อหึสโก อ่อน) พ.ศ. 2438 เข้าสอบพระปริยัติธรรม ในมหามกุฎราชวิทยาลัยได้โดยลำดับจนถึงชั้นเปรียญตรีเทียบ 4 ประโยค
พ.ศ. 2439 มาอยู่วัด เทพศิรินทราวาสเล่าเรียนพระวินัยปิฎกในสำนักสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส
เมื่อยังดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเป็นพระอาจารย์ เข้าสอบพระปริยัติธรรมในมหามกุฎราชวิทยา ได้โดยโดยลำดับจนถึงชั้นเปรียญเอกเทียบ 7 ประโยคได้รับรางวัลที่ 1 ทุก ๆ ประโยคตั้งแต่ชั้นต้น จนถึงชั้นที่สุด สมณศักดิ์

ปี พ.ศ.
ตำแหน่ง
พ.ศ. 2439 ครูเอกโรงเรียนภาษาบาลี วัดเทพศิรินทราวาส
พ.ศ. 2441 มีพรรษา 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นพระราชาคณะที่พระอมราภิรักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี
22 มกราคม พ.ศ. 2441 สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ทรงตั้งให้เป็นผู้กำกับวัดสัมพันธวงศ์
25 มกราคม พ.ศ. 2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
20 กันยายน พ.ศ. 2442 มีพระบรมราชโองการทรงตั้งเป็นกรรมการในมหากุฎราชวิทยาลัย
พ.ศ. 2445 ทรงเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ราชมนี
24 กันยายน พ.ศ. 2464 โปรดให้สถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็น พระศาสนโสภณ
รองเจ้าคณะธรรมยุตติกนิกาย
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 ทรงตั้งให้เป็นเจ้าคณะมณฑลปราจีนบุรี และมณฑลจจันทบุรี
พ.ศ. 2469 ทรงตั้งให้เป็นกรรมการในราชบัณฑิตยสภา
พ.ศ. 2471 ทรงตั้งให้เป็นกรรมการที่ปรึกในการทำนุบำรุงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
พ.ศ. 2476 เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคม บัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้า
พ.ศ. 2489 เป็นหัวหน้าคณะวินัยธร

วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2494 นายแพทย์ตรวจพบว่าเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์อาพาธเป็นโรคเนื้องอกที่ตับ เบื่ออาหาร และอ่อนเพลียมาโดยลำดับซึ่งได้พักรักษาตัวอยู่ ณ วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี ประมาณเดือนเศษ อาการไม่ดีขึ้น 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 คณะสงฆ์กรรมการศาสนาและกรรมการแพทย์รับไปรักษาพยาบาล ณ วัดเทพศิรินทราวาส นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญถวายการรักษาจนสุดความสามารถ แต่โรคชนิดนี้ยังไม่พบวิธีรักษาให้หายได้ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2494 เวลา 10.30 น. จึงมรณภาพด้วยอาการอันสงบ คำนวณอายุได้ 80 โดยปีพรรษา 59 เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดเทพศิรินทราวาส ประมาณ 50 ปีเศษ 2 มีนาคม พ.ศ. 2495 ทรงพระกรุณาดปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชทานเพลิงศพที่สนามวัดเทพศิรินทราวาส นับเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศรินทราวาส องค์ที่ 5