ประวัติโกวเล้ง
โกวเล้งมีชื่อจริงว่า โสงเอี๋ยวฮว่า เกิดที่ฮ่องกงแต่มาโตที่ไต้หวัน มีฐานะยากจนต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัยตั้นเจียง (วิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งไต้หวัน) ทำงานเป็นบรรณาลักษ์ของห้องสมุดยูซีสของไต้หวัน โกวเล้งได้เขียนหลายเรื่องมากเช่น ศึกสายเลือด พิฆาติทรชน เซียวฮื้อยี้ หรือขุนพลผู้ไร้ทวนซึ่งเคยฉายทางช่อง3 ฤทธิ์มีดสั้น และอีกเพอะมาก เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 48 ปี (พ.ศ. 2538 ) มีผู้แปลหนังสือของโกวเล้งหลายทานเช่น ว.ณ. เมืองลุง,น.นพรัตน์ , แก้วชาย ธรรมาชัย, ไพโรจน์ อยู่มณเทียร และอีกหลายท่าน ที่นำมาลงนี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ...........
- คนผู้หนึ่งไม่อาจหนีตัวเองได้ ความผิดพลาดของตัวเอง ความเสียใจของตัวเอง ความรับผิดชอบของตัวเอง ล้วนแต่หนีไม่ได้ เนื่องเพราะนั่นคล้ายเป็นเงาของตัวเอง ซึ่งติดตามตนไปทุกแห่งหน ไม่อาจหนีรอดได้เด็ดขาด
- คนเสเพล ปีศาจสุรา มิเห็นที่ใดไม่ดี นั่นยังประเสริฐกว่าวิญญูชนจอมปลอม สวมหน้ากากออกหลอกลวงมากมายนัก หรือมิใช่ ?
- ตอนนั้น เป็นเวลาที่ความรู้สึกเปราะบางที่สุด
คนเราเมื่ออยู่ในความว้าเหว่เปราะบาง มักจะกล่าววาจาที่กระทั่งตัวเองก็นนึกไม่ถึงจะเปล่งออกมาจากปากได้...
- สุราอยู่ในจอก โคมไฟริบหรี่แสงเลือนราง มีสุราเหลืองขุ่น นี่มิใช่สุราดี แต่สุราดีหรือเลวหาได้อยู่ที่ตัวมันไม่......กลับอยู่ที่ท่านดื่มมันเวลาใด ? หากเป็นคนที่คับแค้นรันทดจนสุดซึ้ง มาตรว่าเป็นเมรัยรสเลิศในดินแดน ยามล่วงล้ำลำคอก็ขมฝาดจนบอกไม่ถูก
- หากคนคุ้นเคยกับความเงียบเหงาว้าเหว่มาเนิ่นนานจนชาชินอย่างนั้น สำหรับกับมันแล้ว การรอคอยมิใช่เป็นการปวดร้าวทรมานอีกเลย
top
- สุราไม่อาจคลี่คลายความคับแค้นของผู้ใดได้ แต่สามารถดลบันดาลให้ท่านหลอกตัวเองได้
- ข้าพเจ้าเองมักรู้สึกประหลาดสงสัย ไฉนผู้คนในโลกจึงพอใจกันดื่มสุรากันอยู่มากมาย ความจริงสุรายังดื่มยากกว่ายาพิษเสียอีก
- วาจาตอนเมา ปกติมักเป็นวาจาจริงใจ
- ผู้ดื่มสุราเมามาย มักเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผลที่สุดในโลก ไม่ว่ากระทำเรื่องราวใดล้วนถูกต้อง ที่ผิดพลาดต้องเป็นผู้อื่น
- เราดื่มสุรากลัวเพียงฟ้าสว่าง หากฟ้าไม่สว่างเราพอจะดื่มอีกเท่าไหร่ก็มิเป็นไร แต่พอฟ้าสว่างเราจะรู้สึกปวดหัวทันที กระทั่งสุราก็ดื่มไม่ลงแล้ว
- ...นี่มิใช่เป็นเมลัยแล้ว แต่เป็นสุราขมฝาดของชีวิตเมื่อยังมีชีวิตก้ต้องรับไว้ ต้องดื่มไป
- หลังร่ำสุราเปิดเผยความจริง ผู้ที่ดื่มจนเมามายมักยากที่จะรักษาความลับไว้ได้
...อาจบางทีความรักเป็นเช่นนี้เอง
...ท่านอาจคิดเสพย์สุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องกล้ำกลืนความกลัดกลุ้มและปวดร้าวซึ่งสืบเนื่องจากความรักด้วย
- ท่านยิ่งแสร้งเป็นไม่แยแสสนใจต่อเรื่องราวหนึ่ง ยิ่งแสดงว่าท่านผูกพันกังวลมันเป็นพิเศษ..............โดยเฉพาะอิสตรี...
- ที่ประหลาดพิกลที่สุด หยั่งคำนวณไม่ออกที่สุดในโลกนี้ ก็คือหัวใจของมนุษย์นี่เอง หัวใจของอิสตรีต่างเป็นเช่นเดียวกัน
- บุรุษที่เจ็บแค้นเพราะความรักนั้น มีอากัปกิริยาที่กระจ่างอย่างยิ่ง...ดุจดังดอกไม้เขียวขจีพลันเหี่ยวเฉาลงไปก็ปาน
- ท่านยิ่งแสร้งเป็นไม่แยแสสนใจต่อเรื่องราวหนึ่ง ยิ่งแสดงว่าท่านผูกพันกังวลมันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอิสตรี
- น้ำมิตรเกิกจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกระทันหัน....น้ำมิตรต้องผ่ารการทดสอบของการเวลา แต่ความรักมักเกิดในช่วงชั่วพริบตา ช่วงพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัดปานใด สวยสดงดงามเพียงไหน ช่วงพริบตานั้นจะคงอยู่เป็นชั่วนิรันดร์
- คนผู้หนึ่งขอเพียงปลงได้ตก ในโลกก็ไม่มีเรื่องใด ควรคู่ให้ปวดร้าวกลัดกลุ้มอีก
- กุหลาบเพียงหนึ่งเดียวที่ไร้หนาม คือความรักระหว่างมิตร
- ที่ประหลาดพิกลที่สุด หยั่งคำนวณไม่ออกที่สุดในโลกนี้ ก็คือหัวใจของมนุษย์นี่เอง หัวใจของบุรุษและสตรี ต่างเป็นเช่นเดียวกัน
- สตรีหากรักชอบบุรุษผู้หนึ่ง ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ต้องดูออก....
- สตรีไม่ว่าแต่งงานกับบุรุษเยี่ยงไร อย่างน้อยดีกว่าแต่งงานกับสตรีนางหนึ่ง...หากแม้นสตรีต้องแต่งงานกับสตรีด้วยกัน จึงเป็นเรื่องเลวร้ายจริงๆ
- ในโลก ความจริงไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใจอีกผู้หนึ่งโดยกระจ่างอย่างแท้จริง มิว่าเป็นสามี ภรรยาเป็นมิตรสหายก็ตาม อย่าว่าแต่สตรีความจริงก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้คนเข้าใจอยู่แล้ว
- รักคือเสียสละ...ไม่ใช่ยึดครอง
- ยามเมื่อบุรุษพบว่าตนเองถูกสตรีซึ่งตนรักหลอกลวงน้ำใจ ความเดือดดาลและปวดร้าวที่ได้รับ ในโลกแทบไม่มีเรื่องอื่นเปรียบเทียบได้