|
|
...........................................คุณป้าแจ้ม ขาวน้อย … ......................................................ร่างทรงพ่อปู่มโนราห์ ..........ในความเชื่อของผมรวมทั้งคนอีกหลายๆ คน เรื่องของ "ผีปอบ" จะเป็นสมัยนี้หรือสมัยไหน ตัวตนของมันไม่มีอย่างแน่นอน เท่าที่จำได้ผีที่ผมเคยเห็นด้วยตาตัวเองได้แก่ ผีขนุน ซึ่งปรากฏร่างอยู่แถวๆ ริมคลองหลอด ข้างกระทรวงยุติธรรม แต่นั่นมันเป็นผู้หญิงหากิน ราคาค่าตัวถูกๆ แต่ในเวลานี้ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว |
ที่นี่ผีดุ |
|
|
Gallery |
|
|
|
|
| ก็แปลกใจมันเหมือนกัน อยู่ดีๆ มันไม่ยอมกินข้าวปลา เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เอาตัวไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร ให้ยามากิน 3-4 ถุง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย เนื้อตัวดูไม่ได้เหม็นมาก พวกญาติพี่น้องพาไปรดน้ำมนต์ แต่มันกลับทรุดหนัก ฉันก็เลยเล่าให้ป้าแจ้มฟัง ถามแกว่าพอจะมีทางช่วยนังอ้อยบ้างมั้ย ป้าแจ้มบอกว่าพอมีทาง แต่มันขึ้นอยู่กับเคราะห์กรรมของนังอ้อย ป้าแจ้มก็เอาดวงของมันไปผูก สักพักก็บอกว่าดวงมันยังไม่ถึงฆาต เอามาให้แกรักษาเดี๋ยวนี้เลย เชื่อมั้ยพอนังอ้อยมาถึงบ้านของป้าแจ้ม มันดิ้นพลาดไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ปากก็ร้องด่าพวกญาติพี่น้อง ด่าป้าแจ้ม แต่ที่น่าแปลกก็คือ เสียงของนังอ้อยกลายเป็นเสียงของคนแก่ .........ป้าแจ้มแกทำน้ำมนต์เสกขึ้นมาขันนึง แล้วมีหวายสำหรับไล่ผีเส้นนึง แกให้จับนังอ้อยนอนคว่ำ แล้วเอาหวายตีที่หลัง มันร้องกรี๊ดๆๆ ดังลั่น ป้าแจ้มถามว่ามึงจะออกจากร่างนี้มั้ย มีเสียงตอบว่ากูไม่ไป กูจะเอาอีอ้อยไปอยู่กับกู ป้าแจ้มก็เอาหวายจุ่มในขันน้ำมนต์ แล้วตีไปร่างของนังอ้อยเบาๆ แต่มันกลับดิ้นพลาดๆ เหมือนว่าถูกตีอย่างแรง เสียงมันพูดว่ายอมไปแล้ว ยอมออกแล้ว ขาดคำนังอ้อยก็แน่นิ่งไป พอนังอ้อยฟื้นขึ้นมามันบอกว่าจำอะไรไม่ได้เลย พอเห็นตัวมันในกระจก ก็แทบช๊อค เพราะสภาพเหมือนคนบ้า ตอนนี้อาการมันดีขึ้นแล้ว ฉันให้มันไปอยู่กับแม่ของมันที่ประจวบฯ เรื่องนี้ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง" คุณฉลวย มั่งมี ผู้เป็นป้าของผู้หญิงที่ชื่อว่า "อ้อย" ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ผมนั่งคุยกับคุณฉลวยจนกระทั่งเกือบ 5 โมงเย็น ป้าแจ้มซึ่งเป็นร่างทรงก็กลับมาถึงบ้าน เมื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ของผม ป้าแจ้มก็เต็มใจที่จะเล่าถึงความเป็นมาในชีวิต ก่อนที่จะมาเป็นร่างทรง "พ่อปู่มโนราห์" "ป้าเกิดมาพ่อแม่ตายหมด เป็นกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็มีสามี มีลูกทั้งหมด 5 คน ชีวิตความเป็นอยู่ต้องบอกว่าลำบากมาก จนในที่สุดก็ต้องเลิกกับสามี แล้วมาอยู่ที่จังหวัดชุมพร เก็บผักริมถนนไปขาย กำละ 20 สตางค์ หนังสือป้าก็อ่านไม่ออก ตอนที่เป็นร่างทรงก็ไม่รู้ตัว อยู่ดีๆ ก็มีพ่อปู่พริกมาเข้าร่างของเรา พ่อปู่พริกเป็นพ่อของป้าเองเคยเล่นมโนราห์มาก่อน คนที่จะเล่นมโนราห์ได้นั้น จะต้องมีวิชาอาคม .........หากว่าไม่มีวิชาอาคมหรือไม่มีครู ถ้าไปแตะต้องเครื่องแต่งกายของมโนราห์ จะต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นาๆ วิชาอาคมของคนใต้นั้นแรงมาก จะมาล้อเล่นไม่เป็นอันขาด เราจะเห็นว่าตำหนักทรงทางภาคใต้มีน้อยมาก" ความเชื่อของคนทางภาคใต้ในเรื่องของ การทรงเจ้าเข้าผี "ก็มีทั้งที่เชื่อและไม่เชื่อ ป้าคงจะไปชวนให้ใครต่อใครมาเชื่อเรื่องนี้คงจะไม่ได้ ส่วนคนที่เชื่อก็เพราะเขามีประสบการณ์ อย่างเช่นเคยเจอกับวิญญาณญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วมาปรากฏให้เห็น ซึ่งแต่ก่อนเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่พอเขาเห็นกับตาตัวเองเขาจึงเชื่อ" ผู้ที่ต้องการจะมาตำหนักทรงพ่อปู่มโนราห์จะต้องทำอย่างไรบ้าง? "ก่อนอื่นต้องมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่นในตัวของพ่อปู่ ห้ามพูดโกหกต้องพูดแต่ความจริง สิ่งที่จะเตรียมมาด้วยก็คือดอกไม้ธูปเทียน เรื่องค่ายกครูที่นี่ไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น ..........สำหรับวันที่จะออกจากบ้านเพื่อมาดูหมอ ก็ให้จุดธูปไหว้พ่อปู่เสียก่อน นึกถึงพระคุณของพ่อและแม่ จากนั้นก็มาที่นี่ได้เลย จำไว้ว่าอย่าพูดโกหกเป็นอันขาด ถามสิ่งใดต้องตอบตามความเป็นจริง" คนที่มาให้พ่อปู่ดูดวงหรือทำพิธีกรรม ส่วนมากจะเป็นคนมาจากที่ใด? "มีทั่วไป ไกลๆ อยู่ถึงสุราษฎร์ฯ ก็มี อยู่ที่กรุงเทพก็มี มีทั่วไปนั่นแหละ" ผมคงจะไม่ชี้นำหรือวิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น บางสิ่งบางอย่างมันก็ยากที่จะเข้าใจถึงสาเหตุความเป็นมา เอาเป็นว่าเรื่องทั้งหมดมันได้เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ แต่ใครจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง… |
