ยินดีต้อนรับสู่ http://www.oocities.org/pheedu เว็บไซต์ผีดุของคนไทย !!

................................................."พลัง"แห่งวิญญาณ
..............................ภาพที่คนทั่วไปมักจะคิดว่า เป็นภาพหลอน !!!

..........วันสงกรานต์ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านได้มาเล่าให้ว่า หลานของเขาไปเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอนแรกเขาบอกว่าจะไม่ไป แต่ก็มาเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย โทรศัพท์ไปบอกเพื่อนให้มารับเขาด้วย กลางดึกของคืนนั้น เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น เขาลุกขึ้นมาดู พบว่าผู้ที่เคาะประตูเรียก คือ หลานของเขา นั่นเอง
"ฉันถามเขาว่า อ้าว ทำไมกลับมาเสียล่ะ ไหนว่าจะไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ ยังไง มีเรื่องอะไรรึ เขาตอบว่า ไปไม่ถึง ผมไม่น่าไปกับพวกเขาเลย แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปรากฏว่าตำรวจทางหลวงโทรมา บอกว่าหลานเสียชีวิตแล้ว ศพอยู่ที่โรงพยาบาลนครสวรรค์ ตอนนั้นงงมาก เพราะกำลังคุยอยู่กับหลาน ทำไมจึงมีคนมาบอกว่า หลานตายแล้ว พอหันกลับมาที่หลานยืนอยู่ ปรากฏว่าหลายหายไปแล้ว หมาที่บ้านก็หอนกันเกรียว นึกกลัวขึ้นมาทันที รีบออกจากบ้านไปตามพวกญาติๆ หารถไปรับศพหลาน ไม่น่าเชื่อว่าวิญญาณคนตายจะเฮี้ยนขนาดนี้"
เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก อันที่จริงแล้ว วิญญาณคนตายทุกคน ทันทีที่เสียชีวิต วิญญาณดวงนั้นจะมุ่งตรงไปยังคนที่เขารัก หรือคนที่เขากำลังจะไปพบ คราวนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คนๆ นั้น เขามีสื่อ "สัมผัสที่ 6" แค่ไหน ?
............แต่ผมขอยืนยันว่า จากการที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเรื่องนี้ วิญญาณต้องการจะติดต่อกับมนุษย์ตลอดเวลา แต่วิญญาณไม่อาจจะกระทำได้ ด้วยปัจจัยหลายๆ ประการ รวมทั้งคนที่วิญญาณอยากจะติดต่อด้วย เขาไม่มี "สัมผัสที่

ประสบการณ์จริงคนถูกผีหลอก

วินาทีแห่งความตาย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

คุณเชื่อหรือไม่

ท่องแดนลี้ลับ

สัมผัสที่ 6

ที่นี่ผีดุ
Gallery

เซ็นสมุดเยี่ยมชม

6" บางคนมี "สัมผัสที่ 6" แต่น่าเสียดาย ที่เขาปิดกั้น ไม่ยอมรับการมาปรากฏของวิญญาณ อาจจะมีความกลัว แม้แต่การขอร้องว่า อย่ามาปรากฏตัวให้เห็น เพียงคำพูดประโยคนี้ประโยคเดียว การติดต่อกับวิญญาณก็ไม่อาจจะกระทำได้แล้ว เว้นเสียแต่ว่า วิญญาณดังกล่าว มีพลังกล้าแข็งจริงๆ ดังประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนบางคน ที่ผมจะนำมาเล่าให้ฟัง
ประสบการณ์ของ คุณนาวิน กล่อมน้อย เจ้าหน้าที่ป่าไม่จังหวัดสระบุรี เขาได้เล่าให้ผมฟังว่า 
"ผมเคยไปเที่ยวงานบุญของคนทางภาคอีสาน ใจจริงแล้วก็ไม่ได้อยากไปนักหรอก แต่ที่ไปก็เพราะน้าขอให้ช่วยขับรถไปให้หน่อย งานจะเริ่มขึ้นในเวลาทุ่มครึ่ง แต่ผมไปถึงตั้งแต่เกือบหกโมงได้ 
ผมกับน้าได้ดูขบวนแห่เซิ้งดูสักพัก จนเบื่อแล้วเลยตกลงกันว่า จะออกเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ทสักหน่อย แล้วเราก็พบว่า รีสอร์ทแห่งนี้ ล้อมรอบโดยแม่น้ำป่าสัก โดยอีกฝั่งของแม่น้ำป่าสัก จะเป็นหน้าผา พอเดินได้สักพักนึง ผมกับน้าชายก็เจอหอคอย ซึ่งเข้าใจว่าเขาเอาไว้ดูนกกัน ผมกับน้าเลยขึ้นไปบนนั้นกัน ตะวันก็ใกล้จะตกดินแล้ว พอถึงข้างบน ผมก็ลองตะโกนใส่หน้าผา ผลคือเสียงก็สะท้อนกลับมา มันก็สนุกดี 
.........สักพักน้า ถามผมว่าเห็นกล้วยไม้ตรงหน้าผาฝั่งโน้นมั้ย ผมก็หันไปมองไม่เห็นอะไร แต่ผมก็ไม่ได้สนใจกับคำของน้ามากนัก เลยก้มลงมองไปข้างล่าง แล้วก็พบแพจอดอยู่ริมแม่น้ำอ้าว มีนางรำอยู่ด้วย 5-6 คน หน้าตาสวยๆ ทั้งนั้นเลย 
ผมเลยน้าชวนลงไปดูที่ข้างล่าง แต่พอกำลังจะลงไป พวกนางรำนั้นก็เดินสวนขึ้นมาพอดี
แต่ก็ไม่เป็นไรไหนๆ ก็ลงมาแล้ว ลงไปเดินเล่นในงานซะเลยก็ดีเหมือนกัน พอสักพักผมก็เหลือบมองดูที่หน้าผาฝั่งตรงข้าม หากล้วยไม้ของน้า 
ผมมองไปมองมาที่ผมเจอกลับไม่ใช่กล้วยไม้ครับ แต่เป็นผู้หญิงผมยาว หน้าตาสะสวยมากทีเดียว เธอมองมาทางผม และยิ้มให้ด้วย ผมเลยถามว่าน้าเห็นผู้หญิงคนนั้นมั้ย คำตอบที่ได้ยินทำให้ผมงุนงงมาก
เพราะน้าผมตอบว่า…
"ไม่เห็นอะไรเลย" 
"มีซิครับ ผู้หญิงชัดๆ…" 
ผมยังคงยืนยันแต่ภายในใจ เริ่มไม่เชื่อมั่นแล้ว สิ่งที่ผมทำได้ในเวลานั้นก็คือ ลองตั้งสติใหม่อีกครั้ง แล้วมองไปยังที่หน้าผาอีกครั้ง คราวนี้ผมเห็นเต็มตาเลยว่า ไม่ใช่ผู้หญิงสาว แต่มันเป็นโกฐใส่กระดูกคนตาย
..........ผมหนาวสะท้านขึ้นมาทันที ด้วยความสงสัย ผมจึงได้ถามชาวบ้านแถวนั้น ได้รับคำตอบว่า เป็นโกฐใส่กระดูกของเจ้าทางภาคเหนือ ฐานะร่ำรวยมาก แต่เสียชีวิตเพราะถูกคนงานบุกเข้าไปฆ่าตาย ก่อนตายก็ได้ข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม วิญญาณของเธอเฮี้ยนมาก ชาวบ้านแถวนี้กลัว ไม่กล้ามาแถวนี้ มาทีไรเจอผีทุกที ผมได้ฟังยังอดที่จะโกรธตัวเองไม่ได้ ที่แส่จนได้เรื่องเดือดร้อน ใครจะคิดว่า ปี พ.ศ.2544 ยังมีผีในโลกนี้หลงเหลืออยู่อีก"
เหตุการณ์ที่คุณ นาวิน กล่อมน้อย ประสบ เรียกว่าถูกหลอกคงจะไม่ได้ ที่ถูกต้องเรียกว่า การมาปรากฏตัวของวิญญาณ คุณนาวินมักจะพบกับเรื่องแปลกๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณอยู่เป็นประจำ ผมเชื่อมั่นว่า เขามี "สัมผัสที่ 6" !!! 
ญาติคนหนึ่งของผม ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี แต่อย่าไปเอ่ยชื่อโรงพยาบาลนั้นเลย เขาเล่าให้ผมฟังว่า …
.........ในคืนหนึ่งหลังจากที่ออกเวร เขาก็จะขับรถกลับบ้าน แต่ตอนนั้นมีความรู้สึกง่วงและเพลียมาก หากขืนดันทุรังจะขับรถกลับ คงจะไม่ถึงบ้านอย่างแน่นอน ตอนนั้นจึงตั้งใจจะหากาแฟมาดื่มสักแก้ว เพื่อให้จิตใจกระชุ่มกระชวย หายง่วงนอน 
ที่เขาอยู่มันเป็นชั้นล่างสุด แต่ห้องของเขาอยู่ที่ชั้น 8 จึงต้องขึ้นลิฟต์ไปคนเดียว พอไปถึงชั้น3ประตูลิฟต์ก็เปิดออก มีพยาบาล 2 คน พร้อมด้วยคนป่วยอีก 1 คนเดินเข้ามา พยาบาล 2 คนนั้นเป็นพยาบาลฝึกงานใหม่ ซึ่งเขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พอถึงชั้น 5 ลิฟต์ก็เปิดออก พยาบาล 2 คนนั้นก็เดินออกไป ตอนนั้นเขานึกประหลาดใจว่าพยาบาล 2 คน ไม่ได้มากับคนไข้คนนี้เหรอ พอถึงชั้น 6 ประตูลิฟต์ก็เปิดออก แต่ไม่มีคน ทันใดนั้นกลิ่นเหม็นโชยเข้ามา เค้าถึงกับผงะนิด นึง พอถึงชั้น7 ก็รู้สึกว่าลิฟต์หยุดแต่ประตูไม่เปิด คนไข้ที่ยืนอยู่ด้วยจึงหันมามอง แล้วถามว่าเขาว่า…
"ห้องดับจิตไปทางไหน?" 
...........ปรากฏคนไข้คนนั้นไม่ได้อ้าปากเลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นเหมือนเสียงลอยมาไกลๆ พร้อมกับกลิ่นเหม็นก็ยังรุนแรงเหมือนเดิม ญาติผมบอกว่าอยู่ชั้นใต้ดิน ต้องลงไปข้างล่าง ทันใดนั้น คนไข้ก็เดินทะลุประตูลิฟต์หายออกไปเลย !!!
เขาถึงหนาวสะท้าน แต่พยายามรวบรวมจิตใจ พอเจอเพื่อนคนในห้อง ก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ถามว่า 
"ที่ข้อมือคนไข้คนนั้น มีด้ายสีแดงผูกอยู่ด้วยใช่มั้ย?"
เขาตอบว่า ใช่ เพื่อนเค้าก็บอกว่านั่นแหละ ผีหลอกเข้าให้แล้ว เพราะคนที่ตายไปแล้ว พอเอาเข้าไปไว้ในห้องดับจิต เขาจะผูกด้ายแดงไว้ที่ข้อมือ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคนตาย ! 
นายตำรวจหัวหน้าสถานี สภ.ต.บ้านกรวด ท่านหนึ่งเล่าว่า มารดาฝันเห็นพระพุทธชินราช ท่านได้ลอยเข้ามาในห้องนอน แล้วพระพุทธชินราชได้เอ่ยขึ้นว่า ลูกกำลังจะพ้นทุกข์แล้ว มาหาพ่อซิลูก ชีวิตจะได้ดีขึ้น
..........นายตำรวจท่านนั้นบอกกับแม่เขาว่า พระพุทธชินราชอยู่ไกลมาก หากจะไปเขาต้องลางานไปหลายวัน แต่แม่เขาบอกว่า ท่านอยู่ไม่ไกล อยู่แถวนี้เอง จะรบเร้าจะไปกราบท่านทันที นายตำรวจท่านนั้นจึงตัดสินใจลางาน แล้วขับรถพาแม่มุ่งไปยังจังหวัดพิษณุโลกทันที แต่พอรถวิ่งผ่านวัดนาวัลย์เปรียง (วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านไร่ใหม่ ต.สามกระทาย กิ่ง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์) มารดาได้พูดขึ้นว่า เลี้ยวเข้าวัดนี้ลูก ท่านอยู่ในวัดนี้แหละแม่จำได้
พอคนทั้งสองขับรถเข้าไปในวัด ปรากฏว่าที่หน้าวิหารมีข้อความปรากฏอยู่ว่า ขอเชิญกราบมนัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดเขาตะเครา รวมทั้ง พระพุทธชินราช !!!
มารดาของนายตำรวจท่านั้น รู้ได้อย่างไรว่า ที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูป (จำลอง) ประดิษฐานอยู่ ทั้งๆ ที่ มารดาของเขา ไม่เคยเดินทางมาที่วัดนี้เลย ??? 
...........แต่ผมกลับมีความเห็นที่ตรงกันข้าม มารดาของนายตำรวจท่านนี้ เคยมาที่วัดนี้แล้ว แต่มาในอีก มิติหนึ่ง เป็นเรื่องของ "สัมผัสที่6" นั่นเอง !!! 

กลับหน้าแรก