พระกฤษณะ




*************************************************

พระศรีกฤษณะเป็นพระอวตารของพระเป็นเจ้า


             รูปพระศรีกฤษณะที่แท้จริงนั้น ชี้ให้เห็นถึงอารมณ์ของการอวตารของพระองค์ ลักษณะของนกยูงที่พระเศียรของพระองค์นั้น บ่งบอกให้เห็นว่า นกยูงกินงูที่มีพิษได้ ในทำนองเดียวกันนี้ พระองค์จะทรงทำให้ธาตุที่เป็นพิษในสังคมหมดสิ้นลงได้ ยิ่งกว่านั้น พระองค์ได้ถูกนำออกแสดงในท่าทางที่โค้งเล็กน้อย มงกุฎของพระองค์ มีความเอียงเพียงเล็กน้อยในท่าทางที่ทรงขลุ่ย พระพักตร์ของพระองค์ทรงหันไปเล็กน้อยด้วยเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าพระองค์ทรงประทับยืนในท่าทางที่บูชา ผู้ภักดีของพระองค์ แต่ในเวลาเดียวกันนี้ สำหรับคนบาปแล้วพระองค์ทรงแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงมีแผนการณ์บางอย่างในการที่จะลงโทษพวกเขา ซึ่งคนบาปทั้งหลาย ไม่สามารถเข้าใจได้ ความหมายอีกอย่างหนึ่งจากท่าที่โค้งของพระองค์ ก็คือว่า พระองค์เข้าไปสู่หัวใจของผู้ภักดีของพระองค์ในท่าที่ทรงเอียงเล็กน้อย ซึ่งพระองค์ไม่เคยได้ทำเช่นนั้นมาก่อน

ปณฺห จุรเย ชาต โห, นิรปล ชานิ เก โมห

หิรทยาส เส จป ชโอเค มารท ปขโน โตหิ

             ขลุ่ยแสดงให้เห็นความรู้ของพระองค์ในเรื่องดนตรีเท่า ๆ กับความรักอันบริสุทธิ์ พระองค์ทรงใช้ขลุ่ยเพื่อทำให้ประชาชนเบาใจจากการทรมานของกษัตริย์กัณสะ และพระองค์ทรงทำให้ประชาชนทั้งหมดมารวมกัน และสร้างความรักและความเสน่หาในระหว่างพวกเขา เสียงอันไพเราะของขลุ่ยของพระองค์ ไม่เพียงแต่นำประชาชนให้มารวมกันเท่านั้น แต่ยังทำให้นกและสัตว์ทั้งหลายมารวมกัน ลืมความรู้สึกที่เป็นศัตรูต่อกันในระหว่างพวกมันด้วย

             แต่ในทุกวันนี้ขลุ่ยของพระองค์ยังสอนพวกเราให้รู้ว่า เราควรจะเล่นขลุ่ยของชีวิตของเราในเสียงไพเราะเช่นนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโดยการฟังเสียงขลุ่ย โลกทั้งโลกควรจะรวมเข้าด้วยกัน ร้อยกันเข้าในด้ายเส้นเดียว และลืมความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันใด ๆ เกี่ยวกับคนอื่น ๆ

             ตามคัมภีร์ภควัตคีตา (คัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์) การเกิดและการกระทำของพระองค์เป็นไปอย่างพระเป็นเจ้าให้เป็นไป พระองค์ได้แสดงถึงเส้นทางที่ถูกต้องแก่คนเป็นจำนวนมาก ผู้ใดเดินอยู่บนเส้นทางที่ผิดในมนุษยชาติ และกับด้วยกรรมอันประเสริฐของพระองค์ จึงได้ถูกขนานพระนามว่าเป็นวีรบุรุษของโลก