สุรพัฒณ์

พ้นเคราะห์เพราะซัน

...................................“ พ้นเคราะห์เพราะซัน ” เป็นหนังสือเล่มที่ 3 ในช่วงสามปีของ ซัน-สุรพัฒณ์ ศิริรัตนสิทธิ์ ถัดจาก “ เรื่องของซัน คน (ไม่อยาก)

เห็นเคราะห์ ” เล่มที่ 1 และ 2 แม้เปลี่ยนชื่อหนังสือ แต่เด็กหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้ยังพาผู้อ่านไปสัมผัสกับโลกอีกใบที่ไม่ใช่ใบเดียวกับโลกของ

ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ

...................................แต่เป็นโลกเร้นลับ โลกของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา วิญญาณ อนาคต หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมนุษย์ปรกติไม่มีโอกาสเห็น

แต่ซันและอีกหลายท่านที่มีอำนาจจิตสูงๆ สามารถสัมผัสรับรู้ได้ ซึ่งซันและหลายท่านเคยพูดตรงกันว่า .นี่ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ

หรือความสามารถเฉพาะตัว แต่เป็นศักยภาพของจิต ที่มีอยู่ในตัวของทุกคน หากผ่านการฝึกฝนและสะสมมาแล้วในช่วงชีวิตที่ผ่านพ้นมา

ก็จะรับรู้ได้ในลักษณะที่ต่างกันไป “ อำนาจจิต ” ไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว , เคราะห์ไม่ดี แก้ด้วยการทำบุญ , เคราะห์ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง

ประสบการณ์ของคุณสุรพัฒณ์ ที่ถูกถ่ายทอดอยู่ใน “ พ้นเคราะห์เพราะซัน ” ยังคงอ่านสนุก

...................................แล้วหลายตอนทำให้ขนลุกขนพองไปกับเรื่องราวที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เชิงวิทยาศาสตร์ ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ไม่ว่าจะเรื่องของ พ่อใหญ่ ทูลกระหม่อมย่า ปู่ครู ขุนอารักษ์ พญานาค ผีในลานประหาร ผีในสตูดิโอ ผีสุนัข เปรต เจ้ากรรมนาย เวร มารศาสนา เคราะห์กรรม

พรหมลิขิต แต่เหล่านั้นทั้งปวงเป็นเพียงช็อกโกแลตที่เคลือบยาอันมีคุณค่าแก่การดำเนินชีวิต ยาชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ” และโดยส่วนตัว

ผมชอบท่อนหนึ่งของตอน “ เปรตตาเลี้ยง ” ที่ว่า “ ถ้าคุณไม่สะสมผลบุญ แต่ก็ไม่ได้ทำบาป ( หาคนแบบนี้ได้ยาก) ก็ถือว่าเจ๊ากันไป แต่ถ้าคุณไม่มีบุญเลยสักนิด

แถมยังมีบาปมาด้วยอีก เรียกว่าเมื่อกรรมแรก (คือ “ ทำบาป ”) มาพ่วงกับกรรมที่สอง (คือ “ ไม่ทำบุญ ”) บาปเล็กๆ มันเลยทวีความรุนแรงอีกเป็นเท่าทวี …“

บาปเล็กๆ ” กับ “ ผลบุญไม่ปรากฏ ” นี่เมื่อรวมกันแล้วมันเป็นผลร้ายที่ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อเลย



	พ้นเคราะห์เพราะซัน ...................................“ พ้นเคราะห์เพราะซัน ” เป็นหนังสือเล่มที่ 3 ในช่วงสามปีของ ซัน-สุรพัฒณ์ ศิริรัตนสิทธิ์ ถัดจาก “ เรื่องของซัน คน (ไม่อยาก) เห็นเคราะห์ ” เล่มที่ 1 และ 2 แม้เปลี่ยนชื่อหนังสือ แต่เด็กหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้ยังพาผู้อ่านไปสัมผัสกับโลกอีกใบที่ไม่ใช่ใบเดียวกับโลกของ ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ ...................................แต่เป็นโลกเร้นลับ โลกของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา วิญญาณ อนาคต หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมนุษย์ปรกติไม่มีโอกาสเห็น แต่ซันและอีกหลายท่านที่มีอำนาจจิตสูงๆ สามารถสัมผัสรับรู้ได้ ซึ่งซันและหลายท่านเคยพูดตรงกันว่า .นี่ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ หรือความสามารถเฉพาะตัว แต่เป็นศักยภาพของจิต ที่มีอยู่ในตัวของทุกคน หากผ่านการฝึกฝนและสะสมมาแล้วในช่วงชีวิตที่ผ่านพ้นมา ก็จะรับรู้ได้ในลักษณะที่ต่างกันไป “ อำนาจจิต ” ไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว , เคราะห์ไม่ดี แก้ด้วยการทำบุญ , เคราะห์ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ประสบการณ์ของคุณสุรพัฒณ์ ที่ถูกถ่ายทอดอยู่ใน “ พ้นเคราะห์เพราะซัน ” ยังคงอ่านสนุก ...................................แล้วหลายตอนทำให้ขนลุกขนพองไปกับเรื่องราวที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เชิงวิทยาศาสตร์ ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเรื่องของ พ่อใหญ่ ทูลกระหม่อมย่า ปู่ครู ขุนอารักษ์ พญานาค ผีในลานประหาร ผีในสตูดิโอ ผีสุนัข เปรต เจ้ากรรมนาย เวร มารศาสนา เคราะห์กรรม พรหมลิขิต แต่เหล่านั้นทั้งปวงเป็นเพียงช็อกโกแลตที่เคลือบยาอันมีคุณค่าแก่การดำเนินชีวิต ยาชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ” และโดยส่วนตัว ผมชอบท่อนหนึ่งของตอน “ เปรตตาเลี้ยง ” ที่ว่า “ ถ้าคุณไม่สะสมผลบุญ แต่ก็ไม่ได้ทำบาป ( หาคนแบบนี้ได้ยาก) ก็ถือว่าเจ๊ากันไป แต่ถ้าคุณไม่มีบุญเลยสักนิด แถมยังมีบาปมาด้วยอีก เรียกว่าเมื่อกรรมแรก (คือ “ ทำบาป ”) มาพ่วงกับกรรมที่สอง (คือ “ ไม่ทำบุญ ”) บาปเล็กๆ มันเลยทวีความรุนแรงอีกเป็นเท่าทวี …“ บาปเล็กๆ ” กับ “ ผลบุญไม่ปรากฏ ” นี่เมื่อรวมกันแล้วมันเป็นผลร้ายที่ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อเลย