Old English Sheepdog
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้ไม่ปรากฎหลัก ฐานแน่ชัดว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศใด
แต่ได้รับการพัฒนาขึ้นทางฝั่งตะวันตกของประเทศ อังกฤษบริเวณเมือง DEVON, SOMRSET
และ DUCHY เป็นต้น ในสมัยก่อนนิยมใช้ สุนัขพันธุ์นี้เป็นผู้นำทางฝูงปศุสัตว์ ลากเลื่อน
และใช้งานต่าง ๆ OLD ENGLISH SHEEPDOG เป็นสุนัขที่มีความแข็งแรง รูป ทรงกะทัดรัด
มีขนยาวปุกปุย หางกุด เป็นสุนัข ที่มีเสน่ห์ชวนเป็นเจ้าของอีกพันธุ์หนึ่งเนื่อง
จาก OLD ENGLISH SHEEPDOG มี ขนยาวดังนั้นจึงต้องการการเอาใจใส่ดูแลเรื่อง ขนเป็นพิเศษ
อุปนิสัย ฉลาด สุขุม เรียบร้อย สามารถเลี้ยง ไว้ในอพาร์ตเมนต์ได้
ส่วนหัว มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนเหนือตามีลักษณะโค้ง
หู มีขนาดปานกลาง ใบหูแบนแนบชิดหัว มีขนปุกปุย
ตา มีสีขึ้นอยู่กับสีของขน แต่ค่อนข้างเข้ม
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักชัดเจน
ปาก (muzzle) มีความยาวน้อยกว่าความยาวของหัวกะโหลกประมาณ 3 ต่อ 5
จมูก มีขนาดใหญ่ สีดำ
ฟัน ซี่ใหญ่ แข็งแรง ขนแบบเสมอ
ลำตัว มองจากด้านข้างมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เส้นหลังตรง
คอ มีขนาดค่อนข้างยาว มีลักษณะโค้งกลม สง่างาม
อก ลึก
ขาหน้า มีกระดูกใหญ่ ขาหน้าตั้งตรง ขาหน้าทั้งสองห่างกันพอประมาณขาหน้ามีขนยาว
เท้าหน้ามี ขนาดเล็ก กลม เท้าหนา
ขาหลัง มีกระดูกใหญ่ มองจากด้านหลัง ขาหลังตรง
หาง นิยมตัดหางให้กุด ตั้งแต่กระดูกหางข้อที่ 1
ขน-สี ขนมีสองชั้น ขนชั้นในนุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ยาวปุกปุยแต่ไม่ยาวจนลุ่มล่าม ขนสีเทา
เทาเงิน BLUE-MERLED อาจจะมีแถบขาวหรือไม่ก็ได้
ส่วนสูง เพศผู้สูงอย่างน้อย 22 นิ้ว ส่วนเพศเมียจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม
Papillon
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ในทวีปยุโรป
น้ำหนัก เพศผู้ 8-10 ปอนด์ความสูง 8-11 นิ้ว เพศเมีย หนักไม่เกิน 8 ปอนด์
ความสูง 8-11 นิ้ว
จัดอยู่ในกลุ่ม TOYS
ลักษณะทั่วไป
คำว่า PAPILLON อ่านว่า ปา-ปิ-ยอง เป็นคำ ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงผีเสื้อ สุนัขพันธุ์
PAPILLON เป็น สุนัข SPANIEL ที่มีขนาดเล็กกว่า SPANIEL ขนาดธรรมดามาก นิยมเลี้ยง
กันอย่างแพร่หลาย ในคริสตศตวรรษที่ 16 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่สตรีผู้สูงศักดิ์
เช่น MADAME POMPADOUR และ MARIE ANTOINETTE ในสมัยนั้น มีการค้าขายสุนัขพันธุ์
นี้กันอย่างกว้างขวางโดยมี SPAIN เป็น แหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด ส่วนหูของ
PAPILLON มีลักษณะ คล้ายผีเสื้อ
อุปนิสัย เป็นมิตร สง่างาม ลักษณะการเดินหรือท่าทางน่ารัก
ส่วนหัว มีขนาดเล็ก หัวกะโหลกมีความกว้างปานกลาง มีลักษณะกลม
หู มีขนาดใหญ่ปลายมน หูอาจจะตกหรือตั้ง หูกางคล้ายผีเสื้อ
ตา สีดำ มีขนาดปานกลาง ค่อนข้างกลม หางตาอยู่ในระดับ เดียวกับสันปาก ขอบตาสีดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอประมาณ
ปาก (muzzle) มีความกว้างน้อยกว่า หัวกะโหลก ปากค่อน ข้างแหลมความยาวของปากมีขนาดประมาณ
1 ใน 3 ของความ ยาวของส่วนหัวทั้งหมดริมฝีปากตึงและบางเวลาหุบปากต้องไม่ เห็นลิ้น
จมูก สีดำขนาดเล็ก ค่อนข้างกลมส่วนบนของจมูกแบน
ฟัน ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีความยาวมากกว่าความสูง เส้นหลังตรงอยู่ในแนวระดับ
คอ มีความยาวปานกลาง
อก มีความกว้างปานกลาง
ขาหน้า มีขนาดเล็ก ขาหน้าตรง นิยมตัดนิ้วติ่งออก เท้าค่อนข้างบางนิ้วเท้ายาว เท้าชี้ไปด้านหน้าไม่บิดซ้า
ยหรือขวา
ขาหลัง ข้อเท้าหลังทำมุมกว้าง ข้อเท้าไม่บิดซ้ายหรือขวา ขาหลังค่อนข้างเล็กมองจากด้านหลัง่ขาหลัง
ขนานกัน
หาง ยาว โคนหางอยู่ในระดับสูง หางโค้งพาดหลัง
ขน-สี ขนยาวคล้ายไหม เส้นขนเหยียดตรง ไม่มีขนชั้นใน บริเวณลำตัว หู หาง หลังขา
มีขนยาว สีมีสีขาว และเป็นสีอื่น ๆ บริเวณหน้าควรมีสีด้านซ้าย-ขวาเหมือนกัน
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็กส่วนสูง ประมาณ 8-11 นิ้ว
ข้อบกพร่อง ใบหูเล็ก ขนสีขาวทั้งตัว หรือไม่มีสีขาวเลย จมูกไม่ใช่สีดำสูงเกิน 12
นิ้ว
Pekingese
ลักษณะทั่วไป
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ตั้งแต่สมัย คริสต์ศตวรรษที่ 8 มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ
เช่น LION DOG,SUN DOG หรือ STEEVE DOG สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ได้รับเกียรติยศอย่างสูงจาก
จักรพรรดิ์จีน และมักจะพบสุนัขพันธุ์นี้ในพระราชวังเท่านั้น ในสมัยก่อนผู้ใด ขโมยสุนัขนี้จะ
ได้รับโทษถึงประหารชีวิต พระนางซูสีไทเฮา ทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้มากใน ค.ศ.1860
เมื่อ อังกฤษบุกยึดจีน ราชวงศ์จีนเกรงว่าสุนัขพันธุ์นี้จะไปตก อยู่ในมือของพวกคอเคเซียนจึงได้
ฆ่าสุนัขพันธุ์นี้ทิ้ง เกือบทั้งหมดแต่มีอยู่สี่ตัวตกอยู่ในมือของทหาร อังกฤษ ตัวหนึ่งได้นำถวาย
ควีนวิคตอเรีย ส่วนอีก 3 ตัว มอบให้ LORD HAY และได้แพร่พันธุ์กระจายไป ทั่วโลก
อุปนิสัย สุภาพ เรียบร้อย ชอบวิ่งเล่น
ส่วนหัว หัวกะโหลกใหญ่ กว้าง หัวกะโหลกระหว่างหูค่อนข้างแบน
หู มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ โคนหูไม่สูงมาก หูตก หูมีขนยาว
ตา สีเข้ม กลมโต
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักมาก
ปาก (muzzle) ย่น สั้นมาก ปากกว้าง
ฟัน ค่อนข้างใหญ่ เวลาหุบปากไม่เห็นฟัน ฟันไม่เป็นแบบ OVERSHOT
ลำตัว ด้านหน้าใหญ่ด้านท้ายเล็กคล้ายสิงโต ลำตัวสั้น เส้นหลังตรงอยู่ในแนวระดับ
ลำตัวส่วนหน้า ค่อนข้างใหญ่
ขาหน้า ค่อนข้างสั้น กระดูกใหญ่ เท้าแบน ปลายเท้าชี้ออก
ขาหลัง มีขนาดเล็กกว่าขาหน้า เท้าแบน นิ้วเท้าชี้ออก
หาง โคนหางอยู่ในระดับสูง หางพาดไว้บนหลัง หางยาว
ขน-สี มีขนสองชั้น ขนชั้นในแน่น ขนชั้นนอกยาว เหยียดตรงไม่หยิกหรือเป็นคลื่น มีหลายสี
เช่น แดง น้ำตาล ดำ บริเวณปากอาจจะมีสีดำ
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก ไม่เกิน 14 ปอนด์
ข้อบกพร่อง มีหลายสีในตัวเดียวกัน OVERSHOT สูงเกิน 14 นิ้ว
Pointer
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์ POINTER เป็นสุนัขแรกที่มนุษย์พัฒนาขึ้น
มาเพื่อใช้ล่าสัตว์ มีโครงสร้างกระทัดรัด ปราดเปรียว วิ่งเร็ว เวลาเดิน มีความสง่างาม
สุนัขพันธุ์ POINTER มีถิ่นกำเนิดในประเทศสเปน โปรตุเกส และยุโรปตะวันออกในยุคต้น
สุนัขพันธุ์นี้มี ลักษณะแตกต่าง จากปัจจุบันมาก แต่จากการผสมและคัดพันธุ์ จึงทำให้ได้สุนัขที่มีความ
สง่างามดังที่เห็นในปัจจุบัน
อุปนิสัย ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์
ส่วนหัว หัวกะโหลกมีขนาดปานกลาง ความกว้างของหัวกะโหลกมี ขนาดใกล้เคียงกับความยาวของปาก
มักจะมีร่องเล็ก ๆ ระหว่างตาทั้งสองข้าง
หู โคนหูอยู่เหนือระดับตาแนบชิดแก้ม ปลายหูยาวจรดกรามล่าง หูไม่ม้วน
ตา กลม สีเข้ม ยิ่งเข้มยิ่งดี
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหัก
ปาก (muzzle) ลึก ริมฝีปากตึง ปากจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เส้นของสันปากจะขนานกับเส้นของ
หัวกะโหลก
จมูก รูจมูกกว้าง ปลายจมูกโด่งเล็กน้อย สีดำหรือน้ำตาลเข้ม
ฟัน ขบแบบกรรไกร
ลำตัว เส้นหลังลาดเอียงจากไหล่สู่บั้นท้าย ลำตัวค่อนข้างสั้น
คอ ค่อนข้างยาว กล้ามเนื้อมาก โค้งมน
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ลาดเอียง ค่อนข้างยาว จุดบนสุดของกระดูกหัวไหล่ทั้งสองข้างค่อนข้างชิดกัน
อก ลึกจรดข้อศอก อกไม่ลีบหรือกางพองเกินไป ทำให้กระดูกขาหน้าท่อนบนเคลื่อนที่ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ขาหน้า ขาทั้งสองตั้งตรงแข็งแรง ข้อเท้ายาวพอเหมาะเอียงเล็กน้อยนิ้วเท้ายาวเพื่อให้สามารถยืดหยุ่น
รับการกระแทกได้ดี เล็บตัดสั้น ข้อศอกไม่บิดเข้าหรือออก
ลำตัวส่วนท้าย สะโพกลาดจรดโคนหาง
เอว ค่อนข้างสั้น กล้ามเนื้อแข็งแรง
สะโพก ลาดเอียงสู่โคนหาง
ขาหลัง ข้อเท้าทำมุมค่อนข้างมาก นิ้วเท้ายาวไม่เหมือนเท้าแมว มองจากด้านหลังขาทั้งสองตั้งตรง
ขนานกัน ห่างกันพอเหมาะ
หาง โคนหางใหญ่ เรียวจากโคนหางสู่ปลายหางหางชี้อยู่สูงกว่าแนวระดับความยาวของหางไม่เกิน
ข้อเท้าหลัง
ขน-สี ขนสั้น สีน้ำตาลเข็ม ดำ หรือขาวปนสีเข้ม
น้ำหนัก เพศผู้ 55-75 ปอนด์ เพศเมีย 23-26 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง สัมพันธ์กัน มีความสง่างาม มองจากด้านหน้า และด้านหลัง เป็นการเดินแบบปกติ
ข้อบกพร่อง หางยาวมาก หางตก เดินเหมือนม้า
Pomeranian
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศอังกฤษ
น้ำหนัก 3-7 ปอนด์
ความสูง สูงสุดไม่ควรเกิน 11 นิ้ว
ขน ขนดก ขนแบบพันธุ์สปิทซ์
สี สี่ยอมรับมี12สี ได้แก่ สีดำ (และสีดำน้ำตาลแดง) สีน้ำตาล สีช็อคโกแลต สีบีเวอร์
(สีเบ็จแก่) สีแดง สีส้ม สีครีม สีมาฮ็อกกานีอมส้ม สีขนหมาป่า สีน้ำเงิน สีขาว
หรือสีเป็น ทางตั้งแต่สองสีขึ้นไป
จัดอยู่ในกลุ่ม Toy
ลักษณะทั่วไป
ต้นตระกูลของปอมเมอเรเนียนนั้นชื่อว่าสืบเชื้อสาย มาจากสุนัขสปิทซ์ (SPITZ) ต่อมามีผู้
พบสุนัขพันธุ์สปิทซ์ที่มีขนาดเล็ก ลงบริเวณตอนแคว้นปอมเมอเรเนียน (POMERANIA) อยู่บริเวณ
ตอนใต้ของประเทศเยอรมัน มีการเพาะและพัฒนาพันธุ์ให้กลายเป็นสุนัข ขนาดเล็กลงมากกว่าเดิม
แต่ยังไม่เล็กเท่าปัจจุบัน แล้วตั้งชื่อตาม สถานที่ที่เข้าใจกันว่า เป็นถิ่นกำเนิดว่า
ปอมเมอเรเนียน ปอมเมอเรเนียนเข้าไปแพร่พันธุ์ และโด่งดังทั่ว ประเทศอังกฤษ ในสมัย
ของพระนางวิคตอเรียในช่วงศตวรรษที่ 19 POM เป็นสุนัขขนาด เล็กลำตัวสั้นกระทัดรัด
แลดูล่ำสันแข็งแรง
อุปนิสัย เฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ
หัว ขนาดของส่วนหัวได้สัดส่วนกับลำตัวช่วงปากเรียวคล้ายรูปลิ่ม (WEDGE SHAPE) แต่ไม่แหลม
หัวกะโหลกแบนเรียบ ไม่โหนก นูนเหมือนสุนัขพันธุ์เล็กอื่น ๆ หน้าตาดูคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก
(FOXY EXPRESSION) ดั้งจมูกช่วงปากกันหน้าผากจะมีรอยหักเป็น มุมเล็กน้อย ยกเว้นในปอมเมอเรเนียนสี
น้ำตาล อาจเป็นสีน้ำตาลได้
หู มีขนาดเล็กตั้งอยู่ส่วนบนของหัวไม่ห่างกันจนเกินไป
ตา แววตาสุกใส สีดำ ขนาดปานกลางไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของหน้า
รูปร่างรีคล้ายเม็ด อัลมอนด์ มีระยะห่าง ระหว่างตาทั้งสองข้างพอสมควรไม่ใกล้หรือห่างกันจนเกินไป
ลำตัว หลังสั้นได้สัดส่วนกับช่วงขา แนวสันหลังเป็นเส้นตรง กระดูกซี่โครงและเรียงขนานกัน
หน้าอกลึก ล่ำสั้นแต่ไม่กว้าง และลึกจนเกินไป
คอ ค่อนข้างสั้นตั้งอยู่บนบ่า (ไหล่) ซึ่งเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย ทำให้ช่วงคอดูตั้งตรง
และสง่างาม
ขาหน้า ตรง และขนานกัน มีความยาวได้สัดส่วนกับความยาวของลำตัวไม่ยาวหรือสั้นจนทำให้แลดูสูง
หรื อ เตี้ยจนผิดสัดส่วนไป
ขาหลัง ช่วงต้นขาเอียงเป็นมุมกับช่วงน่องเล็กน้อย ส่วนช่วงน่องขนานกันและตั้งตรงกับพื้นเท้ามีขนาดเล็กสมส่วนพอเหมาะกับ
ขนาดของขา
หาง ลักษณะของหางที่ถูกต้องจะต้องตรงและพาดอยู่กลางแนวสันหลังไม่โค้งหรือม้วนเป็นวง
โคนหางอยู่ใน ตำแหน่งที่สูงพอสมควร ประกอบด้วยขนหยาบและยาว
ขน-สี ขนจะมี 2 ลักษณะ (DOUBLE COAT) แบบแรกเรียกขนชั้นใน (UNDER COAT) มี่ลักษณะสั้น
อ่อนนุ่มฟูเป็นหุยคล้ายสำลี อีกแบบคือ ขนชั้นนอก (OVER COAT) เป็นขนยาวค่อนข้างหยาบเหยียดตรง
ฟูออกไป โดยมีขนชั้นในซึ่งหนาแน่นช่วยพยุงให้ ขนชั้นนอกเหยียดตรงออกไปไม่ลู่ลง
ขนาด การเดินหรือการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างอิสระ ราบเรียบ นุ่มนวล แลดูแข็งแรง เวลาเดินขาหน้าเหยียด
ตรงไม่งอพับขึ้น ข้อศอกไม่กางออก ส่วนขาหลังต้องไม่ถางออก หรือเดินปัดแกว่งไปมา
การเคลื่อนไหวน้ำ หนักที่มาตรฐานกำหนดไว้นั้น อยู่ใน เกณฑ์ 3-7 ปอนด์ แต่น้ำหนัก
ที่เหมาะที่สุดในการประกวดคือประมาณ 4-5 ปอนด์
ข้อบกพร่อง หัวกะโหลกกลม นูน มีขนาดใหญ่ หรือเล็กเกินไปหูกาง ใหญ่เกินไป ขากรรไกรล่าง
หรือบนยื่ น ขอบตา ขอบปาก หรือจมูกซีดขาวหรือมีรอยด่างขาหลังถ่าง หรือบิด เข้าหา
กัน
Poodle
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
สแตนดาร์ดพูเดิ้ล Standard Poodle
ถิ่นกำเนิด ประเทศฝรั่งเศส
น้ำหนัก 45-70 ปอนด์
ความสูง สูงกว่า 15 นิ้ว
ขน ขนดก แน่น หยาบ หยิก หากไม่สาง จะเกาะเป็นก้อน
สี จะเป็นสีอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นสีเดียวตลอด
จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Sporting Dog (AKC), Toys(AKC)
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด ว่ามีกำเนิดในประเทศใดบางท่านกล่าวว่า POODLE
มีกำเนิดในประเทศเยอรมัน โดยรู้จักกันในนามของ PUDEL ส่วนบางท่านกล่าวว่า POODLE
เป็นสุนัข ประจำชาติของฝรั่งเศส โดยชาวฝรั่งเศสมักนิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ใน การคาบสิ่งของหรือฝึกแสดงในละครสัตว์
สุนัขพันธุ์นี้สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ WATER RETRIEVER จึงมีความสามารถในการว่ายน้ำสุ
นัข พันธุ์ POODLE มีสามขนาด โดยมี ชื่อเรียกที่ แตกต่างกันออกไป คือ STANDARD
POODLE, MINIATURE POODLE และ TOY POODLE พันธุ์ STANDARD POODLE เป็นพันธุ์ที่มีกำเนิดก่อน
POODLE พันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากสุนัขพันธุ์ STANDARD POODLE นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่
หลาย จึงมีการ คัดเลือกพันธุ์ MINIATURE และ TOY POODLE เพิ่มขึ้น POODLE ทั้งสามชนิด
นิยม ตัดแต่ขนให้มีทรวดทรงต่าง ๆ แล้วแต่ความนิยม หรือความต้องการของเจ้าของ
อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง ช่างประจบ จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย
ส่วนหัว หัวกะโหลก มีลักษณะค่อนข้างกลม แก้มค่อนข้างแบน
หู ห้อยแนบชิดหัว โคนหูอยู่ในระดับต่ำกว่าตาเล็กน้อย หูมีขนยาว ใบหูค่อนข้างกว้างและหนาแต่ความยาวของหูต้องไม่มากเกินไป
ตา มีลักษณะเป็นรูปกลมรี ตาสีเข้ม ตามีแววร่าเริง ตื่นตัวเสมอ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอสมควร
ปาก (muzzle) ความยาวของปากมีขนาดใกล้เคียงกับความยาวของหัวกะโหลกสันปากตรง แข็งแรง
ริมฝีปากตึงไม่ห้อยยาน
ฟัน ขาวแข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มองจากด้านข้างมีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ความสูงของลำตัวมีขนาดใกล้เคียงกับ
ความยาวของลำตัว เส้นหลังตรงแข็งแรงเส้นหลังอยู่ในแนวระดับ
คอ มีขนาดค่อนข้างยาว ทำให้ POODLE ดูสง่างาม หนังคอตึง คอประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
อก ลึก กว้างพอประมาณ
ขาหน้า มองจากด้านหน้า ขาหน้าตั้งตรง ขาหน้าทั้งสองขนานกันห่างกันพอเหมาะ มองจากด้าน
ข้างขาหน้าอยู่ในแนวเดียวกับหัวไหล่ ขาหน้ามีกระดูก และกล้ามเนื้อสัมพันธ์กับขนาดของสุนัข
ข้อเท้าหน้าแข็งแรง เท้ามีขนาดเล็ก รูปกลมรี ฝ่าเท้าหนาเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า ไม่บิดซ้าย-ขวา
นิ้วติ่งตัดออก เล็บตัดสั้น
เอว สั้น กว้าง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหลัง มองจากด้านหลัง ขาหลังตรง ขนานกัน ขาหลังท่อนบนมีกล้ามเนื้อมาก ข้อเท้าสั้น
ตั้งฉากกับพื้น ข้อเท้าหลังทำมุมพอประมาณและสัมพันธ์กับลำตัวส่วนหน้า เท้าหลังมีลักษณะ
เหมือนเท้าหน้า
หาง โคนหางอยู่ในระดับสูง หางตรงตั้ง หางนิยมตัดเพื่อให้สัมพันธุ์กับโครงสร้างทุกส่วน
ขน POODLE มีขนสองชั้น ขนชั้นบนอ่อนนุ่ม ขนชั้นนอกยาว ขนชั้นนอกมีสองชนิด คือ ชนิด
หยิก และชนิดพันรวมกันคล้ายไส้ในของสายไฟ POODLEนิยมตัดแต่งขนให้มีรูปทรงต่าง ๆ
กัน แต่ ในสนามประกวดต้องตัดแต่งทรงดังนี้ สุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 12 เดือน ต้องตัดทรง
PUPPY CLIP ส่วนสุนัขที่มีอายุมากกว่า 12 เดือน ต้องตัดทรง ENGLISH SAKKLE หรือ
CONTINENTAL ส่วนสุนัขที่เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ในรุ่น CHAMPION อาจจะตัดทรง SPORTING
ก็ได้
สี มีขนสีเดียวทั่วทั้งตัวแต่บริเวณหู หรือขนส่วนบนอาจจะมีสีจางลงได้ POODLE สีน้ำตาล,ก
าแฟ ,จะมีจมูก,ขอบตา,เล็บ ริมฝีปากสีน้ำตาลเข้ม POODLE สีดำ เทา เงิน ครีม ขาว
จะมีจมู ก,เล็บ,ขอบตา ริมฝีปากดำ
ขนาด POODLE มีสามขนาดและจัดอยู่ในกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้ STANDARD POODLE มี ขนาดความสูงไม่น้อยกว่า
15 นิ้ว จัดอยู่ในกลุ่ม NON-SPORTING MINIATURE POODLE มีขนาดความสูง 10-15 นิ้วจัดอยู่ในกลุ่ม
NON-SPORTING, TOY POODLE มีขนาดความ สูงไม่เกิน 10 นิ้ว จัดหอยู่ในกลุ่ม TOY POODLE
ทั้งสามขนาด ต้องมีโครงสร้างสมส่วน สัมพันธ์กัน
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม
ข้อบกพร่อง มีหลายสีในตัวเดียว ฟัน UNDERSHOT หรือ OVERSHOT ตากลม โต ขาบิด ขลาดกลัว
ตัดแต่งขนผิดทรง ผิดขนาด
Pug
AUS, CAN, FCI, S.AF, UKC
ถิ่นกำเนิด สันนิษฐานว่าประเทศจีน
น้ำหนัก 6.4-8.2 กก.
ความสูง 30-35 ซม.
ขน สั้น ละเอียด ลื่น และเป็นมัน ไม่ปุกปุย
สี สีเงิน สีน้ำตาลแบบลูกวัว หรือสีดำ
จัดอยู่ในกลุ่ม Toy
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์ PUG มีถิ่นกำเนิดในประเทศ จีนเป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง
มีกำเนิดมา ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์นี้
กระจายไปอยู่ในส่วนต่างๆ ของ ยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขพันธุ์นี้มาก
เนื่องจากมันได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลี่ยม โดยการ เตือนให้รู้ว่าพวกสเปนได้
ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนใน ฝรั่งเศสพระมเหสีของนโปเลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ ปลอกคอของ
PUG ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนาง ถูกจับไปขังไว้ที่ LES CARMES เหตุการณ์นี้เกิด
ในปี 1790
อุปนิสัย สามารถอยู่ในที่เล็ก ๆ ได้หรือสามารถอยู่ร่วม กันหลายตัวได้
ส่วนหัว มีขนาดใหญ่ ลักษณะกลม หนังหัวบริเวณหน้ามีรอยย่นมาก
หู มีขนาดเล็กใบหูค่อนข้างบาง หูพับไปด้านหน้าหรือด้านหลังแต่หูพับไปด้านหน้าจะนิยมมากกว่า
ตา สีเข้ม ลักษณะกลมโต
ปาก (muzzle) มีขนาดสั้น รูปร่างคล้ายทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ลำตัว มีขนาดสั้น ลำตัวล่ำสัน ลำตัวมีกล้ามเนื้อมาก
อก กว้าง
ขาหน้า แข็งแรงมาก ตั้งตรง ขามีความยาวปานกลาง เท้าไม่กลมเหมือนเท้าแมว หรือนิ้วยาวมากเกินไป
เล็บสีดำ
ขาหลัง มีลักษณะเหมือนขาหน้า
หาง มีลักษณะม้วนอยู่เหนือสะโพก หางม้วนสองรอบถือว่าดี
ขน-สี ขนสั้นนุ่ม ตัวสีน้ำตาล บริเวณหน้า หู แก้ม ควรมีสีดำ เส้นหลังตั้งแต่ปลายหัวกะโหลก
จรดโคนหา ง ควรมีเส้นตรงสีดำ หรือสีดำทั้งตัว
น้ำหนัก ประมาณ 14-18 ปอนด์
Puli
ลักษณะทั่วไป กว่า1000 ปีมาแล้ว เมื่อชาว MAGYARS
เดินทางไปตั้งรกรากในฮังการี พวกเขาได้นำสุนัขดูแลปศุสัตว์เข้าไปด้วย สุนัข ขนาดใหญ่ได้พัฒนาเป็นสุนัขพันธุ์
KOMONDOR และ KUVAS ส่วนสุนัขขนาด เล็กได้พัฒนาเป็นสุนัขพันธุ์ PULI สุนัขพันธุ์
PULI มีลักษณะคล้ายคลึงสุนัขพันธุ์ TIBETAN TERRIER ชาวอังการีนิยมใช้ PULI เป็นสุนัข
ต้อนฝูงแกะและดูแลฝูงแกะ ตลอดจนรักษาความปลอดภัยในบ้าน อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ
ส่วนหัว มีขนาดสัมพันธ์กับขนาดลำตัว หัวกะโหลก โค้งมนเล็กน้อย
หู มีลักษณะเป็นรูปตัววี หูตก โคนหูอยู่ในระดับสูง สีน้ำตาลเข้มขอบตาสีดำ
ตา ค่อนข้างลึก มีลักษณะกลมรี มีขนาดค่อนข้างใหญ่
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอประมาณ
ปาก (muzzle) มีความยาวประมาณ 1 ใน 3 ของส่วนหัว สันปากตรงแข็งแรง ริมฝีปากตึง
จมูก สีดำ
ฟัน แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีความสูงใกล้เคียงกับความยาว เส้นหลังตรงแข็งแรงอยู่ในแนวระดับ
คอ มีความยาวปานกลาง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
อก กว้างและลึก
ขาหน้า กระดูกมีขนาดปานกลาง ขาตรงแข็งแรง เท้ากลมมีขนาดเล็กนิ้วเท้าชิดและหนา นิ้วติ่ง
นิยมตัดออก
ขาหลัง ตรงแข็งแรง กระดูกมีขนาดปานกลาง ข้อเท้าหลังตั้งฉากกับพื้น เท้ากลมมีขนาดเล็ก
นิ้วเท้าชิดหนา นิ้วติ่งนิยมตัดออก
หาง พาดอยู่บนหลัง
ขน-สี ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนาแน่น อ่อนนุ่ม ขนชั้นนอกยาวเป็นคลื่น PULI เมื่อโตขึ้นขนชั้นน
อก มักจะม้วนเป็นเกรียว ในสนามประกวดอาจจะมีขนม้วนหรือแปรงขนให้ฟูก็ได้ ขนสีดำหรือเทาดำ
อาจจะมีจุดขาวที่อกได้
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง
น้ำหนัก ประมาณ 30 ปอนด์
ส่วนสูง เพศผู้สูง 17 นิ้ว เพศเมียสูง 16 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง ก้าวเท้าสั้น วิ่งเร็ว
Rottweiler
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามีถิ่น กำเนิดอยู่ที่ใดเป็นสุนัขที่มีประวัติเก่าแก่
พันธุ์หนึ่งในสมัยโรมัน เมื่อชาวโรมันยกทัพไป รุกรานชาติอื่น มักจะเดินทางรอนแรมนับ
เดือน และจะต้องเตรียมสเบียงอาหารไปด้วย โดยการพาฝูงสัตว์ติดไปด้วย ในสมัยนั้น
ชาวโรมันนิยมใช้สุนัขพันธุ์ ROTTWEILER ช่วยต้อนฝูงสัตว์ และเป็นสุนัขเฝ้ายามใน
เวลากลางคืน ชื่อ ROTTWEILER ได้มาจากชื่อ เมือง ROTTWELL ซึ่งเป็นเมืองศูนย์ กลางการค้าสัตว์ในสมัยศตวรรษที่
12 ปัจจุบันนิยม นำสุนัขพันธุ์นี้มาใช้ในกิจกรรมของ กรมตำรวจ ทหาร ตลอดจนเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านด้วย
อุปนิสัย ฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ปราศจากความขลาดกลัว หรือความดุร้ายใดๆ สามารถนำมา
ฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งหรือเป็นสุนัข อารักขาได้
ส่วนหัว มีความยาวปานกลาง หัวกะโหลกระหว่างหูทั้งสองข้างค่อนข้างกว้าง หน้าผากโค้งเล็ก
น้อย ผิวหนังบริเวณหัวอาจจะมี รอยย่นเล็กน้อย แก้มปรากฎร่อยรอยของกระดูกชัดเจน
หู มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม โคนหูอยู่ห่างกัน ปลายหูอยู่ระดับกึ่งกลางของแก้ม
ตา มีขนาดปานกลาง ตาค่อนข้างลึก ตาเป็นรูปกลมรี สีน้ำตาลเข้ม ตาสีเดียว หนังตาตึง
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอสมควร
ปาก (muzzle) ความยาวของปากมีขนาดไม่เกินความยาวของหัวกะโหลก โคนปากใหญ่และ เรียวลงสู่ปลายจมูก
สันปากตรง แข็งแรง ริมฝีปากตึง สีเข้ม
จมูก กว้าง ค่อนข้างแบน สีดำ
ฟัน ขาวสะอาด ขบแบบกรรไกร มีฟันบน 20ซี่ ฟันล่าง 22 ซี่
ลำตัว สัดส่วนของความสูงต่อความยาวของลำตัวประมาณ 9 ต่อ 10 ส่วน ลำตัวแข็งแรง เส้น
หลังตรง ขนานกับพื้น
คอ มีความยาวปานกลาง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ มีลักษณะโค้งเล็กน้อย มีความแข็งแรง
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
อก กว้าง และลึกจรดข้อศอก
ขาหน้า มีกระดูกใหญ่ ขาหน้าท่อนบนมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ข้อเท้าหน้าแข็งแรง ตั้งฉากกับพื้น
มองจากด้านหน้าขาหน้าตรงตั้งฉากกับพื้นห่างกันพอเหมาะ เท้ากลม นิ้วเท้าชิด ติ่งนิ้วนิยมตัดทิ้
ง
ลำตัวส่วนท้าย มีลักษณะกว้าง ค่อนข้างสั้น โค้งมนเล็กน้อย
เอว ค่อนข้างสั้น กว้าง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหลัง มีกระดูกใหญ่ ขาหลังท่อนบนประกอบด้วยกล้ามเนื้อ มุมขาหลังทำมุมพอประมาณ
ข้อเท้าหลังตั้งฉากกับพื้น มองจากด้านหลังขาหลังตรงขนานกันตั้งฉากกับพื้น นิ้วเท้าชิด
เท้ากลม
หาง สุนัขบางตัวหางกุดหรือสั้นมาตั้งแต่กำเนิด นิยมตัดหางให้สั้น
ขน-สี มีขนสองชั้น ขนชั้นนอกแข็งสั้น สีมีพื้นสีดำ และมีสีน้ำตาลบริเวณเหนือตา,
แก้ม, คอ, เท้า, ก้น, อก
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 24-27 นิ้ว, เพศเมียประมาณ 22-25 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม การย่างก้าวมีพละกำลัง ขณะวิ่งขาหน้า-หลังไม่บิดหรือเก
ข้อบกพร่อง ตัวสูงหรือเตี้ยกว่ามาตรฐาน,ฟันไม่ขบแบบกรรไกร,ตาสีเหลืองหรือตาหลายสี,
สีพื้นเป็นสีอื่นนอกจากสีดำ, มีปื้นสีขาว, ขลาดกลัวหรือดุร้าย, ขนยาว
Saint Bernard
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
น้ำหนัก 110-200 ปอนด์
ความสูง อย่างต่ำ 25 1/2-27 1/2 นิ้ว
ขน มีอยู่2ชนิดคือ ขนสั้น และขนยาว ปานกลาง
สี แดง สีลูกวัว หรือแฟนซี มักมีหน้ากากสีดำ
จัดอยู่ในกลุ่ม Working Dog
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้สันนิษฐานว่าสืบเชื้อ สายมาจากสุนัขขนาดใหญ่จากทวีปเอเซีย โดย ชาวโรมัน
เป็นผู้นำไปแพร่พันธุ์ในประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ และเกิดการผสมกันเองจนได้ สุนัข
พันธุ์ ST.BERNARD ขึ้นมา ชาวสวิสมัก นิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ไว้คอยช่วยชีวิตผู้เคราะห์
ร้าย ระหว่างการเดินทางซึ่งส่วนมากนักเดินทางมักถูก หิมะถล่มและถูกฝังอยู่ใต้หิมะอยู่
บ่อยๆ ST.BERNARD มักมีสัมผัสที่หกที่สามารถรู้ว่า ผู้เคราะห์ร้ายถูกหิมะฝังอยู่จุดใด
เมื่อพบผู้เคราะห์ร้ายแล้วมันจะขุดและดึงผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมา หลังจากนั้นมันจะนอนแนบ
ผู้เคราะห์ร้าย เพื่อให้ความอบอุ่นและเลียจนผู้เคราะห์ร้ายได้สติ ส่วน ST.BERNARD
อีกตัวหนึ่งก็จะวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อตามคนมาช่วย ST.BERNARD ที่มีชื่อเสียงคือ
BARRY มันสามารถช่วยคนได้ถึง 40 คน BARRY เสียชีวิตในปี 1814 และประวัติของ BARRY
ถูกจารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติ ศาสตร์แห่งชาติในสวิสเซอร์แลนด์
อุปนิสัย ฉลาด อดทน กล้าหาญ ST.BERNARD สามารถเรียนรู้การช่วยชีวิตได้จากการสังเกต
การปฎิบัติของST.BERNARD รุ่นพี่หรือรุ่นพ่อ
ส่วนหัว มีขนาดใหญ่ หัวกะโหลกกลมกว้าง ส่วนหัวมีขนปกคลุม หนังหัวมีรอยย่นเล็กน้อย
หู มีขนาดปานกลาง โคนหูอยู่ค่อยข้างสูง หูมีขนนุ่ม หูตกชิดแก้ม มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม
ตา มีขนาดปานกลาง ตาค่อนข้างลึก ตาเป็นรูปกลมรี สีน้ำตาลเข้ม มีแววตาที่เป็นมิตร
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักชัดเจน
ปาก (muzzle) มีขนาดสั้น ความลึกของปากมีขนาดมากกว่าความยาวของปาก สันปากตรง กว้าง
แข็งแรง มีขนนุ่ม ปกคลุมทั่วปาก ริมฝีปากบนห้อยเล็กน้อย และมีเหนียงพอประมาณ
จมูก มีขนาดใหญ่ส รูจมูกกว้าง จมูกสีดำ
ฟัน ขาว แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีขนาดใหญ่ เส้นหลังตรง
คอ มีฐานคอค่อนข้างสูง คอมีลักษณะกลมประกอบด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง หนังคอย่นเล็กน้อย
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง
อก มีขนาดกว้างลึกไม่เกิน่ข้อศอก
ขาหน้า มีกระดูกใหญ่ แข็งแรงมาก ขาหน้าตั้งตรง นิ้วเท้าชิด เท้าใหญ่ นิยมตัดติ่งนิ้วทิ้ง
ลำตัวส่วนท้าย มีลักษณะใหญ่ แข็งแรง
ขาหลัง มีกระดูกใหญ่ ขาหลังแข็งแรง ข้อเท้าหลังทำมุมพอเหมาะ เท้าใหญ่ นิ้วเท้าชิด
หาง โคนหางมีขนาดใหญ่มาก หางค่อนข้างตรง หางตก ปลายหางอยู่ระหว่างข้อเท้าหลัง
ขน-สี ขนค่อนข้างหนาแน่น ขนสั้น ขนสีแดงสลับขาว หรือสีขาวสลับแดง สีแดงเป็นโทนสีน้ำตาลอ่
อน จนถึงน้ำตาลแดง
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่มาก
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 27.5 นิ้ว,เพศสเมียประมาณ 25.5 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง สง่างาม การย่างก้าวมั่นคง มีพละกำลังมาก
ข้อบกพร่อง สุนัขที่มีสีเดียวทั้งตัว
Saluki
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศอิหร่าน
ความสูง เพศผู้ 23-28 นิ้ว เพศเมียอาจจะเล็กกว่า เพศผู้มาก
ขน เรียบ และมันวาวราวกับไหม มีขนเป็นระบายตามขาหลังตะโพก ใต้หางตามหู ส่วนพันธุ์ขนสั้น
จะไม่มีขนเป็นระบาย
สี ขาว ครีม ลูกวัว สีทอง สีแดง เทา-น้ำตาลแดง สามสี น้ำตาลแดง-ดำ
จัดอยู่ในกลุ่ม Hound
ลักษณะทั่วไป มีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์เป็นสุนัขที่มี
ประวัติเก่าแก่มากพันธุ์หนึ่ง จากหลักฐานพบว่ามีภาพสลัก ของสุนัขพันธุ์ SALUKI
อยู่บนก้อนหินซึ่งมีอายุประมาณ 6,000-7,000 ปีก่อนคริสตกาล บางคนกล่าวว่าคำว่าสุนัข
ที่ปรากฎในคัมภีร์ BIBLE ก็คือสุนัขพันธุ์ SALUKI นั่น เอง SALUKI เป็นสุนัขที่ราชวงศ์อียิปต์นิยมเลี้ยง
ถึงกับ อนุญาตให้นอนบนพรมชั้นดีได้ สุนัขพันธุ์นี้สามารถทนกับ สภาพอากาศแบบทะเลทราย
ได้ดี ชอบนอนเกือกทรายเล่น มีสายตาที่กว้างไกล และวิ่งได้เร็ว มีความสามารถในการ
ล่าสัตว์ต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าเหยื่อจะวิ่งอยู่บนพื้นทราย หรือขุด รูอยู่เป็นสุนัขที่ความสง่างาม
มากพันธุ์หนึ่ง
อุปนิสัย ร่าเริง ฉลาด กล้าหาญ รักเจ้าของ ชอบล่าสัตว์
ส่วนหัว ยาว ไม่กว้างมาก หัวกะโหลกระหว่างหูกว้างพอประมาณแบนราบไม่โค้ง
หู ยาว และมีขนยาวนุ่มเหมือนไหม หูชิดแก้ม
ตา สีดำหรือเข้ม มีประกายของความสดใส เป็นรูปไข่
ดั้งจมูก (stop) ไม่มีมุมหักใดๆ
ปาก (muzzle) ยาว กรามแข็งแรง มีพละกำลังในการกัดสูง
จมูก สีดำ หรือน้ำตาลเข้ม
ฟัน แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
คอ ยาว ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ดูสง่างาม
ขาหน้า มองจากด้านหน้า ตั้งตรง แข็งแรง ตั้งฉากกับพื้น ขาทั้งสองข้างห่างกันพอเหมาะ
นิ้วเท้าชิ ด กัน ระหว่างนิ้วเท้ามีขนแข็ง ฝ่าเท้าหนา ทำให้สามารถวิ่งในสภาพทะเลทรายและสภาพทุรกันดารไ
ด้ดี
ลำตัวส่วนท้าย แข็งแรง กระดูกสะโพกแข็งแรง ข้อเท้าสั้น ทำให้การวิ่ง ก้าว กระโดดมีประสิทธิภาพ
สูง
ขาหลัง มองจากด้านหลัง ขาทั้งสองขนานกัน ห่างกันพอเหมาะ ข้อเท้าแข็งแรง นิ้วเท้าชิด
ระหว่า ง เท้ามีขนแข็ง ฝ่าเท้าหนา ทำให้สามารถวิ่งในสภาพทะเลทรายและสภาพทุรกันดารได้ดี
หาง ยาว โคนหางอยู่ในระดับต่ำ ปลายหางอยู่ระหว่างข้อเท้าหลัง หางโค้งเล็กน้อย หางส่วนล่างมี
ขน ยาว นุ่มเหมือนไหม
ขน-สี สั้น นุ่ม คล้ายไหม บริเวณ หู หาง และก้นมีขนยาว มีหลายสี เช่น ขาว, ครีม
น้ำตาล หรือสาม สี
ขนาด เป็นสุนัขขนาดใหญ่
ส่วนสูง มีความสูงประมาณ 23-28 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง เป็นสุนัขที่วิ่งเร็วมาก ขณะวิ่งสง่างาม เมื่อมองจากด้านหน้าหรือด้านท้าย
ขณะวิ่งข าไม่ ปัด ทำให้สูญเสียกำลังในการวิ่งน้อย จึงทำให้วิ่งระยะทางไกล ๆ ได้ดี
ข้อบกพร่อง ฟันขบผิดปกติ, ขลาดกลัว
Samoyed
ลักษณะทั่วไป
เป็นสุนัขในแถบขั้วโลกเหนือมีขนยาวสามารถทน กับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ดี มักนิยมเลี้ยงไว้เป็นสุนัขเฝ้ายาม
และสุนัขลาก เลื่อน มีบันทึกความสามารถของสุนัขพันธุ์ SAMOYED ไว้ว่า มีการเดินทางอันทร
หดของสุนัขลากเลื่อนฝูงหนึ่งจำนวน 28 ตัว ลากเลื่อนที่มีน้ำหนักมากกว่า น้ำหนักตัวของสุนัขถึงเท่าครึ่ง
เดินทางจากขั่วโลกเหนือ สู่ขั่วโลกใต้ โดย ทนอากาศที่หนาวเย็นและทุระกันดาร และสามารถไปถึงขั้วโลกใต้ในปี
1911
อุปนิสัย ร่าเริง รักการทำงาน ชอบเล่นกับเด็ก ๆ
ส่วนหัว มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม ส่วนบนกว้าง ไม่กลมเหมือนรูปแอปเปิ้ล ส่วนหัวมีลักษณะเฉพาะสง่างาม
ตื่นตัว มีมุมปากดำเหมือน รอยยิ้ม
หู หนาแข็ง เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายหูมน มีขนาดปานกลาง หูตั้งความยาว ของใบหูมีขนาดใกล้เคียงกับความยาวระหว่างโคนหูและตา
ตา เป็นรูปกลมรี สีเข้ม ขอบตาดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักไม่มาก
ปาก (muzzle) มีความยาว และขนาดปานกลาง โคนปากใหญ่ และเรียว จรดปลายจมูก ปากมีควา
มลึกพอสมควร ริมฝีปากมี สีดำ และสีดำจะล้ำออกข้างนอกปากเล็กน้อย ทำให้ดูเหมือนว่ากำลังยิ้ม
จมูก ควรมีสีดำเข้ม
ฟัน ขาวสะอาด แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว หัวไหล่สูง เส้นหลังตรง ความยาวของลำตัวมีขนาดใกล้เคียงกับความสูง ของลำตัว
เพศเมียจะมีความยาวของลำตัวมากกว่า
คอ ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ คอตั้ง
อก กว้าง ลึกจรดข้อศอก
ขาหน้า กระดูกขาค่อนข้างใหญ่ ขาหน้าตั้งตรง ข้อเท้าหน้าตั้งฉากกับพื้นขาหน้าค่อนข้างยาว
มองจากด้านหน้าขาหน้าตั้งฉาก กับพื้น ขาหน้าห่างกันพอเหมาะเท้าค่อนข้างใหญ่ มีขนหนาเพื่าป้องกันหิมะ
เท้าชิด
เอว มีลักษณะค่อนข้างกลม แข็งแรง
ขาหลัง ขาหลังท่อนบนประกอบด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง กระดูกขาค่อนข้าง ใหญ่ข้อเท้าทำมุมพอประมาณข้อเท้าสูงประมาณ
1 ใน 3 ของความสูงของบั้นท้ายมองจากด้านหลังขา หลังตั้งตรง และขนานกัน ขาค่อนข้างยาว
เท้าใหญ่ มีขนหนา
หาง มีขนาดค่อนข้างยาว ปลายหางอยู่ระหว่างข้อเท้าหลัง หางมีขนเป็นพวง ขณะตื่นตัวหางจะยกพาดหลัง
ขน-สี SAMOYED มีขนสองชั้น ขนชั้นในนุ่มเหมือนขนสัตว์ ขนชั้นในหนาแน่น ขนชั้นนอกค่อนข้างแข็งเหยียดตรง
ขนสามารถ ป้องกันอากาศที่หนาวเย็นได้ดี SAMOYED มีขนสีขาว หรือครีม
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง มีกระดูก และกล้ามเนื้อใหญ่
ส่วนสูง เพศผู้สูง21-23.5 นิ้ว เพศเมียสูง 19-21 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม SAMOYED มีการเคลื่อนที่ค่อนข้างเร็ว
ข้อบกพร่อง ขนหยิก ขนไม่ตั้ง สีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ขาว หรือครีม ขาบิด ฟันขบผิด ปกติ
ตาสีจาง
Scottish Deerhound
ลักษณะทั่วไป ไม่ปรกฎหลักฐานว่าสุนัขพันธุ์นี้ มีแหล่งกำเนิดที่ใด
แต่สันนิษฐานว่า สุนัขพันธุ์นี้ ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศสก๊อตแลนด์ เพื่อใช้ล่ากวาง
ซึ่งกวางแต่ละตัวจะมี น้ำหนักประมาณ 250 ปอนด์ SCOTTISH DEERHOUND เป็น สุนัข ขนาดใหญ่มาก
พันธุ์หนึ่ง แข็งแรง มีพละ กำลังมากสามารถใช้ล่ากวางได้ตามลำพัง หรือ ออกล่าเป็นคู่ก็ได้
สุนัขพันธุ์นี้มีชื่อเรียกอีกอย่าง หนึ่งว่า ROYAL DOG OF SCOTLAND ใน สหรัฐอเมริกา
นิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ล่าสุนัขจิ้งจอก
อุปนิสัย เงียบขรึม ฉลาด ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ
ส่วนหัว หัวกะโหลกบริเวณหูจะกว้าง และแคบ ลงจรดปลายจมูก หัวค่อนข้างยาว
หู โคนหูอยู่ในระดับสูง หูม้วนลู่ไปด้านหลังคล้ายสุนัขพันธุ์ GREYHOUND หูเล็กมีขนนุ่ม
สีดำ หรือเข้ม
ตา สีดำ หรือน้ำตาล ขอบตาสีดำ
ดั้งจมูก (stop) ไม่มีมุมหักใด ๆ
ปาก (muzzle) ยาว กรามแข็งแรง
ฟัน ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีขนาดใหญ่ เส้นหลังโค้ง
คอ ค่อนข้างยาว แข็งแรง ไม่มีรอยย่นใด ๆ
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ลาดเอียง ขนาดไม่ใหญ่เกินไป
อก ลึก กว้างพอประมาณ
ขาหน้า ตั้งตรง มองจากด้านหน้าตั้งฉากกับพื้น ห่างกันพอเหมาะกระดูกใหญ่ นิ้วเท้าชิดกัน
เล็บตัด สั้น
เอว โค้งจรดโคนหาง
สะโพก กว้างประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหลัง กล้ามเนื้อขาหลังแข็งแรง ข้อเท้าทำมุมพอเหมาะ มองจากด้านหลังขาหลังขนานกัน
ห่างกั นพอเหมาะ
หาง ยาวเกือบติดพื้น ปลายหางห่างจากพื้นเพียงนิ้วครึ่งเท้านั้น หางโค้งเล็กน้อย
มีขนปกคลุม
ขน-สี ขนค่อนข้างแข็ง หยิก ยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ขนสีเทาเข้มเป็นสีที่นิยมมากที่สุด
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
น้ำหนัก เพศผู้หนักประมาณ 85-110 ปอนด์ เพศเมียหนักประมาณ 75-95 ปอนด์
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 30-32 นิ้ว เพศเมียสูงประมาณ 28 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง วิ่งเร็ว สง่างาม
ข้อบกพร่อง หูกว้างใหญ่ ตาสีจาง
Scottish Terrier
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดใน ประเทศสก๊อตแลนด์เป็นสุนัขที่มีประวัติเก่าแก่
พันธุ์หนึ่ง ในศตวรรษที่ 17 กษัตริย์ JAME I ของอังกฤษเคยส่งสุนัขพันธุ์ SCOTTICH
TERRIER เป็นของขวัญไปที่ประเทศ ฝรั่งเศสถึง 6 ตัว สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มี
ขนาด
กะทัดรัด ร่างกายแข็งแรง หัวและหาง จะตั้งอยู่เสมอ อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง
ส่วนหัว มีขนาดยาว กว้างพอประมาณ หัวกะโหลกมีลักษณะโหนกเล็กน้อย
หู มีขนาดเล็ก หูตั้ง ใบหูมีขนสั้น
ตา ทั้งสองข้างค่อนข้างห่างกัน มีลักษณะเป็นรูปกลมรี ตาสีน้ำตาลเข้มหรือดำ คิ้วค่อนข้างหนา
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักเล็กน้อย
ปาก (muzzle) มีขนาดสัมพันธ์กับความยาวของหัวกะโหลก
จมูก สีดำ ขนาดพอเหมาะ จมูกยื่นเล็กน้อย จนทำให้กรามบนดูยาวกว่ากรามล่างเล็กน้อย
ฟัน ขาวแข็งแรง ขบแบบเสมอ หรือขบแบบกรรไกร
ลำตัว ค่อนข้างสั้น เส้นหลังตรง
คอ มีขนาดค่อนข้างสั้น ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
อก กว้าง ค่อนข้างลึก
ขาหน้า ค่อนข้างสั้น กระดูกใหญ่ ขาหน้าใหญ่กว่าขาหลังเล็กน้อย ข้อเท้าหน้าแข็งแรง
มองจาก ด้านหน้า ขาหน้าตั้งตรง ห่างกันพอ สมควร เท้าชิด เล็บเท้าค่อนข้างแข็งแรง
ขาหลัง ค่อนข้างสั้น กระดูกใหญ่ ขณะยืนดูมั่นคง มองจากด้านหลังขาหลังตรง ห่างกันพอประมาณ
เท้าชิด เล็บเท้าค่อนข้างแข็งแรง
หาง ยาวประมาณ 7 นิ้ว ไม่นิยมตัดหาง
ขน-สี ขนของสุนัขพันธุ์นี้ค่อนข้างสำคัญในสนามประกวดขนมีความยาวประมาณ 2 นิ้ว ขนค่อน
ข้างหนา แข็ง หยิก ขนสีดำ อกอาจจะมีจุดขาวเล็ก ๆ ได้
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก เพศผู้หนักประมาณ 19-22 ปอนด์ เพศเมียหนักประมาณ 18-21 ปอนด์
ส่วนสูง สูงประมาณ 10 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีขาค่อนข้างสั้นดังนั้นเวลาวิ่งขาหน้า-หลัง
จะสวิงเข้าหากันเล็กน้อย
ข้อบกพร่อง ขนนุ่ม ตาสีจืด ตากลม ฟันขบผิดปกติ ขลาดกลัว
Sealyham Terrier
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่น กำเนิดในประเทศเวลล์
เป็นสุนัขที่ มีร่างกายล่ำสัน ตัวเตี้ยเหมาะ สำหรับ ล่าสัตว์ที่ขุดรูหรือโพรงอยู่
ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้เป็นสุนัขประจำ บ้าน
อุปนิสัย ร่าเริง ปราดเปรียว
ส่วนหัว มีลักษณะค่อนข้างยาวหัว กะโหลกกว้าง ความยาวของส่วนหัว ประมาณ 3 ใน 4 ของความสูง
หัวกะโหลกโค้งเล็กน้อย แก้มค่อนข้างแบน
หู ตก เฉียงไปด้านหน้า ปลายหูมน ปลายหูยาวจรดขอบตา
ตา มีขนาดปานกลาง ตาทั้งสองอยู่ห่างกัน ตาสีเข้มมาก
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอประมาณ
ปาก (muzzle) มองจากด้านหน้ามีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กรามแข็งแรง
จมูก สีดำ ค่อนข้างใหญ่
ฟัน แข็งแรง ขบแบบเสมอ หรือขบแบบกรรไกร
ลำตัว ค่อนข้างสั้น เส้นหลังตรง ความยาวของลำตัวมีขนาดใกล้เคียงกับความสูง
คอ มีความยาว น้อยกว่า 2 ใน 3 ของความสูง คอประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่กว้างพอประมาณประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหน้า มีกระดูกใหญ่ ขาตั้งตรง ข้อเท้าหน้าตั้งตรง แข็งแรงขาหน้ามีขนาดใหญ่กว่าขาห
ลัง เท้าหน้าค่อนข้างใหญ่และหนา
ลำตัวส่วนท้าย มีลักษณะแข็งแรง
ขาหลัง มีขนาดยาวกว่าขาหน้า แต่กระดูกขาหลังเล็กกว่า กระดูกขาหน้าเล็กน้อยข้อเท้าหลัง
แข็งแรง เท้าหลังใหญ่และหนา
หาง นิยมตัดสั้น หางตั้ง
ขน-สี มีลักษณะหนาป้องกันความหนาวเย็นได้ดี ขนชั้นนอกแข็ง ขนสีขาวทั้งตัว
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก ประมาณ 23-24 ปอนด์
ส่วนสูง ประมาณ 10.5 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว วิ่งได้เร็ว
ข้อบกพร่อง จมูกขาว หรือชมพู ขาบิดงอ ขาวัว
Shetland Sheepdog
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศอังกฤษ
ความสูง 13-16 นิ้ว
ขน ยาว แน่น แข็ง มีขยชั้นในหนา
สี ดำ เทาดำ น้ำตาลแดง มีสีขาวแซม
จัดอยู่ในกลุ่ม Herding Dog
ลักษณะทั่วไป ขณะที่ชาวสก๊อตเข้าไปอาศัยอยู่ บนเกาะเช็ตแลนด์
ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในเครือ จักรภพ และได้นำเอาสุนัขเลี้ยงแกะพันธ์ก็อตใส่เรือไปด้วย
เจ้าสุนัขเลี้ยงแกะนี้ก็ไป ผสมพันธุ์กับ สุนัขพื้นเมืองตัวเล็ก ๆ พันธุ์หนึ่งซึ่งมีขนยาว
และ มีความฉลาดมาก จากนั้นก็มีคนนำสุนัขพันธุ์ทาง นั่นกลับไปผสมกับคอลลี่ขนยาว
(ROUGH COLLIE) ผสมกันไปกันมาหลายครั้งก็เกิดเป็น สุนัขพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับคอลลี่ขนยาว
มาก แต่ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ขนาด เพราะเช็ตแลนด์ ชีพด็อก ตัวเล็กกว่าคอลลี่มาก
ซึ่งเป็นที่มากของชื่อเช็ตแลนด์ ชีพด็อกหรือบาง คนเรียก คอลลี่จิ๋ว (MINIATURE
COLLIE)
อุปนิสัย ฉลาด น่ารัก ร่าเริง รักเด็ก และซื่อสัตย์
หู หูตั้ง ส่วนปลายพับลง 1/3 ของใบหู เวลาสุนัขตื่นเต้นใบหูจะตั้งชิดกัน แต่เวลาที่อารมณ์ปกติใ
บหูอาจลู่ไปข้างหลังได้
ศีรษะ หน้าและปาก ศีรษะจะต้องไม่ใหญ่จนเกินไป จะทำให้ดูแล้วไม่สมดุลย์ และบางครั้งอาจจ
ะ ทำให้ดูแล้วไม่ฉลาด หน้าควรจะดูแล้วแสนรู้ (ดูแล้วไบรท์) ส่วนปากไม่ควรยาวจนเกินไป
เพราะจะ ทำให้หน้าดูแหลมไป ปลายสุดของจมูกควรจะป้านพอสมควร สรุปคือส่วนหัว หน้าและปาก
จะต้อ งดู แล้วสมส่วน และไม่สำคัญจะต้องดูแล้วน่ารัก ไม่ดุ
คอ ควรจะยาวพอประมาณ และไม่ใหญ่จนเกินไป คอที่ยาวจะช่วยทำให้สุนัขแลดูสง่างาม แต่คอ
ที่ สั้นและใหญ่เกินไป จะทำให้ดูเทอะทะ และจะทำให้เสียคะแนนเวลาประกวดด้วย
เส้นหลัง หลังควรจะลาด ตรงและแข็งแรง อกลึกปลายอกจะอยู่ราว ๆ ข้อศอก ขาหน้า ซี่โครงควร
จะเรียงได้รูปโค้งแนบไปกับลำตัว หลังที่ยาว หรือสั้นจนเกินไปจะทำให้เสียคะแนน กระดูกสะโพกค
วร จะทำมุม 30 องศา กับกระดูกสันหลัง
หาง จะต้องพองฟู และยาว ความยาวควรจะประมาณข้อศอกถึงขาหลัง เวลาปกติหางจะตกลงปลายหางงอขึ้นเล็กน้อย
แต่เวลา ที่ตื่นตัว หรือขณะที่เล่นอยู่หางจะยกขึ้นได้แต่ปลายหางจะต้องไม่งอม าก
จนเป็นตะขอ
ขน มีขนสองชั้น ชั้นนอกเป็นขนเส้นตรงหยาบ และยาวมาก ส่วนขนชั้นในนั้นเป็นขนสั้นนิ่ม
ฟู และ มีความหนาแน่นมาก ขนชั้นในมีส่วนสำคัญมาก เพราะจะช่วยทำให้ขนชั้นนอกฟู ตัวผู้ส่วนใหญ่จะ
มีขนยาวกว่าตัวเมีย สุนัขที่ไม่มีขนชั้นในหรือ ขนสั้นผิดปกติอาจจะถูกตัดสิทธิ์ในสนามประกวดได้
สี ส่วนใหญ่จะมีสีที่เหมือนกับคอลลี่ เช่น
1. สีน้ำตาล-ขาว (SABLE-WHITE) ขนส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาล และมีสีขาที่ใบหน้า คอ
ปลายเ ท้า และปลายหาง สีน้ำตาลจะมีตั้งแต่ ปานกลางจนถึงสีน้ำตาล ไหม้ (MAHOGANY)
2. สามสี (TRI-COLOR) จะมีพื้นที่ส่วนใหญ่ดำสนิท สีขาวและสีน้ำตาลทอง จะแซมขึ้นตามใบห
น้า ดูแล้วเหมือนสุนัขมีคิ้วหรือบางคน เรียกว่ามีสี่ตา บริเวณลำคอ และปลายหางจะมีสีขาว
3. ดำ-ขาว (BI-BLACK) ส่วนใหญ่จะมีสีดำ โดยจะมีสีขาวบริเวณใบหน้า คอ ปลายขา และปลายห
าง
4. ลายหินอ่อน (BLUE MERLE) จะมีหลายสีอยู่ในตัว แต่จะมีสีพื้นคือสีเทา และจะมีสีดำขึ้นเป็น
ปื้นใหญ่น้อยตามลำตัว และใบหน้า ส่วนสีขาวจะอยู่บริเวณหน้า และโคนขา ขนาด ความสูง
จะต้อง อยู่ระหว่าง 13-16 นิ้ว ทั้งตัวผู้ และตัวเมีย เมื่อวัดจากเท้าถึงหัวไหล่
ในขณะที่สุนัขยืนความยาวควรจะ อยู่ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับความสูง คือเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
วัดจากอกของสุนัขจนถึงน่อง ด้านหลัง ของขาหลัง
การเคลื่อนไหว เช็ตแลนด์เป็นสุนัขที่ใช้เลี้ยงแกะ จึงควรที่จะมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว
ว่องไว เวลาวิ่งจะต้องดูราบเรียบ ไม่กระโดกกระเดก หรือดูไม่คล่องตัว ส่วนขาหน้าจะต้องสาดไป
ข้าง หน้าไม่แกว่งไปมา หรือวิ่งไขว้ไปไขว้มา ขาหลังตรง ไม่โก่ง หรือชิดเกินไป เมื่อมองจากด้านหลัง
ข้อบกพร่อง ฟันขบกันแล้วไม่พอดี สุนัขที่ตัวเตี้ย ต่ำกว่า 13 นิ้ว และสูงเกินกว่า
16 นิ้ว สุนัขที่มี ลายเสือ (BRINDLE)
Shih Tzu
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศธิเบต ในปี ค.ศ.1850 ชิสุหลายตัวจากธิเบตถูก
ส่งเป็น เครื่อง บรรณาการแก่ราชวงศ์แมนจู ชาวจีนเรียกสุนัขเหล่านี้ว่า SHIH TZU
KOU แปลว่า สุนัขสิงโต เมื่อ สิ้นยุคพระนางซูสีไทเฮา สุนัขพันธุ์ชิสุถูกทำลายมากมาย
แต่ยังมีชิสุบางส่วน ถูกนำออกนอกประเทศจีน และกระจาย ไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของโลก เช่น
อังกฤษและอเมริกา ชิสุเป็น สุนัขที่มีขนาดเล็ก ขนยาว เป็นมันคล้ายแพรวไหม ชิสุถูก
รับรองโดย AKC ในปี 1969
อุปนิสัย ร่าเริง กล้าหาญ รักเจ้าของ ส่วนหัว มีลักษณะ กลม กว้าง มีขนาดสมดุลย์
กับขนาด ของลำตัว หัวกะโหลกเป็นรูปโดม
หู มีขนาดใหญ่ โคนหูต่ำกว่ายอดหัวกะโหลกเล็กน้อย หูมี ขนยาว
ตา กลมโต ตามีสีดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักชัดเจน
ปาก (muzzle) มีขนาดสั้น มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
จมูก กว้าง สีดำ
ฟัน ขบแบบเสมอ หรือ UNDERSHOT เล็กน้อย
ลำตัว มีความยาวมากกว่า ความสูงของลำตัว เส้นหลังตรงอยู่ในแนวระดับ
คอ เชิด ดูสง่างาม
อก กว้าง และ ลึก
ขาหน้า มีขนาดสั้น ขาหน้ามีกระดูกใหญ่พอประมาณ ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ขาหน้ามีขนยาว
เท้ามีขนา ดใหญ่ ่ชี้ตรงไปด้านหน้า
ขาหลัง มีขนาดสั้น ขาหลังมีกระดูกใหญ่ กล้ามเนื้อมาก มีขนยาวเท้าหลังคล้ายเท้าหน้า
หาง โคนหางค่อนข้างสูง หางพาดอยู่บนหลัง มีขนยาว
ขน-สี ขนสีสองชั้น ขนมีคุณภาพดี ขนแน่น ขนเหยียดตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยไม่หยิก
บริเวณหัวมีขนย าว นิยมมัดเป็นจุก ขนมีสีอะไรก็ได้
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก 9-18 ปอนด์
ส่วนสูง ประมาณ 8-11 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม ขณะก้าวขาเหยียดตรง คอเชิด เส้นหลังตรง หางพาดอยู่บนหลัง
ข้อบกพร่อง หัวกะโหลกแคบ ตาเล็ก ตาสีอ่อน ปากยาว จมูกสีชมพู ฟัน OVERSHOT ขน ยาว
ขนบาง
Siberian Husky
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด สหรัฐอเมริกา
น้ำหนัก 45-60 ปอนด์
ความสูง 21-23 1/2 นิ้ว
ขน หนา คล้ายขนสัตว์ พอง มีขนชั้นใน
สี สีอะไรก็ได้ทั้งสิ้น เช่น สีเทา สีดำ สีแดง
จัดอยู่ในกลุ่ม Working Dog
ลักษณะทั่วไป
สุนัสขพันธุ์ SIBERIAN HUSKY มีถิ่นกำเนิด ในไซบีเรีย สุนัขพันธุ์นี้ถูกคัดเลือกพันธุ์
ขึ้นโดยชาวพื้นเมืองที่เรียกว่า CHUKCHI เพื่อให้ทำหน้าที่ล่าสัตว์ และเฝ้ายาม
แต่ต่อมา ถูกพัฒนาให้มีลักษณะของสุนัขลากเลื่อน ประมาณปี คศ.1900 มีการแข่งขัน
สุนัขลากเลื่อน ใน ALASKA โดยมี ระยะทางถึง 400 ไมล์ สุนัขที่ชนะใน การแข่งขันคือ
สุนัขพันธุ์ SIBERIAN HUSKY หลังจากนั้น กีฬาแข่งสุนัขลากเลื่อนก็เป็นที่นิยม มากขึ้น
สุนัขพันธุ์ นี้ก็มักจะชนะอยู่ เสมอ AKC. รับรองสุนัขพันธุ์นี้ในปี คศ.1930
อุปนิสัย ฉลาดเป็นมิตร สุขุม สามารถทำงานร่วมกันเป็นฝูงได้
ส่วนหัว มีขนาดปานกลางสมส่วนกับลำตัว หัวกะโหลกค่อนข้างกลม หัวกะโหลกระหว่างหูจะกว้าง
และเรียวลงจรดตาทั้งสองข้าง
หู มีขนาดปานกลาง ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายหูมน ใบหูหนา มีขนแน่น หูตั้ง
ตา มีลักษณะเป็นรูปกลมรี อยู่ห่างกันพอประมาณ าตามีสีน้ำตาลเข้ม
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอประมาณ
ปาก (muzzle) ความยาวของปากมีขนาดใกล้เคียงกับความยาวของหัวกะโหลก ปากมีความ กว้างพอประมาณ
สันปากตรง โคนปากใหญ่ และเรียวลงจรดปลายจมูก ริมฝีปากตึง มีสีเข้ม
จมูก มีสีดำ น้ำตาลเข้ม หรือชมพู
ฟัน ขาวสะอาด แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีขนาดปานกลาง เส้นหลังตรง ขนานกับพื้น ความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงของลำตัว
เล็กน้อย
คอ มีความยาวปานกลาง มีลักษณะโค้ง ขณะเดิน หรือวิ่ง คอจะยืดไปข้าหน้า
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ แข็งแรง
อก มีลักษณะแข็งแรง อกลึกจรดข้อศอก อกมีความกว้างพอประมาณ ไม่กว้างจนเกินไป
ขาหน้า มองจากด้านหน้าขาหน้าทั้งสองตั้งตรง ห่างกันพอเหมาะ มองจากด้านข้างข้อเท้าหน้า
เอียงเล็กน้อย ท่อนขาตรง ความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นจะมากกว่าความยาวจากข้อศอกถึง
หัวไหล่เล็กน้อย เท้ามีลักษณะกลมรี นิ้วเท้าชิด เท้ามีขนหนาแน่น
หาง มีขนเป็นพวง หางมักจะยกสูงโค้งเล็กน้อย หางไม่บิดเอียงไปทางซ้ายหรือขวา
ขน-สี ขนมีสองชั้น ขนชั้นในนุ่ม ขนชั้นนอกแข็งแนบชิดผิวหนัง ขนมีหลายสีตั้งแต่สีดำ
หรือขาว ล้วน
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง
น้ำหนัก เพศผู้หนักประมาณ 45-60 ปอนด์ ,เพศเมียหนักประมาณ 35-50 ปอนด์
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 21-23.5 นิ้ว เพศเมียสูงประมาณ 20-22 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม เคลื่อนที่ได้เร็ว ขณะวิ่งเท้าไม่บิด หรือปัด
ข้อบกพร่อง หูใหญ่ หูตก หางม้วนมาก
Silky Terrier
ลักษณะทั่วไป มีถิ่นกำเนิดที่เมืองซิดนี เประเทศ
ออสเตรเลีย ในช่วงต้นๆ มีชื่อเรียกว่า SYDNEY SILKY TERRIER เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองซิดนีย์
อันเป็น บ้านเกิด ต่อมาถูกเรียกว่า AUSTRALIAN SILKY TERRIER และ SILKY TERRIER
ในที่ สุด สุนัขพันธุ์นี้ลงประกวดครั้งแรกในออสเตรเลีย เมื่อปี 1907 และมีมาตรฐานพันธุ์
ขึ้นในปี 1909 SILKY TERRIER เป็นสุนัขกลุ่ม TOY ที่มีขนาด เล็ก เกิดจากการผสมข้าม
พันธุ์ของสุนัขพันธุ์ AUSTRALIAN TERRIER และ YORKSHIRE TERRIER
อุปนิสัย สุภาพ เป็นมิตร ฉลาด ตื่นตัวอยู่เสมอ
ส่วนหัว มีลักษณะแข็งแรง หัวเป็นรูปลิ่ม ส่วนหูค่อน ข้างยา หัวกะโหลกแบน
หู มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม หูตั้ง
ตา ค่อนข้างเล็กสีเข้ม
ดั้งจมูก (stop) มีหักเล็กน้อย
ปาก (muzzle) สัดส่วนความยาวของปากต่อหัวกะโหลก ประมาณ 2.5 ต่อ 3.5 จมูก สีดำ
ฟัน แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีลักษณะค่อนข้างเตี้ย ลำตัวยาว เส้นหลังตรง
คอ มีความยาวปานกลาง ดูสง่างาม
อก กว้าง ลึกจรดข้อศอก
ขาหน้า แข็งแรง ตั้งตรง เท้าเล็กคล้ายเท้าแมว นิ้วเท้าหนา เล็บสีเข้มนิ้วติ่งตัดออก
เท้าชี้ตรงไปด้านหน้า ไม่บิดซ้ายหรือขวา
ขาหลัง ข้อเท้าหลังท่อนบนแข็งแรง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ข้อเท้าหลังทำมุมพอประมาณ
ข้อเท้าหลังสั้ น เท้าหลังคล้ายเท้าแมว เล็บสีดำ เท้าชี้ตรงไปด้านหน้า นิ้วติ่งหลังตัดออก
หาง โคนหางอยู่ในตำแหน่งสูง หางตั้งตรง นิยมตัดหางสั้น หางมีขนยาวเล็กน้อย
ขน-สี ขนเส้นตรง เงาคล้ายไหม บริเวณหลังหูขนยาวประมาณ 5-6 นิ้วบริเวณท้องมีขนยาว
ขนสีเทาเงิ น- น้ำตาล ส่วนท้ายของหัวจรดปลายหางมักจะเป็นสีเทาเงิน บริเวณปาก แก้ม
หู ข้อเท้าเป็นสีน้ำตาล
ขนาด เป็นสุนัขขนาดเล็ก
น้ำหนัก ประมาณ 8-10 ปอนด์
ส่วนสูง ประมาณ 9-10 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง สง่างาม มองจากด้านหน้า-หลัง ขาหน้า-หลัง เป็นเส้นตรง
ข้อบกพร่อง ตาสีจาง ฟันขบแบบ OVERSHOT หรือ UNDERSHOT ลำตัวสั้นเล็บสีขาว นิสัยขลาดกลัว
Standard Schnauzer
AKC,AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศเยอรมันนี
น้ำหนัก ชเนาเซอร์ขนาดเล็ก หนัก 17-18 ปอนด์ ชเนาเซอร์ขนาดมาตรฐาน หนัก 33-40 ปอนด์
ชเนาเซอร์ขนาดยักษ์ หนัก 54-60 ปอนด์
ความสูง ชเนาเซอร์ขนาดเล็ก สูงประมาณ 13.5 นิ้ว ชเนาเซอร์ขนาดมาตรฐาน สูงประมาณ
16.5-17.5 นิ้ว ชเนาเซอร์ขนาดยักษ์ สูงประมาณ 25.5-27.5 นิ้ว
ขน หยาบ และแข็ง
สี อาจเป็นสีเงิน หรือดำด้าน
จัดอยู่ในกลุ่ม Working Dog
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดใน ประเทศเยอรมัน เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ ระหว่างสุนัขพันธุ์
GERMAN POODLE, พันธุ์ GRAY WOLF SPITX และพันธุ์ WIREHAIRED PINSCHER สุนัขพันธุ์นี้
เป็นสุนัขแม่แบบของ SCHNAUZER อื่นๆ ชาวเยอรมันนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ นี้ไว้เพื่อจับหนู
เฝ้ายาม และเป็นเพื่อนในบ้าน STANDARD SCHNAUZER ถูกกล่าว ขนานกันว่ามีความ ฉลาดเหมือนคน
ในระหว่างสงครามโลกนิยม ใช้สุนัขพันธุ์นี้ใน กิจกรรมทหาร และสภากาชาด
อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ขลาด กลัว หรือดุร้ายเกินไป
ส่วนหัว มีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ค่อนข้างยาว มองจากด้านบนขนาดของส่วนหัวจากโคน
หู จะเล็กลงเล็กน้อยจรดปลาย จมูก ความยาวของส่วนหัวตั้งแต่ปลายหัวกะโหลกถึงบริเวณโคนหูมีขนา
ด ไม่เกิน 2 ใน 3 ส่วนของความยาวของหัวกะโหลก หัวกะโหลกส่วนบนมีลักษณะแบน หนังหัวตึง
ไม่ มี รอยย่น
หู โคนหูอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ปกติหูเป็นรูปสามเหลี่ยม แต่นิยมตัดหู และดามให้ตั้ง
ตา มีขนาดปานกลาง เป็นรูปกลมรี ตาสีดำ หรือน้ำตาลเข้ม คิ้วมีขนหยิกยาว
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักเล็กน้อย
ปาก (muzzle) ความยาวของปากมีขนาดเท่ากับความยาวของหัวกะโหลก สันปากตรงขนานกับ
ส่วนบนของหัวกะโหลก ปากมีเครา ยาวเป็นลักษณะเฉพาะพันธุ์ของสุนัขพันธุ์นี้
จมูก กว้าง สีดำ
ฟัน ขาวแข็งแรง ขบแบบกรรไกร บางครั้งฟันบนอาจจะขบเกินฟันล่างได้เล็กน้อย
ลำตัว มีลักษณะค่อนข้างสั้น ขนาดปานกลาง ไม่ผอม หรืออ้วนเกินไป เส้นหลังตรงลาดเอียงจากหัว
ไหล่สู่บั้นท้าย
คอ มีความยาว และความกว้างพอประมาณ ทำให้สุนัขดูสง่างาม หนังคอตึง ไม่ย่น
อก มีความกว้างปานกลาง อกลึกจรดข้อศอก ภาพตัดขวางของอกเป็นรูปกลมรี
ขาหน้า มีกระดูกใหญ่ ขาหน้าตรงตั้งฉากกับพื้น มองจากด้านหน้าขาหน้าทั้งสองห่างกันพอเหมาะ
เท้ามีลักษณะกลม นิ้วเท้าชิด
หาง นิยมตัดให้สั้นเหลือประมาณ 1-2 นิ้ว
ขน-สี มีขนสองชั้น ขนชั้นในนุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ขนบริเวณลำตัวนิยมตัดให้สั้นเหลือประมาณ
1.5 นิ้ว ขนบริเวณปาก คิ้ว ขา นิยมตัดแต่งให้สวยงาม ขนสีดำทั้งตัว หรือขนดำ และขาวขึ้นปนกันคล้าย
สีเทา
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 18.5-19.5 นิ้ว เพศเมียสูงประมาณ 17.5-18.5 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง มีความมั่นคง สง่างาม ขณะวิ่งเส้นหลังตรง
ข้อบกพร่อง ขลาดกลัว หรือ ดุร้ายเกินไป
Sussex Spaniel
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดใน ประเทศอังกฤษ
เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายตั้ง แต่การประกวดสุนัข ที่ CRYSTAL PALACE ในปี ค.ศ.
1862 สุนัขพันธุ์นี้ตัว เตี้ย วิ่งช้ากว่า สุนัขในตระกูล SPRINGER และ COCKER แต่มีความสามารถในการ
ดมกลิ่นได้ดีกว่า จึงนิยมใช้เป้นสุนัขล่าสัตว์ ใ นกีฬาเฉพาะงาน
อุปนิสัย ฉลาด สอนง่าย ร่าเริง สามารถฝึก ให้เป้นสุนัข RETRIEVER ได้
ส่วนหัว หัวกะโหลกมีความยาวและกว้างพอเหมาะ คิ้วหนา ส่วนหัวโดยทั่วไปมีลักษณะใหญ่
ม องดูแล้วรู้สึกหนักหัว หัวอยู่สูงกว่าเส้นหลังเพียงเล็กน้อย
หู ค่อนข้างหนา หูย้อยชิดแก้ม บริเวณหูมีขนหยิกเป็นคลื่น
ตา สีน้ำตาลแดง ตากว้าง
ดั้งจมูก มีมุมหักปานกลาง
ปาก มีความยาวประมาณ 3 นิ้ว ริมฝีปากห้อยเล็กน้อย มองจากด้านหน้าคล้ายรูปสี่เหลี่ยนจตุรัส
จมูก สีน้ำตาลเข้ม รูจมูกเปิดกว้าง มีความสามารถในการดมกลิ่นได้ดี
ลำตัว ตัวค่อนข้างเตี้ย ตัวยาว ลำตัวมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เส้นตรงอยู่แนวระดับ
คอ ค่อนข้างสั้น กล้ามเนื้อแข็งแรง
อก ลึก ช่วงอกหลังหัวไหล่จะดูกลม หัวไหล่ลาดเอียง
ขาหน้า สั้นกระดูกใหญ่ ประกอบด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ข้อเท้าใหญ่มาก บริเวณข้อศอกจะโค้ง
เล็กน้อย
ขาหลัง ต้องไม่สั้นกว่าขาหน้า มองจากด้านหลังขาทั้งสองไม่โค้งมากเหมือน
ขาหน้า ข้อเท้าหลังสั้น กระดูกเท้าใหญ่ เวลายืนเท้าทั้งสองข้างห่างกันพอประมาณ
หาง ตัดสั้นเหลือประมาณ 5-7 นิ้ว โคนหางอยุ่ค่อนข้างต่ำ หางชี้อยู่ในแนวเส้นหลังเล้กน้อย
ขน-สี มีขนหนาเหยียดตรง อาจจะเป็นคลื่นเล็กน้อย บริเวณหูส่วยท้ายของขาทั้งสี่และหางมีขน
ข้างยาว ขนมีสีน้ำตาล หรือ สีน้ำตาลเข้ม
น้ำหนัก ประมาณ 34-35 ปอนด์
Tibetan Spaniel
ลักษณะทั่วไป
ประเทศธิเบต เป็นประเทศที่อยู่ห่าง ไกลการคมนาคมไม่สะดวก ติดต่อได้เฉพาะประเทศ
จีน และอินเดียเท่านั้น ชาวธิเบตนับถือศาสนา ซึ่งสอนให้คน ละเว้นการฆ่าสัตว์และมี
เมตตาจึงทำให้ดินแดนธิเบตเป็น ต้นกำเนิดของสุนัขดั้งเดิมหลายเผ่าพันธุ์ มีตำนานกล่าว
ว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงฝึกสิงโตที่ดุร้ายให้เชื่องและติด ตามพระองค์ไปในที่ต่าง ๆ
ส่วนใน ธิเบตมีผู้กล่าวว่าพระลามะมักจะฝึกสุนัขพันธุ์ TIBETAN SPANIEL ให้ติดตามไปในที่ต่างๆ
เช่นกัน ชาวธิเบตโบราณได้ให้ สุนัขพันธุ์ TIBETAN SPANIEL เป็นของขวัญแด่ ประเทศ
จีน และญี่ปุ่น และกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของ โลก สุนัขพันธุ์นี้เป็นต้นตระกูลของสุนัขพันธุ์
JAPANESE CHIN และ PEKINGESE
อุปนิสัย สุขุม ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ ชาวธิเบตมักจะฝึก ให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขเฝ้ายามและเตือนภัย
ส่วนหัว มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของลำตัว ผิวหนังบริเวณหัวตึงไม่ย่น หัวกะโหลก
โค้งเล็กน้อยมีขนาดพอเหมาะ
หู มีขนาดปานกลาง หูตั้ง โคนหูอยู่ในระดับสูง
ตา สีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะกลมรี ขนาดปานกลาง ขอบตาสีดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักเล็กน้อย
ปาก (muzzle) มีความยาวปานกลาง ปากค่อนข้างเล็ก
จมูก สีดำ
ฟัน ขบแบบ UNDERSHOT เล็กน้อย หรือ ขบแบบเสมอ แต่ขณะหุบปากต้องไม่เห็นฟันยื่นออกมา
ลำตัว มีความยาวของลำตัวมากกว่าความสูง
คอ มีขนาดค่อนข้างสั้น คอเชิด บริเวณคอมีขนยาว เส้นหลังตรง ขนานกับพื้น
ขาหน้า กระดูกมีขนาดพอเหมาะ ขาหน้าโค้งเล็กน้อย แต่มั่นคงแข็งแรง เท้าหน้าเล็กมีลักษณะ
คล้ายเท้ากระต่าย เท้ามีขนยาว
ขาหลัง แข็งแรง มองจากด้านหลังเป็นเส้นตรงตั้งฉากกับพื้นห่างกันพอเหมาะ ข้อเท้าหลังแข็งแร
ง ข้อเท้าหลังทำมุมพอประมาณ
หาง โคนหางอยู่ในระดับสูง หางตั้ง
ขน-สี มีขนสองชั้น ขนคล้ายไหม หน้าผากและหน้าแข้ง มีขนสั้น
ลำตัว มีขนยาวปานกลาง หู หาง และหลังขามีขนยาว สีมีสีอะไรก็ได้
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก ประมาณ 9-15 ปอนด์
ส่วนสูง ประมาณ 10 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง วิ่งเร็ว ขณะวิ่งขาตรง
Tibetan Terrier
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในหมู่บ้านLOSTVALLEYในประเทศ ธิเบต สาเหตุที่หมู่บ้านนี้ชื่อ
LOST VALLEY เนื่องจากในศตวรรษที่ 14 เกิดแผ่น ดินไหวและทางติดต่อหมู่บ้านถูก ทำลายหมด
พระลามะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้มากว่า 2000 ปี ชาวธิเบต ถือว่าสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัข
นำโชค และมีการเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์นี้ อย่างดี ไม่มีการซื้อขายกันมักจะใช้เป็นเพื่อนร่วมทาง
กับโลกภายนอก สุนัขพันธุ์ นี้ไม่มีการกระจายสู่บุคคลภายนอก จนกระทั่งปี 1920 DR.GREIG
นักกายภาพ บำบัดได้รักษาโรคให้กับชาวธิเบตคนหนึ่งจึงได้รับสุนัขพันธุ์นี้ เป็นของขวัญ
DR.GREIG ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่ในอินเดีย ได้แพร่พันธุ์นี้มากมาย และเมื่อ DR.GREIG
เดินทางกลับประเทศอังกฤษ จึงได้นำสุนัขเหล่านี้กลับไปด้วย
ประเทศ อังกฤษ รับรองสุนัขพันธุ์นี้เป็นพันธุ์แท้ในปีค.ศ. 1937
อุปนิสัย ร่าเริง รักเจ้าของ
ส่วนหัว หัวกะโหลกมีความยาวปานกลาง ไม่กว้าง หัวกะโหลกมีขนาดเล็ก ลงจากโคนหูสู่ตา
หัวกะโหลกบริเวณหูไม่โค้งมากหรือ แบนมาก ส่วนหัวมีขนยาว
หู ตกแต่ไม่แนบชิดแก้ม หูมีลักษณะเป็นรูปตัววี ไม่ใหญ่มาก ใบหูมีขนยาว
ตา มีขนาดใหญ่ สีเข้ม ขอบตาสีดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหัก
ปาก (muzzle) มีความยาวเท่ากับความยาวของหัวกะโหลก กรามแข็งแรง ปากไม่ใหญ่มาก
จมูก สีดำ
ฟัน ขบแบบเสมอ หรือ UNDERSHOT เล็กน้อย
ลำตัว สั้นแข็งแรง ความสูงของลำตัวมีขนาดใกล้เคียงกับความยาว
ขาหน้า ตั้งตรง มีขนยาว เท้าหน้ามีขนาดใหญ่ เท้ากลมหนา มีขนยาว
ขาหลัง มีขนยาว เท้าหลังมีขนาดใหญ่กลม เท้าค่อนข้างหน้า มีขนยาว
หาง มีความยาวปานกลาง โคนหางอยู่ในระดับสูง หางยกอยู่เหนือหลัง หางมี
ขนยาว ปลายหางบิดเล็กน้อย
น้ำหนัก ประมาณ 18-30 ปอนด์
ส่วนสูง ประมาณ14-16 นิ้ว
ข้อบกพร่อง จมูกไม่ใช่สีดำ ขบไม่ดี
Vizsla
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้มีชื่อเรียกอีก อย่างหนึ่งว่า
HUNGARIAN POINTER ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศ ฮังการี และสันนิษฐานว่าสุนัขพันธุ์นี้กระจาย
อยู่ในทวีปยุโรป ตอนกลางมากว่าพันปีแล้ว จากภาพหินสลักซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นใน
ศตวรรษที่ 10 มีรูปนักล่าสัตว์ชาว MAGYAR นำนกอินทรี และสุนัขปรากฎ อยู่ร่วมกัน
และสุนัขที่ว่านี้มี ลักษณะคล้าย สุนัขพันธุ์ VIZSLA ในสงครามโลกครั้งที่1แล 2
จำนวนสุนัข พันธุ์ VIYSLA ได้ลดจำนวนลงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่รัสเซียเข้าครอบครอง
ฮังการี ในปี 1945 แต่ชาวฮังการีบาง ส่วนได้นำสุนัขพันธุ์นี้อพยบไปอยู่ส่วนอื่น
ๆ ของยุโรป และแพร่พันธุ์ต่อมา
อุปนิสัย ฉลาด ปราดเปรียว เป็นนักล่าในสภาพต่างๆ ได้ดี
ส่วนหัว หัวกะโหลกระหว่างหูค่อนข้างกว้าง และมีร่องลาดจรดหน้าผาก
หู บางมีขนาดพอเหมาะ หูตกชิดแก้ม
ตา มีขนาดพอเหมาะ ตาค่อนข้างลึก สีของตาจะเหมือนสีของขน หนังตาตึง
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักพอสมควร แต่ไม่มาก
ปาก (muzzle) มีความยาวใกล้เคียงหรือสั้นกว่าหัวกระโหลกเล็กน้อย ขนาดของปากจากดั้ง
จมูกจะเรียวลงสู่ปลายจมูก ปากมองจาก หน้าคล้ายรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เส้นที่ลากจากบนปากตรง
ริมฝีปากบนปิดริมฝีปากล่างสนิท ริมฝีปากต้องไม่ห้อย
จมูก สีน้ำตาล มีความสามารถในการดมกลิ่นได้ดี
ฟัน ขบแบบกรรไกร
ลำตัว ค่อนข้างสั้น แข็งแรง
คอ มีกล้ามเนื้อแข็งแรง หนังคอตึงไม่ย่น คอยาวพอเหมาะ ลำคอเชื่อมต่อกับไหล่โดยไม่มีรอย
ต่อใด ๆ ซึ่งทำให้ช่วงท้ายของลำตัวดู สมดุลกัน
ลำตัวส่วนหน้า ไหล่ค่อนข้างสูงลาดเอียงจรดสะโพก
อก ค่อนข้างกว้าง และลึกจรดข้อศอก ซี่โครงกางพอเหมาะ
ขาหน้า มีกล้ามเนี้อแข็งแรง ขาตั้งตรง มองจากด้านหน้าขาทั้งสองตั้งตรงขนานกัน เล็บสีน้ำต
าลตัดสั้น
ขาหลัง มุมขาหลังทำมุมพอประมาณ มองจากด้านท้าย ขาหลังทั้งสองขนานกัน
หาง โคนหางอยู่ต่ำกว่าระดับเอว และตัดเหลือประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของหางเดิม หางยกสูง
หรือไม่ต่ำกว่าแนวระนาบ
ขน-สี สั้นเรียบ ขนแน่น มีขนขั้นเดียว สีแดง
ส่วนสูง เพศผู้สูง 22-24 นิ้ว เพศเมีย สูง 21-23 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง ก้าวเท้ายาว การก้าวย่างสมดุลย์กัน
ข้อบกพร่อง จมูกมีสีอื่นที่ไม่ไช่สีน้ำตาล,ตาสีเหลือง,ไม่ตัดหาง,อกด่างมาก,เท้าด่างมีสีดำเป็น
หย่อม ๆ มุมขาหลังกว้างมากเกินไป
Weimaraner
AUS,CAN,FCI,S.AF,UKC
ถิ่นกำเนิด เยอรมันนี
น้ำหนัก 70-85 ปอนด์
ความสูง 23-28 นิ้ว
ขน พันธุ์ขนสั้น ขนจะสั้นละเอียก แต่แข็ง พันธุ์ขนยาว ขนยาว 1-2 นิ้ว จะมีระบาย
แบบเดียวกับสุนัขพันธุ์ เซ็ทเตอร์
สี สีเทาอ่อนทั้งตัว
จัดอยู่ในกลุ่ม Sporting Dog
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในต้นศตวรรษที่
๑๙ โดยชาวเยอรมัน ซึ่ง คัดเลือกลักษณะที่ดีของสุนัขกีฬา ต่างๆ มาไว้ด้วยกัน มีขนาดปานกลาง
มีความปราดเปรียว วิ่งได้เร็ว ใช้เป็นสุนัขเก็บนก หรือ กีฬาล่าสัตว์ต่างๆ
อุปนิสัย ซื่อสัตย์ มีความฉลาดพอสมควร นิยมใช้ฝึกเพื่อ เป็นเพื่อนของมนุษย์
ส่วนหัว ค่อนข้างยาว กึ่งกลางหัวมีร่องจรดหน้าผาก
หู โคนหูค่อนข้างสูง หูตกชิดแก้ม
ตา สีอัมพัน หรือเทา แต่เวลาตื่นตัวจะเป็นสีเข้ม
ดั้งจมูก มีมุมหักพอสมควร
ปาก ความยาวปากมีขนาดใกล้เคียงกับความยาวของหัว กระโหลก
จมูก สีเทา
ฟัน ขบแบบกรรไกร เหงือกสีชมพู
ลำตัว มีความยาวพอเหมาะ เส้นหลังตรง ลาดเอียงจากไหล่สู่สะโพก
คอ ค่อนข้างยาว หนังคอตึงไม่หย่อนยาน
อก ค่อนข้างลึกจรดข้อศอก ซี่โครงกางพอเหมาะ
ขาหน้า ตั้งตรง ข้อศอกอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของความสูง มองจากด้านหน้าขาหน้าตั้งตรงขนานกัน
นิ้วเท้าชิดกัน เล็บตัดสั้น
ลำตัวส่วนท้าย ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหลัง มุมขาหลังทำมุมพอเหมาะ
หาง ตัดเหลือประมาณ ๖ นิ้ว หางยกสูง
ขน-สี ขนสั้น สีเดียวทั่วทั้งตัว อาจมีสีเทา อกมีสีขาวได้เล็กน้อย
ส่วนสูง เพศผู้ ๒๕-๒๗ นิ้ว เมีย ๒๓-๒๕ นิ้ว
การเดิน-วิ่ง การวิ่งสัมพันธ์กัน ขณะวิ่งเส้นหลังตรง
ข้อบกพร่อง ขนยาว, หางตัดสั้นหรือยาวเกินไป หรือไม่ตัดหาง, หูสั้นเกินไป การเดินไม่ดี
Welsh Corgi (Pembroke)
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้เกิดจากการผสม ข้ามพันธุ์หลายพันธุ์คือ
KEESHOND, POMERANIAN, SAMOYED, CHOW CHOW, NORWEGIAN ELKHOUND และ FINNISH SPITZ
สุนัขพันธุ์นี้ไม่มีเชื้อ สายของสุนัขพันธุ์ CARDIGAN สุนัขพันธุ์ CARDIGAN และ
PEMBROKE CORGI จะพบความแตกต่าง ดังนี้ PEMBROKE ตัวจะสั้นกว่า กระดูกขาเล็กกว่า
ขนนุ่มกว่า ปลายหูแหลมกว่า และ ไม่มีหาง ในต้นศตวรรษที่ 19 มีการนำสุนัขทั้งสองพันธุ์มาผสมข้าม
พันธุ์กัน แต่ปัจจุบันจะนิยมไม่ให้มีการผสมข้ามพันธุ์กัน
อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง ไม่ขลาดกลัว
ส่วนหัว มีลักษณะคล้าสุนัขจิ้งจอก หัวกะโหลกแบนและกว้าง แก้มค่อนข้างโค้งมน
หู ตั้ง มีขนาดปานกลาง
ตา มีลักษณะกลมรี ขนาดปานกลาง ตามีสีใกล้เคียงกับลำตัว ขอบตาสีดำ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักปานกลาง
ปาก (muzzle) มีความยาวน้อยกว่าความยาวของหัวกะโหลกประมาณ 3 ต่อ 5
จมูก สีดำ
ฟัน แข็งแรง ขบแบบกรรไกร หรือขบแบบเสมอ
ลำตัว มีความสูงใกล้เคียงกับความยาว เส้นหลังตรงแข็งแรง
คอ ค่อนข้างยาว ทำให้สุนัขดูสมดุลย์
อก กว้าง และลึก
ขาหน้า มีขนาดสั้น ขาหน้าตั้งตรง ข้อเท้าหน้าแข็งแรง ตั้งฉากกับพื้นเท้าหน้ามีลักษณะกลมรี
นิ้วเท้า ชิด เล็บตัดสั้น
ขาหลัง ท่อนบนประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ข้อเท้าหลังทำมุมพอประมาณ ข้อเท้าหลังแข็งแรง
ตั้งฉาก กับพื้น มองจากด้านหลังขาหลังทั้งสองขนานกัน
หาง อาจจะกุดตั้งแต่กำเนิด หรือตัดให้กุด
ขน-สี ขนมีสองชั้น ขนมีหลายสี เช่น น้ำตาล จนถึงแดงเข้ม หรือ ดำ-น้ำตาล อาจจะมีสีอื่นเป็น
MARKING หรือไม่มีก็ได้
ขนาด ความยาวของลำตัวจะยาวกว่าความสูงประมาณ 40%
น้ำหนัก ประมาณ 25-30 ปอนด์
ส่วนสูง ส่วนสูงประมาณ 10-12 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง ขณะเดิน-วิ่ง ขาหน้า-หลัง เคลื่อนที่ในแนวดิ่งเป็นเส้นตรง
ข้อบกพร่อง หูตก ฟันขบแบบ OVERSHOT หรือ UNDERSHOT นิสัยขลาดกลัว
Welsh Terrier
ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มีประวัติอันยาวนานพันธุ์หนึ่ง
ในสมัยก่อนมี ชื่อเรียก ต่าง ๆ กัน เช่น OLD ENGLISH TERRIER,BLACK AND TAN WIRE
HAIR TERRIER เป็นสุนัขที่มีความว่องไว ปราดเรียว ในสมัยก่อนนิยมใช้ล่า สุนัขจิ้งจอก
หรือตัว BADGER ตลอดจนสัตว์ที่ชอบขุดรูอยู่ WELSH TERRIER เป็นสุนัขที่มีขนาด กะทัดรัด
รูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง เป็นมิตร สามารถอยู่ร่วมกับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ได้
ส่วนหัว มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หัวกะโหลกแบน แก้มมีลักษณะแบน หนังหัวตึง
ไม่มี รอยย่นใด ๆ หูมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูปตัว V หูพับไปด้านหน้า
ตา สีดำ มีขนาดเล็ก เป็นรูปกลมรี ตาทั้งสองข้างอยู่ห่างกันแววตาตื่นตัวเสมอ
ดั้งจมูก (stop) มีมุมหักเล็กน้อย
ปาก (muzzle) ความยาวของปากมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวของส่วนหัวทั้งหมด
ปากมีลักษณะแข็งแรง มองจากภาพตัดขวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ริมฝีปากตึง สีดำ
ฟัน มีขนาดใหญ่ แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีลักษณะแข็งแรง เส้นหลังตรงขนานกับพื้น
คอ มีความยาวพอประมาณ ลักษณะโค้ง หนังคอตึง
ขาหน้า ตั้งตรงประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ข้อเท้าแข็งแรง เท้าหน้าเล็ก คล้ายเท้าแมว
ลำตัวส่วนท้าย มีกล้ามเนื้อมากทำให้มีพละกำลังเอว ค่อนข้างสั้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
ขาหลัง ข้อเท้าหลังตรงและสั้น ข้อเท้าหลังทั้งสองขนานกัน เท้าเล็กนิ้วเท้าชิด คล้ายเท้าแมว
หาง นิยมตัดให้มีความยาวระดับเดียวกับปลายหัวกะโหลกเพื่อให้รูปร่างของสุนัขดูมีลักษณะ
เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ขน-สี มีขนสองชั้นขนชั้นในนุ่ม ขนชั้นนอกแข็งหยิกเป็นคลื่นมีเครายาว บริเวณลำตัวมีสีดำ
ส่วนบริเวณปากและขามีสีน้ำตาล
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก เฉลี่ยประมาณ 20 ปอนด์
ส่วนสูง เพศผู้สูงประมาณ 15-1505 นิ้ว ส่วนเพศเมียจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย
การเดิน-วิ่ง มีความสง่างาม ขณะวิ่งขาตรงไม่บิดงอ
Whippet
AKC, AUS, CAN, CKC, FCI, S.AF, TKC, UKC
ถิ่นกำเนิด ประเทศอังกฤษ
น้ำหนัก 28-30 ปอนด์
ความสูง 12 นิ้ว
ขน สั้นปานกลาง แข็ง และแน่น
สี แดง สีน้ำตาล หรือสีทอง แฟนซี สีดำ สามสี
จัดอยู่ในกลุ่ม Hound
ลักษณะทั่วไป มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษบาง คนเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่า
ENGLISH GREYHOUND เป็นสุนัขขนาดเล็ก วิ่งเร็ว สง่างา มเป็นเลิศ นิยมใช้ใน กีฬาล่าสัตว์
เช่น กระต่าย หนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬา วิ่งแข่งของสุนัข เนื่องจากมี่ช่วงกระโดดกว้าง
และ น้ำหนักตัวน้อย จึงทำให้การสูญเสีญพลังงานต่ำ
อุปนิสัย สุภาพ เรียบร้อย ไม่ชอบเห่า เหมาะสำหรับ เลี้ยงไว้ในบ้าน
ส่วนหัว หัวยา หัวกะโหลกระหว่างหูค่อนข้างกว้าง
หู เล็ก มีขนนุ่ม หูม้วนและลู่ไปด้านหลัง
ตา ใหญ่ สีเข้ม
ปาก (muzzle) ยาว มีพละกำลังในการกัดมาก
จมูก สีดำ
ฟัน ขาว แข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ลำตัว หลังกว้าง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง เส้นหลังจากหัวไหล่จรดเอวเป็นเส้นตรง
จากเอ ว จรดโคนหางโค้งมน
คอ ยาว ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ หนังคอตึงไม่ย่นยาน ดูสง่างาม
ลำตัวส่วนหน้า หัวไหล่ ยาว ประกอบด้วยกล้ามเนื้อพอประมาณ
อก ลึก แข็งแรงมากเกือบจรดข้อศอก
ขาหน้า มองจากด้านหน้าตั้งตรง ตั้งฉากกับพื้น ขาทั้งสองห่างกันพอเหมาะ นิ้วเท้าแข็งแรง
ชิด กัน เล็บตัดสั้น
ลำตัวส่วนท้าย ยาวโค้ง และมีพละกำลังมาก
เอว ค่อนข้างสั้น
ขาหลัง มองจากด้านหลังตรง ขาทั้งสองขนานกัน ไม่บิดเข้าหรือออก นิ้วเท้าแข็งแรง
นิ้วเท้าชิด กัน เล็บตัดสั้น ข้อเท้าแข็งแรงตั้งฉากกับพื้น
หาง ยาว โคนหางใหญ่ และเรียวลงสู่ปลายหาง ปลายหางอยู่ระหว่างข้อเท้าหลัง หางโค้งเล็กน้
อย เวลาวิ่งยกสูงแต่ไม่สูงกว่าระดับหลัง
ขน-สี ขนสั้น นุ่ม สีอะไรก็ได้
ขนาด เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก
น้ำหนัก ประมาณ 20 ปอนด์
ส่วนสูง เพศผู้ 19-22 นิ้ว เพศเมีย 18-21 นิ้ว
การเดิน-วิ่ง วิ่งเร็ว สง่างาม การวิ่งใช้กำลังน้อยมาก
ข้อบกพร่อง ตาสีจาง นิ้วกาง หางม้วน ฟันขบผิดปกติ ขนยาว
Yorkshire Terrier
ลักษณะทั่วไป
สุนัขพันธุ์นี้ YORKSHIRE TERRIER เป็น สัตว์เลี้ยงแฟชั่น ในสมัยของพระนางวิคตอเรีย
สุนัขพันธุ์นี้เกิด จากการผสมข้ามพันธุ์ WATERSIDE TERRIER BLACK AND TAN ENGLISH
TERRIER, PAISLEY TERRIER และ CLYDESDALE TERRIER, YORKSHIRE TERRIER เป็นสุนัขที่มีขนา
ดเล็กขนยาวจรดพื้น ขนเป็น ประกายคล้าย แพรวไหม จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงของสตรีทั่วไป
สุนัข พันธุ์นี้ต้องได้รับการเอาใจใส่ดูแล รักษาขนพอสมควร
อุปนิสัย ฉลาด ร่าเริง
ส่วนหัว มีขนาดเล็ก ส่วนบนของหัวค่อนข้างแบน
หู มีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นรูปตัว V หูตั้ง
ตา มีขนาดปานกลาง ตามีสีเข้ม ตาแววเป็นประกาย
ปาก (muzzle) มีขนาดไม่ยาวมาก
จมูก สีดำ
ฟัน มีขนาดใหญ่ ขบแบบเสมอหรือขบแบบกรรไกร
ลำตัว มีลักษณะสั้น เส้นหลังตรงอยู่ในแนวระดับ
ขาหน้า ตรง ข้อศอกไม่บิดเข้าหรือออก เท้ากลม เล็บสีดำ นิ้วติ่งต้องตัดออก
ขาหลัง เมื่อมองจากด้านหลัง ขาหลังตั้งตรง ข้อเท้าทำมุมพอประมาณ เท้ากลม เล็บสีดำ
นิ้วติ่งต้องตัดออก
หาง ตัดให้สั้นพอประมาณ หางตั้งอยู่เหนือระดับหลัง
ขน-สี คุณภาพของขนถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ขนมีลักษณะเหยียดตรงเป็นประกายคล้ายแพรวไหม
ควรแต่ง ขนบริเวณลำตัวให้เสมอ พื้น ขนบริเวณหัวยาวอาจจะผูกด้วยโบว์เดี่ยวหรือโบว์คู่ก็ได้ขนที่ฝ่าเท้าตัดให้สั้น
บริเวณลำตัวสีเทาเข้มเงา บริเวณหัวอก และ ขาสีน้ำตาลเงา
ขนาด เป็นสุนัขขนาดเล็ก น้ำหนัก ไม่เกิน 7 ปอนด์