Note:
คำถามเหล่านี้พบบ่อยมาก จากไม่ว่าจะจากคนไทย หรือว่าเืพื่อนต่างชาติ หรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่ส่ง
e-mail มาถาม คำถามที่โดนถามบ่อยที่สุด แน่นอนค่ะ คือคำถามว่า กันแดดขวดนี้ดีรึยัง?
แล้วเพื่อนก็จะยื่นขวดกันแดดมาให้ดู แต่ว่านั่นเป็นคำถามธรรมดาเกินไป ลองอ่านดูนะคะ
จะพบว่าคำถามที่มีบ่อยๆน่ะ มีตั้งแต่ธรรมดา ถึงประหลาด ลองอ่านดูค่ะ
SPF UVB UVA
รังสียูวีบี ยูวีเอ ทำไมมันวุ่นวายนัก ต้องสนใจมันด้วยเหรอ?
ผิวสีแทน กับ ทำยังไงไม่ให้ดำลง
อยากแทนบ้างนิดหน่อย ไปตากแดดนิดๆให้แทนบ้างดีไหม?
ไม่อยากผิวแทนเลยค่ะ ทากันแดดทุกวันตอนเช้าๆ ยังไงก็ดำ ทำไงดีคะทำไมมันดำได้ล่ะเนี่ย?
กันแดดกับอากาศ ไม่ทาจะได้ไหม
วันนี้มีเมฆฟ้ามืดๆ แดดไม่มีต้องทากันแดดด้วยเหรอคะ? (กลางวัน)
อยู่เมืองนอกหน้าหนาว หิมะตกเพียบ แดดก็ไม่มี ทำไมต้องทากันแดดด้วยล่ะ?
ทำไมบางคนโดนแดดแล้วดำง่ายกว่าคนอื่น หรือว่าผิวไหม้ได้ง่ายกว่าปกติ?
จะรู้ได้ยังไงว่าดีหรือไม่ดี
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้กันแดดชนิดไหน? Alcohol based, oil based or cream based?
จะรู้ได้อย่างไรว่ากันแดดที่มีอยู่ดีหรือไม่ดี?
ทาซ้ำระหว่างวัน
กันแดดต้องทาซ้ำ แต่ว่าทาซ้ำทุกๆกี่ชม?
ปกติแต่งหน้าไปทำงานค่ะ จะทากันแดดซ้ำยังไงคะ ทาทับลงไปเฉยๆเครื่องสำอางก็เลอะหมดสิคะ?
เรื่องอื่นๆ
ทากันแดดไม่ได้ค่ะ ทาแล้วหน้าเป็นผื่นแพ้ ทำยังไงดีคะ?
ต้องทากันแดดที่ริมฝีปากกับตาไหมคะ? แล้วทำไมกันแดดที่ทารอบตามันต้องเป็นแท่งๆเรื่อยเลย ทายากจัง
ตอนกลางคืนต้องทากันแดดไหมคะ ในห้องมีไฟฟลูออเรสเซ่น แล้วก็ใช้คอมพิวเตอร์มากค่ะ.
ต้องทากันแดดตอนนอนไหม เพราะว่าตื่นสาย แต่กลัวดำจังค่ะ พอตื่นแล้วข้างนอกมองออกไปแดดก็จ้าแล้วอ่ะค่ะ
SPF คืออะไร?(top)
SPF หรือ sun protection factor เป็นตัวเลขบอกว่ากันแดดนั้นจะทำให้คุณอยู่กลางแดดได้นานเท่าไหร่โดยผิวไม่ไหม้ (ผลของรังสียูวีบี) ตัวเลข SPF บอกแค่ประสิทธิภาพการป้องกันยูวีบีเท่านั้นนะคะ
วิธีคิดคร่าวๆก็คือ
ถ้าปกติผิวคุณเปลี่ยนสีตอนไปอยู่กลางแดดติดต่อกันสัก 10 นาที ก็ให้เอาค่า SPF
มาคูณ เช่น 10 minutes * SPF 15 = 150 นาที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรใช้ตัวเลขค่า
SPF เป็นแนวทางคร่าวๆค่ะ ไม่ควรนำมาคิด เพราะว่าตามปกติเราไม่ทากันแดดมากเท่าที่ควรจะทาอยู่แล้วน่ะค่ะ
รังสียูวีบี
ยูวีเอ ทำไมมันวุ่นวายนัก ต้องสนใจมันด้วยเหรอ? (top)
อธิบายง่ายๆ ก็คือ แสงที่ผ่านเข้ามาในโลกเราน่ะ มีทั้งแบบที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น
แสงขาวหรือแสงที่เรามองเห็นก็คือแสงแดดปกติ ส่วนอีกส่วนหนึ่งคือแสงที่เรามองไม่เห็น
หรือ แสงเหนือม่วง (Ultraviolet) แสงกลุ่มนี้อันที่ผ่านเข้ามาในโลกก็คือ ยูวีบี
และยูวีเอ
สาเหตุที่ต้องใส่ใจก็เพราะว่ายากันแดดที่คุณใช้อาจจะใส่สารกันแดดไว้ไม่ครบ สารกันยูวีบีส่วนมากจะใส่ไว้ครบไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าค่า SPF ก็บอกค่ากันรังสียูวีบีอยู่แล้ว แต่ว่าสารกันยูวีเออาจจะใส่ไว้ไม่ครบ กันได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หรือร้ายกว่านั้นคือไม่ใส่ไว้เลย นั่นคือสาเหตุที่ควรใส่ใจกับสารกันแดดในยากันแดดของคุณน่ะค่ะ ควรดูว่ามันกันได้ครบจริงๆไหม
อยากแทนบ้างนิดหน่อย
ไปตากแดดนิดๆให้แทนบ้างดีไหม? (top)
เรื่องจริงที่คนไม่ค่อยจะเชื่อแม้จะพยายามบอกยังไงก็ตามคือ คำว่า healthy tan
น่ะ ไม่มีค่ะ แต่ว่าคนไม่ค่อยเชื่อ ทั้งๆที่น่าจะคิดดูเหตุผลได้ไม่ยากนัก ผิวสีแทน
หรือผิวคล้ำลง คือผลของการที่เมลาโนโซท์ผลิตเมลานินออกมามากกว่าปกติ ทำให้ผิวเราคล้ำลง
สีแทนที่เกิดขึ้นจากการตากแดด "นิดหน่อย" ก็คือการบอกว่าผิวเรากำลังถูกรังสียูวีทำร้ายทำให้ร่างกายต้องสร้างเม็ดสีออกมาค่ะ
ดังนั้น....แทนนิดๆดีไหม "ไม่ดีค่ะ" ถ้าอยากแทนใช้ fake tan หรือ tan
in a bottle นะคะ ปลอดภัยสุด
ไม่อยากผิวแทนเลยค่ะ
ทากันแดดทุกวันตอนเช้าๆ ยังไงก็ดำ ทำไงดีคะทำไมมันดำได้ล่ะเนี่ย? (top)
ปัญหาของเรื่องที่ว่าทำไมผิวดำ ถึงแม้จะทากันแดดเนี่ย เป็นปัญหาที่ตอบไม่ยากหรอกค่ะ
แต่ว่าเข้าใจยากสักหน่อย ตอบง่ายๆก่อนแล้วกันนะคะ
ขั้นแรกต้องดูให้แน่ใจจริงๆว่ากันแดดที่คุณใช้น่ะ กันได้ครบทั้งรังสียูวีเอ และบีหรือไม่ จากนั้นก็ดูปริมาณการทา และการทาซ้ำในระหว่างวัน ทั้งสองเรื่องนี้คือปริมาณและการทาซ้ำ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่ากันแดดโดนลมโดนมือโดนเหงื่อมันก็หลุดไปได้เยอะแล้วค่ะ ต้องทาซ้ำด้วย ส่วนในเรื่องของปริมาณการทาก็คือ ถ้าทาน้อยกว่าปริมาณที่เค้าใช้วัดค่า SPF ก็อาจจะได้การปกป้องน้อยกว่าที่คุณคิด
ทีนี้ลองคิดดูง่ายๆ ถ้าคุณทากันแดดน้อยกว่าปริมาณที่ควรทาแล้วก็ออกไปตากแดดนานๆ ยังไงก็ดำน่ะค่ะ เพราะว่าการที่เราทากันแดด ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถออกไปซ่ากลางแดดกันได้นานๆ มันแค่หมายความว่ามันปกป้องผิวเรามากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ แต่ว่ามันก็เสื่อมสลายไปได้ ต้องมีการทาเพิ่มด้วยนะคะ
ปัญหาที่พบประจำในคนที่ใช้กันแดดก็คือ 1) ทาน้อยกว่าปริมาณที่ควรทา 2) ไม่ค่อยทาซ้ำระหว่างวัน 3) ลืมทาซ้ำหลังออกกำลัง หรือว่าเล่นกีฬา 4) ใช้กันแดดนานเกินไป ใช้แล้วมั่นใจจัด ออกไปซ่ากลางแดดนานๆ (สาเหตุของการที่ทำให้ผิวเสียเลยแหละค่ะ)
ถ้าอยากอ่านต่อไปอ่านได้ที่นี่นะคะ
http://www.skincancer.org/news/010817-sunscreen.php
(ภาษาอังกฤษ)
วันนี้มีเมฆฟ้ามืดๆ
แดดไม่มีต้องทากันแดดด้วยเหรอคะ? (กลางวัน) (top)
จะมีแดด
หรือไม่มีแดด รังสียูวีก็ทะลุผ่านเมฆมาได้ค่ะ ยูวีบีอาจจะถูกกรองออกไปส่วนหนึ่ง
เราเลยผิวไม่ไหม้ แต่ว่ายูวีเอยังทะลุผ่านได้สบายใจเฉิบ ดังนั้นยังไงก็ควรทากันแดดป้องกันไว้ด้วยนะคะ.
อยู่เมืองนอกหน้าหนาว
หิมะตกเพียบ แดดก็ไม่มี ทำไมต้องทากันแดดด้วยล่ะ?(top)
เหตุผลก็คล้ายกับคำถามด้านบนค่ะ คือว่ารังสียูวีมันทะลุผ่านเมฆได้อยู่ดีน่ะ แต่ว่านอกจากผ่านเมฆได้แล้วมันยังสะท้อนหิมะขาวๆ
หรือว่าน้ำแข็งที่แข็งเป็นแผ่นอยู่บนพื้นได้อีกด้วย ลองสังเกตดูนะคะ หน้าหนาวหิมะตกมากๆ
อากาศจะแห้ง แล้วก็ปากก็จะแตกแห้งง่ายกว่าปกติมาก ผลของลม และความชื้นในอากาศน้อยก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง
แต่ว่ารังสียูวีที่สะท้อนจากพื้นก็ช่วยทำให้ผิวเสียมากขึ้นไปอีก เวลาไปเล่นสกีเรายังต้องทากันแดดหนาเลยนี่คะ
ดังนั้นหน้าหนาวหิมะตกก็ต้องทาค่ะ.
ทำไมบางคนโดนแดดแล้วดำง่ายกว่าคนอื่น
หรือว่าผิวไหม้ได้ง่ายกว่าปกติ? (top)
คนที่ผิวโดนแสงแล้วดำง่าย (Tan แต่ไม่ไหม้) ก็เกิดจากเม็ดสีสร้างออกมามาก ส่วนคนที่ผิวไหม้
ก็คือคนที่โดนแดดมากจนเม็ดสีตามธรรมชาติของร่างกาย ไม่สารมารถปกป้องผิวได้อีกต่อไป
ผิวก็เลยถูกทำลายได้(ไหม้) คนผิวจะไวแสงหรือไม่ไวแสง ขึ้นอยู่กับปริมาณเม็ดสีที่ร่างกายสามารถสร้างได้ค่ะ
บางคนผิวไม่เปลี่ยนสีเป็นแทน แต่ว่าจะไหม้เลยก็มี (ไม่รวมไปถึงแพ้หรือไม่แพ้ยากันแดดนะคะ
เพราะว่าบางคนแพ้กันแดดที่มีสารพาบา ก็เลยกลายเป็นผิวไวแสง เพราะว่ายากันแดดไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีในผิวหนัง)
ดังนั้นไ่ม่จริงเลยที่ว่าคนผิวสีคล้ำจะไม่ถูกแดดทำลายผิว เพราะถ้าโดนแดดติดต่อกันไปนานๆ เมลานินที่ผิวสร้างขึ้นมาก็ไม่สามารถปกป้องผิวได้ ผิวก็ไหม้อยู่ดี นอกจากนั้นก็ยังต้องคำนึงถึงด้วยว่าเมลานินสามารถปกป้องกันไม่ให้คุณผิวไหม้ได้แค่นั้น แต่ว่าไม่ได้ปกป้องการทำลายคอลาเจนในผิว ซึ่งเกิดจากการทำงานของยูวีเอ ถ้าคนผิวคล้ำหน่อย ออกไปตากแดดนานๆ คุณอาจจะไม่ดำขึ้น แต่ว่าถ้าเทียบกับคนผิวขาวกว่าที่ทากันแดดตลอดเวลา เมื่อผ่านไปนานๆ คุณจะเห็นได้ว่าผิวคุณเหี่ยวก่อนวัยอันควรค่ะ
คนทุกคนต้องทากันแดดหรือไม่?
(top)
คงจะแปลกใจถ้าพบว่าคำตอบคือ ไ่ม่จำเป็นค่ะ เด็กที่อายุน้อยมากๆ เช่นยังไม่ครบขวบ
ไม่ควรทากันแดด เพราะว่าผิวเด็กจะแพ้ไ้ด้ง่าย และสารกันแดดบางอย่างอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
ในเด็กที่อายุน้อยๆ ควรใช้วิธีใส่เสื้อผ้าแขนยาวหน่อย ถ้าอย่างเมืองไทยก็ เสื้อผ้าฝ้ายแขนยาว(จะได้ไม่ร้อน)
แล้วก็หลบแดด อย่าเอาเด็กไปตากแดด ย้ำอีกครั้งนะคะ ห้ามทากันแดดในเด็กอ่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ายังไม่ถึง 6 เดือนนี่ห้ามโดยเด็ดขาด
กลุ่มที่สองที่ไม่ควรทากันแดดก็คนที่แพ้สารกันแดดน่ะสิคะ
นอกนั้นไ่ม่ว่าจะผิวเข้มผิวขาว ก็ควรทาควรเลือกค่า SPF ให้เหมาะกับการใช้งานด้วยค่ะ
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้กันแดดชนิดไหน?
Alcohol based, oil based or cream based? (top)
หลักการง่ายๆก็คือว่าดูผิวตัวเองเป็นหลักค่ะ ผิวมันหรือว่ามีสิวง่ายก็ควรใช้กันแดดน้ำหนักเบาเช่นพวกน้ำ
หรือ แอลกอฮอล์ แต่ว่าถ้าคนผิวธรรมดาหรือว่าแห้งนิดหน่อยก็ใช้เนื้อเป็นโลชั่นได้
ส่วนกันแดดเนื้อเป็นครีม ควรจะให้คนผิวแห้งใช้ คนที่ผิวแพ้ง่ายควรใช้กันแดดที่มีแต่สารสะท้อนรังสีเท่านั้น
(titanium dioxide หรือ zinc oxide)
จะรู้ได้อย่างไรว่ากันแดดที่มีอยู่ดีหรือไม่ดี?
(top)
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีอยู่สองเรื่องค่ะ
1 ต้องการระดับการปกป้องแค่ไหน: ตามปกติถ้าใช้แบบไม่ตากแดดมากมาย ทำงานในตึกสำนักงาน สำหรับคนไทย ผิวไม่ใช่ขาวแบบฝรั่งคือผิวขาวแบบปนแทนนิดๆ ก็ SPF15 ก็พอถมไปแล้วค่ะ ไม่ต้องพอกกันแดด SPF50 60 130 หรอก เพราะว่ากันแดดมันไม่ได้ติดทนนานขนาดนั้น ยังไงก็ควรทาซ้ำบ้าง กันแดด SPF สูงๆ ราคาแพงขึ้นไปหลายเท่าโดยที่การกรองแสงออกไปไม่ได้แตกต่างกันมากนัก มันเป็นการสิ้นเปลืองโดนไม่จำเป็นค่ะ SPF ไม่สูงแต่ทาซ้ำบ่อยหน่อย ดีกว่า SPF สูงๆ แล้วทาหนเดียวทั้งวันนะคะ
2
สารสำคัญที่มีในกันแดดของคุณ: ดูให้แน่ๆว่ากันแดดของคุณมีสารป้องกันรังสียูวีเอหรือไม่
ถ้าจะให้แน่ๆ ใช้กันแดดแบบผสม ที่มีส่วนผสมของทั้ง chemical absorber และ physical
blocker จะได้แน่ใจว่ากันรังสียูวีได้ครบทั้งสองอย่างค่ะ
ทากันแดดยังไงดี?
(top)
หลักการง่ายๆ คือทาให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทาได้โดยที่ทาแล้วไม่รำคาญผิวนะคะ
เพราะว่าเวลาทดสอบหาค่า SPF น่ะ ใช้กันแดดค่อนข้างมากพอควร แต่ว่าเวลาทาจริงๆ
ใช้น้อยกว่าตอนที่ทดลอง เราก็ไม่ได้ค่า SPF เท่ากับที่เขียนไว้บนขวดยากันแดดหรอกค่ะ
ดังนั้นควรทาให้มากหน่อยค่ะ ไม่ว่าจะแพงจะถูกก็ต้องทาเยอะ เพราะว่าปริมาณสารกันแดดมันไม่ได้แตกต่างกัน
ราคาเป็นแค่สิ่งที่ตั้งขึ้นมาแค่นั้น แต่ถ้าดูสารที่ใช้ในการกันแดดก็จะพบว่าไม่แตกต่างกันหรอกค่ะไม่ว่าแพงหรือถูก
กันแดดต้องทาซ้ำ
แต่ว่าทาซ้ำทุกๆกี่ชม? (top)
1-2 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าเล่นกีฬาหรือว่ายน้ำก็ควรทาซ้ำบ่อยกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรทาหลังจากว่ายน้ำเสร็จ
เพราะว่ากันแดดหลุดไประหว่างการว่ายน้ำค่ะ
ปกติแต่งหน้าไปทำงานค่ะ จะทากันแดดซ้ำยังไงคะ ทาทับลงไปเฉยๆเครื่องสำอางก็เลอะหมดสิคะ? (top)
ล้างหน้าค่ะ ล้างหน้าก่อน แล้วค่อยทากันแดดซ้ำนะคะ แต่ว่าถ้าคุณแต่งหน้าเต็มที่ ไอ้การที่จะล้างหน้าแล้วแต่งใหม่คงเป็นไปไม่ได้ และคนที่ทำงานในสำนักงานก็โดนแดดน้อยไม่มากเท่าไหร่ ดังนั้นก็หาแป้งที่ผสมสารกันแดดมาไว้ใช้ก็ยังดีค่ะ ดีกว่าไม่เติมอะไรเลย ตอนเช้าก็ทากันแดดตามปกติ แต่งหน้าใช้แป้งผสมกันแดด หรือว่ารองพื้นผสมกันแดดเพิ่มเข้าไปด้วย แล้วระหว่างวันก็เติมแป้งผสมกันแดดน่ะค่ะ มันกันได้ไ่ม่ดีเท่าทากันแดดจริงๆ แต่ว่าถือคติว่า ทากันแดดแบบกันได้ครบ และทาซ้ำ ถือว่าดีที่สุด แต่ถ้าทำไม่ได้ เติมแป้งผสมกันแดดระหว่างวัน ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ทากันแดดไม่ได้ค่ะ
ทาแล้วหน้าเป็นผื่นแพ้ ทำยังไงดีคะ? (top)
ควรตรวจดูกันแดดที่ใช้ว่าไม่มีส่วนผสมของ PABA (para-aminobenzoic acid) เพราะว่าเสี่ยงต่อการแพ้สูงมากค่ะ
ถ้าแพ้ง่ายจริงๆควรใช้กันแดดแบบ physical sunscreen เพราะว่ากันแดดพวกนี้จะไม่ก่อให้เกิดการแพ้
สาร titanium dioxide และ zinc oxide เป็นสารสะท้อนรังสีที่ใช้เป็นปกติในยากันแดดสำหรับเด็กค่ะ
คุณก็สามารถใช้ได้เช่นกัน.
ขอย้ำอีกรอบนะคะ
ว่าให้ดูสารว่าคุณเองน่ะ แพ้สารอะไร การเปลี่ยนยี่ห้อกันแดด เช่นเปลี่ยนจากนิวโทรจิน่า
ไปใช้บานาน่าโบ๊ต บางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา หรือว่าเปลี่ยนจากกันแดดขวดละ
400 ไปซื้อขวดละ 3000 บาท มันก็อาจจะแพ้ได้อยู่ดี เพราะว่าสารที่ใช้ในการกันแดดยังเป็นสารเดิมอยู่
ถ้าคุณแพ้สารกันแดดไหน ไม่ว่าสารนั้นจะเปลี่ยนไปอยู่ในขวดพลาสติก หรือขวดแก้ว
แพงหรือถูก มันก็ยังจะก่อให้เกิดการแพ้อยู่ดีค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
ควรหันมาอ่านฉลากของเครื่องสำอางเืพื่อป้องกันตัวเองด้วยค่ะ
ต้องทากันแดดที่ริมฝีปากกับตาไหมคะ?
แล้วทำไมกันแดดที่ทารอบตามันต้องเป็นแท่งๆเรื่อยเลย ทายากจัง (top)
ริมฝีปากเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าที่ถูกละเลยมากที่สุด และเป็นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังมากเพราะว่าเรามักจะไม่ทากันแดดบนริมฝีปาก
หรือว่าถ้าทาก็จะหลุดได้ง่าย ส่วนบริเวณรอบดวงตาถ้าทากันแดดแล้วมันไหลเข้าตาก็แสบ
คนเลยไม่ค่อยทากันแดดกันในบริเวณนั้นเท่าไหร่นัก.
เหตุผลที่เราต้องทากันแดดที่ปากก็เข้าใจได้ง่าย
และปัจจุบันนี้ลิปมันก็ผสมสารกันแดดกันเยอะ หาซื้อได้ง่าย คำถามต่อไปคือว่าทำไมกันแดดที่ทารอบดวงตาถึงมาในรูปของแท่งๆ
ถ้าลองคิดดูก็จะพบว่าคำตอบค่อนข้างง่ายมากค่ะ คือเราไม่ต้องการให้สารกันแดดไหลเข้าไปในดวงตา
ถ้ากันแดดที่ทารอบดวงตาเป็นโลชั่นหรือน้ำ มันก็ไหลเข้าไปในตาได้ง่าย
คำถามสองคำถามข้างล่างอาจจะเหมือนเป็นเรื่องตลก
แต่ว่าสองคำถามนี้เป็นคำถามจริงๆ ที่พบบ่อยมากค่ะ และโดนถามมากเกินกว่าจะจำว่ากี่หน
เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่คำถามตลกนะคะ คำถามที่มีคนถามจริงๆค่ะ
ตอนกลางคืนต้องทากันแดดไหมคะ
ในห้องมีไฟฟลูออเรสเซ่น แล้วก็ใช้คอมพิวเตอร์มากค่ะ. (top)
คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่จอแบน หรือว่า Note book จะไม่มีการปล่อยรังสียูวีออกมานะคะ
แต่ว่าถ้าเป็นรุ่นเก่าก็มีบ้าง แต่น้อยมากแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ยกเว้นในกรณีที่คุณเป็นคนผิวบางมากๆจริง
ก็อาจจะต้องทากันแดดบ้างนิดหน่อยค่ะ แต่ว่าตามความเห็นส่วนตัวของรำเพยคิดว่าไม่จำเป็นเลย
เพราะว่าคนเราไม่ได้นั่งหน้าใกล้จอมากนะคะ ส่วนไฟฟลูออเรสเซ่นก็เหมือนกันค่ะ
คือมันอยู่ห่างจากเราพอควร ไม่ได้นั่งติดเพดาน ไม่เป็นไรค่ะ
ต้องทากันแดดตอนนอนไหม
เพราะว่าตื่นสาย แต่กลัวดำจังค่ะ พอตื่นแล้วข้างนอกมองออกไปแดดก็จ้าแล้วอ่ะค่ะ.
(top)
ไม่ได้พูดเล่นนะคะ คนถามคำถามนี้มีจริงๆ ไม่ใช่คนไทยค่ะ แต่ว่าเป็นสาวเอเชียนี่แหละ
กลัวดำมาก ก็ส่ง e-mail มาถาม ตอนแรกยังนึกว่าเค้าพูดเล่น เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้พูดเล่นนะ
ตอนนี้เค้ากลัวแดดจนต้องตื่นมาทากันแดดตอนตีห้าแล้วก็นอนต่อ (ลำบากลำบนจัง) เค้าถามว่าทาก่อนนอนเลยได้ไหม
เลยตอบเค้าไปง่ายๆมากค่ะ
ทางออกง่ายสุด ปิดม่านสิจ๊ะหนูจ๋า ธ่อ ง่ายกว่ากันเยอะเลย
