เด็กหนุ่มที่รู้อยู่แก่ใจตัวเองดีว่าคุณมีความฝัน เป็นความฝันที่จะตั้งวงดนตรีของตัวเอง วงซึ่งคุณเชื่อมั่นว่าจะต้องเป็นวงที่ดีที่สุดในโลกในสักวันหนึ่ง แล้วโอกาศก็จะมาถึง คุณดิ้นรนหนีออกมาจากบ้านเกิดที่แสนจะกักขังความฝันของคุณ และแล้วทุกอย่างก็เริ่มจะโผบินไปตามความฝัน

"ผมมองไปที่แสงไฟ แล้วคิดไปถึงตัวเอง ท่ามกลางแสงไฟนับพันล้านดวงนั้น ไม่มีใครสักคนรู้จักผม และเราก็เพียงแต่เดินหลุดพ้นออกมาจากที่เราไม่เคยได้ทำอะไรสักอย่าง นั่นเป็นตัวจุดประกายครั้งแรก "

Richard Ashcroft


Richard Ashcroft เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 1971 ที่ Billinge เมืองนอกสายตา แถบชานเมืองWiganที่อยู่ตรงกลางเมืองที่มีทีมฟุตบอลดัง อย่างแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูและเป็นเมืองที่แอชครอฟต์ มองว่า"ถ้าคุณใส่รองเท้าหนังหรูๆ และดื่มเบียร์สัก 19 ขวดได้แล้วก็คุณก็มีชีวิตเป็นของตัวเองละกัน"ริชาร์ด ในช่วงก่อนเป็นวัยรุ่นนั้นตัวผอมมากยังกับแป๊ปน้ำและยังมีปัญหาเรื่องปอด หมอคนหนึ่งบอกให้เขารู้ว่าเขาอาจจะต้องทนกับไข้หวัดไปตลอดชีวิต ริชาร์ดเข้าเรียนที่ up Holland School และยังเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ภาพถ่ายสมัยที่ยังเป็นนักเรียนทำให้เห็นว่าริชาร์ดเป็นคนตาโต และก็มีจมูกโต อย่างเห็นได้ชัด เพื่อนร่วมทีมฟุตบอล up Holland FC ของเขาที่ชื่อว่า Pete "Sobbo" Salisbory เคยทำจมูกเขาแตกมาเกินกว่าหนึ่งครั้งแล้ว ก่อนที่เขาจะ ร่วมเป็นสมาชิกในวงเดียวกัน

เมื่อตอนอายุ 16 ปีริชาร์ด ,ชอบโบ และ เพื่อนของเขาอีกคน Simom John ก็ออกจาก up Holland แล้วจับมือกันไปเรียนที่ Winstanley Sixth From Collage อยู่รวมกันเป็นแก๊งในแบบที่ Jonathan 'Chas'Chandler ซึ่งอยู่กับพวกเขามา เป็นปีพูดถึงริชาร์ดกับแก๊งของเขาว่า"พวกมันมีเรื่องหัวเราะด้วยกันตลอด และก็ทำงานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกมันครั่งดนตรีมาก พวกมันฟัง เพลงของ Can,Funkadelic,Zeppelin,The Stone และแน่นอนว่าต้องมี The Rolling Stone วงโปรดของทุกคน"

" ตอนที่ผมได้เห็นพวกเขาเล่นที่วอร์ชิงตันตอนปี 1989นั่นก็ทำให้ชิวิตผมเปลี่ยนไปเลย" ริชาร์ดพูดถึง The Roses " คนพวกนี้ทำท่าแล้วก็แต่งตัวเหมือนผมเลย และพวกเขาก็มาจาก ที่เดียวกันผม ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่บนเวทีหรือไม่ การที่ได้เห็นพวกเขาก็ทำให้ผมรู้ดีว่าผมทำอย่าง นั่นได้ดีได้เหมือนกัน ผมทำได้ดีกว่าเสียด้วย "

และที่ Winstanley นี่เองที่ทำให้ริชาร์ดได้พบกับ N ick McCabe ที่ทำให้ริชาร์ดพัฒนาฝีมือไปได้เร็ว หลังจากที่ได้ฟังนิกซ้อมดนตรีแล้ว ริชาร์คก็พูดถึง ซาวน์ดของนิกว่าราวกับ "เป็นจักรวาลหนึ่งสำหรับผม "หลังจากนั้นริชาร์ดก็หันหน้ามุ่งสูสิ่งที่ตนเองคิดไว้ก่อน หน้านี้แล้วทั้งๆที่ผลสอบวิชาศาสนาและปรัชญาในระดับเยี่ยม

เขาตามหาชอบโบ ซึ่งกำลังเรียนวิชาภูมิศาสตร์ที่ Stoke poly และก็ตามนิกซึ่งกำลังฝึกงานอยู่ที่ลิเวอร์พูล แล้วทั้งสี่คนก็เริ่มตั้งวงดนตรี พวกเขาขนานนามว่า Verve " เป็นชื่อที่ดี"ริชาร์ดพูด " VERVE หมายถึงความตื่นเต้นและอารมณ์"

The Verve ได้แสดงต่อหน้าสาธารณะครั้งแรกวันที่ 15 สิงหาคม 1990 ที่ผับ The Honeysuckle ในพูลสตอค นอกเมืองวีแกน บ้านเกิดของเขา Verve เล่นเพียงแค่สองเพลง คือ The sun,The sea และเพลงที่ตั่งชื่อ ประหลาดว่า Your Back! แล้วVerveก็ไม้ได้เล่นอีกนานเป็นปีเพราะว่าต้องมีมากกว่าสองเพลงและชอบโบ กับนิกก็เรียนอยู่ จนปี 1989 ริชาร์ดก็เรียกหาพวกเขาอีก " เรายังมีวงดนตรีกันหรือเปล่าวะ " เขาถาม ทั้งคู่ก็ต้องกระอักกับอาชีพที่ไม่เกี่ยวกับทางด้านเสียงเพลง Helliwe!!ต้องทำงานอย่างหนักทั่งที่ยังต้องได้ทุน จาก DHSS มาทำเพลงและเร่ขายเทปตอนซ้อมให้กับเพื่อนๆ

แล้วก็มีการแสดงครั้งที่สองที่แมนเชสเตอร์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1991 ข่าวคราวของวงก็เริ่มสะพัดไปใน ทำนองที่ว่ามีวงดนตรีร็อคมาแสดงคอนเสิร์ตแนวนีโอ-ไซคีเดลิ

แล้วก็เริ่มซ้อมในห้องซ้อมที่ Splash Studios พวกเขาทำเดโม(เพลง All In The Mind,The SunThe sea Silde Away และเพลงบรรเลงแนวไซคีเดลิก Verve Arising)โดยได้รับเงินทุนจากสังกัด Backs บันทึกเสียงกันในห้องรับแขกของโจนส์ สังกัดเพลงใหญ่ๆบางแห่งก็เริ่มมาดมกลิ่นแต่แล้วสังกัดเปิดใหม่ของ Virgin ที่ชื่อว่า Hut ดูจะกระตือรือร้นมากกว่าเพื่อน Verve ได้เซ็นสัญญากับ Hut ในกันยายน ปี 1991

และแล้ว THe Verve ก็ออกผลงานชิ้นแรก All In The Mind ที่บ่งบอกยี่ห้อของ Verve และด้วยความมั่นใจ ของริชาร์ด จากเนื้อเพลงที่ว่า she said You were born to fly my son / i said hey i already know สองซิงเกิลต่อมาคือ She' A Superstar วางแผง 1992 ผ่ากำแพงความยาว 9 นาที และ Gravity Grave ที่ยาว เกือบพอๆกัน She' A Superstar ขึ้นชาร์ตที่ 66 แต่ Gravity Grave ไม่ติด Top 75 เลย

ผลงานที่เคยทำที่สำคัญนั้น A Nothern Soul บอกความสับสนของ ริชาร์ด จากชีวิตวัยเด็ก History และ On Your Own สองเพลงบัลลาดที่งดงามในการแต่งเพลงแบบคลาสสิกของริชาร์ด

ในวันที่ 6 สิงหาคม 1995 ริชาร์ดขอแยกทางกับ จอห์น เบส เบสพูด " ริชาร์ดเป็นคนแบบที่เขาจะไม่ตอแหล ถ้าเขาไม่รู้สึก " และกับ นิกก็ห่างกันไป

Verve เคยเล่นกับ Oasis ที่ปารีส นิกถูกยามซ้อมเพราะทำบัตรหาย ต่อมาริชาร์ดได้เล่นเป็นวงเปิด ให้กับ Oasis เล่นอะคูสติก คนเดียว ทำให้ริชาร์ดพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นศิลปินเดี่ยว

ปี 1997 ริชาร์ดโทรฯไปหานิกแล้วขู่ว่าจะหยุดเล่นดนตรีถ้านิกไม่กลับมาร่วมวงอีก

กับผลงานชุดแรกพร้อมกลับไปที่นิวยอร์ค


Go Back!
Click Here!
Click Here!