ชีวประวัติ

Ella Fitzgeraldในปี 1934 Ella Fitzgerald ได้ขึ้นร้องเพลงในคืนประกวดสำหรับมือสมัครเล่นที่ Apollo Theater ในเมือง New York ทั้งๆที่จริงๆเธอตั้งใจจะขึ้นไปเต้นรำ แต่เธอตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจร้องเพลง 'Object of My Affection' และ 'Judy' และเธอก็คว้ารางวัลมาได้ คงจะเป็นเพราะเสียงอันไพเราะของเธอจึงได้ทำให้หัวหน้าวงชื่อ Chick Webb เกิดความสนใจขึ้นมา และในคืนนั้นเองได้เป็นจุดเริ่มของอาชีพนักร้องของ Ella Fitzgerald

หนึ่งในคำชมที่ดีที่สุดมาจาก Ira Gershwin (นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่คนนึงของยุคนั้น -ปกติIra จะเป็นคนแต่งเนื้อเพลง และGeorge Gershwin ผู้น้องจะเป็นคนแต่งทำนอง) ซึ่งได้กล่าวว่า

'I never knew how good our songs were until I heard Ella Fitzgerald sing them' - "ผมไม่เคยรู้เลยว่าเพลงของพวกเราจะดีขนาดนี้จนกระทั่ง Ella นำเอามาร้องนั่นแหละ"

Ella Fitzgerald เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1918 ที่ Newport News รัฐ Virginia เธอไม่แน่ใจว่าพ่อที่แท้จริงของเธอเสียชีวิต หรือ หย่ากับแม่ของเธอ ครอบครัวของเธอย้ายจาก Newport News มายัง Yonkers รัฐ New York เมื่อแม่ของเธอแต่งงานกับพ่อเลี้ยงชาวปอร์ตุเกส ตอนเด็กเธอเคยเรียนเปียโน เมื่อแม่ของเธอมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเรียน

เธอเล่าว่าแม่ของเธอชอบร้องเพลงไปรอบ ๆ บ้าน และชอบ Connee Boswell ซึ่งการร้องของ Ella Fitzgerald ก็คงได้รับอิทธิพลอย่างมาก จากแม่ของเธอซึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาจากพี่น้องวง Boswell นั่นเอง ( Boswell Sisters ประกอบด้วย 3 สาวพี่น้องจาก New Orleans มี Connee ซึ่งเป็นเหมือนหัวหน้าวงแม้ว่าเธอต้องนั่งรถเข็นเพราะเป็นโปลิโอ ภายหลัง Connee แยกออกไปแสดงเดี่ยว, Helvetia และ Martha )

ในปี 1934 ด้วยอายุย่างเข้า 16 ปี Ella Fitzgerald ได้ขึ้นร้องเพลงในคืนประกวดสำหรับมือสมัครเล่นที่ Apollo Theater ดังที่ได้เกริ่นไว้แล้วตอนต้น โดยการประกวดที่ Apollo นั้น แม่ของเธอเป็นคงไปลงชื่อสมัครไว้ให้ โดยตอนแรกเธอตั้งใจจะขึ้นไปเต้นรำ ซึ่งเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก ว่าอยากจะเป็นนักเต้น ในคืนวันประกวดเธอเป็นคนแรกที่ถูกเรียกออกไป และด้วยความตื่นเวทีจึงทำให้เธอเต้นไม่ออก เธอจึงตัดสินใจร้องเพลง 'Object of My Affection' และ 'Judy' และเธอก็คว้ารางวัล $ 25 มาได้ และในการประกวดครั้งนั้นเอง Benny Carter ซึ่งตอนนั้นเป็นนักดนตรี jazz ที่เป็นที่รู้จักกันดีแล้วก็ได้ร่วมเข้าฟังด้วย และคงจะติดใจในเสียงของเธอ เขาจึงพาเธอไปแนะนำให้กับ Chick Webb ซึ่ง Chick Webb ก็สนใจ โดยตอนแรกเขากะจะจ้างเธอแค่ชั่วคราวเพียงแค่อาทิตย์เดียว แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นการจ้างอย่างถาวร และเนื่องจากแม่ของเธอเพิ่งจะเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาและภรรยาจึงทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเธอไปด้วย หลายคนเชื่อว่าเขาและภรรยารับเลี้ยงเธอเป็นลูกบุญธรรมอย่างเป็นทางการ    (แม่ของ Ella ศีรษะกระแทกอย่างแรงในอุบัติเหตุรถยนต์ เพราะต้องการช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งที่นั่งไปด้วยเอาไว้)

และที่ Savoy Ballroom ซึ่งเป็นที่ๆ วงของ Chick Webb เล่นเป็นประจำนั้นเองที่ Ella ได้พบกับเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คือ Dizzy Gillespie และเธอก็ได้เรียนรู้การ bop มาจากเขานั่นเอง

Ella Fitzgeraldในปี 1938  "A - Tisket, A - Tasket" ซึ่งดัดแปลงมาจากทำนองเพลงกล่อมเด็กทำให้ Ella ดังขึ้นมาในทันที และเพลงติดอยู่ในอันดับเพลงฮิตอยู่ถึง 19 สัปดาห์ และในที่สุดก็ถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 5 เพลงฮิตของยุค 1930's เลยทีเดียว แต่หลังจาก "A - Tisket, A - Tasket" กลายเป็นเพลงฮิตไม่นาน Chick Webb ก็เสียชีวิตไปด้วยโรควัณโรค ด้วยอายุเพียง 30 ปี เท่านั้น ทำให้ Ella ต้องรับช่วงต่อในการเป็นหัวหน้าวงอยู่ถึง 3 ปี ก่อนที่เธอจะออกแสดงเดี่ยว

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1946 เธอก็เริ่มทัวร์กับ Jazz at the Philharmonic (JATP) และ Norman Granz ก็เลยกลายมาเป็นผู้จัดการและเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาแก่เธอ ดังนั้นเมื่อสัญญาของเธอกับค่าย Decca หมดอายุ เธอจึงเปลี่ยนไปเซ็นสัญญากับค่าย Verve ของ Norman Granz แทน

Ella Fitzgerald แต่งงานกับ Ray Brown ในช่วงปี 1948 และ หย่ากันในปี 1952 และมีลูกด้วยกัน 1 คนซึ่งเป็นลูกเพียงคนเดียวของ Ella ชื่อ Ray Brown เช่นกัน แต่แม้ว่าจะหย่ากันแล้วแต่เธอกับ Ray Brown, Senior ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและยังทำงานด้วยกันบ่อยๆ หลังจากที่หย่ากันแล้ว

เธอเป็นโรคเบาหวานอยู่หลายปีและแม้ว่าเธอจะมีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี เธอก็ยังคงร้องเพลงอยู่จนถึงปี1992 เธอเสียชีวิตเนื่องด้วยโรคเบาหวานเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1996 เมื่ออายุได้ 78 ปีElla Fitzgerald

ในฐานะศิลปิน Ella Fitzgerald ได้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกือบ 60 ปี และได้รับรางวัลอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึง Kennedy Center Award , ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย Dartmouth และYale, และ13 รางวัลGrammy ฯลฯ

แม้ว่า Ella จะไม่เคยเรียนการร้องเพลงจากโรงเรียนสอนดนตรี แต่ความสามารถของเธอไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ด้วยการ scat ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ ด้วยเสียงที่ใส การร้องอย่างชัดถ้อยชัดคำและเป็นธรรมชาติ และยังแถมด้วยพรสวรรค์ในการ improvised เพลงในระดับเทียบเท่ากับนักดนตรี jazz ที่ยอดเยี่ยมที่สุด และที่น่าทึ่งพอๆกับความสามารถในการร้องของเธอ ก็คือการที่เธอสามารถต่อสู้กับความยากจนและความยากลำบากในวัยเด็ก จนในที่สุดได้เป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา

 

* รวมรวบจากหลายแหล่งข้อมูลใน internet (เพื่อความถูกต้องของข้อมูล) และจาก note ในอัลบั้ม The First Lady of Song

 

ชีวประวัติ | เนื้อเพลง | แนะนำอัลบั้ม | รางวัลแกรมมี่ | Quotes | Links | เซ็นสมุดเยี่ยม | ดูสมุดเยี่ยม | mail