ก่อนจะตอบคำถามนี้ ต้องชี้ให้เห็นว่า ฮาร์ดดิสก์แต่ละรุ่นนั้นมีสภาวะการทำงานไม่เหมือนกัน ได้แก่ หมุนด้วยความเร็วรอบต่างกัน แรงหมุนของหัวอ่านต่างกัน จำนวนแผ่นดิสก์แตกต่างกัน

สิ่งเหล่านี้มีผลให้การออกแบบ SMART ในฮาร์ดดิสก์แต่ละรุ่นแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของโรงงานผลิตที่จะกำหนดว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นนั้น ๆต้องตรวจสอบค่าอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้ว ค่าที่

ต้องตรวจสอบมีดังต่อไปนี้ (โดยคร่าวๆ นะครับ S.M.A.R.T กำหนดไว้แบบนี้ แต่ผู้ผลิตแต่ละรายยังเอาไปประยุกต์ได้อีก) 

	
น้ำหนักของหัวอ่านเวลาหมุน 
ค่าทรูพุทต์ของการอ่าน - เขียนข้อมูล 
เวลาที่ฮาร์ดดิสก์ Initialize ตัวเอง (เวลาหมุนของมอเตอร์จนกระทั่งฮาร์ดดิสก์ใช้งานได้) 
จำนวนครั้งที่ต้องมีการนับจำนวนคลัสเตอร์ใหม่ 
ปริมาณความถี่ของความผิดพลาดในการค้นหาข้อมูล (Seek Error) 
ความถี่ของการปรับแต่ง (Calibrate) ตัวเองของฮาร์ดดิสก์ 

การตรวจสอบส่วนของผู้ผลิตเองจะกำหนดค่าที่ถือว่าฮาร์ดดิสก์อยู่ในเงื่อนไขการทำงานที่ดี กับค่าเทรชโฮลด์ ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่ค่าของปัจจัยดังกล่าวมาถึงขั้นนี้ SMART Firmware จะส่งรายงานให้กับ Host

หลังจากนั้น Host ก็จะส่งรายงานให้ End User อีกทีหนึ่งเพื่อให้มีการดำเนินการขั้นต่อไป เช่น การสำรองข้อมูล การแก้ไขค่าผิดพลาด