PART: ll
เสียงเคาะก๊อกแก๊กกับแป้นพิมพ์เริ่มอ่อนแรง และช้าลงเรื่อยๆ ทุกขณะ...
เรย์เหนื่อย และง่วงจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว... เด็กหนุ่มสะบัดศีรษะเบาๆ เผื่อว่ามันจะสามารถไล่อาการง่วงงุนของตัวเองไปได้บ้าง แต่มันก็ไร้ผล เขาจึงตัดสินใจหลับมันซะหน้าคอมพิวเตอร์นี่ล่ะ
ถึงมันจะถูกมักง่ายไปหน่อย แต่เรย์รู้สึกว่า เขาไม่อาจฝืนความหนักอึ้งราวกับเหล็กเป็นตันๆ บนเปลือกตาได้อีกต่อไป
ในคืนนั้น ระหว่างที่นรินทร์ หรือเรย์กำลังหลับเป็นตาย หน้าจอคอมพิวเตอร์กลับมีอันดับวูบไป ก่อนจะปรากฏขึ้นมาใหม่ แต่คราวนี้กลับมีภาพของห้องทำงานอันแสนจะวุ่นวายของ FBI ที่สหรัฐขึ้นมาแทน
ภาพกระตุกๆ ตลอดเวลา ราวกับว่าก่อนจะหลับไป เรย์พยายามแทรกข้อมูล เพื่อให้ตัวเองแน่ใจว่าองค์กรที่ครูกวินพูดเมื่อตอนเย็นนั้นเป็นเรื่องจริง และเรื่ององค์กรที่เขายอมหลอมตัวไปเป็นสมาชิกด้วยนั้นจะไม่ใช่เรื่องหลอกเด็ก...
ตื้ดดดด - -- - - - --
จู่ๆ เจ้าเครื่องมือคู่ใจของเรย์ก็แผดเสียงดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มตกใจตื่นจนแทบร่วงจากเก้าอี้ แล้วหน้าจอของเขาก็ดับไปอีกครั้ง เรย์จ้องมองความผิดปกติของอุปกรณ์อย่างงุนงง พลางขยับเก้าอี้ให้เข้าที่ แล้วมองดูอย่างเงียบๆ
เด็กหนุ่มไม่ แม้แต่จะพยายามแก้ไขให้คอมพิวเตอร์กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
หรือเขาจะรู้อะไรบางอย่าง....
ไม่... ไม่เลย... เรย์ไม่รู้อะไรแม้สักนิดเดียว แต่ที่เขานิ่ง เงียบ และมองดูอยู่เฉยๆ เพราะเขาง่วง และขี้เกียจตรวจสอบความผิดปกตินี้ต่างหากล่ะ
ง่วงจะตายอยู่แล้ว นอนดีกว่า... เมื่อคิดได้เช่นนั้น เรย์ก็เอื้อมมือมาจะปิดคอม แต่จู่ๆ อุปกรณ์เทคโนโลยีก็แผดเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่หน้าจอเริ่มรวน กระตุก ติดๆ ดับๆ
เด็กหนุ่มนั่งงง ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะนั่งดูเฉยๆ หรือลุกไปเตะสักเปรี้ยง ก่อนจะกลับไปนอนต่อดี...
แต่แล้วหน้าจอก็หยุดรวน เสียงตืดๆๆ น่ารำคาญก็หายไป และปรากฏภาพของเด็กหนุ่มอายุน่าจะพอๆ กับเขา ดวงตาเป็นสีม่วงประกายแบบที่ไม่เคยเจอะเจอ เรือนผมสีเงินระต้นคอ หูแหลมๆ กับชุดอวกาศแบบมีสีสันประหลาดๆ บวมๆ เหมือนใส่ห่วงยาง
แต่น่าแปลกตรงที่ แทนที่มันจะดูน่าเกลียดจนเขาต้องหัวเราะออกมาดังๆ เขากลับรู้สึกว่าขนแขนมันพร้อมใจกันสแตนด์อัพขึ้นมา อย่างหาสาเหตุไม่ได้...
อ๊ากกกกกกกกกกก นี่เป็นเสียงเดียวที่เรย์คิดว่าเหมาะที่สุด ที่จะตะโกนมันออกมาดังๆ ในเวลานี้
เด็กหนุ่มในจอภาพทำหน้าตางงๆ กับเสียงร้องของเขา ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มให้ แล้วพูดอะไรสักอย่างที่ฟังดูเหมือนเสียงเหมือนคนถูกบีบจมูกอยู่ตลอดเวลา เป็นภาษาประหลาดๆ ที่ไม่สามารถบรรยายได้
เรย์ยิ่งทำหน้าตาตกใจมากขึ้นไปอีก เพราะฟังไม่รู้เรื่อง
ดูเหมือนว่าไอ้ตัวประหลาดจะดูออกว่า เรย์ตกใจมากแค่ไหน จึงกดปุ่มอะไรสักอย่าง เคาะมันอยู่นานกว่า 1 นาที ก่อนจะปรากฏซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ
นี่ถ้าภาษาอังกฤษของเขาห่วย เหมือนไอ้ญาดาป่านนี้คงช็อก เข้าโรงพยาบาลไปแล้วแหงๆ เรย์คิด ก่อนจะพยายามทำใจ แต่สติของเขาดูเหมือนจะกระเจิดกระเจิง เปิดเปิงไปไหนต่อไหนแล้ว
มนุษย์ต่างดาว!!
พระเจ้า!
บอกไปใครจะเชื่อ!!
นรินทร์ เด็กแว่นหน้าหวานเหมือนผู้หญิง มีเพื่อนบ้าๆ กับเขาอยู่ 2 คน
ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์เป็นงานอดิเรก จะมีโอกาสได้พูดกับมนุษย์ต่างดาว!!!
นายเจาะระบบเข้ามาใช่ไหม ยอดไปเลย ไม่มีใครรู้สักคนว่านายทำ! มีฉันคนเดียวที่ตะหงิดๆ กับเรื่องนี่น่ะ! ซับไตเติ้ลปรากฏขึ้นหลังจากตัวประหลาดพูดจบประโยค (ด้วยภาษาที่เรย์ฟังแล้วอยากจะเอาหัวโขกกำแพงสักทีสองที)
เด็กหนุ่มมองอย่างไม่แน่ใจว่าถ้าเขาพูดอะไรออกไป ทาง(ดาว)นู้น จะรู้เรื่องหรือเปล่า เลยลองพูดอะไรมั่วๆ ไปสองสามคำ แล้วมันก็ปรากฏซับไตเติ้ลเป็นตัวขยุกขยิก ที่ดูยังไงก็คล้ายๆ กับภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน ติดแนวตะเข็บชายแดนแม่สายของบ้านเรา...
นายพูดอะไรน่ะ... อ้า ฉันลืมแนะนำตัวสินะ ฉันชื่อเจแวนต์ ยินดีที่ได้รู้จัก นายล่ะชื่ออะไร มีชื่อรึเปล่า
อ... ไอ้นี่ มันคิดว่าเขาไม่มีชื่อรึไงกัน ให้ตาย มนุษย์ต่างดาวนี่มันโง่ขนาดนี้เลยรึไง เรย์พลางขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนตอบกลับไป ฉันชื่อเรย์
ชื่อสั้นจัง เจแวนต์ว่า พลางส่งยิ้มให้
แล้วไงวะ ใจจริงถึงอยากจะตอบไปแบบนั้นสักแค่ไหน แต่เขาก็ต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองอยู่ จึงต้องพูดอย่างจำใจ อืม.. ใช่
ปัง!!
เสียงประตูถูกเปิดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างสูงๆ ของพี่ชายเรย์ที่พรวดพราดเข้ามา แล้วเขย่าไหล่ของเด็กหนุ่ม จนเขารู้สึกวิงเวียนยิ่งกว่าเล่นไวกิ้งที่ดรีมเวิลด์
เรย์! ทำไงดี พี่.. พี่... อ๊ากกกกกกกกก
เรย์ทำตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน ก่อนจะรีบปิดหน้าจอคอม ในระหว่างที่พี่ชายบ๊องๆ ของเขากำลังสติแตกอยู่
พี่ริว นี่มันตี 2 แล้วนะ อะไรกันเนี่ย!
ริวทำหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะปล่อยมือจากไหล่ของเรย์ พลางถือวิสาสะนั่งลงบนเตียง อากิหายตัวไป... เรย์ เห็นอากิจังบ้างรึเปล่า
ไม่เห็นหรอก พี่นั่นแหละ ไม่ดูแลมันดีๆ เองนี่นา เรย์บ่นพลางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอก แล้วนี่พี่รู้ว่ามันหายไปตอนไหนล่ะ ไอ้อากิน่ะ
อากิที่กำลังพูดถึงอยู่นี่ก็คือเจ้าเหมียว พันธุ์เปอร์เซีย ที่มีขนสีขาวฟูฟ่อง แมวสุดที่รักของพี่ริวนั่นเอง แล้วดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนพี่ชายของเขาต้องมานั่งกลุ้มแบบนี้...
เพิ่งรู้เมื่อตะกี้เอง... ริวว่าพลางทำเป็นยีหัวตัวเองแก้เก้อ
โธ่เอ้ย สงสัยรถทับตายอยู่หน้าบ้านมั้ง เรย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้น เดินไปที่เตียง แล้วเบียดๆ ตัวเองเข้าไปนอนอยู่ในผ้าห่ม
ไม่มีทาง! ห้ามนอนเด็ดขาด ลุกขึ้นมา เร็วสิ ช่วยพี่หาอากิ ริวพูดเสียงเฉียบ แล้วฉุดเรย์ออกจากห้องเพื่อตามหาแมวสุดรัก
เรย์เดินเดินริวด้วยท่าทางเหมือนจะลงไปนอนกับพื้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ริวก็ไม่สนใจ ชายหนุ่มเดินร้องเหมียวๆ ไปทั่วบ้าน
เด็กหนุ่มอยากจะตะโกนดังๆ เรียกตรูออกมาทำไมกันเนี่ยยยย!!
ไอ้ริว แกทำเสียงอะไรน่ะ น่ารำคาญ เสียงชายหนุ่มที่หน้าตาเหมือนริวเด๊ะ เดินออกมาจากห้อง สีหน้าดูง่วงงุน และอารมณ์เสียเกือบจะเท่าๆ กัน
แมวฉันหาย แกเห็นมันบ้างไหม เรน ริวทำหน้าตาละห้อย ขณะถามเรน
อ๋อ ไอ้แมวบ้าเลือดของแกน่ะเหรอ นู่น~ อยู่ในห้องพ่อ พ่อเอาไปขังไว้ในตู้เสื้อผ้า รีบๆ ไปเอามันออกมาซะ ป่านนี้ตายไปรึยังก็ไม่รู้ พูดจบก็หาวหวอดๆ เดินกลับเข้าห้องตัวเองไป
ส่วนเรย์รู้สึกดีใจอย่างสุดซึ้ง ในที่สุดก็ได้นอน~~ โชคดีจริงๆ ที่เรนออกมาดูว่ามีอะไร ไม่งั้นเขาคงต้องเดินตามริว เพื่อหาไอ้แมวบ้า ที่เขาไม่เคยนึกชอบมันสักนิดจนถึงเช้าแน่ๆ
---------------------------------------------------------
เรย์... เรย์.... ไอ้เรย์โว้ย!! เสียงตะโกนกรอกใส่หู พร้อมกับที่เรนยกเท้าขึ้น แล้วบรรจงสะกิดร่างของน้องชายให้ร่วงลงจากเตียงอย่างสวยงาม
อ... ไอ้เรน! พี่ถีบผมทำไมเนี่ย ปลุกดีๆ ก็ได้ เรย์บ่นอุบ คลำสะโพกด้วยความเจ็บปวด ถีบมาได้นะ... ไอ้พี่บ้า
ก็ถ้าฉันปลุกแกดีๆ แกจะตื่นไหมล่ะ... เรนพูดอย่างหมั่นไส้น้องชาย ขณะนั่งลงบนเตียงเรย์
เหอะ เรย์พ่นลมออกจากจมูก ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ พี่ชาย ก่อนจะถามอย่างหงุดหงิด แล้วพี่เกิดบ้าอะไร มาปลุกผมแต่เช้าล่ะเนี่ย
ฉันมาพาแกไปองค์กร เรนกล่าวเนิบๆ
หา... เรย์มองหน้าเรนอย่างไม่เข้าใจ มันพูดถึงอะไรวะ องค์กรอะไรของพี่น่ะ?
อย่ามาแกล้งโง่กับฉันนะ ไอ้น้องชาย... องค์กรลับที่แกไปสู่รู้มาไง พูดจบก็ยิ้มให้ ทำเอาตาของเรย์แทบจะถลนออกมาอยู่นอกเบ้า
อย่าบอกว่าพี่เองก็.....
อะไร ไอ้เรย์ แกคิดว่าพี่ชายผู้ยิ่งใหญ่ของแกคนนี้ จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยรึไง รู้ไว้ซะนะ ว่าฉันคือหนึ่งในหกของสมาชิกองค์กรลับเลยนะเว้ย
เรย์อ้าปากค้าง ให้ตายเถอะ... เขาพูดอะไรไม่ออกเลย พี่ชายบ๊องๆ ของเขาเนี่ยนะ!
ทำหน้าตาทุเรศชะมัดเลยไอ้น้องชาย ไปอาบน้ำแต่งตัวไป ไอ้ริวมันทำข้าวเช้าเสร็จตั้งนานแล้ว พูดจบก็เอื้อมมือมาขยี้หัวเรย์จนยุ่ง แล้วเดินออกไปจากห้อง
อา... เด็กหนุ่มครางเบาๆ ขณะพยายามจับต้นชนปลายเรื่อง คิดพลางยีหัวตัวเองอย่างงุนงง... นี่มันเรื่องอะไรกัน เป็นไปได้ยังไงที่เรนเป็นสมาชิกองค์กร
แล้วที่เขาหงุดหงิดไม่ใช่เรื่องที่เราต้องไปรายงานตัวที่องค์กรหรอก.... แต่มันเป็นเรื่องที่เรนเป็นสมาชิกองค์กร โดยไม่ยอมปริปากบอกน้องชายอย่างเขาสักคำต่างหาก!
---------------------------------------------------------
ขณะนี้ นรินทร์ ลูกชายคนเล็กของตระกูลพิพิธไพศาล กำลังยืนอยู่หน้าตึกสูงขนาดใหญ่ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาเกือบ 20 กิโลเมตร... เขาเหลือบมองชายหนุ่มร่างสูงโปร่งข้างตัว ที่กำลังสาละวนอยู่กับกระเป๋าเป้สีดำ หาอะไรบางอย่างที่พี่ชายของเขาเรียกมันว่า บัตรผ่าน
นี่ไง! เรนพูดเอ่ย พลางหยิบการ์ดสีเงินบางเฉียบ ให้เรย์ดู ก่อนจะพูดต่อ ไอ้การ์ดนี้น่ะ สำคัญมาก รปภ. ที่คุ้มกันประตูจะไม่ยอมเปิดให้เข้าเด็ดขาดถ้าไม่มีใบนี่
เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงว่าเข้าใจ ชายหนุ่มจึงฉีกยิ้ม ก่อนจะดึงแขนน้องชายให้เข้าไปในตัวตึกพร้อมกับตน
ภายในตัวตึกมีผู้คนอยู่บางตา จะมีก็เพียงตำรวจสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าประตู มีพนักงานประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ 3 คน และหญิงสาวท่าทางแปลกๆ ที่กำลังยุ่งอยู่กับแลปท็อปบางเฉียบบนโต๊ะรับแขก ที่อยู่ทางขวามือของห้องโถงใหญ่
พี่ชายของเขาก้ามฉับๆ ไปทางลิฟต์ ก่อนจะหันมาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าเรย์ยังยืนดูบรรยากาศรอบตัวไม่เลิก เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ พอให้น้องชายรู้ตัว และรีบเดินตามเขาไปขึ้นลิฟต์
เรียวนิ้วของชายหนุ่มกดลงบนแผงปุ่มเลขที่มีตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึง 29.... แต่พี่ชายของเขาดันกดปุ่มสีแดง ที่เป็นบนกดเพื่อส่งข่าวบอกให้ข้างรู้ หากเกิดเหตุร้ายในลิฟต์ แล้วกรอกเสียงลงไปบนลำโพงเล็กๆ บนสุดของแผงปุ่ม
ผมนาวินทร์ พิพิธไพศาล สมาชิกองค์กร 9D หมายเลขประจำตัว 9D0004 รหัส M4B-island
คุณไม่ได้มาคนเดียวนี่ นาวินทร์ เด็กหนุ่มใส่แว่นข้างๆ คุณคือใคร เสียงชายคนหนึ่ง ที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นทำเอาเรย์ตกใจ กวาดตามองหาไปทั่ว จนพบกล้องขนาดจิ๋วติดอยู่บนเพดานลิฟต์
เขาเป็นน้องชายผม ชื่อนรินทร์ ส่วนเรื่องที่ทำไมผมพาเขามาที่นี่ก็คือ กวิน สมาชิกหมายเลข 9D0006 เป็นคนชวนเขามาร่วมเป็นสมาชิกองค์กรเรา คุณธอส พอเถอะ เลิกสอบสวนผมเสียที ให้ผมขึ้นไปรายงานตัวได้แล้ว ผมเสียเวลามากแล้วนะ เรนร่ายยาว พลางกอดอก พิงพนังลิฟต์
ก็ได้ๆ ผมไม่ถามคำถามคุณแล้วก็ได้ สิ้นเสียงของชายปริศนา ที่ชื่อธอส 2 วินาทีต่อมา ลิฟต์เงินก็เคลื่อนตัวขึ้นยังชั้นที่ 0...!!
ที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วยเหรอ เรย์หันไปถามพี่ชายอย่างแปลกใจ และสนใจใคร่รู้
ไอ้น้องชาย
ถ้าแกจะซ่อนองค์กรลับ แกก็ต้องซ่อนใต้ดินนี่แหละ
เรนว่า พลางขยิบตาให้