Multi Boot หลาย OS ในเครื่องเดียว
ขั้นตอนต่อไปผมจะติดตั้ง Windows NT 3.5 สำหรับ NT 3.5 นั้นหากไม่ต้องการติดตั้งก็สามารถข้ามตอนไปติดตั้ง Windows NT 4.0 ได้ Windows NT 3.5 นั้นหากดูหน้าตาแล้วจะไม่แตกต่างจาก Windows 3.11 เพียงแต่เพิ่มโมดูลเกี่ยวกับ Networking เข้าไปและทำให้มีคุณสมบัติเป็น OS ที่ทำงานแบบเครือข่ายได้มากขึ้น Windows NT 3.5 ใช้เนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์ไม่มากนัก และสามารถติดตั้งบนพาร์ติชั่นเดียวกับ Windows 3.11 , Windows 95 ได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องจากหากติดตั้งบนพาร์ติชั่นเดียวกันจะทำให้จัดการเกี่ยวกับ Application ยากขึ้น

เมื่อติดตั้ง Windows NT 3.5 เรียบร้อยจะปรากฎเมนูบูตขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยมีให้เลือก 3 รายการ คือ Windows NT 3.5 Workstation , Windows NT 3.5 VGA Mode, Microsoft Windows หากเลือก Microsoft Windows ก็จะเป็นการเลือกกลับไปใช้งาน Windows 3.11 , Windows 95 ได้ เมื่อติดตั้ง Windows NT 3.51 เสร็จก็อาจต้องติดตั้งไดรเวอร์สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ และติดตั้ง Application เพิ่มเติมเช่นเดียวกัน

เมื่อตรวจสอบจนเห็นว่าการใช้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มติดตั้ง Windows NT 4.0 ในขั้นตอนนี้แนะนำให้เลือกพาร์ติชั่นคนละพาร์ติชั่นกับ Windows 95 และหากต้องการให้ Windows 95 อ่านข้อมูลในพาร์ติชั่นของ NT 4.0 ได้ก็ควรปล่อยให้พาร์ติชั่นเป็นแบบ FAT ต่อไป

ปกติหลังจากติดตั้ง Windows NT 4.0 จะปรากฎเมนูให้เลือกเป็น Multiboot โดยอัตโนมัติ กรณีที่ติดตั้งหลังจาก Windows NT 3.5 จะแสดงเมนู 5 รายการ โดยเพิ่ม Windows NT 3.5 Workstation , Windows NT 3.5 VGA Mode แต่หากไม่ได้ติดตั้ง Windows NT 3.51 จะแสดงเมนูให้เลือกเพียง 3 รายการ ผู้ใช้งานไม่สามารถเพิ่มเมนูอื่นๆ ไปใน Boot Menu ได้อีก การแก้ไขทำได้เพียงการเปลี่ยนชื่อ และกำหนดเวลาในการโหลดเท่านั้นเอง

ดังนั้นจะได้แผนภาพการบูตของคอมพิวเตอร์ดังต่อไปนี้

----- ไม่ได้กดคีย์ใดๆ --->

----- ไม่ได้กดคีย์ใดๆ --->


จากแผนภาพข้างบน จะได้ Multi-Boot System ที่บูตได้ด้วย OS ทั้ง 3 ตัว

หลังจากใช้งานจนหนำใจ และพอจะตัดสินใจเลือกได้แล้วว่าจะใช้ OS ใด เป็น OS หลักของคอมพิวเตอร์ ก็อาจต้องลบตัวที่ไม่ต้องการทิ้งไป เมื่อต้องการลบ Windows 3.11 ออกจากฮาร์ดดิสก์ ให้เริ่มต้นโดยบูตด้วย Windows 95 ก่อน หลังจากนั้นจึงลบไดเรคทอรี่ของ Windows 3.1x ออก ลบไดเรคทอรี่ของ Application ของ Windows 3.11 ออก ลบไฟล์ config.dos, autoexec.dos , commmand.dos, IO.DOS , MSDOS.SYS ลบไฟล์ Swap file 386spar.par ออกจากไดเรคทอรี่ที่กำหนดในบรรทัด set temp="xxxx" ในไฟล์ autoexec.dos เป็นอันเสร็จสิ้นการลบ Windows 3.11 และยังมีอีกวิธีหนึ่งคือ ใน Windows 95 เลือก Control Panel | Add remove program ตรงแท๊บ Install คลิ๊กที่ Old DOS and MS Windows System หลังจากนั้นคลิ๊ก Add/Remove เพื่อลบออก อย่างไรก็ตามต้องมาตามลบ Application และ Temp ไฟล์เช่นเดิม

ส่วนการลบ Windows 95 ออกและคงเหลือ Windows 3.11 และดอส 6.22 ก็ทำในทางกลับกัน โดยบูตด้วยดิสก์เก็ตสำหรับบูตที่บรรจุไฟล์ระบบของดอส 6.22 (ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างดิสก์เก็ตสำหรับบูต) หลังจากนั้นก็ลบโฟลเดอร์ของ Windows 95 , โฟลเดอร์ Program File และลบ Swapfile ของ Windows 95 คือ win386.swp พร้อมกันนี้ก็ต้องลบไฟล์ต่อไปนี้ด้วย bootlog.drv, bootlog.txt, command.w40, autoexec.w40, config.w40,config.w40,msdos.w40 , MSDOS.xxx, NETLOG.TXT, SETUPLOG.TXT, SUHDLOG.txt ,System.LST นี่คือการลบ Windows 95 ออกจากฮาร์ดดิสก์

สำหรับ Windows NT 4.0 นั้นการติดตั้งและการเอาออกจากฮาร์ดดิสก์จะแตกต่างออกไป ประการแรกที่ผมกล่าวแล้วในตอนต้นคือ เมื่อติดตั้งเสร็จจะมี Menu ให้เลือกโดยอัตโนมัติ เมื่อต้องการจะลบ Windows NT 4.0 ออกจากฮาร์ดดิสก์WBR>สามารถทำได้เช่นเดียวกับการลบ Windows 95 แต่มีเคล็ดลับอยู่ตรงที่ว่า Previous OS หรือ OS ที่ติดตั้งก่อน Windows NT 4.0 นั้นเป็นอะไรก็ต้องนำไฟล์ระบบของ OS นั้น>มา SYS ทับ เช่นหากเป็นกรณีที่ยกตัวอย่าง คือ Windows 95 ก็จะต้องบูตด้วยดิสก์เก็ตที่สร้างสำหรับบูตโดย Windows 95 เมื่อบูตเรียบร้อย ก็สั่ง SYS C: เพื่อย้ายไฟล์ระบบลงทับไปนั่นเอง หลังจากนั้นก็บูตคอมพิวเตอร์ขึ้นใหม่ โดยบูตจากฮาร์ดดิสก์ ซึ่งจะเข้าสู่ Windows 95 โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นจึงค่อยลบไดเรคทอรี่ของ Windows NT 4.0 และไดเรคทอรี่ที่เกี่ยวข้องจากฮาร์ดดิสก์ และไฟล์ที่ต้องลบออก ได้แก่ NTDETECT.COM, NTLDR, BOOT.INI และไฟล์ใน Root Directory อีกไฟล์หนึ่งคือ PAGEFILE.SYS