เท่าที่อ่านดูความเห็นของแฟนบอลไทย
ไม่ว่าที่ "ห้องศุภฯ" กระทู้ที่ thaifootball.com
หน้ากีฬาของ " ผู้จัดการรายวัน" และ cheerthai.com
แทบทุกคนลงความเห็นตรงกัน พร้อมกับเหตุผลต่าง ๆ อย่างเช่น
1. นายกสมาคมฯ ไม่มีวิสัยทัศน์ ผูกขาดอำนาจการบริหาร และ บริหารด้วยความไม่โปร่งใส
2. ขาดแผนการพัฒนา หรือ road map ในการพัฒนาฟุตบอลอาชีพให้ยั่งยืน
3. ร่วมมือกับเอกชนบางรายผูกขาดกิจกรรมต่าง ๆ ของฟุตบอลชาติ
4. ร่วมกับผู้บริหารคนอื่น ๆ ก้าวก่ายการทำงานของโค้ช และทุกยุคทุกสมัยก็ให้โค้ชเป็นแพะรับบาป
หากทีล้มเหลว เป็นต้น
หากจะสาธยายออกมาทุก ๆ รายการคงต้องเขียนกันยาว...แต่สิ่งที่เราไม่มีก็คือพยานหลักฐาน
และ พยานวัตถุที่จะกล่าวหาบุคคลใดบุคคลหนื่งได้ จึงไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวอะไรได้มาก
สิ่งที่แฟนบอลทุก ๆ คนเห็นร่วมกันก็คือเป็นการดู และ วิเคราะห์จาก
1. ผลงานการบริหารย้อนหลัง อย่างเช่นเป็นแช้มป์ซีเกมส์ 6 สมัยแต่ไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ได้
2. ฟุตบอลลีกภายในประเทศที่เคยมีคนดูเต็มสนามสมัยถ้วย ก. แต่ปัจจุบันแทบไม่มีคนดู
3. ขัดขวางการรวมไทยลีก และ โปรลีก โดยอ้างว่าไม่มีความพร้อม
4. ขายฝันจะไปฟุตบอลโลก โดยของบประมาณจากภาครัฐเป็นหลักร้อยล้าน
แต่ในขณะที่ความเป็นจริง ฟุตบอลลีกภายในยังอ่อนปวกเปียก วิทยาศาสตร์การกีฬายังไม่ได้นำมาใช้
แค่เป็นแช้มป์เอเชี่ยนเกมส์ยังทำไม่ได้
5. เจอญี่ปุ่น หรือ เกาหลี สมัยนี้ โดนยำอย่างต่ำ 3 ลูกขึ้นไป
ในขณะที่อดีต เราเป็นฝ่ายยำเค้า...หลาย ๆ เหตุผลดังกล่าวเป็นสิ่งที่พวกเราได้แค่วิเคราะห์จากการผลงานที่เห็น
ไม่สามารถปฏิเสธได้
การชนะเลิศในเวียตนามถามผมว่า ดีใจหรือไม่
ผมก็ดีใจในฐานะที่เป็นคนไทย และ นักบอลไทยเก่งจนเอาชนะเจ้าบ้านต่อหน้ากองเชียร์ครึ่งแสนคน
แต่ผมเห็นความดีใจและความทุ่มเทของผู้บริหารสมาคมแล้ว ผมว่าเค้าน่าจะดีใจมากกว่ารายการใด
ๆ ทั้งสิ้น เพราะมันเป็นรายการเดียวที่ทีมชาติไทยมีความสามารถไปเอาแช้มป์จากนอกประเทศได้
รายการเดียวจริง ๆ เท่าที่ผมดูน่าจะใส่ใจ และดีใจการรายการนี้มากกว่าเอเชี่ยนคัพ
หรือ ฟุตบอลโลก เพราะผู้บริหารเหล่านี้รู้ดีอยู่เต็มอกว่า มันเป็นไปไม่ได้
แต่จำเป็นต้องสร้างฝันสร้างภาพเพื่อของบประมาณให้ได้..แค่นั้นเอง
สิ่งที่อยากใจเรียกร้องให้เพื่อน ๆ พี่
ๆ น้อง ๆ ในนี้ อย่าหลงกระแสซีเกมส์นักครับ กระแสที่มันแรงมาก
ๆ เป็นเพราะสื่อกระพือจนเกิดกระแส และฟีเวอร์ แต่เราคงต้องยอมรับความจริงกันว่า
ต่อให้เราได้แช้มป์ซีเกมส์อีก 10 สมัย (ซึ่งเป็นไปไม่ได้..เพราะสมัยหน้าเวียตนามคงยึด)
และหากสมาคมฟุตบอลยังอยู่ภายใต้ผู้บริหารชุดนี้ ฟุตบอลไทยก็คงเป็นที่รู้จักแค่ตะวันออกเฉียงใต้แค่นั้นเอง
หรือเผลอ ๆ อาจจะถูกลืมไปเลยก็ได้ว่าไทยเคยเป็นมหาอำนาจฟุตบอลในซีเกมส์
ตัวบุคคลของผู้บริหารสมาคมก็สำคัญ ระบบการบริหารในสมาคมก็สำคัญ
แฟนบอลก็สำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนทั้งผู้บริหาร
และ ระบบการบริหาร แต่หากเลือกได้ผมอยากให้เปลี่ยนผู้บริหารและสภากรรมการใหม่ยกชุด
แล้วหากโชคดีได้ผู้บริหารใหม่ที่มีวิสัยทัศน์อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนระบบให้ดีขึ้นได้...หากโชคร้ายผู้บริหารชุดเดิมกลับมาแบบยกชุด
ก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ...ได้แช้มป์ซีเกมส์หรือไม่ ไม่สำคัญ แต่สำคัญคือการพัฒนาฟุตบอลในประเทศให้ยั่งยืนและยิ่งใหญ่
และดำเนินการอย่างรวดเร็ว หรือภายในปี 2546 ให้ได้นี่คือความฝันของผม
หากสมาคมฟุตบอลยังมีผู้บริหารแบบนี้ ก็คงจะฝันกันต่อไป...เพื่อน
ๆ ว่าอย่างไรกันดีครับ