EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

เค้าแห่งความยุ่งยาก 2


"อ๊ะ ยัยอะคะเนะ มาทำอะไรแถวนี้" ผมทักสาวที่
แต่งตัวแบบทอมบอย นุ่งกางเกงยีนส์ สะพายกล้อง
ถ่ายรูปไว้ที่คอ และยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่มุม
กำแพงของสถานทูตเอลเดีย
"เหวอ... อ้าว นายโคะจิโร่เองเหรอ ฟู่... ทำเอาตกใจ
หมด" อะคะเนะหันมา ทำหน้าตาตกใจ แต่แล้วก็
คลายใจลงเมื่อเห็นว่า ผู้มาเป็นผม
"ฉันถามว่ามาทำอะไรแถวนี้?" ผมถามซ้ำอีกครั้ง
"ก็..เขาบอกว่า ให้เฝ้าดูที่สถานทูตไว้ให้ดีนี่นา จะ
ต้องมีการเคลื่อนไหวแน่." อะคะเนะพูดอ่อย ๆ ท่า
ทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่สมกับเป็นยัยอะ
คะเนะที่ผมรู้จักเลยแต่แล้วก็เหมือนกับนึกขึ้นได้
"อ๊ะ.. ไม่มีอะไรหรอก ฉันไปล่ะ บ๊ายบาย"
ว่าแล้วก็รีบเดินหนีไปด้วยท่าทีรุกรี้รุกรน
เอ แปลกแฮะ ยัยคนนี้ ผมนึกในใจ แต่แล้วหลังจาก
ที่ผมทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่บริเวณนั้นสักพัก พบว่าคง
ไม่มีอะไรคืบหน้าแน่ เพราะหน้าสถานทูตก็ไม่เห็นมี
ใครเดินเข้าออก และยามก็เริ่มหันมองมาทางผม
บ่อยขึ้น ผมก็เลยถอยกลับไปตั้งหลักที่โรงเรียนนัก
เรียนต่างชาติเอลเดียอีกครั้ง
...
"ขอทางหน่อยค่ะ ว้าย!"
"คุณครับ คุณครับ ขอทราบความเห็นที่ว่า ผู้อำนวย
การโรงเรียนยักยอกเงินหน่อยครับ"
"คุณค่ะ มีความเห็นอย่างไรกับการตายของผู้
อำนวยการบ้างคะ?"
หญิงสาวคนหนึ่งพยายามเดินออกจากข้างในโรง
เรียน แต่ก็ถูก 'ฝูง' นักข่าวที่ยืนดักอยู่ที่หน้าประตู
กรูเข้ามารุมล้อมทันที พร้อมกับยื่นไมค์เข้ามาจ่อ
ปากและถามคำถามกันเซ็งแซ่จนฟังไม่ได้ศัพท์ ผม
ผ่านมาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี และนึกอนาจใจใน
พฤติกรรมของพวกสื่อมวลชนพวกนี้ แต่ก็สังเกต
เห็นว่า ผู้หญิงที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมพวกนักข่าวก็
คือ
"คุณมะทสึโนะ!"
"เอ๊ะ ใครคะ?" มะทสึโนะ เหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก
ผมบุกตะลุยฝ่าฝูงคนเข้าไป ดึงตัวมะทสึโนะออกมา
นักข่าวคนไหนไม่หลบก็จัดการผลักกระเด็นไปตาม
รายทางซะเลย
"โอย แทบแย่ ไอ้พวกนี้นี่ เหลือเกินจริง ๆ นะครับ
เนี่ย" ผมพูดขึ้นหลังจากพาสาวมะทสึโนะหลุดรอด
ออกจากฝูงนักข่าวนั้นสำเร็จ และมายืนหอบแฮก ๆ
อยู่ข้างถนนห่างจากตัวโรงเรียนพอสมควร
"นั่นสิคะ ตั้งแต่เช้าแล้วนะคะนี่ จะเข้าออกแต่ละที
เฮ้อ ปวดหัว" มะทสึโนะทำสีหน้าเอือมระอาพลาง
ส่ายศีรษะ "ขอบคุณคุณโคะจิโร่ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ
ดิฉันคงถูกพวกนั้นรุมอีกนานเลยค่ะ...แต่เอ... รู้สึก
ว่าคุณโคะจิโร่ไปชกเขากระเด็นหลายคนเลยนี่คะ
ไม่เป็นไรหรือคะนั่น"
"แฮ่ ๆ เห็นด้วยเหรอฮะ" ผมหัวเราะกลบเกลื่อน "ไม่
เป็นไรหรอกครับ พวกนั้นทรหดจะตาย"
เงียบไปสักพัก
"มีอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียนหรือครับ" ผมแกล้งถามทั้ง
ที่รู้คำตอบแล้ว
"เอ๊ะ คุณโคะจิโร่ยังไม่ทราบหรือคะ ท่านผอ. ถูก
ฆาตกรรมค่ะที่บ้านของตัวเองเลย"
อืมห์ ตรงกับที่ผมรู้มา
"เหรอครับ คุณโคแกถูกฆ่าตายหรือครับเนี่ย"
"ค่ะ"
"จับคนร้ายได้รึยังครับ"
"ยังค่ะ เห็นตำรวจกำลังจะออกหมายจับผู้ต้อง
สงสัยอยู่คนหนึ่งน่ะค่ะ"
"อ๋อ เหรอครับ อืมห์อย่างนี้นี่เอง พวกนักข่าวถึงได้
มาออกันที่หน้าโรงเรียน"
"คือ มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกค่ะ คุณโคะจิโร่" มะทสึโนะ
ขยายความ ทำหน้าเศร้า ๆ "มีข่าวออกมาด้วยว่า
ท่านผอ. ยักยอกเงินของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัวน่ะค่ะ
พวกนักข่าวถึงได้พยายามมาขุดคุ้ยกัน"
"เหรอฮะ คุณโคนี่นะครับ ยักยอกเงิน"
"ค่ะ ดิฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ ดูท่าเป็นคนดี
ออก อย่างนั้น" แน่นอน มะทสึโนะย่อมต้องหมาย
ถึงนายโคตัวจริงแหละครับ "นี่ดิฉันเห็นว่าคุณโคะจิ
โร่บอกว่ารู้จักกับท่านผอ. นะคะ ดิฉันถึงได้พูดอย่าง
นี้ แต่ถึงยังไงก็ตาม หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวอยู่แล้ว
แหละค่ะ"
อืมห์ ทีแรกผมก็ว่าผมรู้จักกับผอ. คุณแหละครับ
ผมคิดในใจอย่างนั้น แต่ไม่ได้พูดออกไป คงแค่รับ
สมอ้าง
"นั่นสิครับ ผมก็ไม่อยากเชื่อเลยครับว่าคุณโคจะ
เป็นแบบนี้ เรียกว่าเคราะห์ร้ายสองต่อเลยนะครับ
นี่..." ปั้นหน้าเศร้า
"ค่ะ นี่ทางผู้บริหารโรงเรียนก็กำลังจะประชุมกันอยู่
น่ะค่ะ ว่าจะทำยังไงกันต่อไปดี ดิฉันได้ยินข่าวลือ
มาว่าอาจจะสั่งปิดโรงเรียนชั่วคราวก่อนก็ได้ ตั้งแต่
วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเลยค่ะ"
"โอ้โอ ขนาดนั้นเลยหรือครับ"
...
คุยกับมะทสึโนะอีกครู่หนึ่ง ผมก็แยกกับเธอ โดย
เธอไปทำธุระส่วนตัวที่แถวเซ็นทรัลอะเวนนู และก็
ไม่วายบ่นกระปอดกระแปดอีกว่า ขากลับไปเข้าโรง
เรียน ต้องไปเจอพวกนักข่าวอีกแล้ว ส่วนผมรับ
ทราบข้อมูลจากสาวเพิ่มขึ้นมาหน่อยเดียว แค่ว่า
วันรุ่งขึ้นโรงเรียนอาจจะปิดทำการก็ได้ แล้วผมก็
เดินกลับมาที่สำนักงานตัวเองอีก พลางนึกในใจว่า
ผมกำลังทำอะไรของผมอยู่หนอ เทียวไปเทียวมา
แล้วก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เดินเข้าสำนักงาน ไม่เห็นพรินออกมาทัก ผมเลย
เดินเข้าไปด้านใน พบว่า พรินกำลังล้างจานอยู่ คง
เป็นส่วนของผมตอนเช้า และส่วนของเธอเองที่เพิ่ง
จะทานทีหลังกระมัง
ทักทายเด็กสาวสองสามคำแล้วผมก็เดินกลับมาที่
กลางสำนักงาน พบว่ามีเสียงเปิดประตูและจากนั้น
ใครบางคนก็วิ่งโครมครามเข้ามา
"โคะจิโร่ ๆ" ยัยอะคะเนะคนเดิมนั่นเอง
"มีอะไรอีกล่ะ" ผมถาม
"นี่มันหมายความว่าอะไรกันนี่" อะคะเนะชูหนังสือ
พิมพ์ให้ผมดู คงจะอดไม่ได้ต้องซื้อหนังสือพิมพ์ที่ไม่
มีข้อเขียนของตัวเองมาอ่าน
"อะไรเหรอ" ผมยังงง แต่เริ่มจับต้นชนปลายถูกแล้ว
"ก็นี่ไง คนตายชื่อ นายสตรอลแมน โค... หมาย
ความวะ..."
"เพล้ง!" ยังไม่ทันที่อะคะเนะซึ่งโวยวายเสียงดังด้วย
ความตื่นเต้น จะพูดจบ ก็มีเสียงดังขัดจังหวะมา
จากในครัวเสียก่อน ผมกับอะคะเนะหันขวับไปทาง
ต้นเสียงก็พบว่า พรินออกมายืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่
พูดเสียงอ่อย ๆ ว่า
"ขอโทษเจ้าค่ะ คุณโคะจิโร่ หนูทำจานตกแตกเจ้า
ค่ะ"
"งั้นเหรอ" อ้อ ที่แท้ยัยพรินซุ่มซ่ามทำจานแตกนั่น
เอง ตกใจหมดนึกว่าอะไร "เก็บเศษไปทิ้งละกัน
ระวังมันบาดมือเอาล่ะ พริน"
"เจ้าค่ะ"
ว่าแล้วเด็กสาวก็หายตัวเข้าไปทางครัวอีก
"ฮึ เอาใจกันดีนักนะ ไม่เห็นดุว่าอะไรสักคำ" ได้เรื่อง
อะคะเนะขอดค่อนผมเข้าจนได้
"ก็จะให้ว่าอะไรอีกเล่า เด็กมันก็ทำหน้าจ๋อยอยู่ออก
อย่างนั้นน่ะ" ผมตอบ
อะคะเนะทำท่าฮึดฮัด แต่แล้วก็ยอมเลิกราโดยดี "
เข้าเรื่องเดิมดีกว่า นี่หมายความว่าไง คนตายคือ
นายโค แล้วนายดูรูปนี่สิ" ชี้ให้ดูรูปในหน้ากระดาษ
ซึ่งเป็นรูปใบหน้าของนายโคตัวจริง
"อืมห์ ก็ไม่ได้หมายความว่าไงหรอก ทั้งเธอ แล้วก็
ฉัน แล้วก็ยะโยย รวมทั้งเจ้านิไคโดด้วย ถูกนายอ้วน
หมูตอนนั่นหลอกเอาน่ะสิ" ผมตอบเนือย ๆ
"หา! ว่าไงนะ" อะคะเนะกลายเป็นคนสุดท้ายในหมู่
พวกเราที่รู้เรื่องโคตัวปลอม
ผมอธิบายเรื่องให้อะคะเนะฟัง เจ้าหล่อนหน้าซีด
เมื่อรับทราบว่า คนที่ตัวเองติดต่อมาตลอดและคิด
ว่าเป็นนายโคนั้น เป็นตัวปลอม
"ถ้างั้น นายโคตัวปลอมนี่ก็น่าสงสัยที่สุดเลยสิ"
"ก็ใช่ แต่ตอนนี้จะไปหามันได้ที่ไหนล่ะ"
"ถ้าหาตัวนายโคตัวปลอมนี่ได้ คุณนิไคโดก็จะรอด
ใช่ไหม" ผมชักสะกิดใจ เอ ทำไมยัยอะคะเนะห่วง
เจ้านิไคโดเหลือเกิน
"ก็ไม่แน่ หลักฐานทางตำรวจเขาแน่นหนามากเลยนี่
ว่ามีรอยนิ้วมือของเจ้านิไคโดในที่เกิดเหตุ และที่
สำคัญบนมีดที่เป็นของกลางด้วย" ผมตอบ อันนี้
เป็นสิ่งที่ผมรับรู้มาจากหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่ที่อ่านที่
สำนักงานของยะโยยและมันทำให้ผมหนักใจมาจน
ถึงบัดนี้ว่า จะช่วยให้นิไคโดหลุดพ้นมลทินนั้นเป็น
เรื่องยากเหลือเกิน ขณะที่ตัวผมเองก็เชื่อมั่นว่า รอย
นิ้วมือที่มีด คงเกิดจากการที่เจ้านิไคโดพบศพ และ
พบมีดแล้วใช้มือเปล่าไปหยิบมันขึ้นมาต่างหากไม่
เหมือนผมและฮิมุโระที่ระวังตัวในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
เงียบไปสักพัก ผมก็เอ่ยขึ้นว่า "ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้านิ
ไคโดยังไม่ออกมาแสดงตัว ก็คงจะช่วยมันได้ยาก
ขึ้นเรื่อย ๆ " ผมมองหน้าอะคะเนะก่อนพูดต่อ "ถ้า
เธอสนิทกับเขาละก็ เจอเขาแล้วบอกให้เขามามอบ
ตัวสู้คดีด้วยก็ละกัน ยะโยยก็ฝากมาอย่างนี้ด้วย"
"อือ... ถ้าเจอนะ" อะคะเนะตอบ แล้วก็ขอตัว เดิน
กลับออกไป ทิ้งให้ผมคิดตามหลังว่า แปลกคนแฮะ
นึกจะมาก็มา แล้วนึกจะไปก็ไปอีก
...
ผมนั่งอยู่ที่สำนักงานได้ไม่เท่าไร ก็ต้องออกไปเดิน
ตะลอน ๆ ข้างนอกอีกจนได้ คราวนี้ผมไปโผล่ที่
สำนักงานของยะโยย ทิ้งช่วงจากตอนเช้าที่แวะไป
หาก็พักใหญ่แล้ว ทางนั้นจะเป็นยังไงบ้างหนอ
"..."
"สะ ... สวัสดีค่ะ คุณโคะจิโร่"
พนักงานของบริษัทสามสี่คนจับกลุ่มคุยกันอยู่ขณะ
ที่ผมกำลังเดินผ่านประตูเข้าไปในสำนักงานนักสืบ
คะทสึระงิ ทุกคนพอเห็นว่าผมมา ก็พากันแยกย้าย
ไปนั่งประจำที่ของตัวเอง ด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ คงมีเค
โกะคนเดียว ที่พยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ และ
ทักทายผม
"สวัสดีจ๊ะ เคโกะจัง"
"มะ...มาหาเจ้านายเหรอคะ เจ้านายไม่อยู่ค่ะ ออก
ไปธุระข้างนอก เห็นบอกว่าจะไปธนาคารน่ะค่ะ" เค
โกะพูดตะกุกตะกัก บอกมาเสียยืดยาว
ผมพยักหน้ารับ อือออไปตามเรื่อง กวาดสายตา
มองไปรอบสำนักงาน พบว่าคนในสำนักงาน
พยายามก้มหน้าก้มตาลงไปจมกับกองเอกสารด้าน
หน้าตัวเอง ไม่ยอมสบตากับผม
เอ บรรยากาศแปลก ๆ แฮะ แล้วเมื่อกี้เขาคุยอะไร
กันหรือ สงสัยจะคุยความลับที่ไม่อยากให้คนนอก
อย่างเรารู้กระมัง พอคิดอย่างนั้นแล้วผมก็เลยบอก
ลาเคโกะ แล้วเดินกลับออกไป
...
ออกจากสำนักงานนักสืบของยะโยย มาเดิน
เตร็ดเตร่ไปมาในเซ็นทรัลอะเวนนู ผมก็พาตัวเองมา
หยุดที่หน้าโรงแรมเซ็นจูรี พลางนึกในใจว่า จะบ้าเห
รอ ยะโยยไปธนาคารไหนก็ไม่ได้ถามมาซะด้วย
เดินไปเดินมาจะหาเจอได้ไง
ใจก็คิดไปอย่างนั้น แต่เท้าพาผมเข้าไปในล็อบบี้โรง
แรมแล้ว พอรู้ตัว ผมก็ขยับจะหันหลังกลับ แต่หาง
ตาก็รับภาพของใครบางคนที่ผมรู้จักเสียก่อน
'ยัยอะคะเนะ' ผมคิด แต่แล้วก็ต้องเพ่งตามองอีก
ครั้ง เพราะเจ้าหล่อนสวมกระโปรง
'ใส่กระโปรงก็เป็นแฮะ ยัยนี่' นั่นสิครับ ร้อยวันพันปี
ไม่เคยเห็นสวมกระโปรง เอ๊ะ ๆ นั่นเดินขึ้นบันไดไป
แล้ว สงสัยมาแอบพบแฟนที่โรงแรมแน่เลย ผมนึก
ไปเรื่อยเปื่อย แต่แล้วก็ปฏิเสธความคิดตัวเอง ก็รู้อยู่
แล้วนี่ครับ ว่าโรงแรมนี้ไม่ใช่โรงแรมพรรณอย่างว่า
ซะหน่อย แต่แล้วก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ว่า ใคร
กันที่ยัยอะคะเนะมาพบ แล้วต้องถึงกับลงทุนสวม
กระโปรงมาด้วย
'เดินขึ้นบันได แสดงว่าไม่กี่ชั้น อาจจะชั้นสองหรือ
ชั้นสามก็ได้' ใช่ครับ โรงแรมนี้มีเป็นสิบ ๆ ชั้น แต่ถ้า
ลองขึ้นบันไดอย่างนี้ ก็ไม่แคล้วสองชั้นที่ว่านี่แหละ
ครับ
ผมลองขึ้นบันไดไป เมื่อถึงชั้นสองลองกวาดตามอง
ตามระเบียงก็ไม่พบเป้าหมาย เลยลองขึ้นไปอีกชั้น
หนึ่ง แต่ก็ไม่พบอยู่ดี
'บ้าน่ะ ไม่น่าพลาดจากสองชั้นนี้นี่นา' ผมคิด แต่พอ
นึกถึงท่าทางพิรุธที่นักข่าวสาวมองซ้ายมองขวาเลิ่ก
ลั่กตอนที่เดินขึ้นบันได ก็ทำให้ผมต้องลองเดินขึ้น
บันไดไปอีกชั้นหนึ่ง และแล้วขณะที่ผมกำลังจะก้าว
ออกจากหัวบันไดนั่นเอง ก็เห็น...
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งทรุดอยู่กับพื้น หน้าห้อง
ห้องหนึ่ง ซึ่งประตูเปิดอยู่แต่ด้านที่เป็นบานพับอยู่
ทางด้านใกล้ผมซะด้วย เลยทำให้มองไม่เห็นว่า ใคร
อีกคนที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นเป็นใคร หญิงสาวที่นั่ง
อยู่บนพื้น เงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่หลังประตูนั้น
และเอามือกุมแก้ม แสดงว่าเพิ่งถูกฝ่ายตรงข้ามตบ
หน้ามาจนทรุดไปนั่งกับพื้น แต่แล้วดูเหมือนว่าจะ
เจรจาอะไรกันสำเร็จ แล้วสาวเจ้าก็ลุกขึ้นยืน และ
เดินเข้าห้องนั้นไป ประตูก็ปิดตามหลังลงไป
ที่ผมตกตะลึงอยู่ก็เพราะว่า หญิงสาวคนนั้นคือ
'ยัยอะคะเนะ!'
...
ผมคิดไปคิดมาแล้ว ยัยอะคะเนะมาจะแอบพบใคร
ก็ไม่เกี่ยวกับผมนี่นา แต่เฮ้อ ทีแรกนึกว่าจะได้เห็น
หน้าแฟนของยัยม้าดีดกระโหลกคนนี้ซะแล้ว แต่
ปรากฏว่าบรรยากาศไม่ดีเลยแฮะ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ
กันด้วย แต่... เราเป็นคนนอกนี่ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับ
พวกเขาเลย
ว่าแล้วผมก็ถอนตัวออกจากโรงแรมนั้น ก่อนออกไม่
ลืมแวะที่บาร์ใต้ดิน ปรากฏว่าไม่พบคุณพี่สาวที่ชื่อ
อะคัวคนนั้น สงสัยเราโดนหลอกเล่นรึเปล่าหนอ
บอกว่าถ้ามาที่บาร์นี้จะเจอตัวนี่นา
"เฮ้อ!" ผมถอนหายใจ ทันทีที่เดินเข้าสำนักงานของ
ตัวเอง เดินออกไปเสียเที่ยวเปล่า ไม่ได้อะไรขึ้นมา
เลย แต่เอ๊ะ มีอะไรบางอย่างผิดปกติในสำนักงาน
ผม?
'พรินไม่อยู่!' ผมรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นทันที และ
เริ่มรู้สึกตัวว่า ผมขาดพรินไปแล้ว เหมือนกับอะไร
ในชีวิตขาดหายไปสักอย่าง เพราะอย่างปกตินี่ ถ้า
ผมเดินเข้ามาก็จะต้องได้ยินเสียงทักทายว่า "กลับ
มาแล้วหรือค" อะไรทำนองนั้น ผมเดินไปดูที่โต๊ะ
กลางสำนักงาน 'ไม่ได้ทิ้งโน้ตไว้ด้วย หายไปไหนอีก
นะ ยัยพริน'
ผมนั่ง ๆ ลุก ๆ อยู่ในสำนักงานได้ประเดี๋ยวประด๋าว
ก็ออกไปข้างนอกอีกจนได้
...
ไปเดินทั่วเซ็นทรัลอะเวนนูอีกหนึ่งรอบ (เฮ้อ เปลี่ยน
อาชีพมาวิจัยฝุ่นซะดีมั้ง เดินมากกว่าพวกคนที่
กำลังหางานซะอีกนะครับเนี่ย) ไม่พบใครที่ผม
อยากพบสักคน ไม่ว่าจะเป็นยะโยย หรือพริน แต่
แล้วผมก็พาตัวเองไปที่สำนักงานนักสืบคะทสึระงิ
"สวัสดีทุก...คน" เอ่ยทักได้ไม่ทันจบประโยค ผมก็
สังเกตว่าทั้งสำนักงานเงียบกริบ แอร์ก็ปิด ไม่มีคน
อยู่เลยแม้แต่คนเดียว ผมหันเคว้งคว้างอยู่พักหนึ่ง
ก็ตัดสินใจเดินกลับออกมา พลางคิดในใจว่า เกิด
อะไรขึ้นกับสำนักงานของยะโยยนะ หรือว่า...??
...
เดินจนทั่วเซ็นทรัลอะเวนนู แล้วผมก็เดินกลับมา
ทางท่าเรือ ผ่านหน้าโกดังซึ่งเป็นสำนักงานของตัว
เอง ลองกดออดดู ไม่มีใครออกมารับ แสดงว่าพริน
ยังไม่กลับ ผมเลยเดินเลยไปอีกทาง ซึ่งเป็นทิศทาง
ที่จะไปยังบ้านคุณโค ในใจก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อ
คืนจำได้ว่าเจอพรินหน้าบ้านคุณโค
'อ๊ะ ใช่สิ' ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ ชะงักเท้านิดหนึ่ง
ก่อนจะสาวเท้าต่อ เมื่อคืน ก่อนที่ผมจะพบเจ้านิไค
โด และพบศพคุณโค ผมเจอกับพรินก่อนนี่นา ที่
หน้าบ้านคุณโคซะด้วย เด็กพรินแต่งตัวเป็นเด็กผู้
ชาย และตอนนี้ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ผมมองข้ามพริน
ไปเสียสนิท
เอ เด็กมันไปทำอะไรแถวนั้นนะ นึกถึงคำบอกเล่า
ของพรินที่ว่า หลงทาง แต่แล้วก็เริ่มสงสัยขึ้นมา
หลงทางอะไรนานขนาดนั้นเชียวหรือ จำได้ว่าแก
หายไปตั้งแต่ตอนเย็น แล้วมาโผล่อีกทีก็คือ ตอนดึก
แล้ว ที่ผมตามไปจนพบกันที่หน้าบ้านคุณโค จาก
นั้น เด็กสาวก็ล่วงหน้ากลับมาที่สำนักงานของผม
ก่อน
'อ๊ะ' พอผมเดินเข้ามาใกล้หน้าบ้านคุณโค ซึ่งยังคง
มีเทปขึงล้อมรอบและมีตำรวจยืนเฝ้าอยู่ ก็พบว่ามี
เด็กสาวคนหนึ่ง แต่งตัวด้วยชุดที่คุ้น ๆ ตาผม ซึ่งก็
คือชุดของผมเองนั่นแหละ ยืนคุยกับตำรวจหน้า
บ้านอยู่ พรินนั่นเอง มาทำอะไรที่นี่อีกนะ
ผมเดินเข้าไปใกล้ พรินก็หันหลังกลับเดินออกมาพอ
ดี ทำหน้าแปลกใจที่เห็นผม
"พริน มาทำอะไรที่นี่ หือ?"ผมถาม
"คุณโคะจิโร่" พรินพูดพึมพำ แล้วไม่ตอบอะไรผมอีก
เดินแกมวิ่งจากไป ผมไม่ได้ดึงตัวเด็กสาวเอาไว้
เพราะคิดว่าเด็กคงจะกลับไปที่สำนักงานนั่นแหละ
แต่เท้าผมก็พาตัวผมไปหยุดที่หน้าคุณตำรวจ
"เมื่อกี้ เด็กนั่นมาถามอะไรหรือครับ" ผมลองแย็ป
ถามดู
"อ๋อ เด็กผู้หญิงคนตะกี้หรือครับ " พลตำรวจหนุ่ม
ตอบมองผมนิดหนึ่ง ด้วยสายตาที่แสดงว่ารำคาญ "
มาถามอะไรแปลก ๆ ไม่รู้ครับ ว่าคนตายคือ นายโค
ใช่ไหม และจะขอเข้าไปข้างในอีกด้วยน่ะครับ ผม
เลยต้องห้ามไว้"
"เอ๊ะ พรินเขาขอเข้าไปในบ้านหลังนี้เหรอครับ?" ผม
สงสัย
"ใช่ครับ คุณรู้จักเด็กนั่นหรือครับ งั้นก็ดีแล้ว ช่วย
บอกแกด้วยนะครับ อย่ามาเที่ยวเล่นในสถานที่
อย่างนี้อีกเห็นใจพวกตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างเราบ้าง
เถอะครับ" พูดบ่นออกมายาวเหยียด "นี่เมื่อคืนผมก็
เพิ่งจะโดนท่านผู้บังคับบัญชาชั้นสูงตักเตือนมานะ
ครับเนี่ย ว่าให้สุภาพต่อประชาชน แต่ถ้าประชาชน
มาแหย่ผมมาก ๆ ผมก็เหนื่อยเหมือนกันนะครับ"
"ครับ ๆ ขอโทษครับ" ในใจคิดว่า ทำไมเราต้องมา
ขอโทษในเรื่องที่เราไม่ได้ทำอีกแล้ว "แล้วผมจะ
เตือนแกเองครับ"
...
back index next