EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

เริ่มงาน


"เฮ้อ " ผมถอนหายใจ หลังเดินมาได้สักพักหนึ่ง
บ้านคุณโคอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรสำหรับคนรวย ซึ่งก็
อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือนักผมกลับจากบ้านคุณโคหลัง
จากซักถามและตรวจดูสถานที่จนพอใจแล้ว พร้อม
กับรับข้อมูลเกี่ยวกับภาพวาดนั้นมาหนึ่งปึกใหญ่
แต่อย่างหลังนี่ผมขอมาเผื่อไว้เท่านั้นเอง ในใจคิด
ว่าคงจะไม่มีประโยชน์ต่อการสืบหาภาพวาดที่หาย
ไปนี้เท่าไรนัก
"ที่แย่ที่สุดคือ ทำไมต้องมาเป็นคู่แข่งกับยะโยยด้วย
นะ" ใช่! ที่ผมหนักใจที่สุดกลับเป็นเรื่องนี้ เพราะถ้า
ผมชนะ ก็เท่ากับเป็นการหักหน้าสำนักงานนักสืบ
คะทสึระงิ และเป็นการซ้ำเติมให้ชื่อเสียงของสำนัก
งานตกต่ำลงไปอีกหลังจากที่เกิดคดีอื้อฉาวขึ้น แต่
ถ้าผมแพ้ละ ผมเองนั่นแหละที่จะต้องอดตายและ
ตายจากวงการนักสืบไปเลย
"พลั่ก"
"โอ๊ะ! ขอโทษที เป็นอะไรรึเปล่า?"
ผมเดินคิดไปเรื่อย พอเข้าในเขตย่านโกดังของท่า
เรือ ก็เดินชนเข้ากับเด็กผู้ชายแต่งตัวมอมแมมคน
หนึ่ง เจ้าหนูเซไปนิดหนึ่ง แต่แล้วก็ก้มหน้าลงต่ำ ทำ
ให้หมวกแก๊ปที่ใส่อยู่ปิดหน้าจนมองไม่เห็นหน้าซึ่งก็
คงจะมอมแมมเหมือนกับเสื้อผ้าที่ใส่และเจ้าหนูก็
รีบเดินหนีไป
'เด็กที่ไหนนะ มาเดินอยู่แถวนี้ แถวนี้ไม่ค่อยมีใคร
มาเดินซะด้วย แต่เอ๊ะ! จำได้ว่าตะกี้ตอนเดินออกไป
จะไปบ้านคุณโค ก็เห็นเจ้าหนูนั่นเดินป้วนเปี้ยนอยู่
แถวนี้นี่นา'
หันไปดูทิศที่เจ้าหนูเดินไป ก็ไม่พบใครอีกแล้ว
'เฮ้อ! ช่างเหอะ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ รีบทำให้
เสร็จดีกว่า'
ผมเดินเข้าสำนักงาน ลงบันไดไปยังห้องทำงาน
แล้วก็ตรงไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ของผมทันที เปิด
เครื่อง แล้วต่อสายเคเบิ้ลจากคอมพิวเตอร์เข้ากับ
คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วที่ล้วงจากกระเป๋านายนิไคโด
มา
‘ฮิ ฮิ เสร็จเรา ขอโทษด้วยนะจ๊ะยะโยย ฉันตามหลัง
พวกเธออยู่ตั้งหนึ่งวัน เพราะฉะนั้น เรื่องแค่นี้คงให้
อภัยกันได้นะจ๊ะ’
ระหว่างที่รอเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังดึงข้อมูลจาก
สมุดโน้ตอิเลคทรอนิกส์ ของนิไคโดอยู่นั้น ผมก็เดิน
ไปที่โต๊ะทำงาน แล้วหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมา พลางกด
หมายเลขโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
เงียบไม่มีเสียงตอบทั้งที่ฝ่ายนั้นรับหูแล้ว
“ฮัลโหล เสร็จหรือยังวะ ไอ้พิธีเช็คคลื่นเสียงบ้าบอ
อะไรของแกน่ะ เกล็น”
ผมถามไปอีกทีด้วยเสียงเรียบ ๆ คราวนี้มีเสียงตอบ
กลับมา
“แหะ แหะ แหะ ขอโทษทีครับคุณโคะจิโร่ แหมใจ
ร้อนเหมือนเดิมเลยนะครับ”
ชื่อจริงของหมอนี่ชื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ชื่อที่เขาใช้ติดต่อ
กับผมก็คือ เกล็น เป็นคนในวงการธุรกิจมืดคนหนึ่ง
มีอาชีพขายข้อมูลทุกอย่าง แล้วแต่จะมีใครให้สืบ
อะไร สายงานของหมอเป็นอย่างไร มีวิธีในการสืบ
เจาะข้อมูลอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ทุกคนทราบดี
ว่า ข้อมูลที่ได้จากเกล็นเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ใน
วงการธุรกิจมืดที่ต้องหักเหลี่ยมเฉือนคมกันทุกเสี้ยว
วินาทีนี้ ข้อมูลที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วย
ในการตัดสินใจ เพราะฉะนั้น บรรดามิจฉาชีพที่มา
ซื้อ-ขายข้อมูลกับเกล็นก็มีจำนวนมากไม่ใช่ย่อย ผม
เองรู้จักกับเกล็นโดยบังเอิญ ในการตามสืบคดีหนึ่ง
ที่พอสาวไปสาวมาก็ไปเกี่ยวพันกับแกงค์ค้ายาเสพ
ติดแกงค์หนึ่ง และตอนนั้นเกล็นพลอยติดร่างแหไป
ด้วย ในฐานะที่ขายข้อมูลให้กับแกงค์นั้น แต่ผม
ช่วยให้เกล็นหนีรอดไปได้ทั้งจากเงื้อมมือตำรวจ
และแกงค์ค้ายานั้นที่คิดว่าเกล็นหักหลัง ด้วยหนี้
บุญคุณนี้ตั้งแต่นั้นมา เกล็นก็กลายเป็นแหล่งข้อมูล
สำคัญที่สุดแหล่งหนึ่งของผมไป และนี่ก็เป็นอีกเหตุ
ผลหนึ่งด้วยที่เกล็นระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม จะ
ติดต่อทางโทรศัพท์ที หมอนี่จะต้องเช็คคลื่นเสียง
ก่อนว่าใช่คนที่หมอไว้ใจได้แน่ จึงจะยอมคุยด้วย
“มีอะไรอยากจะถามหน่อย” ผมพูด
“อ๋อ อยากซื้อข้อมูลเหรอครับ ได้เลยครับ สำหรับ
คุณโคะจิโร่ ผมคิดราคาให้พิเศษเหมือนทุกทีอยู่
แล้วครับ”
"..." ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากพูดธุระของผม เสียงเก
ล็นก็ระล่ำระลักมาอีกว่า
"เดี๋ยวครับ คุณโคะจิโร่ ธุระของคุณโคะจิโร่ มักจะ
เป็นพวกงานอันตราย คาบลูกคาบดอกทั้งนั้นเลย
ซะด้วยสิครับ เอาเป็นว่าเรามาเจอไปที่เดิมดีไหม
ครับ"
"ฮะฮ้า ว่างออกมาพบคนด้วยเหรอเกล็น"
"สำหรับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นแหละครับ เหอะ เหอะ"
เกล็นหัวเราะในลำคอ ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งที่แล้วมา
หมอนี่ระวังตัวแจทีเดียว "และอีกอย่าง จะได้เอา '
ของ' ไปคืนคุณโคะจิโร่ด้วยครับ"
"โอ้! เสร็จแล้วเหรอ ไอ้นั่นน่ะ"
"ครับ ถ้างั้นอีกสามสิบนาที เจอกันที่เดิมนะครับ"
"โอเค"
ผมวางหูโทรศัพท์แล้ว ก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก
โดยไม่ลืมจดโน้ตบางอย่างเกี่ยวกับรูปภาพที่คุณโค
ให้หาไปด้วย จากนั้นก็แวะเดินไปที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์ของผม ปรากฏว่าการถ่ายข้อมูลจาก
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วของเจ้านิไคโดเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว
'เอาไว้เดี๋ยวค่อยกลับมาดูก็แล้วกัน ลองดูซิ เจ้านิไค
โดใส่ข้อมูลอะไรไว้บ้างเอ่ย'
ถอดสายข้อมูลออกแล้วหยิบเจ้าคอมพิวเตอร์จิ๋วลง
ใส่กระเป๋า เดินออกไปนอกสำนักงาน
"พลั่ก!"
"อ๊ะ!"
ใครบางคนซึ่งกำลังก้มหน้าเดินงุด ๆ อยู่หน้าสำนัก
งานพอดี ชนกับผมเข้าอย่างจัง พอผมเห็นถนัดตาก็
จำได้ทันทีว่าเป็นเด็กผู้ชายคนเดิมนั่นเอง
"อ้าว เจ้าหนูน้อย ยังอยู่แถวนี้อีก...เหรอ อ้าว! ไปซะ
แหล่ว"
แต่เวลานี้ผมไม่ว่างพอมาสนใจกับเจ้าหนูนี่อีก ผม
รีบเดินไปทางย่านธุรกิจ ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณท่า
เรือไม่ไกลนักทันที ย่านดังกล่าว เรียกว่า เซ็นทรัล
อะเวนนูหรือ ถนนศูนย์กลาง เป็นที่รวมของตึก
สำนักงาน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และที่เห็นไกล ๆ
เป็นตึกสูง ๆ ก็จะเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้
ชื่อโรงแรมปรินเซส และตอนนี้มันคือ ที่หมายของ
ผม ไม่ใช่ครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่มีบุญจะได้
เข้าไปใช้บริการของโรงแรมเขาหรอก ที่หมายจริง ๆ
ก็คือ บาร์เหล้าที่อยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมต่างหาก
เป็นบาร์ที่จัดบรรยากาศได้เงียบสงบดีถูกใจผมมาก
ที่สุดบาร์หนึ่ง และก็เป็นสถานที่นัดพบระหว่างผม
กับเกล็นด้วย
...
"สวัสดีครับคุณโคะจิโร่"
"อ้าว! อยู่โต๊ะเคาน์เตอร์นี่เองเหรอ มาแล้วก็ไม่ยอม
บอก" ผมท้วงขึ้น เพราะผมเข้ามาก่อนเวลานัดห้า
นาที และก็นั่งรอพร้อมกับมองเลิกลั่กไปทั่วบาร์เพื่อ
จะหาหมอนี่ แต่ก็ไม่พบ
"หึ! หึ! ยังไม่ถึงเวลานัดนี่ครับ คนเราก็ต้องการเวลา
ส่วนตัวบ้างสิครับ ทั้งผมและคุณโคะจิโร่ ดื่มด้วยกัน
ไหมครับ นี่ผมเปิดไปขวดนึงก่อนแล้วนี่" พลางชู
ขวดวิสกี้ให้ดู
ผมเรียกบริกรมาสั่งคอกเทลแก้วหนึ่ง แล้วก็หันไป
คุยกับเกล็น
"เอาธุระของใครก่อนดีครับ จากทางผมซึ่งก็คือ ธุระ
เก่าของคุณโคะจิโร่นั่นแหละ หรือเอาธุระใหม่ก่อน
ดี"
"เอาเรื่องเดิมก่อนละกัน"
"ครับ"
เกล็นยื่นถุงผ้าให้ผมใบหนึ่ง พอผมรับมาก็หยิบของ
ข้างในออกมา ซึ่งมันคือ เจ้ากล็อค 22 ปืนคู่ชีพของ
ผมนั่นเอง
"ผมดัดแปลงแก้ไข รวมทั้งตั้งศูนย์ให้ตามที่คุณโคะจิ
โร่สั่งแล้วนะครับ เออ กระสุนผมแถมให้สองแม็กกา
ซีนครับ รวมแล้วก็สามสิบนัด"
"โอเค" ผมตรวจเช็คปืนจนแน่ใจแล้ว ก็หยิบซอง
กระสุนมายัดใส่เจ้าปืนของผมซองหนึ่งก็สิบห้านัด
เรียกว่าอย่างผมนี่ ขอเอาจำนวนนัดเยอะไว้ก่อนละ
ครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
"ทีนี้ก็ธุระของคุณโคะจิโร่ล่ะครับ"
"อื้ม เกล็น นายเคยเห็นรูปภาพแบบนี้ไหม" ยื่นภาพ
ถ่ายที่ได้จากคุณโคให้
"เอ ขนาดเล็กมากนะครับเนี่ย ไม่เคยเห็นครับ"
"ไม่มีข่าวในตลาดมืดของพวกนายบ้างเลยเหรอ ว่า
มี 'สินค้า' แบบนี้หลุดเข้าตลาดมาแล้ว"
"เท่าที่ผมทราบ ไม่มีนี่ครับ อันนี้ดูไปมันเป็นภาพ
ลายเส้นของอิสลามรึเปล่าครับนี่"
"เออ ใช่แล้ว มีคนเขาทำหายไปแล้วต้องการหาน่ะ
คนจ้างเป็นคนเชื้อสายจีน ชื่อ โค ก็แปลกดีนะ ท่า
ทางก็ไม่ได้บอกว่าเขาเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม
เท่าไรเลย ทำไมต้องการใช้ภาพใบนี้ด้วยก็ไม่รู้ เอ้อ
อีกเรื่องนึงก็คือ อยากให้ลองสืบ ๆ ดูสิว่าเจ้าโคนี่
เป็นคนมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรรึเปล่า"
"หมายความว่ายังไงครับ เบื้องหน้าเบื้องหลัง"
"อ๋อ ฉันหมายถึงว่า เป็นพวกที่หนีภาษี หรือ มี
ประวัติฉ้อฉล อะไรทำนองนั้นน่ะ ถ้าแค่นี้คงจะเช็ค
ได้ไม่ใช่เหรอ"
"อื้ม อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้น่ะครับ ทั้งภาพและก็
คน ... แต่ชื่อของคนเชื้อจีนนี่ก็คงหาได้ไม่ยากนัก
ยังไงผมจะลองถาม ๆ สายของผมดูครับ"
"โทษที ฉันเองก็ยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับนายโคคน
นี้ แต่เกี่ยวกับรูป นี่เป็นรายละเอียดของมันนะ คน
วาดชื่อ เจ เจ เอกเกอราเมอร์ วาดเสร็จเมื่อ 100 ปีที่
แล้วเห็นจะได้"
ผมยื่นโน้ตที่คัดลอกจากเอกสารที่ได้จากคุณโคให้
เกล็นดู
"โอเคครับ ผมจะลองสืบดู แล้วยังไงจะติดต่อไปอีก
ทีนะครับ"
"เออ วานด้วยนะ ส่วนค่าเหนื่อยนายก็คิดเหมือนทุก
ทีก็ได้"
"ครับ โอ๊ะ ผมต้องรีบไปก่อนละครับ ตอนนี้มีลูกค้า
รายใหญ่มารายหนึ่งน่ะครับ แหะ แหะ"
...
เดินขึ้นจากบันไดเข้าสู่ล็อบบี้ของโรงแรม ผมก็พบ
กับ...
"อ้าว ยัยอะคะเนะ มาทำอะไรแถวนี้ แอบนัดเจอผู้
ชายรึไง" ประโยคหลังสุดนี่ผมพูดส่งเดช เพราะรู้ดี
อยู่แล้วว่าทอมบอยอย่างนี้จะมีแฟนกับเขาที่ไหน
กัน
"บ้าสิ งานย่ะ งาน"
"ทำไม ดักรอนักการเมืองคนไหนจะควงอีหนูมาเข้า
โรงแรมเหรอ" ผมทะลึ่งเข้าให้อีก
"บ้า ๆ ๆ ๆ" แค่นี้ก็โกรธแฮะ "โรงแรมนี่ไม่ใช่โรงแรม
ชั้นต่ำพรรณนั้นสักหน่อย... ว่าแต่ คุยกับคุณโคแล้ว
ยัง ได้ความว่าไงบ้าง"
"ฮึ รับงานเรียบร้อยแล้ว นี่แม่คุณ กะฟันค่านาย
หน้าเต็มที่เลยล่ะสิ บอกก่อนนะ ว่าให้งานสำเร็จ
ก่อนถึงจะได้"
"รู้แล้วแหละย่ะ เรื่องนั้นน่ะ แล้วเป็นไง มีโอกาส
สำเร็จไหม"
"ท่าทางจะลำบากว่ะ มีคู่แข่งด้วย เออ... ใช่แล้ว"
ผมนึกได้ "ทำไมเธอไม่ยอมบอกกันสักคำเลยนะ หา
ว่ายะโยยก็กำลังทำงานนี้อยู่ด้วย"
"ทำไม ไม่กล้าสู้เขาเหรอ"
"รู้ทั้งรู้อยู่ ฉันไม่อยากเจอยะโยย"
"อ๊ะ ฉันต้องไปแล้วล่ะ อย่าลืมนะ ค่านายหน้า ห้า
หมื่นเยน" อะคะเนะเห็นท่าไม่ดีรีบชิ่งหลบ แต่ก็ยัง
ไม่วายงกเงินอีก ดี เรายังไม่ได้บอกว่าคุณโคเพิ่มค่า
แรงให้เราด้วย
'โอ๊ะโอ่ พูดถึงยะโยยแล้วก็นึกขึ้นได้ ยืมของเขามา
ต้องรีบเอาไปคืนดีกว่าแฮะ'
back index next