EVE Burst Error
ภาค มะรินะ
วันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

คืนถิ่น



“เจ้าหน้าที่สืบสวน ระดับหนึ่ง โฮโจ มะรินะ รายงาน
ตัวค่ะ”
ดิฉันกล่าวรายงานตัว หลังจากที่เดินผ่านประตูเข้า
ไปในห้องทำงานเล็ก ๆ นั้นและปิดประตูตามหลัง
แล้ว
“โอ้! มะรินะมาแล้วเหรอ” ชายวัยกลางคน ไว้หนวด
เหนือริมฝีปากแบบที่เจ้าตัวคงคิดว่า ‘สุดเท่ห์’ แล้ว
ร่างกายผอมบาง แต่งกายเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้ว
ผูกเน็คไท ลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟาหลังโต๊ะทำงานของ
เขา แล้วตรงมาที่หน้าดิฉันทันทีพร้อมด้วยใบหน้า
ยิ้มแฉ่งที่ดิฉันไม่มีโอกาสได้เห็นมานาน “รับทราบ
แล้ว โฮโจ มะรินะ เจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นหนึ่ง เข้ามา
ทำงานขึ้นกับหน่วยงานนี้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
“ฟู่” ดิฉันเป่าลมออกจากปาก “เฮ้อ! ร้อนจังเลยค่ะ
เหนื่อยด้วย เนี่ยมาถึงก็ตรงมานี่เลยนะคะ หัวหน้า
กอง คิดถึงหัวหน้ากองจังเลย” พูด พลางเล่นหูเล่น
ตาใส่ ‘หัวหน้ากอง’ พร้อมยื่นถุงกระดาษที่หิ้วเข้ามา
ด้วยให้ “ของฝากค่ะ”
“จุ๊! จุ๊! อย่ามายั่วยวนคนแก่ไปหน่อยเล้ย แม่คุณ”
หัวหน้ากองตอบยิ้ม ๆ เรารู้จักและทำงานกันมา
นานพอที่ดิฉันจะเล่นหัว เย้าแหย่กับหัวหน้าคนนี้ได้
“โอ๊ว! อุตส่าห์จำได้ด้วยเหรอว่าผมชอบยี่ห้อนี้
ขอบคุณ ขอบคุณ”
รับของฝากไปวางซ่อนไว้ใต้โต๊ะทำงานตัวเอง แล้ว
หัวหน้ากองก็หันมาทางดิฉันอีกที สีหน้าซีเรียสขึ้น
“ขอโทษนะ มะรินะ ที่เราต้องเรียกตัวเธอกลับมา
กระทันหัน”
“ไม่เป็นไรมิได้ค่ะ หัวหน้ากอง” ดิฉันตอบ “แต่แหม
กำลังอยู่ที่นั่นสบาย ๆ แท้ ๆ เชียว มีคดีอันตรายอีก
หรือคะ ถึงได้เรียกตัวคนขายชาติอย่างหนูกลับมา”
“แหมเธอก็!… บอกแล้วไง ว่าผมไม่เคยคิดอย่างนั้น
เลยนะ คนเราก็ต้องมีพลาดกันบ้างสิ แม้กระทั่งมือ
หนึ่งของหน่วยสืบราชการลับญี่ปุ่นอย่าง โฮโจ มะริ
นะ เจ้าของประวัติการทำงาน ทำลายคดี 1522 คดี
อัตราการทำงานสำเร็จ 99% คนนี้” พูดแล้วยกมือ
ขวามาตบบ่าดิฉัน
“ค่ะ หนูทราบดีค่ะ ว่าหัวหน้าเข้าใจหนูมาตลอด
และที่หนูไม่ถูกลงโทษหนักไปกว่านี้ ก็เพราะหัวหน้า
กองช่วยหนูไว้แท้ ๆ”
ดิฉันตอบหัวหน้ากอง ซึ่งที่จริงตอนนี้แกมีตำแหน่ง
ใหญ่กว่านั้นไปแล้ว แต่ดิฉันก็ยังติดปากที่จะเรียก
แกว่า ‘หัวหน้ากอง’ อยู่ดี คนคนนี้เป็นผู้ใหญ่คน
เดียว ที่เข้าใจดิฉันมาตลอด และสนับสนุนดิฉันจน
ได้ดี ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นหนึ่ง อัน
เป็นชั้นสูงสุดด้วยกันในบรรดามือสืบสวนของหน่วย
สืบราชการลับญี่ปุ่นได้ ก่อนที่เมื่อสองปีก่อนตอนที่
ทั้งดิฉันกับหัวหน้ากองคนนี้ยังประจำอยู่สำนักงาน
ความมั่นคงแห่งชาติ ดิฉันจะไปทำงานพลาดครั้ง
มหันต์เข้า จนเป็นเหตุให้ความลับของชาติรั่วไหลไป
ถึงมือฝ่ายตรงข้ามที่แทรกซึมเข้ามาจากต่างชาติ ที่
จริง ครั้งนั้นดิฉันควรจะต้องถูกลดขั้น ถูกพักงานไม่
มีกำหนด และควรจะถูกกักบริเวณด้วยซ้ำ แต่หัว
หน้าก็ช่วยจนกระทั่งบทลงโทษแทบจะไม่มีเลย
เหลือเพียงแค่ย้ายดิฉันไปประจำอยู่หน่วยงานไม่
สลักสำคัญอะไรนักที่อเมริกาอย่างไม่มีกำหนดย้าย
กลับเท่านั้นเอง และผลจากการปกป้องดิฉันคราว
นั้นทำให้หัวหน้ากองยังไม่มีโอกาสขึ้นไปอยู่ใน
ระดับสูงกับเขาเสียที ทั้งที่เป็นผู้ที่มีความสามารถ
มากคนหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับนี้ อย่างไรก็ตาม
ตัวเลข 1522 คดี และอัตราการทำงานสำเร็จ 99%
คือ ตัวเลขที่ดิฉันภาคภูมิใจ และเป็นสิ่งเดียวที่ดิฉัน
พอจะทำได้ ในการตอบแทนบุญคุณของหัวหน้า
กองที่ให้ความเมตตาดิฉันมาตลอด
“เรื่องเล็กน่า” หัวหน้ากองตอบ ในเรื่องที่ดิฉันพูด
พาดพิงถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อน ดิฉันรู้สึกร้อนวูบที่
ขอบตาขึ้นมาทันที
"ว่าแต่เราน่ะ ยังไม่ทันถึงญี่ปุ่นก็ทำวีรกรรมเข้าให้
แล้วเหรอ ฮึ"
หัวหน้ากองพูดยิ้ม ๆ เปลี่ยนหัวข้อ คงสังเกตว่าดิฉัน
ซึมไปมั้ง ช่างน่ารักเหมือนเดิมเลย คุณลุงคนนี้
"ตายจริง เรื่องไปถึงหูหัวหน้ากองแล้วเหรอคะ แหม!
หนูเขินจังเลย ฮิ ฮิ"
"อืมห์ ฝีมือไม่ตกเลยนะคุณ จับโจรจี้เครื่องบินได้
ช่วยชีวิตแอร์โฮสเตส และก็ผู้โดยสารเครื่องบินลำ
นั้นได้สำเร็จภายในเสี้ยววินาทีเดียว ยอดเยี่ยม
มาก… ถ้าไม่นับเรื่องที่ไปเจาะรูขนาดเก้ามิลที่ผนัง
เครื่องบินเขาเข้าให้"
"แหม! หัวหน้าก้อ.." ดิฉันค้อนประหลับประเหลือก "
ทำไมต้องไปเน้นตรงที่ว่า เจาะรูผนังเครื่องบินเขา
ด้วยละคะ แทนที่จะเน้นว่า ดิฉันทำหน้าที่ผู้
พิทักษ์สันติราษฎร์ จับผู้ร้ายได้สำเร็จ"
"ช่าย ถ้าเรื่องมันไม่กลับตาลปัตรทีหลังว่า เจ้าผู้ร้าย
นั่นทำไปเพราะมันอกหักถูกแฟนที่เป็นแอร์โฮสเตส
ทิ้ง เลยทำการประชดชีวิตด้วยการจี้เครื่องบินเล่น ๆ
แล้วปืนที่เขาใช้ก็ดันเป็นปืนโมเดลซะอีก โอ๋ ๆ อย่า
ทำแก้มป่องอย่างนั้นสิจ๊ะทูนหัว ผมน่ะ เห็นความดี
ของคุณอยู่หรอกนะ แต่เบื้องบนนี่สิ เขาติงมาว่า
คุณทำเกินกว่าเหตุ"
"เวรกรรม ทำดีแล้วไม่ได้ดีอีก เฮ้อ"
"ทำไงได้ล่ะคุณ ข้าราชการก็อย่างงี้แหละ" เว้นไป
นิดนึงแล้วพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ "แล้วนาย ซึซึกินี่
ใครล่ะ เห็นชื่อโผล่ในรายงานด้วย"
"อ๋อ! คุณน้าซึซึกิสุดเท่ห์นั่นเองเหรอคะ เขาก็เป็นผู้
โดยสารที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หนูพอดีเลยไงละคะ แล้วให้
ความร่วมมือในการจับโจรจี้เครื่องบินในครั้งนี้ด้วย"
"โฮ่! กล้าหาญดีนี่ น่าชมเชย อย่างนี้ต้องทำใบ
ประกาศเกียรติคุณพร้อมกับใบแสดงความขอบคุณ
ที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการให้ซะแล้วละมั้ง
ว่าแต่คนนี้ไว้ใจได้นะ?"
"แหม! หัวหน้ากอง ไม่ไว้ใจหนูเหรอคะ? หนูไม่ปาก
โป้งพอที่จะไปบอกเขาหรอกค่ะ ว่าหนูเป็นใคร บอก
ไปแค่ว่าเป็นพวกตำรวจเท่านั้นเอง"
"พูดถึงคนนี้เข้าหน่อยทำตาลอยเชียว เขาหล่อมากรึ
ไง ฮึ! หล่อกว่าผมรึเปล่า?"
"ฮิ! ฮิ! ไม่บอกค่ะ ความลับ"
“เอาล่ะ! เรามาเข้าเรื่องงานกันสักที” หัวหน้ากอง
พูดขึ้นใหม่ “ที่เรียกเธอกลับมาคราวนี้ ก็ไม่ใช่อะไร
หรอก ฝีมือผมเองแหละ” หยุดมองหน้าดิฉันเล็ก
น้อย แล้วพูดต่อ “มีงานเข้ามาให้ทำน่ะ ที่จริง งานนี้
มันก็ไม่ควรจะต้องถึงกับเรียกพนักงานสืบสวนชั้น
หนึ่งอย่างเธอมาทำหรอกนะ แต่ว่า ผมเห็นว่าเป็น
โอกาสดี ที่คุณจะได้กลับมาบ้านเกิดกับเขาเสียที
และอาจจะได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งหนึ่ง ผม
เองมองไม่เห็นใครเหมาะสมที่จะรับงานนี้เท่าคุณ
แล้วล่ะ”
“หัวหน้ากองขา ฟังตอนท้ายอย่างเดียวก็ดีนะคะ” ฮึ
ทำงานกันมาด้วยกันตั้งนาน มีหรือดิฉันจะจับน้ำ
เสียงหัวหน้ากองไม่ออก “แต่ตอนแรก ๆ มันหมาย
ความว่า งานนี้เป็นงานที่คนอื่นเขาเมินกันมาแล้ว
ใช่ไหมละคะ ถึงได้เรียกหนูกลับมา”
“โฮะ โฮะ โฮะ ไวเหมือนเดิมนะแม่คู้ณ” หัวหน้ากอง
ส่ายหน้า “ใช่! ที่จริงงานนี้มันควรจะไปที่ต้นสังกัด
เก่าของเธอ ก็ของเรานั่นแหละ… แต่ก็อย่างว่า
แหละ พวกเขามองไม่เห็นความสำคัญของงานนี้
เลยโยนมาที่ผม ทีนี้ ผมไม่มองเหมือนพวกเขา
หรอกนะ ผมมองว่านี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมี
ความสำคัญมากทีเดียว” นัยน์ตาของหัวหน้ากอง
ทอประกายวูบ เหมือนทุกครั้งที่ใช้ความคิดและเห็น
อะไรดี ๆ “ผมเลยเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้
กลับมาสู่หน่วยสืบราชการลับญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง
ด้วย” ความหมายลึก ๆ ก็คือ หัวหน้ากองออกหน้า
เสนอตัวรับงานนี้มา และยังออกตัวรับประกันใน
การที่จะให้ดิฉันทำงานนี้อีก
“หัวหน้ากองเชื่อใจหนูขนาดนั้นเชียวหรือคะ”
“หึ หึ ผมมองคนไม่ผิดหรอก เห็นผมหนุ่ม ๆ อย่างนี้
ก็เถอะ นี่ผมอายุ 1.7 เท่าของคุณนะ อย่าลืม” หัว
หน้ากองพูด “และอีกอย่าง งานนี้ จะว่าไปก็ใช่ว่า
ผมทำเพื่อคุณหรอก สุดท้ายแล้ว ผมก็ส่งคุณเข้าไป
แนวหน้า ไปเสี่ยงอันตรายเพื่อความก้าวหน้าของ
ผมเองอยู่ดีนั่นแหละ”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ หัวหน้ากอง” ดิฉันรีบตอบ
“หนู … เอ้อ … ดิฉัน โฮโจ มะรินะ ยินดีรับงานนี้ค่ะ
“
“ดีมาก ขอบคุณนะ ผมต้องรบกวนคุณทุกทีเลย”
“แล้วรายละเอียดของงานละคะ?”
“อันนี้คุณคุยกับเจ้าตัวเองดีกว่า ผมนัดเขาไว้หลัง
จากนัดคุณสิบนาที ป่านนี้คงจะมารออยู่แล้วล่ะ”
หันไปกดอินเตอร์โฟน “ผมโคโนะนะ คุณมิโดมารึ
ยัง”
“มาแล้วครับ ให้เข้าไปพบเลยไหมครับท่าน” เสียง
จากอินเตอร์โฟนตอบกลับมา
“ดี ให้เขาเข้ามาเลย”
...


Back Index Next