อย่าให้ต้องสายเกินไป
แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ระหว่างกอหญ้า ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสดใสเล่มหนี่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานานพร้อมกับรอยหมึกดำ คำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน.....
แต่ฝนไม่สามารถลบเลือนคำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้ ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคน คงไม่สามารถหลีกหนีไปจากเรื่องเพื่อน ความรัก ความฝัน เอ็นทรานซ์ ไปได้ และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ... ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้น ม.4 คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับนุ่น "นี่เธอ...เธอ...ยืมของเราก็ได้นะ" บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง เธอก็รับไปพร้อมกับรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็น ทำให้พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของสาวน้อยตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่วโมงศิลปะ พวกผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็นคำธรรมดาในความคิดของผู้ชาย จากวันเป็นเดือน.....จากเดือนเป็นปี.... เมื่อเพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมาใหม่ ..."เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันว่ะ".... ผมพูด ..."อี๋..ทรงเก่าดีกว่าเยอะเลย"... กบพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทุกคน "แต่เราว่าน่ารักดีนะ" บอมพูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้าขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมีอิทธิพลต่อนุ่นมาก และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารักคำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน ณ.โต๊ะประจำของพวกเรา "ขนมมาแล้วจ้ะ" เสียงใสๆของนุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินมาคู่กับบอม ขณะที่กินขนมอยู่นั้น นุ่นก็ถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอมคือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อเขา ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป๋นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็ก ไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย เพราะการชอบช่วยเหลือผู้อื่นและการมองโลกในแง่ดรเป็นนิสัยของเธอ สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือ นุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศษสตร์แน่นอน เมื่อนุ่นพูดจบ บอมก็หยิบสมุดจดศัพท์ของนุ่นที่วางอยู่มาเปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า.... เราสองคนต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ...ลงชื่อ..บอม สิ่งที่เราเห็นต่อมาก็คือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ....... วันแรกของ ม.6 ไม่มีอะไรนอกจากการฉลองที่นุ่น ได้อนุญาติให้ไป-กลับ รร.เองเหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รีบสิ่งที่ผมเรียกมันว่า ......อิสรภาพ.... ชีวิต นร. ม6.หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษตั้งแต่ 5โมง-2ทุ่ม แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้เลย โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผม ขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่ นร.หญิงใส่ชุด uniform แขนยาวหน้าตาสวยมากคนหนึ่ง พร้อมพูดว่า "นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิ เราชอบเขามากเลยนะ" ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผมรู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่าเป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยจะถาม สักพักผมเลิกสนใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง เวลาที่ผมได้พักผ่อนมากที่สุด จากกการเรียนคงเป็นคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ ซึ่งพวกผมจะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผมคือ daytona ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่องตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อบอมและนุ่น ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอมให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน พลางคิดไปถึงคำพูดในหนัง รักออกแบบไม่ได้ที่ว่า "เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ" แต่สำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไปถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่า เค้ากำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่าทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้ แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของทั้งคู้พร้อมอาการเขิน และสายตานุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า "พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว" พรอ้มกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
วันศุกใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามาถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่า
ไฟดับโรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น
วันนี้จึงไม่ค่อยได้เรียนเพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา
พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียนเพียงไม่กี่เล่มหลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
วันนี้นุ่นผิดปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก
ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอมได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด
บอมจึงพูดว่า"นุ่นเธอตัวร้อนมากนะกินยาอะไรหรือยัง?"
"ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก" นุ่นตอบ
พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi
โดยผมกับกบจะไปรอที่food center
ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า
"นี่ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก"
"ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ" นุ่นตอบพร้อมกับยิ้มมา
"ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก"
บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม
สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม
หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน
.......เอี้ยด.....ปัง......อัก......
รถบบรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลง
บนพื้นและไถลไปข้างหน้าอีก7-10 เมตร
สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง
กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน
พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่นุ่นมาเรียนสาย
เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก
แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบายและผักผ่อนอยู่ที่บ้าน
แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้น
พรอ้มกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU
โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันทีมารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำ
ของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอมหยุดที่หน้าห้องICU
เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว
พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง
น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชาย
ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น
ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการ
ให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่
เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมากแต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอม
เพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด
แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก
ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานฌาปณกิจนุ่น 2 วัน
แม่ของนุ่นได้ขออนุญาตอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า
" ในห้องICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary
เล่มนี้มาให้บอมให้ได้" แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมี diary เล่มหนึ่งมาให้
หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบ diary ขึ้นมา
มันเป็น diary เล่มสีชมพู ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น
ชื่อของบอมมีอยู่ใน diary ของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นใน diary
เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษา
มหาลัยธรรมศาสตร์ "ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน"
บอมพูดเมื่ออ่าน diary และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่
และเมื่อช่วงหนึ่งใน diary จึงได้รู้ว่า
นุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ
ที่เรียนพิเศษ สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้าใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม
ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้
ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ
เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเองนุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้
ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน
เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็นครั้งที่2
ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า
ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร
คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด
ทุกคนตอบต่างๆกันไป
เมื่อกบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม
"เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน"
บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา
หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
วันที่ผมได้รู้อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้านของกบ
กบติด ม.เชียงใหม่ ผม ติด ที่ประสานมิตร
แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คนที่ได้คะแนน60
กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร
แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา
มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น
ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง
ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก
เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต
คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา ........
ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง
ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่างแรง ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่
คว่ำด้านหน้าลง
ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม
และมองไปที่รูปนั้น อีกครั้งหนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ....
เธอ... ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกินอาหารบางอย่างไม่ได้
..
เธอ... ผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY
เธอ... ผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี และออกไปต่อสู้กับปัญหา
เธอ... ผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส
เธอ... ผู้ที่มาเปลื่ยนแปลงชีวิตของพวกผม
เธอ... ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา
ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง
เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆ
ทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน
แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้เพราะคนๆ
หนึ่งได้จากไปแล้ว .....
"รัก" บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด
แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่
เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป
ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดายและเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่
...สาย...เกิน...ไป....